KUBET – ข้าวมันไก่เจ๊โบว์ โบกมือลาย่านบรรทัดทอง หลังอยู่คู่นิสิตจุฬาฯ กว่า 25 ปี สู้ค่าที่ไม่ไหว

         ข้าวมันไก่เจ๊โบว์ เตรียมโบกมือลาย่านบรรทัดทอง ร้านในดวงใจเด็กจุฬาฯ หลังเปิดมากว่า 25 ปี สู้ค่าที่ไม่ไหว ชี้ย่านนี้กลายเป็นพื้นที่ทุนใหญ่มากกว่าร้านเล็ก ๆ แล้ว



         เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักกิจกรรมและอดีตนายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ (อบจ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมภาพถ่ายคู่กับเจ๊โบว์ เจ้าของร้าน “ข้าวมันไก่เจ๊โบว์” ย่านบรรทัดทอง ที่อยู่คู่นิสิตจุฬาฯ มายาวนานกว่า 25 ปี โดยระบุว่า  

         “มาให้กำลังใจร้านข้าวมันไก่เจ๊โบว์ เปิดมานานกว่า 25 ปีในย่านนี้ ไม่อาจสู้ค่าที่จุฬาฯ ได้อีกแล้ว และกำลังจะย้ายออกเร็ว ๆ นี้แล้ว

ข้าวมันไก่เจ๊โบว์ บรรทัดทอง ปิดกิจการ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Netiwit Chotiphatphaisal

         เจ้โบว์บอกว่า
บรรทัดทองกลายเป็นพื้นที่ทุนใหญ่มากกว่าร้านเล็ก ๆ เป็นที่นักท่องเที่ยว
ตามอินฟลูฯ ดัง มากกว่าร้านที่เข้าถึงได้ คนในชุมชนเก่า ๆ
แทบจะไม่เหลือแล้ว – มาให้กำลังใจเจ๊โบว์กันครับ
และร่วมคิดทบทวนถึงทิศทางของการบริหารมหาลัยที่กำลังมุ่งหน้าอย่างไร้จุดหมายไม่ใช่เพื่อประชาคม
แต่เป็นการแสวงหาผลกำไรที่ไม่มีเป้าหมายและทำลายเศรษฐกิจท้องถิ่น

         – มหาลัยไม่จำเป็นต้องเดินทางเป็นแบบนี้ ถ้าผู้บริหารจุฬาฯและ PMCU จะเห็นแก่ชุมชนและสังคมมากกว่านี้ครับ -“

KUBET – น้ำยาปรับผ้านุ่ม ทำไมต้องมีสูตรสำหรับพระ ต่างกันยังไง หลายคนเดาไม่ผิด

          ถกสนั่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม ทำไมต้องมีสูตรสำหรับพระ ต่างกับทั่วไปยังไง พระใช้ร่วมกันไม่ได้เหรอ เพจดังมีเฉลยแล้ว เรื่องนี้หลายคนเดาไม่ผิด



น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรพระ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ผู้บริโภค


          น้ำยาปรับผ้านุ่มนั้น มักจะมีสูตรและกลิ่นหอมต่าง ๆ มาให้เลือกสรร แต่ล่าสุด (1 มีนาคม 2568) โลกออนไลน์มีกระแสตั้งคำถาม หลังมีชาวเน็ตพบว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มแบรนด์ดัง ได้ออกสูตรเข้มข้น “สำหรับพระภิกษุสงฆ์” จนอดสงสัยไม่ได้ว่า สูตรนี้แตกต่างจากสูตรอื่น ๆ อย่างไร ทำไมต้องมีสูตรสำหรับพระสงฆ์โดยเฉพาะ พระสงฆ์ใช้สูตรอื่น ๆ เหมือนคนทั่วไปได้หรือไม่

          ซึ่งเรื่องนี้พบว่ามีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันหลากหลาย โดยหลายคนมองว่า เนื่องจากพระสงฆ์นั้นมีบทบัญญัติตามพระธรรมวินัย ที่ไม่สามารถใช้เครื่องหอมหรือน้ำหอมได้ จึงอาจเป็นไปได้ว่า น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรนี้อาจจะไม่มีกลิ่นหอม เพื่อมิให้พระสงฆ์ใช้แล้วอาบัติ

          รวมถึงบางคนยังมองว่า จีวรของพระมีผ้าแตกต่างจากผ้าสำหรับนุ่งห่มทั่วไป อาจเป็นสูตรที่คิดมาแล้วว่าเหมาะสม หรือไม่ก็อาจะเป็นการทำการตลาด แก่กลุ่มผู้ที่นิยมการทำบุญ ซื้อไปทำสังฆทานก็เป็นได้

         ขณะที่ต่อมา เพจผู้บริโภค โพสต์ถึงเรื่องนี้ ระบุว่า “เห็นประเด็นนี้มีคนสนไจเยอะ
หยิบยกมาพูดสักหน่อยกับ ทำไมต้องมีสูตรสำหรับพระ
แล้วพระใช้กับคนปกติไม่ได้หรอ เออเน๊อะ

          คืองี้พระสงฆ์
มีวินัยข้อห้ามข้อนึงที่เกี่ยวกับการห้ามใช้เครื่องหอมหรือน้ำหอม
ซึ่งพวกน้ำยาซักผ้า ปรับผ้านุ่ม ส่วนใหญ่มีส่วนผสมของพวกนี้อยู่แล้ว
แต่ในสูตรสำหรับพระนั้นจะไม่มีการผสมของเครื่องหอมแม้แต่นิดเดียว
คือพูดง่าย ๆ เลยนะเน้นซักสะอาด จัดการกลิ่นอับได้ดีนั่นเองจ้า

          จึงไม่แปลกใจที่ทุกวันนี้มีสูตรของพระสงฆ์แยกออกมาด้วย เพราะการห่มจีวรเป็นพระ แต่ห่มผ้าด้วยนะคือเป็นห่วง #ผู้บริโภค ว่าไง”

 

KUBET – สาวท้อง 9 เดือนไม่รู้ตัว หลังแค่ใช้ปากทำออรัลเซ็กส์ ด้านหมออธิบายแบบนี้

 
           สาวปวดท้องมาโรงพยาบาล ช็อกตั้งท้อง 9 เดือนไม่รู้ตัว หลังแค่มีเพศสัมพันธ์ทางปาก หมออธิบายเคสประหลาด เกิดขึ้นได้อย่างไร



สาวปวดท้องมารพ. ช็อกท้อง 9 เดือน

           วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์เดลี่เมล
เผยเรื่องราวเกี่ยวกับเคสทางการแพทย์สุดแปลกประหลาด
เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งอายุ 15 ปี ไปหาหมอด้วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
ก่อนที่จะทำให้ตกตะลึงไปตามกันเมื่อผลออกมาว่า เธอกำลังตั้งครรภ์ได้ 9
เดือน และทารกกำลังจะคลอดออกมา โดยหลังจากรู้ความจริงยิ่งน่าตกใจ
เมื่อเธอไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ เคยทำเพียงแค่ออรัลเซ็กส์
หรือเพศสัมพันธ์ทางปากเท่านั้น

           เคสดังกล่าวถูกบันทึกลงในวารสารสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาของอังกฤษ
โดยหญิงสาวรายนี้อยู่ในประเทศเลโซโท แอฟริกาใต้ เธอเดินทางไปโรงพยาบาล
ภายหลังจากมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงโดยเฉียบพลัน กระทั่งผลตรวจพบว่า
เธอตั้งครรภ์ได้ประมาณ 9 เดือน
อาการปวดท้องของเธอเกิดจากมดลูกบีบตัวเป็นระยะ
และทารกอยู่ในท่าคว่ำหน้าลงใกล้จะคลอด

           หญิงสาวตกใจมากเมื่อได้ทราบสาเหตุของการปวดท้อง
เนื่องจากเธอไม่เคยรู้ตัวมาก่อนว่ากำลังตั้งครรภ์ ต่อมา
แพทย์ก็ยิ่งประหลาดใจเมื่อพบว่า เธอไม่มีช่องคลอด หรือปากช่องคลอดปิด
ซึ่งเป็นความผิดปกติแต่กำเนิดที่หายาก เรียกว่า ภาวะช่องคลอดส่วนปลายอุดตัน
(Distal Vaginal Atresia) ซึ่งตามรายงานเผยว่า
มีโอกาสเกิดขึ้นกับทารกแรกเกิดเพียง 1 ใน 4,000 ถึง 10,000 รายเท่านั้น

           หญิงสาวเผยว่า
ก่อนหน้านี้เธอเคยพยายามจะมีเพศสัมพันธ์แบบปกติ แต่หลังจากพยายามหลายครั้งก็ไม่เป็นผล เพราะไม่มีช่องตรงอวัยวะเพศให้สอดใส่
เธอจึงใช้วิธีมีเพศสัมพันธ์ทางปาก ทั้งนี้ ในช่วงหลายเดือนก่อน
ตอนที่เธอเห็นว่าท้องใหญ่ขึ้นผิดปกติ
ก็รู้สึกเป็นกังวลแต่ไม่เชื่อและไม่เคยคิดว่าจะเป็นการตั้งครรภ์
เพราะเธอไม่มีช่องคลอด

           จากความผิดปกติดังกล่าว
โดยทั่วไปแล้วหญิงสาวจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ตามธรรมชาติ
หากไม่ได้ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วยเหลือ เช่น
การปฏิสนธินอกร่างกาย หรือเด็กหลอดแก้ว (IVF) และด้วยสภาพทางร่างกายเช่นนี้
ทำให้หญิงสาวรายนี้ไม่สามารถให้กำเนิดด้วยวิธีปกติทางช่องคลอดได้
แพทย์จึงต้องผ่าตัดทำคลอดแทน
โดยทารกเพศชายคลอดออกมาโดยปลอดภัยและสุขภาพแข็งแรง มีน้ำหนัก 2,800 กรัม

           เพื่อหาคำตอบของความสงสัย
ทางทีมแพทย์จึงซักถามข้อมูลจากหญิงสาว ก่อนที่จะได้ทราบว่า ช่วงประมาณ 9
เดือนก่อน เธอได้มีเพศสัมพันธ์ทางปากกับแฟนใหม่
ก่อนที่แฟนเก่าจะมาพบเข้าจึงเกิดความหึงหวงเข้ามาทำร้าย
โดยใช้อาวุธมีคมแทงเข้าหน้าที่บริเวณท้องของเธอจนเป็นแผล
ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล

           เรื่องนี้ทำให้ทีมแพทย์สรุปคำอธิบายได้ว่า
หลังจากทำออรัลเซ็กส์ให้กับฝ่ายชาย
อสุจิที่เธอกลืนเข้าไปได้ลงไปยังกระเพราะอาหาร
และเดินทางไปสู่อวัยวะสืบพันธุ์ของเธอผ่านบาดแผลที่ถูกแทง
จนส่งผลให้เกิดการตั้งครรภ์ แต่ทั้งนี้
โดยปกติแล้วการกลืนอสุจิลงท้องแทบจะไม่มีโอกาสทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้
เนื่องจากถูกกรดในกระเพาะอาหารทำลายไปจนหมด

           ในกรณีของหญิงสาวรายนี้
แพทย์เชื่อว่า
อสุจิอาจรอดชีวิตได้เนื่องเธอมีภาวะขาดสารอาหารในขณะที่ถูกแทง
การขาดสารอาหารสามารถทำให้ความเป็นกรดของระบบย่อยอาหารลดลง
และอาจเกิดโอกาสที่อสุจิจะไปถึงมดลูกของเธอได้ผ่านบาดแผลภายในได้

           นอกจากนี้
ทารกชายที่เกิดมาและเติบโตขึ้น
มีลักษณะเหมือนพ่อของเขาตามที่หญิงสาวกล่าวอ้าง
ซึ่งเป็นผู้ชายที่เธอมีเพศสัมพันธ์ทางปากด้วยเพียงไม่นาน
ก่อนที่จะเกิดการทำร้ายร่างกาย
สิ่งนี้ได้พิสูจน์ว่าการตั้งครรภ์ของหญิงสาวไม่ใช่เรื่องอัศจรรย์เหนือธรรมชาติ
แต่เป็นเคสประหลาดหายากที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก

ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail, Live Science

 

KUBET – แจ๊ค ธนพล เอม รมิดา ควงคู่เข้าพิธีแต่งงาน เจ้าสาวสวยละมุน ทำเจ้าบ่าวจุ๊บไม่หยุด

KUBET – แต้ว ณฐพร ควงคู่ ไฮโซณัย เข้าพิธีแต่งงานแสนหวาน โรแมนติกท่ามกลางธรรมชาติ

KUBET – เช่าบ้านเชียงใหม่ กลายเป็นไวรัลเพราะค่าเช่า คนแชร์เป็นพัน วิเคราะห์เพียบ

            ไวรัลประกาศเช่าที่สำหรับการทำธุรกิจ เพียงแค่เห็นราคาคนก็แชร์เป็นพันครั้ง พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลเสร็จสรรพ งานนี้คุ้มหรือไม่คุ้ม



ไวรัลประกาศเช่าที่เชียงใหม่ 5 หมื่น

            วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง มีการประกาศเช่าบ้าน 2 ชั้น สำหรับทำกิจการอย่าง สปา คาเฟ่ โฮสเทล ราคาเดือนละ 5 หมื่นบาท แต่ถ้าจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 1 ปี ลดเหลือเดือนละ 45,000 บาท มีสัญญาขั้นต่ำ 1 ปี ช่วงรีโนเวทไม่เก็บค่าเช่า 2 เดือน

            สำหรับพิกัดของบ้านเช่า อยู่ที่ถนนสมโภชน์เชียงใหม่ 720 ปี (ถนนสนามบินตัดใหม่) ใกล้สนามบิน นิมมาน สวนดอก หลังสนามบินเชียงใหม่

ไวรัลประกาศเช่าที่เชียงใหม่ 5 หมื่น

            โพสต์ดังกล่าว
กลายเป็นไวรัลคนแชร์กว่าพันครั้ง มองว่าค่าเช่านั้นราคาสูงเกินไป
ถ้าหากเช่าจริง กำไรต่าง ๆ คงหมดไปกับค่าเช่าแล้ว
รวมถึงลักษณะของพื้นที่ไม่เหมาะสำหรับการทำธุรกิจ
เหมาะสำหรับการทำที่พักให้เช่า รวมถึงที่จอดรถน้อยเกินไป สามารถจอดได้ราว
2-3 คัน

ไวรัลประกาศเช่าที่เชียงใหม่ 5 หมื่น

ไวรัลประกาศเช่าที่เชียงใหม่ 5 หมื่น

KUBET – สาวโดนตำรวจจับ ไม่เครียดแถมยิ้มแฮปปี้ ปลื้มได้นั่งใกล้ตำรวจหล่อ

         ไวรัล เจ้าหน้าที่คุมตัวหญิงขึ้นหลังกระบะ เจ้าตัวไม่เครียดแถมยิ้มมีความสุข เพราะงานนี้ได้ประกบตำรวจหนุ่มหล่อใกล้ชิด



หญิงสาวถูกตำรวจจับ แต่กลับยิ้มแย้มมีความสุข
ภาพจาก TikTok @usermekapol250

        วันที่ 1 มีนาคม 2568 โลกออนไลน์แชร์คลิปจากผู้ใช้ TikTok @usermekapol250 หรือ ผู้กองเมฆา ลงคลิปเหตุการณ์ชวนพีคเมื่อจับกุมหญิงคนหนึ่งโดยคุมตัวไว้บนหลังรถกระบะ แต่อีกฝ่ายกลับดูจะมีความสุขอย่างไม่คาดคิด

        จากคลิปเป็นเหตุการณ์ที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาหญิงไว้ที่หลังรถกระบะ  โดยถูกใส่กุญแจมือไว้ แต่หญิงที่โดนจับกลับมีสีหน้ามีความสุข ยิ้มแย้ม และซบขาตำรวจหนุ่ม พร้อมพูดว่า “ชื่นใจนะ ชื่นใจ ว้าว สบายใจ”

หญิงสาวถูกตำรวจจับ แต่กลับยิ้มแย้มมีความสุข
ภาพจาก TikTok @usermekapol250

        เบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ เกิดจากที่หญิงคนดังกล่าวไปสร้างความวุ่นวายในงานฝังลูกนิมิต ตำรวจจึงเข้าไปดูแลความเรียบร้อย โดยในตอนแรกเจ้าตัวไม่ยอมมากับตำรวจ จึงเกลี้ยกล่อมว่าให้มาด้วยกัน เดี๋ยวจะให้นั่งใกล้กับตำรวจหล่อ ๆ เธอจึงตกลงที่จะมาด้วยกัน ซึ่งเป็นการควบคุมสถานการณ์ได้โดยไม่ต้องมีความรุนแรงแต่อย่างใด

หญิงสาวถูกตำรวจจับ แต่กลับยิ้มแย้มมีความสุข
ภาพจาก TikTok @usermekapol250

สาวโดนตำรวจจับ ไม่เครียดแถมยังแฮปปี้ขั้นสุด
ภาพจาก TikTok @usermekapol250

        คลิปนี้กลายเป็นไวรัลจนมียอดเข้าชมกว่า 4.8 ล้านครั้ง
ชาวเน็ตได้เห็นต่างก็เอ็นดูหญิงที่ถูกจับ
โดยยกให้เป็นการโดยจับที่มีความสุขที่สุด
บ้างก็แซวว่าสรุปแล้วใครจับใครกันแน่ เป็นต้น

สาวโดนตำรวจจับ ไม่เครียดแถมยังแฮปปี้ขั้นสุด

สาวโดนตำรวจจับ ไม่เครียดแถมยังแฮปปี้ขั้นสุด

สาวโดนตำรวจจับ ไม่เครียดแถมยังแฮปปี้ขั้นสุด

สาวโดนตำรวจจับ ไม่เครียดแถมยังแฮปปี้ขั้นสุด

สาวโดนตำรวจจับ ไม่เครียดแถมยังแฮปปี้ขั้นสุด

KUBET – บิวตี้บล็อกเกอร์สาว กดปิดฟิลเตอร์กลางไลฟ์ เผยหน้าสดเต็มจอ แฟน ๆ อึ้งตาค้าง

 
              บิ๊วตี้บล็อกเกอร์สาวสายความงาม กดปิดฟิลเตอร์กลางไลฟ์ เผยหน้าสดให้เห็นเต็มจอ ตัวตนที่แท้จริงของแม่ลูกสาม แฟน ๆ อึ้งตาค้าง



บิวตี้บล็อกเกอร์
ภาพจาก Kuaishou

              ปัจจุบันใคร ๆ ก็สามารถเป็นอินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดียได้
โดยอินฟลูเอนเซอร์สาว ๆ มักจะใช้ภาพลักษณ์ความสวยงามเพื่อดึงดูดแฟน ๆ
ให้เข้ามาติดตาม
ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้ฟิลเตอร์บิวตี้ที่มีให้เลือกมากมายมาเสริมเติมแต่งเพิ่มไปอีก
เรียกได้ว่าเป็นความลับนางฟ้าเลยทีเดียว

              เมื่อวันที่ 27
กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ TVBS เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ
นี้มีอินฟลูเอนเซอร์สาวสายบิวตี้บล็อกเกอร์รายหนึ่งในประเทศจีน
กลายเป็นกระแสร้อนแรงที่ถูกพูดถึงอย่างดุเดือดบนโลกออนไลน์
เมื่อมีการเผยแพร่ภาพหน้าสดของเธอ
ในขณะที่ไม่ได้แต่งหน้าและไม่ได้ใส่ฟิลเตอร์ สร้างความตกตะลึงให้กับแฟน ๆ
ผู้ติดตาม รวมไปถึงผู้ชมคนอื่น ๆ จำนวนมาก  

              โดยสาวรายนี้ใช้ชื่อช่องว่า “การแต่งหน้าประจำวันของเสี่ยวหลิงเอ๋อร์” บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Kuaishou
ของจีน โดยเธอมักจะแชร์เทคนิคการแต่งหน้าและเคล็ดลับความงามต่าง ๆ
เช่นเดียวกับคลิปไลฟ์ล่าสุดของเธอ
เธอได้ใส่ฟิลเตอร์เพื่อให้ใบหน้าดูโดดเด่นขึ้นจากเดิม
ซึ่งฟิลเตอร์นี้มีความแนบเนียนมากถึงขนาดใช้มือปิดปาก หรือส่วนอื่น ๆ
ของใบหน้าได้ โดยที่ฟิลเตอร์ความงามนั้นไม่หลุดลอยไปไหน

              เสี่ยวหลิงเอ๋อร์หัวเราะออกมาด้วยความชอบใจในฟิลเตอร์ความงามนี้ โดยบอกว่า “เมื่อฉันใส่ฟิลเตอร์ความงาม ลืมไปเลยว่าฉันเป็นแม่ลูกสาม”

บิวตี้บล็อกเกอร์
ภาพจาก Kuaishou

              อย่างไรก็ตาม
ในจังหวะที่เสี่ยวหลิงเอ๋อร์กดปิดฟิลเตอร์
ภาพใบหน้าที่แท้จริงของเธอก็ถูกเปิดเผยสู่สาธารณชน
จากใบหน้าขาวใสที่ถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางจนออร่าพุ่ง
กลับกลายเป็นหญิงวัยกลางคนที่มีสภาพและสีผิวแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
สัดส่วนของจมูกก็แตกต่างกัน รวมไปถึงริมฝีปากที่ซีดและแห้ง  

              เสี่ยวหลิงเอ๋อร์
กล่าวติดตลกขำขันเกี่ยวกับรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเธอว่า “กลับสู่ร่างเดิมโดยพลัน” พร้อมทั้งให้แง่คิดว่า
“อย่าคิดว่าคุณสวยเพราะเอฟเฟกต์พิเศษ จริง ๆ แล้วเป็นแค่ป้าแก่ ๆ อย่างฉัน
มันไม่ดีกว่าเหรอที่จะเผชิญกับความจริง ผู้ชายทั้งหลาย จงตาสว่าง !”

              คลิปวิดีโอนี้สร้างความตกตะลึงให้กับชาวเน็ต
หลายคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นด้วยความประหลาดใจ กล่าวทำนองว่า “นี่ไม่ใช่คนเดียวกัน”, “อย่าเชื่อความงามในโลกออนไลน์”,
“เมื่อคุณเปิดฟิลเตอร์ความงาม ดูเหมือนนางฟ้าที่ลงมายังโลก”
และ “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม่ถึงมีสาวงามมากมายบนโซเชียล
แต่บนถนนกลับไม่มีให้เห็นเลย”

              อย่างไรก็ดี
อีกส่วนมองว่าโครงหน้าเดิมของเสี่ยวหลิงเอ๋อร์ก็มีความสวยงามอยู่แล้ว
เพียงแค่เธอไม่ได้แต่งหน้า
หากเธอแต่งหน้าก็คงจะไม่ได้แตกต่างจากฟิลเตอร์ความงามที่เธอใช้มากนัก

ขอบคุณข้อมูลจาก TVBS

KUBET – สารวัตรแจ๊ะ ตามหาหมอวันดี ช่วยให้รอดชีวิตในวัย 4 เดือน

         สารวัตรแจ๊ะ ตามหากุมารแพทย์หญิง คนคิดค้น ผงวันดี ผู้มีพระคุณช่วยให้รอดชีวิตตอนป่วยในวัย 4 เดือน ผ่านสายโทรศัพท์



สารวัตรแจ๊ะ ตามหากุมารแพทย์หญิง ผู้มีพระคุณช่วยให้รอดชีวิต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก จ๋อแจ๊ะจับโจร

         วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เพจเฟซบุ๊ก จ๋อแจ๊ะจับโจร โพสต์เล่าเรื่องราวประทับใจของ สารวัตรแจ๊ะ ที่ตามหา กุมารแพทย์หญิง ผู้ชุบชีวิตทารกน้อยเมื่อกว่า 30 ปีก่อนผ่านเสียงโทรศัพท์ จนช่วยให้รอดตายก่อนจะเข้ามาเป็นตำรวจที่คอยช่วยเหลือประชาชนในทุกวันนี้

         ปี 2536 เมืองพิษณุโลก เด็กทารกชายคนหนึ่งเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่แข็งแรงนัก เมื่อย่างเข้าอายุได้เพียง 4 เดือน ร่างกายทารกน้อยเริ่มป่วยออด ๆ แอด ๆ แม้ว่าจะเข้าโรงพยาบาลมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง แต่ก็ไม่มีท่าทีจะดีขึ้น จนเมื่อย่างเข้าเดือนกันยายน 2536 อาการเด็กน้อยแย่ลงจนเข้าขั้นวิกฤต เนื้อตัวลีบ ถ่ายไม่หยุด 2 กุมารแพทย์ที่เก่งที่สุดในเมืองพิษณุโลกในเวลานั้น ได้พยายามช่วยชีวิตทารกน้อยด้วยการให้น้ำเกลือ ทางขา ทางแขน แต่ก็ไม่สามารถส่งสารอาหารเข้าร่างกายทารกน้อยได้ เพราะเส้นเลือดในร่างกายได้ตีบหมดแล้ว จนต้องตัดสินใจ เจาะหน้าผาก ให้น้ำเกลือผ่านทางกะโหลกเป็นทางสุดท้าย กว่า 1 เดือนที่พยายามช่วยชีวิตทารกน้อยรายนี้ แต่อาการก็กลับแย่ลงเรื่อย ๆ เพราะโรคร้ายพิสดารที่ไม่มีใครไขคำตอบได้ในเวลานั้น

         1 พฤศจิกายน 2536 ค่ำคืนที่คล้ายจะเป็นจุดสุดท้ายของชีวิตทารกน้อย กุมารแพทย์แห่งเมืองพิษณุโลกกล่าวกับพ่อของทารกอย่างกระอักกระอ่วนว่า เราก็สุดความสามารถแล้วคุณพ่อ ประโยคสะท้านทรวงสุดจะบีบหัวใจพ่อ ก่อนจะมองไปที่ร่างทารกน้อย ตัวผอมลีบร่างกายไร้เรี่ยวแรง ใกล้จะไปโลกหน้า ความคิดกรีดร้องใครจะยอมให้ลูกตาย พ่อรีบวิ่งกลับไปถามหมออีกครั้งว่า ยังมีทางไหนที่จะช่วยลูกผมได้บ้าง จนได้คำตอบจากหมอว่า มีหมอคนหนึ่ง ที่วิจัยเกี่ยวกับทารกอยู่ แต่ต้องไปขอร้องเขา เพราะเขาเป็นหมออยู่ที่กรุงเทพฯ ชื่อวันดี กุมารเวช โรงพยาบาลรามามหิดล

สารวัตรแจ๊ะ ตามหากุมารแพทย์หญิง ผู้มีพระคุณช่วยให้รอดชีวิต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก จ๋อแจ๊ะจับโจร

         หลังสิ้นคำตอบพ่อสั่งให้แม่เฝ้าทารกน้อย ก่อนที่ตัวเองจะคว้ากุญแจรถมอเตอร์ไซค์ขับตระเวนรอบเมืองพิษณุโลกเพื่อหา สมุดหน้าเหลือง ด้วยยุค 90’s สมัยที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีโทรศัพท์มือถือ สมุดหน้าเหลืองจึงเป็นหนทางเดียวในสมัยนั้นที่จะหาช่องทางติดต่อกับโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ได้ แต่เจ้ากรรมเมื่อเวลานั้นร้านค้าในตัวเมืองได้ปิดหมดแล้ว ต้องตระเวนเคาะเรียกทีละร้านจนกระทั่งโชคเข้าข้าง เมื่อมีอาแปะร้านขายหนังสือแห่งหนึ่งยังไม่นอน ได้เปิดมาขายสมุดหน้าเหลืองให้ ก่อนจะรีบหาโบกรถรับจ้างเหมาไปยังที่ทำงาน แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ จ.กำแพงเพชร เพื่อจะเข้าไปใช้โทรศัพท์ที่มีอยู่เครื่องเดียวในไซต์งาน กว่าจะถึงก็เป็นเวลาดึกสงัดเสียแล้ว

         ห้วงคืนนั้นพ่อของทารกน้อยต่อสายหาโรงพยาบาลรามามหิดลจากสมุดหน้าเหลือง ผ่านไปหลายสาย หลายแผนก หลายต่อ หลายทอด จนได้เบอร์โทรศัพท์ของออฟฟิศแพทย์หญิงวันดี ทารกน้อยจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ พ่อก็ไม่ทราบทำได้เพียงกระหน่ำเฝ้าโทรศัพท์กดโทรไปเรื่อย ๆ จนกว่าคุณหมอวันดีจะมาทำงานที่ออฟฟิศ ช่างเป็นห้วงเวลาที่บีบคั้นหัวใจเหลือเกิน

         ช่วงเช้าวันที่ 2 พฤศจิกายน 2536 แพทย์หญิงวันดี รับสายหลังจากกระหน่ำโทร. ไปตลอดคืน พ่อของทารกน้อยรีบแนะนำตัวก่อนจะแจ้งอาการของทารกน้อยให้ฟังด้วยความร้อนรน แพทย์หญิงวันดี ได้ถามกลับว่า ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน พ่อรีบตอบกลับไปว่า ผมโทร. มาจากกำแพงเพชร ตอนนี้อยู่ในป่า ถ้าต้องพาลูกไปกรุงเทพฯ จะต้องรอรถเมล์ 2 ชั่วโมง แล้วนั่งไปอีก 2 ชั่วโมง จากกำแพงเพชรเข้าไปที่ จ.พิษณุโลก เพื่อรับลูก และจะพาขึ้นเครื่องบินที่มีวันละ 1 เที่ยว ถึงจะไปถึงกรุงเทพฯ

         แพทย์หญิงวันดีตอบกลับว่า คุณไม่ต้องมา เด็กจะเสียระหว่างทาง หมอจะรักษาผ่านทางโทรศัพท์ เราจะกระตุ้นให้ลำไส้เริ่มกลับมาทำงานก่อนที่เด็กจะเสียชีวิต รีบกลับไปทำตามที่หมอบอก

         จากนั้นได้เริ่มบอก สูตรอาหารผสม และวิธีการรักษาเบื้องต้นให้กับพ่อของทารกน้อย จดทุกสิ่งทุกอย่างลงในกระดาษโน้ตแล้วพับเก็บใส่กระเป๋าอย่างประณีต ก่อนจะโดดงาน รีบออกจากไซต์งาน ขึ้นรถเมล์มุ่งหน้ากลับไปที่เมืองพิษณุโลกทันที

สารวัตรแจ๊ะ ตามหากุมารแพทย์หญิง ผู้มีพระคุณช่วยให้รอดชีวิต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก จ๋อแจ๊ะจับโจร

         เมื่อพ่อกลับมาถึงแล้วพบว่าทารกน้อยยังไม่สิ้นใจ รีบนำอาหารผสมสูตรหมอวันดี แกะออกก่อนนำใส่ปากรักษาทารกน้อยตามโพยหมอในทันที แม้ยังไม่เห็นผลทันตา แต่ทารกยังคงสภาพไม่สิ้นใจ เหมือนจะได้ผล พ่อจดทุกอากัปกิริยาของทารกน้อย ก่อนจะรีบโบกรถข้ามจังหวัดกลับไปไซต์งาน เพื่อโทรศัพท์หาหมอ

         การเทียวไปเทียวมา 2 จังหวัด เพื่อรักษาผ่านทางโทรศัพท์ได้เริ่มต้นขึ้น ทุก 7 โมงเช้า ของทุกวัน ตลอด 3 เดือน แพทย์หญิงวันดีจะใช้เวลาทุกเช้าก่อนเข้างาน รอรับสายโทรศัพท์จากพ่อ เพื่อตามติดรักษาอาการ และปรับเปลี่ยนสูตรผสมอาหารตามอาการ จนเด็กทารกน้อย ฟื้นชีพ ดีวันดีคืน ผิวหนังที่เหี่ยวก็กลับมาเต่งตึง หายเป็นปกติในที่สุด

 สารวัตรแจ๊ะ ตามหากุมารแพทย์หญิง ผู้มีพระคุณช่วยให้รอดชีวิต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก จ๋อแจ๊ะจับโจร
 


ตามหาผู้มีพระคุณ

        
ทารกน้อยในวัยหนุ่มออกตามหาหมอวันดีที่ โรงพยาบาลรามาฯ
แต่ทว่าเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าท่านได้เกษียณ ไม่ได้มาทำงานเป็นเวลากว่า 10
ปีแล้ว จนต้องออกตระเวนถามหาบ้าน จนได้มาถึงหน้าบ้านเก่า ๆ สุดสมถะ
บรรยากาศสุดเงียบสงบ “มีใครอยู่ไหมครับ” หลังสิ้นเสียงเรียก
เงาหญิงชราเคลื่อนไหวราง ๆ เป็นเงาสะท้อนออกมาจากประตูบ้าน
ก่อนเปิดออกมาด้วยใบหน้าอันสงสัย

         “มาหาใครคะ”
น้ำเสียงหญิงชราอันแสนเมตตาขยับเข้ามาใกล้ ๆ
ครั้งได้สบตาอากัปกิริยาสุดแสนใจดี ทำให้ทารกน้อยวัยหนุ่มเข่าทรุดติดพื้น
ก้มลงกราบโดยอัตโนมัติ ก่อนบอกกับหมอที่อยู่ในอาการงุนงงว่า
“ไม่รู้หมอจะจำผมได้ไหม ผมคือเด็กที่หมอช่วยชีวิตผ่านโทรศัพท์เมื่อ 32
ปีก่อน พ่อผมเล่าให้ฟังตอนผมไปเจอกระดาษโน้ตอันนี้
ที่ท่านบอกสูตรผสมกับวิธีการรักษาให้พ่อผม ทำให้ผมรอดตาย”

         หมอวันดีหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาอ่านอย่างตั้งใจ ก่อนกล่าวว่า “นี่มันสูตรของฉันจริง ๆ ด้วย ขอให้มีความสุขความเจริญนะ
แล้วตอนนี้หนูเป็นอะไร”
ทารกน้อยวัยหนุ่มกล่าวตอบ “ผมเป็นตำรวจอยู่นครบาลครับ”
ก่อนจะถอดเสื้อคลุมสืบนครบาลตัวเก่งให้กับหมอวันดีโดยไม่ลังเล
“เสื้อนี้มีค่าสำหรับผมมากครับ ผมขอให้หมอไว้นะครับ
ถ้าไม่มีหมอผมคงตายไปแล้ว”


        
หมอวันดีคลี่เสื้อดูก่อนบรรจงอ่านตัวอักษรบนเสื้อ และกล่าวว่า “ขอมอบให้ 9
ชีวิตเลยนะ ขอให้ปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นคนดีช่วยเหลือคนอื่น ๆ
นะลูก ขอบใจนะที่คิดถึงกัน”

หมอเทวดาในร่างหญิงชราค่อยหันหลังและเดินกลับเข้าบ้านไปพร้อม ๆ 
สายลมที่พัดเบา ๆ  พาใบเอาไม้ปลิวว่อน
ภาพเบื้องหน้าความรู้สึกชวนให้ทารกน้อยวัยหนุ่มน้ำตาคลอ
เสมือนเวลาได้ถูกหยุดลงที่หน้าบ้านของหมอวันดี

         
         ทารกน้อยจากแดนไกล ปัจจุบันคือ พ.ต.ต. ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือสารวัตรแจ๊ะ
สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. เกิดมาพร้อมอาการป่วยออด ๆ แอด ๆ และแพทย์ใน
จ.พิษณุโลก ได้วินิจฉัยว่าติดเชื้อโรต้าไวรัส
แต่การรักษาไม่ดีขึ้นจนสภาพร่างกายลีบแห้ง ใกล้เสียชีวิต
เพราะแท้จริงเป็นโรคอุจจาระร่วงจากสารอาหารที่เข้มข้นในลำไส้ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในสมัยนั้น
แต่ได้รับการรักษาจาก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงวันดี วราวิทย์
ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคนี้โดยตรง ผ่านทางโทรศัพท์
ซึ่งได้รักษาด้วยการให้สูตรอาหารผสมที่มีส่วนผสมของเกลือแกงและน้ำตาลทราย
ทำให้สารวัตรแจ๊ะจนรอดตายอย่างปาฏิหาริย์เมื่อปี 2536

        
ต่อมา แพทย์หญิงวันดี ได้วิจัยพัฒนาจนกลายเป็น ผงวันดี หรือ วันดีรามา ORS
หรือที่เรียกว่า ผงน้ำตาลเกลือแร่ สารช่วยทดแทนการสูญเสียเกลือแร่
ใช้รักษาโรคท้องร่วงเฉียบพลัน
ซึ่งคิดค้นมาจากการสังเกตว่าคนไข้โรคอุจจาระร่วงจำนวนมากมักชักและตายอย่างรวดเร็ว
เพราะการที่ได้สารน้ำที่เข้มข้นเกินไป ซึ่งการคิดค้นสูตรของ
แพทย์หญิงวันดี ผลออกมาเป็นที่ยอมรับและใช้ได้ผล
มีการนำเสนอผลงานนี้ทางเวทีวิจัยระดับนานาชาติจนเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
และที่สำคัญท่านได้ช่วยชีวิตคนมามากมาย นับไม่ถ้วน

สารวัตรแจ๊ะ ตามหากุมารแพทย์หญิง ผู้มีพระคุณช่วยให้รอดชีวิต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก จ๋อแจ๊ะจับโจร
        
         ขอสดุดีจิตวิญญาณ หมอเทวดา แพทย์หญิงวันดี วราวิทย์