KUBET – หมอปลาย เผยคำทำนายล่าสุด เตือนภัยพิบัติอาจเกิดอีกเร็ว ๆ นี้ จุดไหนต้องระวัง

          หมอปลาย พรายกระซิบ เผยคำทำนายล่าสุด จากเสียงกระซิบของท่านยม เตือนแนวโนมภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ทั้งเรื่องแผ่นดินไหว ตึกถล่ม ภูเขาไฟระเบิด และเรื่องที่ควรเตรียมตัว



หมอปลาย เผยคำทำนายล่าสุด
ภาพจาก WOODY


          มาเป็นแขกรับเชิญใน WOODY FM Special ทางช่อง WOODY ทั้งที งานนี้ หมอปลาย พรายกระซิบ ก็ได้มาเปิดเผยถึงคำทำนายที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ซึ่งได้ยินมาจากเสียงกระซิบของ “ท่านยม” ในรายการ ย้อนเล่าถึงเหตุที่เตือนเกี่ยวกับภัยพิบัติก่อนหน้านี้ และเตือนแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นอีกในเร็ว ๆ นี้ พร้อมแนะถึงวิธีเตรียมตัวในอนาคตด้วย


          ทั้งนี้ หมอปลาย พรายกระซิบ เผยว่า ที่ผ่านมา สิ่งที่ทำนายมันคือเราได้ยินเสียงกระซิบที่ท่านยมพูดมา แล้วปลายแปรสาร บางครั้งปลายก็ดื้อ โดยไม่พูดในสิ่งที่ได้ยิน จนช่วงปลายปี จะเข้าต้นปีที่ผ่านมา เริ่มตัดสินใจพูดคำว่าแผ่นดินไหวเยอะมาก แล้วก็มีการระบุเลยว่าพม่าและกรุงเทพฯ พอมันเกิดขึ้นจริง ก็มีผู้ใหญ่ถามว่าจะย้ายไปอยู่ประเทศไหน ควรไปตรงไหน ตรงไหนไม่ควรไป

หมอปลาย เผยคำทำนายล่าสุด
ภาพจาก WOODY

          – สิ่งที่รู้ตอนนี้คือ 1. ภูเขาไฟกำลังจะระเบิด
ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่คนไทยชอบไปมาก 2. คนไทยจะเสีย
ชีวิตจากการเดินทางไปที่แบบนั้น 3. เรื่องการคอรัปชั่น
ตึกที่ขึ้นเป็นดอกเห็ดจะพังครืนเหมือนถูกพ่นยา คือตายทั้งต้น ตายทันที
ตายเยอะ และอีกเรื่องคือเศรษฐกิจ

          –
ตอนนี้จะมาพูดคืออยากให้ทุกคนเข้าใจว่ามันคืออะไรชัด ๆ
เพื่อจะได้ไม่ต้องไปคิดเอง มันจะมาเรื่อย ๆ ไม่ทำให้ลืมภายใน 7 วัน
มันมีอะไรที่ต้องจำแล้วกลายเป็นอนุสรณ์ที่เราต้องจดจำ
และต้องวางรากฐานชีวิตใหม่

หมอปลาย เผยคำทำนายล่าสุด
ภาพจาก WOODY

          –
เรื่องการอยู่ในตึกสูงจะเริ่มลดลง อาจมีการย้ายเมืองหลวงหรือเปล่าไม่แน่ใจ
แต่มันขึ้นมาแล้วเรื่องการย้ายสถานที่ราชการไปในที่ที่ปลอดภัย
ในจังหวัดที่ไกลจากกรุงเทพฯ คือไกลจากตึกสูง แล้วคนที่อยู่ตึกสูง
จะเริ่มหาบ้าน ก่อนย้ายก็ต้องขายตึกก่อน
บางคนก็ต้องยอมออกจากงานเพื่อกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัด แรงงานเราก็จะไม่พอ
ตามบริษัทก็ต้องหาแรงงานจากต่างชาติ คนไทยไม่มีงานทำ
เศรษฐกิจของคนไทยจะตกแย่ลงขนาดหนัก

          –
ประเทศเพื่อนบ้านจะได้รับ priority จากการที่เขาโดนภัยพิบัติเข้ามาอยู่
แต่เขาจะได้ทำงานมากกว่าคนไทยของเรา เช่นชาวพม่า
ต่อไปจะมีเวียดนามกับลาวอีก เพราะจะยังไหวอยู่ จะมีไหวที่พม่าอีก
แล้วจะเป็นแนวที่มันเบี่ยงข้าง มาจากเพลตเดิม แต่จะเปลี่ยนที่
เหมือนมีอะไรมาคั่น จากสิ่งที่มนุษย์สร้าง

หมอปลาย เผยคำทำนายล่าสุด
ภาพจาก WOODY

          – พอแนวออกข้าง
จะไปเจอน้ำค่อนข้างเยอะ มันจะกระจายมาถึงใกล้กับทางใต้ได้เลย
ก็จะมีประเทศเพื่อนบ้านหนัก ๆ ตัว ข ไข่ และจังหวัด ก ไก่ ข้างล่าง
และมีพวกอินโด สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ พวกพวกนี้คือโดนแน่นอนเกือบ 100%
ขอไม่พูดคำว่าสึกนามิ พูดคำว่าน้ำทะลัก น้ำมันกระแทกแรงมาก
และมีเรื่องภูเขาไฟที่จะปะทุปีนี้

          –
สิ่งที่จะพูดไม่ใช่จะบอกว่าเตรียมตัวเดี้ยง แต่อยากบอกว่าเรื่องแอปฯ
แจ้งเตือนแผ่นดินไหว สึนามิ ใครเก่งรีบพัฒนาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
และเรื่องศูนย์เตือนภัย มันพังหรือเปล่า ขึ้นสนิมหรือยัง
ตอนนี้มันยิ่งกว่าคำว่าสึนามินะ เราต้องเตรียมแม้แต่ในกรุงเทพฯ ตึกทุกตึก
เราต้องกลับมาเรียนรู้เรื่องแผ่นดินไหวเป็นยังไง การหนีเป็นยังไง
เหล็กเส้นเป็นยังไง เราสร้างมากี่ปี

หมอปลาย เผยคำทำนายล่าสุด
ภาพจาก WOODY

          –
สิ่งที่พูดมาทั้งหมดมันป้องกันได้ แต่ขอความรวดเร็ว ความตั้งใจ
ไม่ใช่แค่ว่าถึงเวลาแล้วมันเกิดเหตุ ถล่มแล้วทำไงต่อไป ไปนั่งเช็ก
ไปนั่งว่า ไปนั่งตาม แต่ลืมดูว่าไอ้ที่อื่น ๆ
ที่มันกำลังจะเกิดด้วยกรณีเดียวกัน มันจะโดนอีกไหม
แล้วควรจะย้ายคนออกไปทำงานที่อื่นก่อนหรือเปล่า

          –
ที่ท่านพูดคือตอนนี้เคลื่อนมาจากพม่าลงมาถึงแถบนี้ มันจะโดนหมดเลย
จะเป็นการสั่นจากภูเขาไฟ แล้วมันทั้งข้างบนและข้างล่าง 2 จุด
คือที่แดนปลาดิบกับอินโด แล้วจะมีภูเขาไฟที่อยู่ใต้น้ำ คล้าย ๆ กับวงแหวนไฟ
จะปุ้ง 1 ที่ ที่แต่ที่ใหญ่มันอาจจะไม่ปุ้งทันที แต่เล็ก ๆ
ข้างใต้น้ำมันจะปุ้ง ก่อน ไทำให้น้ำมันตีขึ้น
เราจะเริ่มเห็นชัดเจนเลยว่าน้ำทะเลเวลาฝนตกมันไม่ลง
น้ำเราท่วมเอ่ออยู่อย่างนี้ แล้วช่วงเมษายนก็จะมีพายุหนักมาก
ควรป้องกันเรื่องการลอกท่อ ระบายน้ำ

หมอปลาย เผยคำทำนายล่าสุด
ภาพจาก WOODY

          –
ท่านยมบอกว่ากลับไปใช้ชีวิตแบบคนที่ยังไม่เจริญ
อยากให้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนโบราณ อย่าใช้เหมือนคนสมัยใหม่
คือคนโบราณคือบ้านใต้ถุนสูง ข้างล่างมีที่จอดเรือ เตรียมน้ำท่วมตลอดเวลา
เพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่จำเป็นต้องอพยพทุกปี มันจะเกิดแบบนี้เกือบทุกจังหวัด
แล้วมันก็จะเป็นแบบนี้เกือบทุกปี มันจะมาตั้งแต่เดือนเมษายน – พฤษภาคม
เราต้องเตรียมตัวล่วงหน้า แล้วการเก็บเงินไว้ใต้ดินก็เลิกได้แล้ว
รีบขุดออกมาจัดการให้เรียบร้อย

          – เรื่องอาหารการกิน
อยากให้มองเรื่องการเกษตร แปรรูป แล้วเก็บระยะยาวได้แล้ว
ของที่เก็บได้ระยะยาวโดยไม่ต้องแช่แข็ง เน้นการเกษตรที่คนไทยกินกันเองก่อน

หมอปลาย เผยคำทำนายล่าสุด
ภาพจาก WOODY

         
– สำหรับคนที่อยู่ตึกสูงอยู่แล้ว ต้องรีบให้วิศวกรมาตรวจก่อน
และต้องตรวจทุกห้อง ทุกตึก แล้วต้องช่วยเขาด้วย
คือดูรอยก่อนว่าตรงไหนมันมีรอยเพิ่ม รีบถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เพราะต่อไปอาจมีนโยบายเกี่ยวกับการกู้เพื่อซ่อมหรือเยียวยา
รีบจัดการตรงนี้ให้เรียบร้อยเพื่อให้ฐานมันมั่นคงแข็งแรง

         
– สิ่งต่อไปคือห้ามตระหนกโดยการย้ายขึ้นเหนือ เพื่อหนีน้ำท่วม
และเราไม่ต้องตระหนกกับคำว่าเขื่อนแตก เพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว
เขาต้องซ่อมแซมอยู่
ทางเหนือคือแผ่นดนตรงนั้นใกล้จุดที่เป็นรอยสั่นเยอะที่สุด อย่าเพิ่งไปสร้าง
หรือพัฒนาอะไรแถวนั้น มองว่าอีสานน่าสนใจสุด
ยังมีที่ที่ปลอดภัยให้ประเทศไทยอีกเยอะ

          ติดตามบทสัมภาษณ์ของ หมอปลาย พรายกระซิบ แบบเต็ม ๆ ได้ใน WOODY FM Special ทางช่อง WOODY

หมอปลาย เผยคำทำนายล่าสุด
ภาพจาก WOODY

หมอปลาย เผยคำทำนายล่าสุด
ภาพจาก WOODY

หมอปลาย เผยคำทำนายล่าสุด
ภาพจาก WOODY

KUBET – สาว OnlyFans คอตก สามี 10 ปีจะฟ้องหย่า หลังเจอเซอร์ไพรส์ช็อก ตั้งท้องในฉาก

          สาว OnlyFans คอตก สามีที่แต่งงานกันมา 10 ปีฟ้องหย่า หลังได้เซอร์ไพรส์ช็อก ตั้งท้องในฉากกับนักแสดงชาย



สาว OnlyFans ท้อง
ภาพจาก Instagram deborapeixoto.ofc

          วันที่ 16 เมษายน 2568 เว็บไซต์ ETtoday เผยเรื่องราวของ เดโบรา เปโซโต (Debora Peixoto) นางแบบชาวบราซิลวัย 32 ปี สาว OnlyFans ดังบนโลกออนไลน์ ซึ่งมีผู้ติดตามบน TkTok มากกว่า 2.7 ล้าน เมื่อเร็ว ๆ นี้เธอได้ออกมาเปิดเผยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ภายหลังถูกสามีที่แต่งงานกันมานานถึง 10 ปี ฟ้องหย่า โดยสาเหตุมาจากเรื่องเซอร์ไพรส์สุดช็อก เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาระหว่างถ่ายทำฉากสยิว ซึ่งเด็กในท้องของเธอนั้นไม่ใช่ลูกของสามี แต่เป็นนักแสดงชายที่เธอเข้าฉากด้วย

          นางแบบสาวเปิดเผยเรื่องราวผ่านทางบัญชีโซเชียลมีเดียของเธอ โดยเธอได้โพสต์ภาพถ่ายของเธอที่มีสีหน้าและท่าทางเคร่งเครียด ด้านหน้าของเธอมีชุดตรวจการตั้งครรภ์ 2 ชุดที่ผลปรากฏออกมาเป็นบวก

          เดโบรา กล่าวว่า “ร่างกายของฉันเริ่มรู้สึกแตกต่างไป ฉันเริ่มมีอาการแปลก ๆ ฉันจึงตัดสินใจตรวจการตั้งครรภ์และผลออกมาเป็นบวก”

สาว OnlyFans ท้องตอนถ่ายหนังผู้ใหญ่
ภาพจาก Instagram deborapeixoto.ofc

          โดยเธอเผยว่า เธอรู้สึกตกใจและไม่สบายเป็นอย่างมาก เมื่อรู้ว่าพ่อของเด็กในท้องเป็นนักแสดงหนังผู้ใหญ่ชาวสเปนที่ชื่อ แม็กซิโม การ์เซีย ไม่ใช่สามีของเธอที่แต่งงานกันมา 10 ปี เธอพลาดตั้งครรภ์ในขณะที่กำลังถ่ายทำหนังผู้ใหญ่ และสามีของเธอก็เสียใจมากจนถึงขนาดตั้งใจจะฟ้องหย่า แต่เธอก็พยายามที่จะอธิบายและแก้ไขให้สถานการณ์กลับมาเป็นเหมือนเดิม

          “มันเป็นเรื่องช็อกสำหรับพวกเราทั้งคู่ เมื่อเวลาผ่านไป เราก็สามารถพูดคุยกันได้ และเรากำลังพยายามรับมือกับสถานการณ์ช่วงใหม่นี้ร่วมกัน” เดโบรา กล่าว

          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีแฟน ๆ
บางส่วนของเธอแนะนำให้เธอยุติการตั้งครรภ์
โดยบอกเด็กคนนี้ไม่สมควรที่จะเกิดมา
ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดที่รุนแรงเหล่านั้น จนกระทั่งในท้ายที่สุด
เธอและสามีก็ได้ปรึกษาและได้ข้อตกลงร่วมกันที่จะรักษาลูกของเธอเอาไว้
และจนถึงขณะนี้เธอก็ยังพยายามต่อไปเพื่อให้ความสัมพันธ์ของเธอและสามีกลับมาดีดังเดิม
และคาดหวังที่จะมีลูกกับเขาด้วยเช่นเดียวกัน

เดโบรา เปโซโต สาว OnlyFans ท้อง
ภาพจาก Instagram deborapeixoto.ofc

เดโบรา เปโซโต สาว OnlyFans
ภาพจาก Instagram deborapeixoto.ofc

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday, LADbible

KUBET – แก้ม ศิริกาญจน์ เปิดวาร์ปพริตตี้และนางแบบสาว ที่สะกดสายตาคนดูโหนกระแส

KUBET – ลูกค้ากินอาหารร้านดัง เอะใจราคาแพง อ่านบิลถึงกับมึนกว่าเดิม

          ลูกค้าไปกินร้านดังกลางกรุงเทพฯ เอะใจสั่งนิดเดียวทำไมหมดเยอะ ส่องบิลถึงกับขยี้ตา พีคแก้ยังไงเขียนให้แพงกว่าเดิม



ลูกค้าไปกินร้านดัง เอะใจทำไมหมดเยอะ ลองส่องบิลถึงกับขยี้ตา
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา

          เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนไปกินอาหารนอกบ้าน กรณีวันที่ 10 เมษายน 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Monchaya Wattana โพสต์ในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค เล่าประสบการณ์ชวนพีคหลังไปกินอาหารที่ร้านชื่อดังกลางกรุง แต่พอกินเสร็จตรวจสอบบิลค่าอาหารก็ถึงกับข้องใจ งานนี้หากจ่ายเงินแบบไม่เช็กคงโดนเอาเปรียบเข้าเต็ม ๆ

          จากภาพเป็นบิลของร้านอาหารดังกล่าว ซึ่งตอนแรกมีการคิดเงิน 690 บาท แต่ลูกค้าทักท้วงสอบถามไปว่ามีเมนูอะไรบ้าง เพราะอ่านที่พนักงานเขียนในบิลไม่ออกเลย ก่อนพบว่าโต๊ะไม่ได้สั่งไก่ย่าง ราคา 120 บาท จึงมีการแก้ด้วยการหักออกไป แต่ก็ยังเขียนราคารวมผิด จาก 570 ไปเขียนเป็น 750 บาท จนต้องทักท้วงอีกครั้ง

ลูกค้าไปกินร้านดัง เอะใจทำไมหมดเยอะ ลองส่องบิลถึงกับขยี้ตา

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Monchaya Wattana 

          เจ้าของโพสต์ ระบุว่า ระวัง ไปกินอาหารนอกบ้าน เวลาเช็กบิล ดูรายการอาหารให้ดี เดี๋ยวจะโดนแบบนี้ เราไม่ได้สั่งไก่ย่างครึ่งตัว แต่มีในบิล เราก็งง มากินกันไม่กี่คน ทำไมหมดเยอะจัง เลยมาเช็กรายการอาหาร เขียนก็อ่านไม่ค่อยออก ถามว่าอันนี้คืออะไร บอกไก่ย่าง เราเลยบอกว่า ไม่ได้สั่ง พนักงานยังเดินมาส่องที่โต๊ะ มาดูหาซากกระดูกไก่มั้ง เราบอก ไม่มี ไม่ได้สั่งจริงๆ  
          ร้านเลยหักออกให้ หักยังไง เยอะกว่า เดิม เป็น 750 ความจริง หักเหลือ 570 โอ๊ย จะ ตลก หรือ ร้องไห้ ดีเนี่ย เกิดแต่กับฉันน้อ ชีวิต ถ้าคนไม่ดูบิล จ่าย ๆ ไปก็หวานเจี๊ยบบบบ ก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าเขาผิดพลาดจริง หรือตั้งใจ แต่เราคงไม่ไปอีก ดูแล้ว น่ากลัว ร้านอาหารกลางกรุงเทพฯ เลย 

ลูกค้าไปกินร้านดัง เอะใจทำไมหมดเยอะ ลองส่องบิลถึงกับขยี้ตา

          หลังจากโพสต์นี้ถูกแชร์ออกไป ต่างมีหลายคนเข้ามาแสดงความเห็น โดยมองว่า ไม่เคยเจอการเขียนเมนูอาหารให้เข้าใจยากเช่นนี้ มองว่าร้านอาจจะจงใจเขียนให้ลูกค้าอ่านไม่ออกด้วยเจตนาบางอย่างหรือไม่ ซึ่งหากเจอแบบนี้ควรเรียกให้แก้ไขทันที เป็นต้น

ลูกค้าไปกินร้านดัง เอะใจทำไมหมดเยอะ ลองส่องบิลถึงกับขยี้ตา

ลูกค้าไปกินร้านดัง เอะใจทำไมหมดเยอะ ลองส่องบิลถึงกับขยี้ตา

ลูกค้าไปกินร้านดัง เอะใจทำไมหมดเยอะ ลองส่องบิลถึงกับขยี้ตา

ลูกค้าไปกินร้านดัง เอะใจทำไมหมดเยอะ ลองส่องบิลถึงกับขยี้ตา

ลูกค้าไปกินร้านดัง เอะใจทำไมหมดเยอะ ลองส่องบิลถึงกับขยี้ตา

ลูกค้าไปกินร้านดัง เอะใจทำไมหมดเยอะ ลองส่องบิลถึงกับขยี้ตา

ลูกค้าไปกินร้านดัง เอะใจทำไมหมดเยอะ ลองส่องบิลถึงกับขยี้ตา

KUBET – ประวัติ พีช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ผู้สมัคร สท. ไฟแรง ทายาทบ้านใหญ่ธัญบุรี

         รู้จัก พีช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ลูกชาย เฮียเบี้ยว บ้านใหญ่ธัญบุรี ล่าสุดเข้าสู่เส้นทางการเมือง ลงสมัคร สท. ทีมธัญก้าวหน้า



พีช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ผู้สมัคร สท. ไฟแรง ดีกรีทายาทบ้านใหญ่ธัญญบุรี

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Peach Lnvr 

          เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งทายาทตระกูลการเมืองที่กำลังมาแรงในชั่วโมงนี้ สำหรับชื่อของ สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช หนุ่มหล่อดีกรีลูกชาย เฮียเบี้ยว บ้านใหญ่ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่ล่าสุดเตรียมเข้าสู่แวดวงการเมืองเต็มตัว โดยมีประวัติดังนี้

          สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช อายุ 28 ปี เป็นบุตรชายคนเล็กของ กฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ เฮียเบี้ยว นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี และเป็นน้องชายของ มนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ สส.ฟลุ๊ค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 5 ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย
พีช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ผู้สมัคร สท. ไฟแรง ดีกรีทายาทบ้านใหญ่ธัญญบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Peach Lnvr

พีช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ผู้สมัคร สท. ไฟแรง ดีกรีทายาทบ้านใหญ่ธัญญบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Peach Lnvr

พีช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ผู้สมัคร สท. ไฟแรง ดีกรีทายาทบ้านใหญ่ธัญญบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Peach Lnvr


         
 ล่าสุด สมิทธิพัฒน์ กำลังเดินหน้าเข้าสู่แวดวงการเมืองตามเส้นทางของครอบครัว โดยลงสมัคร เป็นผู้สมัคร​รับเลือกตั้ง​ สมาชิก​สภา​เทศบาล​ตำบลธัญบุรี เขต 2 จ.ปทุมธานี ทีมธัญก้าวหน้า 

พีช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ผู้สมัคร สท. ไฟแรง ดีกรีทายาทบ้านใหญ่ธัญญบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กฤษฏา หลีนวรัตน์ – เฮียเบี้ยว

พีช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ผู้สมัคร สท. ไฟแรง ดีกรีทายาทบ้านใหญ่ธัญญบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กฤษฏา หลีนวรัตน์ – เฮียเบี้ยว

          ย้อนไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ชื่อของ สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ กลายเป็นประเด็นจับตาทางการเมือง หลังมีการจัดงานบวชที่ลานเทศบาลตำบลธัญบุรี (คลองเจ็ด) อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยในงานเลี้ยงฉลองงานบวชนั้นมี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขึ้นคล้องพวงมาลัยให้นาคบนเวที รวมทั้งมีนักการเมืองจำนวนมากเข้าร่วมงาน
พีช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ผู้สมัคร สท. ไฟแรง ดีกรีทายาทบ้านใหญ่ธัญญบุรี

KUBET – เมียแฉประธานฉาว ขยันปาร์ตี้สาว ควงกินตับถึงบ้าน – คนในบ้านให้ใช้เดือนละหมื่น

         เมียประธานแฉเอง ปล่อยภาพนัวสาวฮอตบนเรือยอชต์ ชี้ซื้อเรือไว้ปาร์ตี้ ขยันเปย์สาว ซ้ำควงหญิงกินแซ่บที่บ้าน ไม่แคร์หน้าเมีย แถมให้เงินเมียเดือนละหมื่น 



เมียแฉประธานฉาว ขยันปาร์ตี้สาว ควงกินตับถึงบ้าน
ภาพจาก Mirror Media

         วันที่ 16 เมษายน 2568 เว็บไซต์ Mirror Media รายงานว่า หยางจื้อสยง ประธานบริษัทปูนซีเมนต์ใหญ่ของไต้หวัน ตกเป็นประเด็นร้อนตามหน้าสื่อ หลังจากถูกภรรยาออกมาแฉพฤติกรรมฉาว ทุ่มเงินเป็นร้อยล้านเพื่อซื้อเรือยอชต์หรูไว้หาความสำราญ และเชิญสาว ๆ ในชุดว่ายน้ำมาปาร์ตี้บนเรือ แถมยังควงหญิงขายบริการไปกินแซ่บที่บ้านโดยไม่สนใจภรรยาที่อาศัยอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ในขณะที่กับคนในบ้านนั้นเขาจะตระหนี่สุด ๆ  

         โดยภรรยาของหยางจื้อสยง เผยกับ Mirror Media ว่าสามีซึ่งเป็นประธานบริษัทให้เงินเธอไว้สำหรับค่าใช้จ่ายในบ้านเพียง 10,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 10,000 บาท) เท่านั้น ในขณะที่เขามีนิสัยขี้เหนียวมาก แต่จะใจกว้างสุด ๆ กับการเปย์ผู้หญิง เขาไม่เพียงพาสาว ๆ ไปเที่ยวกินดื่มและหาความสำราญเท่านั้น ยังพาพวกเธอไปเที่ยวต่างประเทศ และซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้เพื่อเอาใจด้วย 
         แถมวันหนึ่งเขายังควงหญิงขายบริการกลับมาบ้าน และไปนอนกันบนชั้นลอยของบ้าน ตอนที่เธอไปถามว่าเขากล้าทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร สามีกลับตอบหน้าตาเฉยว่า “ใครมาที่บ้านก็ถือว่าเป็นแขก เธอไม่มีสิทธิ์มาว่า” และที่ทำให้ภรรยารับไม่ได้มากที่สุดคือคำพูดของสามีที่บอกว่า “ใช่ ! ฉันพาผู้หญิงกลับบ้าน แล้วเธอจะทำไม ?”

         เพื่ออำนวยความสะดวกในการปาร์ตี้กับสาว ๆ สามีใช้เงิน 160 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 164 ล้านบาท) ซื้อเรือยอชต์หรูไว้ลำหนึ่ง ช่วงแรก ๆ เรือลำนี้ถูกจอดไว้ที่ภูเก็ต ประเทศไทย เขามักจะบินไปที่นั่นช่วงฤดูร้อน หาสาว ๆ ขึ้นเรือไปปาร์ตี้กัน จนช่วงหลายปีให้หลังมานี้จึงเอาเรือกลับมาจอดไว้ที่ท่าเรือประมงตั้นสุ่ยในไต้หวัน โดยทุก ๆ สุดสัปดาห์ สามีจะเชิญสาว ๆ และกลุ่มเพื่อนขึ้นเรือไปปาร์ตี้ด้วยกัน 
         สามียังสั่งคนรับใช้ว่าอาหารของเขากับภรรยาต้องซื้อแยกและทำแยกกัน ตัวเขากินอาหารของภรรยาได้ แต่ภรรยาจะกินอาหารของเขาไม่ได้ อีกทั้งเวลาทำอาหารก็ต้องทำให้เขาเห็นกับตา เพราะเขาระแวงว่าจะถูกคนในครอบครัววางยา 
         กับข้อกล่าวหาหนักขนาดนี้ หยางจื้อสยงก็ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องทั้งหมด โดยยืนยันว่าเขาไม่เคยพาผู้หญิงกลับมานอนที่บ้าน ส่วนรูปถ่ายบนเรือยอชต์นั้นเป็นภาพเมื่อ 10 ปีก่อน และเพื่อนเป็นคนพาสาว ๆ เหล่านั้นมาขึ้นเรือ เขาเพียงถ่ายรูปด้วยความคึกคะนองเท่านั้น 
         ส่วนเรื่องที่ให้เงินภรรยาเพียงเดือนละ 10,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หยางจื้อสยง ชี้ว่า ที่ผ่านมาภรรยาได้เงินเดือนจากเขาไปหลายสิบล้านแล้ว เงินจำนวนนี้เป็นเพียงเงินค่าขนมของเธอเท่านั้น ส่วนที่เขาขอให้ลูก ๆ ย้ายไปอยู่ข้างนอกกันเอง เพราะอยากให้ลูก ๆ ได้มีอิสระ และขอยืนยันว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะเป็นพ่อที่โหดร้าย รวมถึงไม่ได้มีพฤติกรรมเสื่อมทรามตามที่ถูกภรรยากล่าวหา 
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media  

KUBET – ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย แซวกัปตันเกษตรศาสตร์ หลังดังในโหนกระแส อย่างฮา

          ลีซอ โพสต์แซวกัปตันเกษตรศาสตร์ หลังโด่งดังกลางโหนกระแส หลังจากนี้จะโดนสัมภาษณ์ล้วงลึกกว่าพี่หน่วง



ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Teeratep Winothai

          กลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน สำหรับกัปตันทีมเกษตรศาสตร์ เอฟซี ที่ถูกพาดพิงในรายการโหนกระแสว่าไปจีบมายด์ แฟนเก่าของเพชร ก่อนเจ้าตัวจะยอมรับตามตรงในรายการว่า จีบจริง แต่ไม่รู้ว่ามีแฟนแล้ว

          อ่านข่าว : พี่กัปตัน เล่าไทม์ไลน์จีบมายด์ ถ้ารู้มีแฟนคงไม่คุย แต่ถ้าตัวเองมีแฟนแล้ว… ไม่แน่ !

          ล่าสุด วันทึ่ 17 เมษายน 2568 ลีซอ ธีรเทพ
วิโนทัย อดีตนักฟุตบอลชื่อดัง มีการโพสต์แซวกัปตันทีมเกษตรศาสตร์
ที่เป็นเพื่อนสนิทว่า “กัปตันทีมเกษตรชี้แจงชัดเจนดีครับ
แต่ไม่ชอบแค่สำเนียงภาษาอังกฤษที่กัปตันพูด แล้วก็อวดเรื่องจีบหลายคน
คนโสดอะเนอะ”

ลีซอ โพสต์แซวกัปตันเกษตรศาสตร์

          จากนั้น
คอบอลก็เข้ามาคอมเมนต์ว่า
ต้องรอลีซอสัมภาษณ์กัปตันเกษตรศาสตร์อีกครั้งในรายการของตัวเอง
รับรองแซวกันยับแน่ ๆ ทางเจ้าตัวก็เข้ามาตอบว่า “มีแน่นอนครับ
ล้วงลึกกว่าพี่หน่วง”

ลีซอ แซวกัปตันเกษตรศาสตร์ ดังในโหนกระแส

ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Teeratep Winothai

ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Teeratep Winothai

ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Teeratep Winothai

KUBET – เบื้องหลังไวรัล เจ้าบ่าวปาดน้ำตา หลังแฟนเก่าจูงลูกขึ้นเวที ร้องเพลงสุดสะเทือนใจ

          ชายจะแต่งงาน เจอแฟนเก่าจูงลูกมา ถึงกับปาดน้ำตาหลังฟังสิ่งที่ต้องการสื่อ สะเทือนใจจนเป็นไวรัล คนสงสัยเรื่องจริงหรือคอนเทนต์ ล่าสุดเฉลยแล้ว



เจ้าบ่าวปาดน้ำตาในงานแต่ง
ภาพจาก Douyin

          วันที่ 11 เมษายน 2568 เว็บไซต์ VGT ของเวียดนาม มีรายงานกรณีภาพหญิงรายหนึ่งที่จูงเด็กเล็กไปร่วมงานแต่งงานของคู่บ่าวสาว ซึ่งเธอได้พูดอะไรบางอย่างบนเวทีจนทำให้เจ้าบ่าวถึงกับปาดน้ำตา ขณะที่แขกในงานต่างตกตะลึง ก่อนที่เรื่องราวนี้จะกลายเป็นไวรัลสุดสะเทือนใจที่สื่อหยิบมานำเสนอในหลาย ๆ ประเทศ

          คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลง Douyin โดยระบุว่า เป็นเหตุการณ์ขณะที่คนรักเก่าจูงลูกสาวไปร่วมพิธีฉลองวิวาห์ของอดีตสามี หญิงรายนี้เป็นคนเสฉวน ประเทศจีน เธอปล่อยให้แฟนหนุ่มไปเรียนต่อต่างประเทศแม้ทั้งคู่จะมีลูกด้วยกันแล้ว จากนั้นอีกหลายปีต่อมา แฟนหนุ่มกลับมาที่จีนอีกครั้ง แต่เลือกจะไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น

          เมื่อถึงวันแต่งงาน หญิงรายนี้จึงจูงมือลูกสาวไปร่วมงาน ก่อนจะขึ้นไปร้องเพลง “ในที่สุดฉันก็เสียคุณไป” ให้แก่เจ้าบ่าว จากนั้นเธอก็พาลูกสาวเดินออกจากงานไปเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรต่ออีก ทำให้เจ้าบ่าวถึงกับมีน้ำตา

          คลิปดังกล่าวดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก และทำให้เกิดกระแสความคิดเห็นที่หลากหลาย ผู้คนมากมายรู้สึกเห็นใจและสงสารหญิงที่เป็นแฟนเก่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างทั้งสองคน จึงไม่อาจตัดสินได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิดหรือถูก

แฟนเก่าจูงลูกขึ้นเวทีในงานแต่ง
ภาพจาก Douyin

          ขณะเดียวกันบางคนยังบอกให้แม่เด็กเข้มแข็งขึ้น ก้าวผ่านอดีตไปให้ได้ ขอให้ใช้แรงกายแรงใจไปกับการเลี้ยงลูกและใช้ชีวิตต่อไป รวมถึงมีคนมาบอกเล่าประสบการณ์ที่คล้ายกับหญิงรายนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนไม่น้อยที่รู้สึกว่าเหตุการณ์ในคลิปไม่น่าเป็นความจริง และคลิปน่าจะถูกตัดต่อมา

          โดยมีคนชี้ว่า เคยเห็นคลิปที่เหมือนกันนี้บนโซเชียลมีเดีย มีฉากที่แม่จูงมือลูกร้องเพลงในงานแต่งงานของบ่าวสาวคู่อื่น แถมเรื่องราวยังถูกสร้างให้มีดีเทลแตกต่างกันออกไปเพื่อความบันเทิงของผู้ชม

          สุดท้ายคนโพสต์คลิปจึงยอมรับว่าเหตุการณ์ในคลิปเป็นเพียงเรื่องแต่ง
มีการเติมเนื้อหาเข้าไปเพิ่มเพื่อเรียกความสนใจจากชาวเน็ต อย่างไรก็ตาม
ผู้คนจำนวนมากไม่รู้ความจริงตอนที่ดูรอบแรก
และเพิ่งจะรู้ว่าเป็นแค่คอนเทนต์ตอนที่มีคลิปอื่น ๆ ตามมา
หรือไปเช็กดูช่องของคนปล่อยคลิป

         
แต่ชาวเน็ตก็ยอมรับว่า แม้จะรู้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องจริง
แต่ก็ยังสะเทือนใจกับเรื่องราวนี้ เพราะพวกเขาเคยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน
หรือเคยเห็นเรื่องแบบนี้ในชีวิตจริงมาก่อน และแม้จะเป็นคลิป
พวกเขาก็ยังอยากส่งกำลังใจไปถึงกลุ่มคนที่ตกอยู่ในเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เหมือนกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก VGT

KUBET – จับผัวเล่นชู้ในโรงแรม เจอคนที่ 3 ตกใจไม่คาดฝัน ถึงกับเข่าทรุด มาร่วมวงได้ยังไง

         ภรรยาจับสามีนอกใจ เล่นชู้ในโรงแรม เจอ 2 คนว่าตกใจ เจอคนที่ 3 เข้าไปช็อกหนัก คาดไม่ถึงมาร่วมวงน่ารังเกียจ 



จับผัวเล่นชู้ในโรงแรม เจอคนที่ 3 ตกใจไม่คาดฝัน

ภาพจาก X (Twitter) 

          การนอกใจเป็นปัญหาที่หลายคู่รักหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีทั้งที่จับได้และจับไม่ได้ บางรายก็โชคดีจับได้แบบคาหนังคาเขาหลักฐานชัดเต็มตา แต่มีภรรยารายหนึ่งไม่เพียงแค่จับได้ว่าสามีของเธอนอกใจเล่นชู้สาวในโรงแรม แต่ยังมีเซอร์ไพรส์เป็น “บุคคลที่สาม” อีกคน ที่ทำให้เธอช็อกอย่างที่ไม่คาดฝัน 

          วันที่ 16 เมษายน 2567 เว็บไซต์เน็กซ์แอปเปิล เผยว่า หญิงรายหนึ่งในเมืองบาร์ราดูกอร์ดา รัฐมารันเยา ประเทศบราซิล สงสัยว่าสามีของเธอนอกใจ เธอจึงตามสืบจนจับได้ว่า สามีพาชู้สาวของเขาไปเล่นรักจัดหนักกันที่โรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง และเมื่อเธอตามไปเจอก็พบกับทั้งคู่อยู่ภายในห้อง ทว่าในห้องของโรงแรมนั้น ไม่ได้มีแค่พวกเขา 2 คน 
          คลิปวิดีโอเหตุการณ์จับชู้ของภรรยารายนี้ถูกนำมาเผยแพร่สนั่นบนโซเชียลมีเดีย โดยแสดงให้เห็นว่า ตอนแรกเธอได้เปิดประตูห้องเข้าไปเจอกับสามีของเธอที่อยู่ในสภาพกึ่งเปลือย ก่อนที่จะตามไปจับหญิงของเขาที่กำลังเปลื้องผ้ายืนอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ แต่ปรากฏว่าในห้องน้ำนั้นไม่ได้มีแค่นั้น แต่ยังมีผู้ชายอีกคน นั่นหมายความว่า พวกเขาพากันมาเล่นเซ็กส์ทรีซั่มแบบเราสามคน

จับผัวเล่นชู้ในโรงแรม เจอคนที่ 3 ตกใจไม่คาดฝัน

ภาพจาก X (Twitter) 


         
 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือ เมื่อภรรยาสังเกตผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้องน้ำ เธอรู้สึกคุ้นตามาก ก่อนที่จะเห็นชัด ๆ ว่าเขาไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหน แต่เป็นน้องชายของเธอเอง น้องชายของเธอก็ตกใจมากเช่นกันที่เห็นพี่สาวจับได้ จึงรีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำ ส่วนหญิงที่ถ่ายคลิปได้แต่ช็อกจนพูดไม่ออก เพราะไม่รู้ว่าน้องชายของเธอมาร่วมวงเล่นรักกับชู้ของพี่เขยเขาได้อย่างไร ท้ายที่สุดเธอก็ทำได้เพียงร้องไห้เสียใจแล้ววิ่งออกมาจากโรงแรม 

          คลิปวิดีโอดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงบนโลกออนไลน์ หลายคนต่างรู้สึกตกตะลึงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งแสดงความเห็นอกเห็นใจภรรยารายนี้ ที่ไม่เพียงแค่โดนสามีหักหลังนอกใจ แต่ยังมีน้องชายแท้ ๆ ที่เป็นสมาชิกในครอบครัวร่วมไปทำเรื่องที่น่ารังเกียจมากเช่นนี้ 
ขอบคุณข้อมูลจาก Next Apple

KUBET – แม่ยายป่วย ได้ลูกเขยมาดูแล 1 สัปดาห์ ตัดสินใจยกสมบัติให้ แต่มีเงื่อนไขเดียว ทำคิดหนัก

         แม่ยายล้มป่วย ได้ลูกเขยมาดูแล 1 สัปดาห์ ตัดสินใจยกสมบัติให้หมด – ไล่ลูกชายออกจากบ้าน แต่ฟังเงื่อนไขแล้วคิดหนัก ปฏิเสธได้ไหม ? 



แม่ยายป่วย ได้ลูกเขยมาดูแล 1 สัปดาห์ ตัดสินใจยกสมบัติให้ แต่มีเงื่อนไข
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา

         วันที่ 16 เมษายน 2568 เว็บไซต์ SOHA เผยเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่ออกมาบอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวฝั่งภรรยา โดยนับจากที่พ่อตาเสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีก่อน แม่ยายที่สุขภาพทรุดโทรมลงอย่างมากก็อาศัยอยู่กับพี่ชายภรรยาและสะใภ้ แต่ความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คนไม่แน่นแฟ้นนัก พี่ภรรยาคนนี้เป็นขี้ตระหนี่ เงินบำนาญของแม่ตัวเองก็เอาไปหมด ไม่ให้แกเก็บไว้สักนิด 

         ทุกสุดสัปดาห์ตอนที่เขากับภรรยากลับไปเยี่ยม ก็ต้องควักเงินตัวเองซื้อของไปทำอาหารให้เกิน อีกทั้งผมก็มักจะให้เงินแม่ยายติดตัวไว้เล็กน้อย เพื่อให้แกนำไปซื้อของที่อยากได้ 
         กระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมา แม่ยายความดันขึ้นและล้มลงในแปลงผัก พี่ชายภรรยาพาแกเข้าบ้านและให้ดื่มน้ำมะนาว แทนที่จะพาไปโรงพยาบาล ภรรยาของผมเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดจึงโทร. มาขอให้ผมช่วยพาแม่ของเธอไปหาหมอ โชคดีที่ผมพาแม่ยายไปโรงพยาบาลทันเวลา มิเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  

         เนื่องจากเขาทำงานฟรีแลนซ์ด้านไอที จึงค่อนข้างมีเวลาทำงานยืดหยุ่นกว่าภรรยา ในช่วง 1 สัปดาห์นับจากที่แม่ยายเข้าโรงพยาบาล เขาเลยเป็นคนอยู่ดูแลแม่ยายที่โรงพยาบาล ตอนนั้นทุก ๆ คนในโรงพยาบาลต่างก็คิดว่าเขาเป็นลูกชายของเธอ และชมเขากันยกใหญ่ 
         เมื่อกลับบ้านได้ แม่ยายก็ทำพินัยกรรมขึ้นทันที ทิ้งทรัพย์สินทุกอย่างที่มีให้กับภรรยาและผม ซึ่งก็ไม่ใช่การให้เปล่า แต่มาพร้อมกับเงื่อนไขที่เขากับภรรยาต้องขายบ้านที่อยู่ด้วยกัน กลับไปอยู่บ้านใหญ่เพื่อคอยดูแลเธอ ส่วนพี่ชายภรรยาจะได้รับเงินจำนวนหนึ่ง แต่ต้องย้ายไปหาที่อยู่ใหม่ 
         พี่ชายภรรยารู้ก็โกรธจัด ถึงกับขู่จะตัดขาดแม่ เขาโวยวายเสียงดังว่าแม่ลำเอียง ไม่เห็นหัวตัวเองกับภรรยา จากนั้นก็เหลือบมามองเขาแบบเคือง ๆ พูดเสียงแข็งใส่ว่า เขาดูแลแม่ยายก็เพราะหวังผล อยากฮุบสมบัติบ้านภรรยา  
         ทั้งนี้ ตัวเขาคิดว่าพี่ชายภรรยาอยากพูดอะไรก็ปล่อยให้พูดไป เขาไม่สนใจอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ยากจะยอมรับจริง ๆ ก็คือคำร้องขอจากแม่ยายต่างหาก เหตุผลแรกคือ บ้านที่เขากับภรรยาอยู่นั้นยังใหม่มาก และมีที่ดินค่อนข้างมาก เราไม่อยากขายบ้านหลังนี้ไป เหตุผลอีกประการคือ หากเขาย้ายไปอาศัยอยู่ที่บ้านภรรยา สถานะของเขาก็เป็นเพียงคนอาศัย ราวกับลูกเขยที่เกาะบ้านภรรยากิน ซึ่งเขาไม่ชอบเอาซะเลย 
  
         ชายคนนี้ยอมรับว่า มันเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธไปตรง ๆ พร้อมตั้งคำถามว่าเขาควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี 
ขอบคุณข้อมูลจาก SOHA