KUBET – โตโน่ ภาคิน โดนโยง พระเอกนอกใจแฟน แอบกิ๊กแฟนชาวบ้าน ล่าสุด ผจก. ตอบแล้ว

KUBET – หมอเผยเคสคนไข้หยุดยา หวั่นตับพัง เกือบพิการเพราะเชื่อเพื่อนบ้าน

 
           หมอประชาผ่าตัดสมอง เผยเคสคนไข้โรคหลอดเลือดสมอง เชื่อเพื่อนบ้านไม่กินยาเพราะหวั่นตับพัง ก่อนเส้นเลือดตัน รักษา 2 เดือนถึงจะกลับมาเดินได้



 กลัวตับพัง กลายเป็นเกือบพิการ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หมอประชาผ่าตัดสมอง

           วันที่ 11 เมษายน 2568 นายแพทย์ประชา กัญญาประสิทธิ์ หมอผ่าตัดสมอง แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมประสาท โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก หมอประชาผ่าตัดสมอง เผยเคสอุทาหรณ์ของคนป่วยเส้นเลือดตัน มีอาการเวียนหัวรุนแรง สาเหตุเพราะตัดสินใจหยุดกินยาจากความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง

          
หมอประชา เล่าว่า ผู้ป่วยชายอายุ 80 ปี
มาด้วยอาการเวียนหัวรุนแรงและทรงตัวไม่ได้
ภาพสแดนพบว่ามีสมองบางส่วนที่ตายไป
ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้สำหรับการทรงตัวและกะระยะ

          
ผู้ป่วยเป็นเส้นเลือดตีบ ต้องกินยาประจำ
วันหนึ่งได้คำแนะนำจากเพื่อนข้างบ้าน กินยาแล้ว ตับจะพัง ไตจะวาย
ก็เลยหยุดกินยา สุดท้ายก็เส้นเลือดตัน
โชคดีที่เส้นเลือดที่ตันแค่ทำให้เวียนศีรษะและทรงตัวไม่ได้ รักษาก็หาย
กว่าจะกลับมาเดินได้ก็เกือบ 2 เดือน แต่ถ้าด้านสมองตายคือพิการแน่นอน
ยังโชคดีที่เส้นเลือดตันในเส้นที่ไม่ได้ทำให้พิการ

 กลัวตับพัง กลายเป็นเกือบพิการ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก หมอประชาผ่าตัดสมอง

          
ฝากบอกคนที่คุณรัก
ฝากบอกป้าข้างบ้านที่ชอบมาบอกให้คนไข้หยุดยาเพราะกลัวตับพัง กลัวไตวาย
หมอจ่ายยาเพื่อไม่ให้คนไข้เป็นเส้นเลือดในสมองตัน แต่คนที่แนะนำ
พอคนไข้เป็นขึ้นมาคุณจะรักษาให้เขาได้ไหม กรุณาอย่าแนะนำคนไข้ไปเรื่อย
หมอให้ยาคนไข้ไปเพื่อป้องกันและรักษา

          
ยาทุกตัวที่หมอให้ไปมีงานวิจัยรองรับว่าถ้าใช้ในขนาดที่เหมาะสมมันไม่ได้เป็นพิษกับตัวและไต
ยิ่งยาตัวไหนที่ต้องทานทุกวัน ส่วนใหญ่แล้วตับ ไต มันขับทิ้งทุกวัน
มันไม่ได้สะสมอย่างที่ชาวบ้านหรือป้าข้างบ้านเข้าใจ

          
สุดท้าย อย่าไปแนะนำใครถ้าคุณก็ไม่ได้รู้จริง ทีกินเหล้าแล้วตับพัง
ไม่เห็นแนะนำเพื่อนบ้านให้หยุดเลย ดังนั้นคำว่า เขาเล่าว่า อย่าไปเชื่อ
หมอเห็นคนติดเตียง
คนพิการจากโรคหลอดเลือดสมองเพราะไปหยุดยาโดยพลการจำนวนมาก

 กลัวตับพัง กลายเป็นเกือบพิการ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก หมอประชาผ่าตัดสมอง

 

KUBET – เมียนมาพบฐานบันไดพระตำหนักน้ำ หลังเกิดแผ่นดินไหว จนเกิดรอยแยกใหญ่

         กรมโบราณคดีฯ เมียนมา เผยการค้นพบฐานบันไดพระตำหนักน้ำ หลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่ผ่านมา จนเกิดรอยแยก 



แผ่นดินไหว ผุดฐานพระตำหนัก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Department of Archaeology and National Museum

          วันที่ 9 เมษายน 2568 เฟซบุ๊กเพจกรมโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของเมียนมา ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการค้นพบฐานบันไดพระตำหนักน้ำหรือ Water Palace ที่บริเวณเมืองเก่ายาดานาร์ปุระ อังวะ ในมัณฑะเลย์ ทางตอนกลางของเมียนมา ภายหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 8.2 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา จนผืนดินเกิดเป็นรอยแยก

          พระตำหนักน้ำสร้างขึ้นที่เมืองสิเรียม หรือตันลยิน (Thanlyin) ในรัชสมัยของพระเจ้าเซงพยูเชง (Hsinbyushin) หรือพระเจ้ามังระ และพระเจ้าสะกาย แห่งราชวงศ์คองบองของพม่า ที่มุมตะวันออกเฉียงเหนือของกำแพงเมืองอังวะ โดยฐานบันไดทางขึ้นทำจากอิฐติดกับฐานบันไดช้าง และยังพบพลับพลาอีกทั้งหมด 18 หลัง ที่สร้างด้วยไม้สักตามสถาปัตยกรรมเมียนมา ซึ่งหากรวมกับพระตำหนักน้ำนับเป็น 20 หลัง

แผ่นดินไหว ผุดฐานพระตำหนัก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Department of Archaeology and National Museum
         
          ในประวัติศาสตร์เมียนมา เป็นที่ทราบกันว่าพระตำหนักน้ำเป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญที่พระมหากษัตริย์ผู้ทรงครองราชย์ในสมัยนั้น ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีล้างพระเศียร พิธีสรงน้ำ และพิธีสรงน้ำมนต์

แผ่นดินไหว ผุดฐานพระตำหนัก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Department of Archaeology and National Museum

แผ่นดินไหว ผุดฐานพระตำหนัก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Department of Archaeology and National Museum

          ก่อนหน้านี ในปี 2552
ชาวบ้านได้พบส่วนของฐานบันไดทางทิศใต้ที่เชื่อว่าเป็นฐานของพระตำหนักน้ำ
ก่อนที่จะได้รับการอนุรักษ์โดยกรมโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ
กระทั่งหลังจากเกิดแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา
เกิดรอยแยกขนาดใหญ่จึงทำให้ค้นพบฐานบันไดส่วนที่เหลือ
ซึ่งหลังจากนี้ทางกรมโบราณคดีฯ จะดำเนินการขุดค้นและวิจัยต่อไป
เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของยุคอังวะ และจัดเตรียมให้ประชาชนได้ศึกษา

แผ่นดินไหว ผุดฐานพระตำหนัก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Department of Archaeology and National Museum

         
อย่างไรก็ดี จาการการสังเกตเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า
ตำหนักหลังนี้น่าจะเป็นอาคารที่ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำที่กษัตริย์พม่าในสมัยโบราณใช้
ดังนั้นควรเรียกว่าตำหนักน้ำมากกว่าพระราชวังน้ำ กล่าวโดยสรุปคือ
อาคารหลังนี้ไม่น่าจะมีขนาดใหญ่ และมีห้องต่าง ๆ
เหมือนกับพระราชวังน้ำที่อื่น

แผ่นดินไหว ผุดฐานพระตำหนัก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Department of Archaeology and National Museum

ขอบคุณข้อมูลจาก Department of Archaeology and National Museum

KUBET – ฮ.ตก แม่น้ำในสหรัฐฯ ภาพสุดท้ายครอบครัว 5 ชีวิต ก่อนดับสลด 6 ราย รวมนักบิน

 
          สุดสะเทือนใจ เผยภาพสุดท้ายครอบครัว 5 ชีวิต ขึ้นเฮลิคอปเตอร์นิวยอร์ก ก่อนตกแม่น้ำฮัดสัน คร่า 6 ราย ดับสลด รวมนักบิน



 ภาพสุดท้าย 5 ชีวิต ก่อน ฮ. ตก
ภาพจาก Bruce Wall / X @xpertcommander

 ภาพสุดท้าย 5 ชีวิต ก่อน ฮ. ตก
ภาพจาก Bruce Wall / X @xpertcommander

              วันที่ 11 เมษายน 2568 CNN รายงานว่า เกิดโศกนาฎกรรมสลด
เฮลิคอปเตอร์ที่มีครอบครัวนักท่องเที่ยวนั่งโดยสารมาจำนวน 5 ราย
ประสบอุบัติเหตุตกลงในแม่น้ำฮัดสัน นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 6 ราย รวมทั้งนักบิน
โดยขณะนี้สาเหตุของอุบัติเหตุยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวน

              มีผู้บันทึกภาพเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทางโซเชียลมีเดีย

แสดงให้เห็นช่วงเวลาขณะเกิดเหตุตอนที่เฮลิคอปเตอร์สูญเสียการควบคุมตกจากท้องฟ้าในลักษณะคว่ำ
ก่อนจะร่วงลงสู่แม่น้ำฮัดสัน เพียงไม่นานหลังจากเลี้ยวที่บริเวณสะพานจอร์จ
วอชิงตัน เพื่อบินไปตามแนวชายฝั่งนิวเจอร์ซี โดยมีพยานบางรายเผยว่า
มีเสียงดังสนั่นเหมือนฟ้าร้อง
และเห็นชิ้นส่วนของเฮลิคอปเตอร์ร่วงลงมาจากท้องฟ้า

              เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวดำเนินการโดยบริษัท
นิวยอร์ก เฮลิคอปเตอร์ส (New York Helicopters) โดยขึ้นจากลาน Downtown
Skyport เมื่อเวลา 14.59 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) บินไปทางทิศใต้
ก่อนจะหันหัวกลับเพื่อบินไปทางทิศเหนือ ตามแนวชายฝั่งแมนฮัตตัน จากนั้นเวลา
15.08 น. เฮลิคอปเตอร์มาถึงสะพานจอร์จ วอชิงตัน
แล้วเลี้ยวไปทางทิศใต้ตามแนวชายฝั่งนิวเจอร์ซี กระทั่งเวลา 15.17 น.
หน่วยดับเพลิงดับเพลิงนิวยอร์ก ได้รับแจ้งเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก
และเรือกู้ภัยถูกปล่อยลงน้ำทันที
พร้อมเจ้าหน้าหน้าที่นำกำลังเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย

 ภาพสุดท้าย 5 ชีวิต ก่อน ฮ. ตก
ภาพจาก Bruce Wall / X @xpertcommander

 ภาพสุดท้าย 5 ชีวิต ก่อน ฮ. ตก
ภาพจาก X @AvirbhawRakesh

              อย่างไรก็ตาม
รายงานเผยว่า เหยื่อเสียชีวิตทั้งหมด 6 ราย รวมทั้งนักบิน โดย 4 ราย
เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่อีก 2 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาลใกล้เคียง
โดยครอบครัวของนักท่องเที่ยวมาจากประเทศสเปน พวกเขาทั้ง 5 ราย
ได้ถ่ายภาพร่วมกันพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกเดินทาง
ซึ่งภาพดังกล่าวได้กลายเป็นภาพสุดท้ายของพวกเขาอย่างน่าเศร้า

              ต่อมา
มีรายงานเผยว่า อากัสติน เอสโคบาร์ (Agustin Escobar) ซีอีโอของ Siemens
Mobility บริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ
และผู้บริหารระดับสูงของเครือบริษัท Siemens ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
พร้อมด้วยภรรยาและลูก ๆ ได้รับการระบุว่า เป็นครอบครัว 5 ราย
ผู้เสียชีวิตบนเฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุ

 ภาพสุดท้าย 5 ชีวิต ก่อน ฮ. ตก
ภาพจาก New York Helicopter Tours LLC

              ไมเคิล ร็อธ
ซีอีโอของบริษัท นิวยอร์ก เฮลิคอปเตอร์ส กล่าวกับ CNN ระบุว่า “รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ผมเป็นพ่อคน และมีหลานด้วย
ภรรยาของผมก็ยังคงร้องไห้ไม่หยุดตั้งแต่บ่ายวันนี้”
ทั้งนี้
เมื่อถูกถามถึงการบำรุงรักษาเฮลิคอปเตอร์ เขากล่าวเพียงว่า “ผู้อำนวยการฝ่ายซ่อมบำรุงของผมเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนั้น”

              ขณะที่องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ
(FAA) กล่าวว่า การสอบสวนเหตุเฮลิคอปเตอร์รุ่น Bell 206L-4 LongRanger IV
ชนิด 2 ใบพัด ซึ่งเป็นที่นิยมใช้โดยบริษัทนำเที่ยว สถานีโทรทัศน์
และกรมตำรวจ
จะถูกดำเนินการสอบสวนโดยคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติ  

ขอบคุณข้อมูลจาก BBC, CNN, New York Post


KUBET – โตโน่ ณิชา ห่างกันตอนไหน หลังสนิทสาวใหม่ พบเพิ่งออกงานคู่กัน 3 สัปดาห์ก่อน

KUBET – ไขปริศนา ทำไมรู้สึกปวดอุจจาระทันที เมื่อเข้าร้านสะดวกซื้อ ผู้เชี่ยวชาญอธิบายสาเหตุ


           ผู้เชี่ยวชาญอธิบายสาเหตุ ทำไมบางคนถึงปวดอุจจาระทันที เมื่อเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ทั้งที่ตั้งนานก็ไม่ปวด เป็นเพราะอะไร



ไขคำตอบ ทำไมรู้สึกปวดอุจจาระทันที เมื่อเข้าร้านสะดวกซื้อ

           บางคนอาจจะเคยมีประสบการณ์แปลก ๆ เกี่ยวกับระบบขับถ่ายของตัวเอง โดยเฉพาะการถ่ายหนัก เวลาที่เข้าห้องน้ำกลับไม่รู้สึกอยากจะขับถ่าย หรือตั้งนานก็ไม่รู้สึกปวด แต่เมื่อไปอยู่ในบางสถานที่กลับรู้สึกปวดท้องอยากจะอุจจาระขึ้นมาทันที เช่นในร้านหนังสือ หรือร้านสะดวกซื้อ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่แค่อาการที่คิดไปเอง แต่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์

           วันที่ 11 เมษายน 2568 เว็บไซต์ Sin Chew เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไรฮานา อิสมาอิล ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ในกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้โพสต์คลิปวิดีโออธิบายเกี่ยวกับสาเหตุ โดยกล่าวว่า มีหลายคนประสบปัญหามีอาการปวดท้องและอยากถ่ายอุจจาระหลังจากเข้าร้านสะดวกซื้อ บางคนถึงขนาดมีอาการเช่นนี้ทุกครั้งที่เข้าร้านสะดวกซื้อ จนเกิดความกังวลคิดว่าร่างกายมีอาการผิดปกติ

           อย่างไรก็ตาม ไรฮานายืนยันว่า อาการดังกล่าวเป็นเรื่องปกติ โดยอธิบายว่า พฤติกรรมลักษณะเช่นนี้เหมือนกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่า มาริโกะ อาโอกิ (Mariko Aoki Phenomenon) คือความรู้สึกอยากขับถ่ายอย่างฉับพลันเมื่อเข้าร้านหนังสือ โดยมีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่น ถูกนิยามครั้งแรกเมื่อปี 1985 (พ.ศ. 2528) โดยผู้หญิงที่ชื่อมาริโกะ อาโอกิ

           โดยมาริโกะ อาโอกิ สังเกตว่าทุกครั้งที่เธอเดินเข้าไปในร้านหนังสือ เธอจะรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระทันที และเมื่อเวลาผ่านไป หลาย ๆ คนก็ยอมรับว่าเคยเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกัน ทั้งยังไม่ใช่แค่ร้านหนังสือ แต่ยังรวมไปถึงร้านสะดวกซื้อ เช่น ร้านค้าปลีกต่าง ๆ หรือร้านขายสินค้า DAISO

           ไรฮานา อธิบายว่า ร้านค้าเหล่านี้เต็มไปด้วยสินค้าใหม่ ๆ ทั้งหนังสือ กระดาษ หรือพลาสติก ซึ่งกลิ่นเฉพาะเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดอาการปั่นป่วนของช่องท้องได้ โดยมันจะไปกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) ซึ่งเป็นระบบประสาทที่ทำหน้าที่ให้ร่างกายอยู่ในสภาวะของการพักผ่อน และควบคุมหน้าที่พื้นฐานของร่างกาย เช่น การย่อยอาหาร และการขับถ่าย

           โดยบรรยากาศในร้านสะดวกซื้อจะเงียบสงบ เย็นสบาย ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย ระบบย่อยอาหารก็จะทำงานรวมไปถึงกระเพาะอาหารก็จะเริ่มส่งเสียงดัง

           “มันเหมือนกับเวลาเรานั่งอยู่บ้านและกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่เพลิน ๆ แล้วจู่ ๆ เราก็อยากเข้าห้องน้ำ” ไรฮานา กล่าว

           ทั้งนี้ หากร่างกายของคนคนหนึ่งคุ้นเคยกับความรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระ เมื่อเข้าในร้านหนังสือหรือร่านสะดวกซื้อ สมองจะกระตุ้นความรู้สึกนี้โดยอัตโนมัติทุกครั้งที่คนคนนั้นก้าวเข้าไปในร้านค้า ซึ่งเหมือนกับปฏิกิริยาตอบสนองแบบมีเงื่อนไข (Conditioned reflex) คือพฤติกรรมที่เกิดจากการฝึกหรือทำซ้ำ ๆ หลายครั้ง จนร่างกายตอบสนองต่อสิ่งเร้านั้น

ขอบคุณข้อูลจาก Sin Chew

KUBET – สภาพอากาศ 11 เมษายน 2568 รายชื่อจังหวัดฝนถล่มรับสงกรานต์

          กรมอุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อนเข้าไทย ช่วงวันสงกรานต์ปีนี้ เปิดรายชื่อจังหวัดเตรียมรับมือฝนถล่ม 12-14 เม.ย. 2568



36 จังหวัด เตรียมรับมือฝนถล่มหนักรับสงกรานต์ หลังพายุฤดูร้อนเข้าไทย
          วันที่ 11 เมษายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 12-14 เมษายน 2568) ฉบับที่ 4 (86/2568) ระบุว่า

          ในช่วงวันที่ 12-14 เมษายน  2568 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าและฝนตกหนักเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้   

                                                                                                              
วันที่ 12 เมษายน 2568

          ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

          ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

          ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี

          ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว

วันที่ 13 เมษายน 2568

          ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง กำแพงเพชร และตาก

          ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

          ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

วันที่ 14 เมษายน 2568

          ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน และตาก

          ภาคกลาง: จังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

          ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองและเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก เช่นพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น อ.ศรีราชา เทศบาลเมืองพัทยา  จ.ชลบุรี  อ.ปลวกแดง อ.เมือง จ.ระยอง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

          ไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังการจัดกิจกรรมกลางแจ้งช่วงเทศกาลสงกรานต์ สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

          ประกาศ ณ วันที่ 11 เมษายน 2568 เวลา 05.00 น.
36 จังหวัด เตรียมรับมือฝนถล่มหนักรับสงกรานต์ หลังพายุฤดูร้อนเข้าไทย

36 จังหวัด เตรียมรับมือฝนถล่มหนักรับสงกรานต์ หลังพายุฤดูร้อนเข้าไทย

KUBET – แพทย์หนุ่มจีน เสียชีวิตกะทันหัน ระหว่างพักหลังผ่าตัดคนไข้ คาดสาเหตุจุดประเด็นเดือด

          แพทย์หนุ่มวัย 35 เสียชีวิตกะทันหัน ในระหว่างพัก หลังผ่าตัดรักษาคนไข้ คาดสาเหตุจุดประเด็นเดือดสนั่นโซเชียล



หมอเสียชีวิต
ภาพจาก Yuhuan Second People’s Hospital

          วันที่ 9 เมษายน 2567 เว็บไซต์ Sin Chew รายงานว่า เกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงบนสังคมออนไลน์ของประเทศจีน ภายหลังจากมีนายแพทย์หนุ่มวัย 35 ปี ในเมืองอวี้หวน มณฑลเจ้อเจียง เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ในช่วงระหว่างที่กำลังพักหลังจากผ่าตัดรักษาคนไข้ สร้างความเศร้าสลดและสะเทือนใจให้กับผู้คนเป็นวงกว้าง พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการสอบสวนว่าแพทย์ทำงานหนักเกินไปหรือไม่  

          ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่า เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สองเมืองอวี้หวน ได้ออกแถลงการณ์แจ้งข่าวการเสียชีวิตระบุว่า ดร.เฉินเจ้อ หัวหน้าแพทย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อของโรงพยาบาล เกิดภาวะหยุดหายใจและหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันขณะปฏิบัติหน้าที่ แม้ว่าทางโรงพยาบาลจะให้การช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิต แต่เคราะห์ร้ายเขาได้จากไปเมื่อเวลา 02.30 น. ของวันที่ 6 เมษายน ขณะมีอายุได้ 35 ปี

          ทั้งนี้ รายงานยังได้เผยว่า ดร.เฉินเจ้อ เป็นแพทย์ที่มีความมุ่งมั่นและขยันขันแข็ง เขามักจะเข้าร่วมให้บริการตรวจรักษาคนไข้ในโครงการคลินิกฟรีที่ทางโรงพยาบาลจัดขึ้นเป็นประจำ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลเผยว่า ในวันเกิดเหตุ ดร.เฉินเจ้อ เพิ่งเสร็จสิ้นการผ่าตัดเคสคนไข้รายหนึ่ง และอยู่ระหว่างการพัก เพื่อที่จะเตรียมตัวผ่าตัดเคสคนไข้รายที่สอง แต่อยู่ ๆ เขาก็เกิดอาการหยุดหายใจและหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ก่อนที่จะเสียชีวิตในท้ายที่สุด

หมอเสียชีวิต
ภาพจาก Yuhuan Second People’s Hospital

 
         ภายหลังข่าวการเสียชีวิตของ ดร.เฉินเจ้อ
ถูกเผยแพร่และแชร์ต่อกันออกไปในวงกว้างก็จุดประกายให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือด
โดยมีแพทย์หลายรายแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียระบุว่า
โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งโรคหลอดเลือดสมอง
เกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ
และมีกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยเหตุนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

          ชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ ดร.เฉินเจ้อ ในขณะเดียวกันก็เกิดความสงสัยว่าปัจจัยที่ทำให้นายแพทย์หนุ่มรายนี้เสียชีวิตมีความเกี่ยวข้องกับการทำงานล่วงเวลามากเกินไปหรือไม่

หลายคนเชื่อว่าการทำงานหนักและเหนื่อยเกินไปของแพทย์อาจจะมีส่วนเป็นสาเหตุได้

จึงเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบเพื่อให้ความจริงกระจ่าง

ขอบคุณข้อมูลจาก Sin Chew

KUBET – แม่ขับรถหรู ไปส่งลูกที่ รร. ทุกวัน เจอแซะว่าอวดรวย ฟาดคืนยังไงจนเงียบกันหมด

           แม่ขับซูเปอร์คาร์ 37 ล้าน ไปรับ-ส่งลูกที่โรงเรียนทุกวัน เจอผู้ปกครองคนอื่นแขวะ อวดรวย ก่อนฟาดกลับแบบนิ่ม ๆ ทำคนอื่นถึงกับเงียบ



อวดรวย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

           วันที่ 9 เมษายน 2568 เว็บไซต์ SOHA รายงานว่า ไม่นานมานี้เรื่องราวของคุณแม่รายหนึ่งที่ขับรถหรูไปรับ-ส่งลูกที่โรงเรียน กลายมาเป็นที่พูดถึงกันบนชุมชนออนไลน์ของจีน โดยพบว่ารถที่แม่คนนี้ใช้เป็นรถซูเปอร์คาร์ มูลค่าสูงถึง 8 ล้านหยวน (ราว 37 ล้านบาท) การที่เธอขับรถราคาแพงขนาดนี้ไปรับ-ส่งลูกที่โรงเรียนทุกวัน ทำให้เธอตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ผู้ปกครองของเพื่อนร่วมชั้นลูกชาย ที่มีการส่งข้อความลงกรุ๊ปแชตต่อว่าเรื่องการอวดรวยของบ้านนี้

           เนื่องจากสถานะทางครอบครัวที่แตกต่างกันในแต่ละบ้าน ทำให้แม่รายนี้เข้าใจมุมมองของผู้ปกครองอื่น ๆ และไม่ได้ตอบโต้หรือใส่ใจอะไรนัก แต่เมื่อเสียงวิจารณ์ยิ่งรุนแรงขึ้นทุกที ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจโต้ตอบกลับไปบ้าง

           โดยคุณแม่พิมพ์ตอบกลับลงในกลุ่มแชตผู้ปกครองว่า “นี่คือรถที่มีราคาถูกที่สุดในบ้านฉันแล้ว พูดถึงเรื่องรถหรู 8 ล้านหยวน พวกคุณเคยลองเช่ามาขับดูสักวันไหมล่ะ ค่าเช่าอยู่ที่ 6,500 หยวน (ราว 30,000 บาท) ก็น่าจะพอ ๆ กับเงินเดือนล่ะมั้ง”

           นอกจากนี้คุณแม่ยังเสริมว่า การที่เธอจะขับรถอะไรไปส่งลูกนั้นก็เป็นเรื่องของเธอ
ซึ่งเธอก็ไม่อยากตกเป็นเป้าให้ใครมาชี้นิ้วใส่และตัดสินเธอ

           การตอบโต้ของคุณแม่ทำให้ผู้ปกครองคนอื่น
ๆ ถึงกับเงียบไป
ขณะที่ไม่ช้าเรื่องที่เกิดขึ้นก็ถูกนำมาพูดคุยบนโลกออนไลน์
โดยมีชาวเน็ตมากมายเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น หลาย ๆ
คนเชื่อว่าผู้ปกครองที่วิจารณ์คนอื่นคือการแสดงให้เห็นความคิดของตัวเองที่ชอบเปรียบเทียบ

          
หลายคนยังเกิดการตั้งคำถามว่า ทำไมถึงมีคนที่รู้สึกไม่สบายใจในความร่ำรวยของคนอื่น
เป็นเพราะความอิจฉา
หรือเป็นเพราะพวกเขาไม่อาจละทิ้งนิสัยชอบเปรียบเทียบได้กันแน่
อย่างไรก็ตาม
หากเด็กเกิดทัศนคติที่ชอบเปรียบเทียบหรือรู้สึกแข่งขันกันขึ้นมา ก็ควรเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะให้ความใส่ใจ
และเปลี่ยนความคิดแข่งขันนั้นเป็นแรงจูงใจในการเรียนรู้ต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก SOHA