โรคปริศนาระบาดในคองโก คร่ากว่า 53 ศพ ใน 5 สัปดาห์ พบส่วนใหญ่ตายใน 48 ชม. นับจากแสดงอาการ ชี้พบโรคครั้งแรกในเด็ก 3 คน ที่กินค้างคาวและตาย

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เกิดการระบาดของโรคปริศนาภายในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โดยพบว่าในช่วงเวลาเพียง 5 สัปดาห์ นับตั้งแต่พบโรคนี้ครั้งแรก มีผู้ป่วยที่ถูกคร่าชีวิตด้วยโรคดังกล่าวแล้วมากกว่า 50 คน
ด้าน แซร์จ เงาเลบาโต ผู้อำนวยการทางการแพทย์ ของโรงพยาบาลบิโกโร ซึ่งเป็นศูนย์เฝ้าระวังระดับภูมิภาค ระบุว่า นับตั้งแต่โรคเริ่มแสดงอาการ เช่น ไข้ อาเจียน และมีเลือดออกภายใน จนถึงช่วงที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ส่วนใหญ่มีระยะเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง ทำให้สถานการณ์น่าเป็นกังวลอย่างยิ่ง
ตามปกติอาการไข้ที่มีเลือดออก มักเชื่อมโยงกับไวรัสร้ายแรงที่ผู้คนรู้จักกันดีอย่าง อีโบลา (Ebola) เดงกี (Dengue) ไวรัสมาร์บวร์ก (Marburg) และไข้เหลือง (Yellow Fever) แต่นักวิจัยได้ตัดสาเหตุเหล่านี้ออกไป หลังทำการทดสอบกับตัวอย่างมากกว่า 10 ตัวอย่าง ที่ถูกเก็บรวบรวมมา
การระบาดของโรคปริศนาล่าสุดในคองโก เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม จากเด็ก 3
คนในหมู่บ้านโบโลโก ที่กินค้างค้าวและเสียชีวิตภายใน 48 ชั่วโมง
นับจากนั้นเมื่อเชื้อระบาดออกไป ก็มีจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการบันทึกข้อมูล
419 ราย และมีผู้เสียชีวิต 53 ราย
มีความกังวลมายาวนานเกี่ยวกับโรคที่แพร่จากสัตว์สู่มนุษย์
ในพื้นที่ซึ่งนิยมการบริโภคสัตว์ป่า
โดยมีจำนวนการระบาดของโรคในแอฟริกาเพิ่มขึ้นมากกว่า 60% ในทศวรรษที่ผ่านมา
ขณะที่เมื่อปี 2567 คองโกได้สังเวยชีวิตผู้ป่วยอีกหลายสิบราย
ให้แก่โรคปริศนาคล้ายไข้หวัดใหญ่
ซึ่งต่อมามีการพิจารณาว่าโรคที่ระบาดในครั้งนั้นน่าจะเป็นมาลาเรีย
(Malaria)
ขอบคุณข้อมูลจาก CNN