KUBET – ไวรัล TikTok วาเลนไทน์ เมื่อย่าทวดบอกว่า ทำไมถึงไม่อยากมีสามี เรียลมาก

          ไวรัล เมื่อย่าทวดบอกว่า ทำไมถึงไม่อยากมีสามี คำตอบทำเอาหลายคนฮา ถูกใจไม่น้อย คุณทวดก็เรียลมาก



ย่าทวดบอกว่าไม่อยากมีสามี
ภาพจาก TikTok @bangearn_naphatthan

          วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 TikTok @bangearn_naphatthan มีการลงคลิปสุดน่ารัก เมื่อถามคุณย่าทวดว่า ทำไมไม่อยากมีสามี ซึ่งคำตอบของย่าทวดก็ทำเอาหลายคนที่ดูคลิปถูกใจไม่น้อย

          คุณย่าทวดบอกว่า “ยกขาไม่ไหว” ย่าทวดตอบมาแบบนี้จึงถูกถามว่า “แล้วเขาไม่ยกให้เหรอ ขาอะ” ย่าทวดจึงตอบช็อตฟีลอีกครั้งว่า “เขาไม่ยก เขาทำอย่างเดียว”

ย่าทวดบอกว่าไม่อยากมีสามี
ภาพจาก TikTok @bangearn_naphatthan

          คลิปดังกล่าว โด่งดังจนมีคนดูถึง 7.8 ล้านครั้ง หลายคนชื่นชอบคำตอบย่าทวดจริง ๆ ตอบได้อย่างตรงไปตรงมา

ย่าทวดบอกว่าไม่อยากมีสามี

KUBET – คดีฆ่าพ่อแม่ลูกถูกหมกรถทิ้งบ้านร้าง น้องเผยพิรุธ ข้อความปริศนา

         คดีฆ่า พ่อแม่ลูกหมกรถทิ้งบ้านร้าง คาดปมปล่อยเงินกู้และตั้งวงแชร์ ด้านน้องชายได้รับข้อความปริศนา คาดพี่สาวไม่ได้เป็นคนส่งมา



          กคดีสะเทือนขวัญ กรณี นายวงศกร อายุ 37 ปี, น.ส.นันทกานต์ อายุ 35 ปี และ ด.ช.นัทกร อายุ 7 ขวบ ทั้ง 3 คนเป็นพ่อแม่ลูก ถูกพบเป็นศพในรถกระบะซึ่งจอดทิ้งไว้ในบ้านร้าง ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร หลังหายตัวไปเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2568

          วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า นายสุพัฒน์ อายุ 42 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนายวงศกร ที่เดินทางมาดูจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า สองสามีภรรยา ประกอบธุรกิจส่วนตัวขายเสื้อผ้า ให้เช่าเครื่องเสียง-เครื่องไฟตามงาน ปล่อยเงินกู้นอกระบบ และตั้งวงแชร์กับผู้อื่นด้วย หลังจากน้องชายหายตัวไปพร้อมภรรยาและลูกชาย ตนก็ประกาศตามหาในช่องทางต่าง ๆ และแจ้งความกับตำรวจ

          ทราบว่า มีเพื่อนบางคนของนายวงศกร เห็นว่า เฟซบุ๊กของนายวงศกร มีการออนไลน์หลังจากหายตัวไป บางคนลองโทร. ผ่านเฟซบุ๊กเข้าไป พบว่าโทร. ติด แต่ไม่มีคนรับสาย ส่วนตนลองโทร. หาน้องชายหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมีชาวบ้านมาพบรถจอดไว้และโทร. แจ้ง ตนจึงรีบมาดู

          ส่วนบ้านร้างหลังนี้ เป็นของนางสำเนา อายุ 59 ปี บอกว่า เป็นบ้านของลูกชายที่ไม่มีคนอยู่มาเป็นสิบปีแล้ว เพราะน้ำท่วมเป็นประจำ ลูกชายจึงย้ายไปอยู่ที่อื่น ช่วงหลังปีใหม่ ยังเข้ามาดูความเรียบร้อยที่บ้านหลังนี้ แต่ไม่พบรถกระบะคันดังกล่าว แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้เข้ามาที่บ้านอีกเลย จนกระทั่งตำรวจโทร. มาแจ้งว่าพบศพในรถกระบะมาจอดอยู่หน้าบ้าน

ตำรวจเผยสภาพศพและเบาะแส พร้อมคาด 3 ปมสังหาร

          ด้าน ตำรวจลงพื้นที่หมู่ 8 บ้านร้อยไร่  ต.คลองขลุง ซึ่งห่างจากจุดที่พบรถกระบะ ประมาณ 11 กิโลเมตร  หลังได้รับเบาะแสจากชาวบ้าน ว่า ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเสียงดัง จากนั้นได้ยินเสียงปืน ในช่วงเวลาประมาณ  2-3 ทุ่มของวันที่ 12 มกราคม พอรุ่งเช้าจึงออกมาดู พบว่ามีรอยเลือดและมีกระสุนปืนตกอยู่ในจุดดังกล่าว คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะใช้เส้นทางนี้ นำศพไปทิ้งอำพรางไว้ที่หน้าบ้านร้าง ส่วนการตรวจสอบศพเบื้องต้น ภายในกระเป๋าไม่พบทรัพย์สินใด ๆ ทั้งที่ครอบครัวนี้ จะใส่สร้อยทองหนักหลายบาทติดตัว

         
          ตรวจสอบสภาพศพของเด็กชายวัย 7 ขวบที่แม่กอดอยู่ พบว่า ถูกตีด้วยของแข็งที่ท้ายทอยด้านหลังจนกะโหลกยุบ ไม่พบรอยกระสุน ศพผู้เป็นแม่ ถูกยิงเข้าที่หลังหูซ้ายทะลุขมับขวา ส่วนศพผู้เป็นพ่อ กะโหลกศีรษะแตกที่ด้านขวา แต่ยังไม่พบรอยกระสุน อีกทั้งสภาพศพเน่าเปื่อยมาก จึงต้องส่งชันสูตรอย่างละเอียด ส่วนกระจกประตูหน้าฝั่งซ้าย มีรอยกระสุนถูกยิงมาจากด้านนอก และพบกระสุนปืน 1 นัดในรถ เบื้องต้นตั้งปมสังหารไว้ 3 ประเด็น คือ เรื่องของการปล่อยเงินกู้ , ยาเสพติดและชู้สาว โดยคาดว่าเป็นฆาตกรรมอำพราง  


น้องชายหญิงผู้ตาย เผยได้ข้อความปริศนา เผยจุดพิรุธคาดพี่สาวไม่ใช่คนส่ง

          ต่อมา ตำรวจได้เชิญตัว นายศิริชัย หรือ บอล อายุ 22 ปี น้องชายของ
หญิงที่เสียชีวิต มาอสอบสวน พบข้อมูลว่า
ก่อนที่พี่สาวกับครอบครัวจะหายตัวไป มีข้อความส่งมาทำนองว่า “เดี๋ยวกลับมานะ เดี๋ยวกลับมาเอาโทรศัพท์” อีกข้อความ ระบุว่า “มารอ” แต่เบอร์ที่ส่งมา ไม่ใช่เบอร์ของพี่สาว
และตนก็ไม่เข้าใจว่าข้อความนั้นส่งมาทำไม ซึ่งตนจำข้อความทั้งหมดไม่ได้
เพราะข้อความถูกลบไปแล้ว  แต่ตนโทร. กลับไปหาพี่สาว ก็โทร. ไม่ติด

         
มองว่าลักษณะการส่งข้อความไม่น่าใช่พี่สาว เพราะปกติ
พี่สาวจะเรียกลูกชายว่า น้อง แต่ในข้อความที่พิมพ์มากลับใช้คำว่า ไอ้อ้วน
และเรียกพี่เขยว่า มัน ซึ่งไม่เคยเห็นว่าพี่เรียกสามีแบบนี้มาก่อน จึงคิดว่าอาจจะเป็นข้อความลวงจากคนร้าย ปลอมเป็นพี่สาวตน

          ประเด็นเรื่องพี่สาวปล่อยเงินกู้ ตนไม่ทราบ เพราะพี่ไม่เคยเล่าให้ฟัง
ทราบว่า ช่วงหนึ่งพี่เคยโพสต์เกี่ยวกับปัญหากับคนคนหนึ่ง
แต่ก็ไม่ได้ถามเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว
ส่วนเรื่องประเด็นชู้สาวหรือยาเสพติด ตนก็ไม่แน่ใจ แต่ในมุมของตนไม่เห็นว่า
พี่สาวหรือพี่เขยจะมีปัญหาชู้สาวกับใคร 

         
         
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า นายวงศกร ผู้ตาย นอกจากปล่อยเงินกู้นอกระบบแล้ว
ยังมีการตั้งวงแชร์ และเคยมีหญิงคนหนึ่งโพสต์ทวงหนี้กว่า 150,000 บาท
กับนายวงศกรด้วย ซึ่งเจ้าหนี้รายนี้ ไปแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งหาเบาะแสคลี่คลายคดีต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้

KUBET – ส่องขบวนล้อการเมือง งานบอลจุฬา ธรรมศาสตร์ 2568 แซะประโยคจี๊ดเพียบ

         ส่องสีสันพาเหรดล้อการเมือง งานฟุตบอลประเพณี ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 75 หลังงดมานาน 5 ปี ทำหุ่นหน้าคุ้น ๆ ข้อความจี๊ดเหน็บแรงเพียบ



งานบอลจุฬาธรรมศาสตร์ 2568
ภาพจาก x @3Plusnews

          วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ที่สนามศุภชลาศัย ในงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 75 ปีนี้จัดขึ้นหลังจากห่างหายไปนาน 5 ปี มีเป้าหมายเพื่อปลุกจิตวิญญาณการแข่งขัน รวมถึงสร้างความสามัคคี โดยมีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นเจ้าภาพ

          พิธีเปิดเริ่มขึ้น มีขบวนพาเหรดของทััง 2 มหาวิทยาลัย ในช่วงต้นเป็นวงดุริยางศ์ ขบวนเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวและธรรมจักร ป้ายมหาวิทยาลัย คฑากร

          ขบวนคัลเลอร์การ์ดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเข้าสู่สนาม มีธงเป็นภาพศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง อาทิ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม., นางนวลพรรณ ล่ำซำ หรือ มาดามแป้ง แต่ยกเว้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

งานบอลจุฬาธรรมศาสตร์ 2568
ภาพจาก x @3Plusnews
         
          สำหรับขบวนสะท้อนสังคมในปีนี้ เน้นไปที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม รวมถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 และวิจารณ์เสียดสีนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต โดยปรากฏข้อความ “ชาวบ้านดีใจได้ตั้งหมื่น ฝันหวานชื่นสร้างตัวได้ใช้หนี้ เทคโนโลยีดิจิทัลปลอดภัยดี ความสุขขีส่งตรงสู่ประชา”

          รวมถึงเสียดสีสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยป้าย “welcome to มณฑลไท๋กั๋ว”

          สำหรับไฮไลต์ซึ่งเป็นที่จับตามากที่สุดในทุก ๆ ปี อย่างขบวนพาเหรดล้อการเมือง ในปี 2568 นี้ แบ่งเป็นทั้งหมด 3 คอนเซ็ปต์ ประกอบด้วย

          
          1. หุ่นนิติฯ : พานรัฐธรรมนูญ เป็นพานรัฐธรรมนูญจำลอง ที่ถูกเทปสีเหลืองล้อมรอบคุ้มกันไว้ แม้จะมีคนพยายามรื้อผ้าคลุมออก ก็ถูกห้ามเอาไว้ คอนเซ็ปต์คือ นักการเมืองไม่ฟังเสียงประชาชนในการเรียกร้องให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ ร่างรัฐธรรมนูญจากเสียงประชาชน ถูกปัดตกโดยนักการเมืองทั้งที่ตอนหาเสียงพูดอีกแบบ พร้อมด้วยป้ายข้อความ

          “ฉีกอยู่นั่น ฉีกหาพ่อมึงหรอ ครั้นจะแก้ ก็จัดกันยกใหญ่ แก้หมวดนี้ เว้นหมวดนั้น ปั่นกันไป จะได้แก้ ชาติไหน บอกกูที”

          “รัฐธรรมนูญใหม่ใกล้ฉัน เพื่อ (ภูมิใจ) ไทย”

          
          “อุ๊งอิ๊ง ช็อกมิ้นต์ พิธา กาแฟส้ม สนธิ ?”

          “ประชามติ อย่าให้มีครั้งที่ 3”

 งานบอลจุฬาธรรมศาสตร์ 2568
ภาพจาก x @3Plusnews

งานบอลจุฬาธรรมศาสตร์ 2568
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชุมนุมเชียร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

          2. หุ่นบริหาร : วิวาห์ข้ามขั้ว
โดยเป็นหุ่นจำลองคนที่มีลักณะคล้ายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายากรัฐมนตรี
และคล้ายกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คอนเซ็ปต์คือ
ล้อข่าวนักการเมืองพรรคเพื่อไทย สมรสกับนักการเมืองจากพรรคประชาชน
ซึ่งนายทักษิณและนายพิธา มีการจับมือกันในงานมงคลดังกล่าว พร้อมป้ายข้อความ

          “มาละเหวย ขบวนขันหมาก เพื่อไทยขอจาก ไปจับมือใหม่ ประชาชนปล่อย ลอยแพทิ้งไป ธิปไตยเป็นหม้าย ไร้ซึ่งอุดมการณ์”

          “รักวัวให้ผูก รักลูกให้เป็นรัฐมนตรี พนันเสรี แทงบอลประเพณี 9-0”

          “ทักษิณ Now Showing ยิ่งลักษณ์ Comming Soon”

          “รัฐบาลนี้ ดี (กากบาททับ) ชิบหาย”

งานบอลจุฬาธรรมศาสตร์ 2568
ภาพจาก x @3Plusnews

          
          3. หุ่นตุลาการ : โกโกวา โดยจำลองฉากจากซีรี่ส์ชื่อดัง คอนเซ็ปต์คือ
นิ่งไว้ ผมเคยผ่านเกมนี้มาก่อน สะท้อนภาพกระบวนการยุติธรรมกับพรรคการเมือง
พร้อมป้ายข้อความ

          “โกโกวา ตุลาการที่อยากได้ ถูกชักใยจองจําให้ชํ้าหมอง ประชาชนคาดหวังเงยหน้ามอง ใครเจ้าของอำนาจยุติธรรม”

          “จริยธรรมตัดสิทธิ์ ประหารความคิด”

          “ประเทศนี้ ทุกทั่วทั้งแดนไทย เป็นใหญ่ด้วยอธิปไตยจากใครเล่า ของที่มันหลอกลวงให้มัวเมา ราษฎรอย่าเชื่อเขา จงตื่นเถิด”

งานบอลจุฬาธรรมศาสตร์ 2568
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชุมนุมเชียร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

งานบอลจุฬาธรรมศาสตร์ 2568
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชุมนุมเชียร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

งานบอลจุฬาธรรมศาสตร์ 2568
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชุมนุมเชียร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

         
ต่อมา เมื่อเวลา 15.20 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
เดินทางมาร่วมงานฟุตบอลประเพณี ซึ่งนายกรัฐมนตรี
เป็นศิษย์เก่ารัฐศาสตร์จุฬา รุ่น 57  

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3

KUBET – ร้านอาหารบรรทัดทอง ประกาศเซ้งร้าน เปิดราคา 1.8 ล้าน ขายเท่าไรถึงอยู่รอด

         ร้านดังย่านบรรทัดทองประกาศเซ้งร้าน พร้อมเปิดราคา 1.8 ล้านบาท ยังไม่รวมอย่างอื่น ชาวเน็ตวิเคราะห์ ต้องขายได้เท่าไรถึงอยู่รอดได้ งานหนักไม่เบา



ร้านดังย่านบรรทัดทองประกาศเซ้งร้าน เปิดราคา 1.8 ล้าน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pacharawaree Vareerit

          หนึ่งในทำเลทองของการค้าขาย และติดเทรนด์ฮิตของเหล่านักรีวิวว่าเป็นย่านรวมของอร่อยมากมาย นั่นคือ ย่านบรรทัดทอง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนจะเยอะ แต่บางร้านก็เจ๊งจนขายต่อไม่ไหว ใช่ว่าจะไปรอดทุกร้าน

          วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 โลกออนไลน์ได้มีการแชร์โพสต์การเซ้งร้านดังในย่านบรรทัดทองอีกหนึ่งร้าน จากเฟซบุ๊ก Pacharawaree Vareerit โพสต์เมื่อ 7 กุมภาพันธ์ ประกาศเซ้งร้านอาหารย่านบรรทัดทองร้านหนึ่ง สามารถทำธุรกิจได้ทุกประเภท มีรายละเอียดดังนี้

          – ราคาเซ้ง 1,800,000 บาท

          – ค่าเปลี่ยนสัญญา 100,000 บาท คนซื้อจ่ายเอง

          – อยู่ครบสัญญาได้เงินคืน 260,000 บาท

          – ครบสัญญา 31 สิงหา 2569

          – ต่อสัญญาได้ตลอดกับทางจุฬา

          – ค่าน้ำ ค่าไฟจ่ายตามหน่วยรัฐ

          – ค่าเช่าเดือนละ 5x,xxx บาท

          ของที่ได้ภายในร้าน

          – ได้แอร์ 5 ตัว

          – ตู้เย็น 2 ตัว

          – ที่ปั๊มน้ำ แท็งก์น้ำ

ร้านดังย่านบรรทัดทองประกาศเซ้งร้าน เปิดราคา 1.8 ล้าน

          ชาวเน็ตวิเคราะห์ ถ้าเซ้งแล้วต้องขายได้เท่าไรถึงรอด

         
หลายคนสงสัยว่า ทั้งที่ร้านอยู่ในทำเลทอง แต่ก็ยังมีปัญหาจนต้องเซ้งร้าน
แบบนี้ต้องขายของได้เท่าไรถึงไม่มีความเสี่ยง แจกแจงรายละเอียดได้ดังนี้

          คำนวณเล่น ๆ นะคะ ถ้านับจาก มีนาคม 68 – สิงหาคม 69 = 18 เดือน

          – ค่าเซ้ง+เปลี่ยนสัญญา 1.9 ล้าน

          – ค่าเช่า 55,000×18 =990,000

          – ค่าตกแต่งร้านสัก 3 แสน

          – ค่าพนักงาน 4 คน 50,000 x 18 = 900,000

          – ค่าไฟ+ค่าน้ำ+เน็ต+ค่าน้ำมันรถ สัก 11,000×18=198,000

          รวมคร่าว ๆ 4.3 ล้าน มีเวลา 18 เดือน 4,300,000/18 เดือน

         
– คนขายใหม่ต้องได้กำไรเดือนละ 240,000 ถึงจะเท่าทุนเองนะ โห
ยังไม่ได้กำไรเลย และอยู่ครบสัญญาได้เงินคืน 260,000 ไปเลี้ยงฉลองปิดกิจการ

         
– จะขายอะไรดี เพื่อให้ได้กำไรพอค่าต่าง ๆ
นี่ยังไม่รวมค่าเหนื่อยของเจ้าของกิจการ ระบบ POS ค่าสื่อ ค่าโฆษณา
ค่าวัตถุดิบ จิปาถะมากมาย ฯลฯ เลย

          – อยู่เฉย ๆ แล้วกอดเงิน 4.3 ล้านที่จะต้องลงทุนไว้ดีกว่าไหม ระยะคืนทุนน้อยไปนะเราว่า คนทำอยู่สู้ ๆ นะคะ น่าจะขายยากเลย

          ขณะที่ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยต่างสงสัยว่า ร้านนี้อร่อยจริง แต่คนน้อย ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร 

ร้านดังย่านบรรทัดทองประกาศเซ้งร้าน เปิดราคา 1.8 ล้าน

ร้านดังย่านบรรทัดทองประกาศเซ้งร้าน เปิดราคา 1.8 ล้าน

KUBET – ดีเจแมน ให้สัมภาษณ์กับ หนุ่ม กรรชัย ปมโดนเรียก 14 ล้าน ใบ้ท่านที่โดนอ้างคือใคร

            ดีเจแมน เปิดใจกลางรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ถึงเรื่องโดนเรียกเงิน 14 ล้าน เผย คนอ้างว่าท่านคนนั้น ใหญ่ยิ่งกว่านักการเมือง รับ เจ็บปวดคนกันเองทำกันได้



ดีเจแมน เปิดใจกับ หนุ่ม กรรชัย ปมโดนเรียกเงิน 14 ล้าน
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

            จากกรณีที่ดีเจแมน พัฒนพล ออกมาเปิดใจว่า เคยถูกคนในวงการเรียกเงินรวม 14 ล้าน เพื่อช่วยวิ่งเต้นเรื่องคดีให้ ทำให้รู้สึกเจ็บปวดมาก และคนก็สงสัยกันว่า บุคคลดังกล่าวคือใคร

อ่านข่าว : ดีเจแมน เจ็บปวด ! แฉดาราดังตัวจี๊ดเรียกเงิน 14 ล้าน ขู่ไม่งั้นพี่ไม่รอด – หนุ่ม กรรชัย บอกอีกแล้วเหรอ ?

            ล่าสุด วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ดีเจแมน ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ว่า เรื่องที่มีคนเรียกเงิน 14 ล้าน เป็นเรื่องจริง ต้องบอกว่า มันมีหลายประเภท หลายรูปแบบ แต่รูปแบบนี้เจ็บที่สุด เพราะเป็นคนในวงการเดียวกัน คนที่เรารู้จัก และอยู่ในบริบทเดียวกันหรือมากกว่าด้วยซ้ำ

ดีเจแมน เปิดใจกับ หนุ่ม กรรชัย ปมโดนเรียกเงิน 14 ล้าน
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

            บุคคลนี้โทรศัพท์มา บอกว่า จะพาไปหาผู้ใหญ่ ตอนนี้อยู่กับท่าน บุคคลนี้ตอนนั้นใหญ่มาก คับแก้วเลย

ท่านคนนั้น ใหญ่ขนาดไหน

          หนุ่ม กรรชัย จึงถามว่า
คนนี้ใหญ่ขนาดไหน เพราะความใหญ่ บิ๊กตำรวจก็ใหญ่ นักการเมืองก็ใหญ่
ฉะนั้นใหญ่เท่านักการเมืองไหม ทางดีเจแมนจึงตอบว่า ใหญ่กว่านักการเมืองอีก
ทั้งตัวและชื่อด้วย อาจจะเป็นการเอาชื่อท่านมาอ้าง มีทั้งหมด 2 ท่าน
อยู่กับท่าน ทำงานด้วยกัน

ดีเจแมน เปิดใจกับ หนุ่ม กรรชัย ปมโดนเรียกเงิน 14 ล้าน
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

          บุคคลนี้โทรศัพท์มาหลายครั้ง
พร้อมยื่นข้อเสนอคนละ 7 ล้านสำหรับตนและใบเตย บอกว่า คดีนี้ไม่มีอะไร
แต่กฎหมายมันเป็นแบบนี้ ซึ่งความรู้สึกตนคือ เรากำลังจะจมน้ำ
แล้วมีคนโยนเชือกมา แล้วยังไม่รู้ว่า เชือกนั้นจะมั่นคงจริง ๆ ไหม
พอยิ่งเป็นเขา เรายิ่งตัวสั่น มันเจ็บ ทำไมเขากล้าทำแบบนี้ได้

          “ถ้าไม่ทำตามเนี่ย เขียนชื่อเขาไว้ได้เลย เดี๋ยวเขาเข้าไปเยี่ยม” นี่เป็นประโยคที่เขาพูด และตนก็เห็นเขาเข้าไปเยี่ยมคนในคดีต่าง ๆ จริง ๆ
อีกเรื่องหนึ่งคือ บอกว่าสนิทกับใบเตย แต่กล้ามาตบทรัพย์ ตนรับไม่ได้
มันรุนแรงมาก

ดีเจแมน เปิดใจกับ หนุ่ม กรรชัย ปมโดนเรียกเงิน 14 ล้าน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pattanapon Kunjara

KUBET – ลูก 8 ขวบรองเท้าติดบันไดเลื่อน พลเมืองดีหลายชาติรุดช่วย แม่ชี้สิ่งสำคัญในนาทีชีวิต

          แม่แชร์ประสบการณ์นาทีชีวิต ลูก 8 ขวบรองเท้าติดบันไดเลื่อน ขอบคุณพลเมืองดีหลายชาติรุดช่วย ชี้สิ่งแรกที่ควรพูดมากกว่าบอกว่า “ช่วยด้วย”



ลูกรองเท้าติดบันไดเลื่อน พลเมืองดีหลายชาติรุดช่วย


          วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ Sin Chew เผยว่า เกิดอุบัติเหตุน่าตกใจขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในปีนัง ประเทศมาเลเซีย ในขระที่ครอบครัวหนึ่งกำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อน อยู่ ๆ รองเท้าของเด็กชายวัย 8 ขวบ เกิดเข้าไปติดที่ด้านข้างบันไดเลื่อนอย่างกะทันหัน ซึ่งสิ่งที่ตามมาเกือบจะทำให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรง แต่เคราะห์ดีที่ได้พลเมืองดีจากหลายชาติร่วมแรงร่วมใจเข้ามาช่วย จนกลายเป็นความน่าประทับใจ

          เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แม่ของเด็กชายเผยว่า ตอนที่รู้ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับลูกชาย เธอตกใจมากรีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ส่วนสามีและพ่อของเธอพยายามช่วยดึงขาของลูกชายออกมา แต่ปรากฏว่ารองเท้าของเขากลับยิ่งติดแน่น ในขณะที่บันไดเลื่อนก็ยังไม่หยุดทำงาน

ลูกรองเท้าติดบันไดเลื่อน พลเมืองดีหลายชาติรุดช่วย

          โชคดีที่ในขณะนั้นพี่สาวของเธอมีสติ
จึงวิ่งไปกดปุ่มหยุดบันไดเลื่อนฉุกเฉิน ทำให้บันไดเลื่อนหยุดการทำงาน
แต่เท้าของลูกชายของเธอยังคงติดอยู่และมีอาการเจ็บปวด
ทางครอบครัวจึงรีบแจ้งหน่วยกู้ภัยให้เข้ามาช่วยเหลือ  

         
อย่างไรก็ดี ในระหว่างนั้น มีพลเมืองดีจากหลายชาติในมาเลเซีย
ได้พากันเข้ามาช่วยเหลือในเบื้องต้น
มีคู่รักชาวจีนคู่หนึ่งได้เข้ามาช่วยปลอบโยน ช่วยให้เด็กอยู่ในความสงบ
เพื่อที่จะได้ไม่เจ็บไปกว่าเดิม
จากนั้นก็มีชายชาวอินเดียรายหนึ่งนำกรรไกรมาช่วยตัดรองเท้า
จนกระทั่งสามารถดึงเท้าของเด็กชายออกมาได้สำเร็จ
แม้ว่ารองเท้าของเขาจะยังติดอยู่

ลูกรองเท้าติดบันไดเลื่อน พลเมืองดีหลายชาติรุดช่วย

         
แม่ของเด็กชายเผยว่า ลูกชายของเธอดูเหมือนว่าจะมีอาการข้อเท้าแพลงและบวม
ระหว่างนั้นเอง ก็มีพนักงานห้างชาวมาเลเซียรายหนึ่ง
รีบนำน้ำแข็งเข้ามาช่วยประคบเท้าของลูกชายเธอเพื่อบรรเทาอาการปวดบวม
จากนั้นทางทีมเจ้าหน้าที่ของห้างก็เข้ามาพร้อมกับรถเข็นเพื่อพาตัวเด็กชายส่งโรงพยาบาลและเข้ารับการรักษา

          ภายหลังจากการตรวจเอกซเรย์พบว่า
โชคดีที่เด็กชายไม่มีอาการกระดูกหักแต่อย่างใด
ส่วนบริเวณที่มีอาการบวมทางหมอได้แนะนำให้ประคบน้ำแข็งต่อไป
ก่อนที่ทางครอบครัวจะบินกลับไปยังกัวลาลัมเปอร์ ในวันถัดมา

ลูกรองเท้าติดบันไดเลื่อน พลเมืองดีหลายชาติรุดช่วย

         
จากเหตุการณ์นาทีชีวิตครั้งนี้
ทางแม่ของเด็กชายได้นำเรื่องราวมาแชร์เป็นอุทาหรณ์เตือนภัยในผู้ปกครองระมัดระวังอย่างที่สุด
เมื่อต้องพาลูกหลานขึ้นบันไดเลื่อน และที่สำคัญเธออยากจะขอบคุณ “ทีมพลเมืองดีฮีโร่หลายเชื้อชาติ” ที่พร้อมใจเข้ามาช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว

         
“ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรืออยู่ที่ไหนก็ตาม
ไม่มีคำใดที่จะอธิบายความซาบซึ้งใจของเราได้
เราไม่รู้จักชื่อคุณหรือมีโอกาสได้คุยกับคุณ แต่เรารู้สึกขอบคุณพวกคุณมาก
หวังว่าพวกคุณทุกคนจะได้รับพรจากสิ่งที่ทำเพื่อครอบครัวของเรา”
แม่ของเด็กชาย กล่าว

          ทั้งนี้ แม่ของเด็กชายยังเผยถึงบทเรียนสำคัญจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ โดยบอกว่า เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ แทนที่จะร้องว่า “ช่วยด้วย” คำแรกที่ควรตะโกนออกมาเลยคือ “หยุดบันไดเลื่อน” เพื่อให้คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นสามารถช่วยกดปุ่มหยุดฉุกเฉินได้โดยเร็วที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก Sinchew, China Press

KUBET – ไวรัล TikTok หนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์ ติดไฟแดง พอซิ่งรถออกบ้านแตกแน่นอน

 
          หนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์ติดไฟแดง แฟนสาวซ้อนท้าย กระทั่งของตกเธอจึงก้มลงเก็บ เป็นจังหวะเดียวกับไฟเขียว เรื่องแบบนี้จึงเกิดขึ้น ทำเอาคันหลังฮาครืน



ไวรัล TikTok

ภาพจาก TikTok @vc.he5

ไวรัล TikTok

ภาพจาก TikTok @vc.he5
          วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 TikTok @vc.he5 มีการลงคลิปที่สี่แยกแห่งหนึ่ง จะเห็นว่ามีมอเตอร์ไซค์จอดติดไฟแดงคันหนึ่ง
คนขี่คือผู้ชาย คนซ้อนคือผู้หญิง น่าจะเป็นคนรักกัน
ทว่าฝ่ายหญิงกลับทำของตก และลงจากรถก้มลงไปเก็บ

         
ทันใดนั้นเอง เป็นจังหวะไฟเขียวพอดี
ฝ่ายชายก็ซิ่งรถออกไปทันทีโดยที่ฝ่ายหญิงยังไม่ทันได้ซ้อน
งานนี้เธอก็ได้แต่วิ่งตามรถไป แต่ไม่ทัน แล้วก็ไม่รู้ว่าจะรู้ตัวกันตอนไหน
คนในรถที่ถ่ายคลิปก็ได้แต่หัวเราะกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ไวรัล TikTok

ภาพจาก TikTok @vc.he5

ไวรัล TikTok

ภาพจาก TikTok @vc.he5

          ชาวเน็ตที่ดูคลิป ต่างนึกถึงเพลง ทิ้งไว้กลางทาง คงเข้ากับสถานการณ์นี้ที่สุด

ไวรัล TikTok

KUBET – ไวรัล TikTok กิจกรรมรอบกองไฟ ลูกเสือเด็กเจน Z เห็นแล้วต้องร้องว้าว


          กิจกรรมรอบกองไฟของค่ายลูกเสือเด็กเจน Z เห็นแล้วต้องร้องว้าว ไม่ใช่แค่อาหารอัปเกรด อันนี้ก็อัปเกรดด้วย ยังกะเปิดคอนเสิร์ต



กิจกรรมรอบกองไฟของค่ายลูกเสือเด็กเจน Z
ภาพจาก TikTok @ra.wan_js


          หนึ่งในไฮไลต์กิจกรรมลูกเสือที่มีมาทุกยุคสมัย คือ กิจกรรมรอบกองไฟ ร้องเพลง มีการแสดงดนตรี ละคร นับว่าเป็นอะไรที่สนุกสนานและอยู่ในความทรงจำ แต่สมัยนี้ หากใครมาดูกิจกรรมรอบกองไฟของเด็กยุคใหม่ อาจจะต้องร้องว้าว มันแตกต่างจากยุคก่อนโดยสิ้นเชิง

          วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 TikTok @ra.wan_js มีการลงคลิปค่ายลูกเสือโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบางกะปิ ที่จัดกิจกรรมรอบกองไฟไม่เหมือนใคร ดนตรีไพเราะ เด็ก ๆ โบกแท่งไฟ ราวกับมาดูคอนเสิร์ต แถมมีการจัดแสงสีทันสมัย ไม่มืด ๆ ทึม ๆ อีกด้วย เห็นแล้วใคร ๆ ก็อิจฉา

กิจกรรมรอบกองไฟของค่ายลูกเสือเด็กเจน Z
ภาพจาก TikTok @ra.wan_js

          ส่วนชาวเน็ตก็เข้ามาแซวว่า ไม่มีเพลง
ตะละบุม บุ่มบุ๊ม, โอ้เจ้าพวงมาลัย ฯลฯ บ้างหรือ อ่านแล้วรู้เลยว่า
คนโพสต์นั้นอยู่วัยไหน

กิจกรรมรอบกองไฟของค่ายลูกเสือเด็กเจน Z

กิจกรรมรอบกองไฟของค่ายลูกเสือเด็กเจน Z
ภาพจาก TikTok @ra.wan_js

กิจกรรมรอบกองไฟของค่ายลูกเสือเด็กเจน Z
ภาพจาก TikTok @ra.wan_js

KUBET – โผล่อีก นี่เสือพันธุ์อะไร ในกรงสวนสัตว์ คนเห็นแวบแรกถึงกับเอ๊ะ ดูอีกทีร้องเฮ้ย

 

            โผล่อีก ! นี่เสือพันธุ์อะไร ถูกนำมาใส่กรงในสวนสัตว์ คนเห็นแวบแรกถึงกับเอ๊ะ ดูอีกทียิ่งมั่นใจ วิจารณ์นำสัตว์มาย้อมสี ชี้ไม่ได้ทำครั้งแรก



สวนสัตว์จีน
ภาพจาก Douyin 梅杰饿了

            สร้างวีรกรรมไม่หยุดสำหรับสวนสัตว์จีน
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีกระแสจับโป๊ะมาแล้วหลายครั้ง
เรื่องการนำสัตว์เลี้ยงมาเนียนหลอกเป็นสัตว์ชนิดอื่นในกรง
หรือแม้กระทั่งให้คนสวมชุดสัตว์
ขณะที่ไม่นานมานี้ก็ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง
เมื่อมีคนตาไวจับสังเกตเห็นว่า เสือ 2 ตัวในกรงที่สวนสัตว์ในมณฑลเจียงซู
ดูมีรูปร่างหน้าตาแปลก ๆ มองแวบแรกไม่น่าจะใช่เสือ แวบต่อไปก็ยิ่งมั่นใจ
นี่มันเชาเชา !

            จากรายงานของเว็บไซต์ SAYS เมื่อวันที่ 7
กุมภาพันธ์ 2568 เปิดเผยว่า สวนสัตว์ Qinhu Bay Forest Animal Kingdom
ในมณฑลเจียงซู ของจีน ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง
หลังมีคนพบว่าเจ้าหน้าที่จับเอาสุนัข 2 ตัวมาย้อมสี
ตีเนียนเป็นเสือที่จัดแสดงไว้ในกรง
โดยไม่นานมานี้ทางสวนสัตว์ได้ทำการไลฟ์สตรีมผ่าน Douyin เพื่อโปรโมตสถานที่
ช่วงหนึ่งมีการพาไปชมเสือน้อย 2 ตัวที่อยู่ในกรง
 
            ตอนนั้น คนในไลฟ์ยังกล่าวว่า “ฉันอยากได้ยินเสียงเสือคำรามจังเลย เสือของเราทั้งใหญ่และดุร้ายมาก”

สวนสัตว์จีน
ภาพจาก Douyin 梅杰饿了

สวนสัตว์จีน
ภาพจาก Douyin 梅杰饿了

            อย่างไรก็ตาม
ผู้ที่ชมไลฟ์อยู่ต่างสังเกตเห็นในทันที ว่าเจ้าสัตว์ขนสีส้ม-ดำ ทั้ง 2
ตัวที่อยู่ในกรงนี้ไม่น่าจะใช่เสือ ทั้งขนาดและลักษณะขนที่ปรากฏ
โดยมีคนเข้าไปเมนต์เช่น “นี่คือเสือเหรอ”
“การย้อมสีแบบนี้ไม่ดีต่อสัตว์เลยนะ”

            ปรากฏว่าสัตว์ที่อยู่ในกรง
แท้จริงแล้วเป็นสุนัขพันธุ์เชาเชา
ที่ถูกจับมาย้อมสีเพื่อเลียนแบบเสือนั่นเอง แถมสื่อฮ่องกงยังแฉเพิ่มเติมว่า
ก่อนหน้านี้เชาเชา 2 ตัวนี้ ก็ถูกทางสวนสัตว์จับย้อมสีขาว-ดำ
เพื่อเลียนแบบแพนด้ามาแล้ว พร้อมโปรโมตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม “หมาแพนด้า” ในช่วงเดือนสิงหาคม 2567 จนกลายเป็นข่าว

            ทั้งนี้
ทางสวนสัตว์ยอมรับว่า นำสุนัขมาย้อมสีขนจริง
เพื่อหวังดึงดูดคนให้เข้ามาเที่ยวสวนสัตว์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม
เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ย้ำว่า สีที่ใช้ย้อมขนนั้นคือสีย้อมที่เป็นมิตรจากสัตว์
ทำขึ้นจากพืช และยังดำเนินการย้อมสีโดยร้านสัตว์เลี้ยงมืออาชีพ
แถมยังมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเจ้าตูบอย่างดี

            ทางสวนสัตว์อ้างว่า
สวนสัตว์แห่งนี้เป็นที่อยู่ของสัตว์กินพืชเป็นหลัก
และกำลังดำเนินการจัดหาสิงโตกับหมีดำมาจัดแสดง หลังเพิ่งได้รับใบอนุญาต
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่านอกจากผู้ดูแลสัตว์มืออาชีพแล้ว
ทางสวนสัตว์ยังจ้างสัตวแพทย์มาดูแลสุขภาพของสัตว์ทุกตัวด้วย

            แต่แม้จะได้รับคำยืนยันเช่นนั้น
ชาวเน็ตมากมายยังแคลงใจ
และกังวลเกี่ยวกับจริยธรรมในการย้อมสีขนสัตว์เพื่อสร้างความบันเทิง
โดยรายงานระบุว่า สัตวแพทย์ทั่วไปนั้นจะไม่แนะนำให้ย้อมสีขนสัตว์เลี้ยง
แม้จะเป็นสีที่ผลิตจากธรรมชาติก็ตาม
แม้ความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายทันทีนั้นต่ำ
หากสัตว์เลี้ยงไม่กินสีย้อมเข้าไป แต่ขน ผิวหนัง และรูขุมขน
ของสัตว์อาจเกิดความเสียหายได้ในระยะยาว
คล้ายกับความเสี่ยงจากการย้อมสีผมของคน

สวนสัตว์จีน
ภาพจาก Douyin 文文泰探吃

สวนสัตว์จีน
ภาพจาก Douyin 文文泰探吃

สวนสัตว์จีน
ภาพจาก Douyin 文文泰探吃

ขอบคุณข้อมูลจาก SAYS

KUBET – เปิดสาเหตุ ชายธง ทรงพล นักร้องในตำนาน เสียชีวิตในวัย 77 ปี จากอุบัติเหตุสลด