KUBET – ไวรัล TikTok สาวไม่ได้นั่งรถตู้โดยสารนาน เงยหน้าขึ้นมาอีกทีแทบช็อก ราเต็มไปหมด



          ไม่ได้นั่งรถตู้โดยสารนาน เงยหน้าขึ้นมาอีกทีแทบช็อก เพดานมีจุดดำ ๆ เต็มไปหมด โชคดีที่สวมหน้ากากอนามัย ชาวเน็ตวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการด้วย



เชื้อราในรถ
ภาพจาก TikTok @pmpmpxm

         วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 TikTok @pmpmpxm มีการเล่าประสบการณ์การนั่งรถตู้โดยสาร ซึ่งเธอไม่ได้นั่งมานานหลายปี เมื่อนั่งแล้วเงยหน้าขึ้นไปบนเพดานรถ กลับพบว่า มีจุดดำ ๆ เต็มไปหมด สิ่งนี้ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเชื้อรา โชคดีที่เธอสวมหน้ากากอนามัย ทำให้กรองเชื้อโรคได้บ้าง แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีอยู่ดี ช็อกมาก

เชื้อราในรถ
ภาพจาก TikTok @pmpmpxm

เชื้อราในรถ
ภาพจาก TikTok @pmpmpxm

         ส่วนชาวเน็ตเข้ามาเล่าประสบการณ์ว่า เจอเหมือนกันในคันอื่น ๆ
และถ้าหากสูดอากาศภายในรถแบบนี้คือไม่ดีต่อสุขภาพแน่นอน
โดยเฉพาะคนขับรถที่ต้องเจอมันทุกวัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้ามา
ขณะที่บางคนก็ถามว่า ใช่สาย บน – บบ ไหม เจ้าของคลิปบอกว่า ใช่

เชื้อราในรถ

KUBET – ไวรัล TikTok วิธีต้มชาบูให้อร่อย ลองเปลี่ยนวิธีจากคนทั่วไป ความต่างอยู่ตรงไหน


           เปิดเคล็ดลับการต้มชาบูให้อร่อย แยกผักกับเนื้อสัตว์ออกจากกัน พร้อมอธิบาย มันต่างจากต้มรวมยังไงบ้าง งานนี้มีคนทำตามแน่



ชาบู
ภาพจาก TikTok @khukorkor

           หนึ่งในอาหารยอดฮิตที่หลายคนชอบกิน แล้วก็มีการเปิดร้านมากมายก่ายกอง ผุดเป็นดอกเห็ด คือเมนูจำพวกชาบู เนื่องจากกินกันได้หลายคน และกินกันได้ไม่จำกัดปริมาณ

           วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 TikTok @khukorkor มีการลงคลิปเคล็ดลับส่วนตัวในการกินชาบู นั่นคือ การแยกการลวกผักกับเนื้อสัตว์คนละฝั่ง ช่วยทำให้รสชาติอร่อยขึ้น เรื่องนี้ถือเป็นการสวนทางภาพจำของใครหลายคนที่มักลวกผักลวกหม้อไว้ในหม้อเดียวกัน 

           ส่วนข้อดีของการแยกผักกับเนื้อออกจากกัน
เจ้าของคลิปเล่าว่า ถ้าแยกแล้วฝั่งผักจะไม่ติดไข ทำให้ชาบูอร่อยขึ้น
สามารถซดน้ำซุปได้ด้วย พอคนอ่านรับรู้ก็นับเป็นความรู้ใหม่ที่น่าลองไม่น้อย
บางคนก็โพสต์ติดตลกว่า กินแต่หมู ไม่เคยกินผักเลย

ชาบู

KUBET – ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก พระมรณภาพ 1 รูป – คนทำบุญดับสลด ประณามเหตุคุมเพลิงยาก

         สะเทือนขวัญ ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก สหรัฐฯ พระมรณภาพ 1 รูป และคนไปทำบุญ 1 ราย เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ประณามเหตุคุมเพลิงยาก มีรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำ



ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thanat Inthisan

          วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เอบีซีนิวส์ รายงานว่า เกิดเหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม วัดไทยในเขตเมืองบรองซ์ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 06.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้แก่ พระภิกษุมรณภาพ 1 รูป และฆราวาสผู้ไปทำบุญ 1 ราย

          ตามรายงานระบุว่า วัดดังกล่าวตั้งอยู่บนถนนแอนโธนีอเวนิว ในละแวกเทรมอนต์ เขตเมืองบรองซ์ หน่วยดับเพลิงเมืองนิวยอร์ก (FDNY) ได้รับแจ้งเหตุจึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 150 นาย และรถดับเพลิงเข้าไปช่วยควบคุมสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกล่าวว่า ความพยายามในการสกัดเพลิงไหม้ไฟถูกขัดขวางและเกิดความล่าช้า เนื่องจากมีรถยนต์คันหนึ่งจอดปิดทางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง

ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก
ภาพจาก X @FDNY

          จอห์น เอสโพซิโต หัวหน้าหน่วย FDNY กล่าวว่า “เราทุกคนรู้ดีว่าเราไม่ควรจอดรถตรงหัวจ่ายน้ำดับเพลิง ทุกวินาทีล้วนมีค่าในขณะที่เราต้องผจญเพลิง และนั่นทำให้เราทำงานช้าลง ”

          ด้านหญิงเจ้าของรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าหัวจ่ายน้ำดับเพลิง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้รู้สึกผิด โดยอ้างว่า เธอจำเป็นต้องจอดรถตรงนั้น เนื่องจากหาที่จอดรถไม่ได้ เธอกล่าวว่า “เรารู้ว่าไม่ควรทำแบบนั้น แต่ฉันจะจอดรถที่ไหนได้อีก จะจอดรถซ้อนคันในถนนแบบนี้ก็ไม่ได้ ถนนตรงนี้มันแคบ”

ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก
ภาพจาก X @FDNY

          ทั้งนี้ จากภาพที่ถูกเปิดเผยโดย FDNY ยังพบว่า
หัวจ่ายน้ำดับเพลิงจุดอื่น ๆ
ที่อยู่ใก้กับจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ก็ถูกรถยนต์จอดปิดกั้นไว้เช่นกัน
โรเบิร์ต ทักเกอร์ กรรมาธิการ FDNY
กล่าวประณามพฤติกรรมการจอดรถขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง ระบุว่า “มันยิ่งกว่าการฝ่าฝืนกฎจราจรเสียอีก มันคือชีวิตและความตาย”

ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก
ภาพจาก X @FDNY

         
ตามรายงานระบุว่า พระภิกษุรูปที่มรณภาพเป็นชายสูงวัยและมีโรคประจำตัว
ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้พบว่า
เกิดจากเครื่องทำความร้อนซึ่งอยู่ใกล้กับวัสดุติดไฟ บนชั้น 2
ภายในอาคารบริเวณส่วนที่เป็นที่พัก

          มยุรี ศรีภิรมย์
ผู้เป็นเหรัญญิกวัด เผยว่า
วัดแห่งนี้มีความสำคัญเนื่องจากเป็นวัดพุทธแห่งแรกในเมืองบรองซ์ “ตอนนี้วัดประสบเหตุร้าย ฉันตกใจมาก แต่จะพยายามอย่างเต็มที่
ชุมชนชาวไทยพุทธทั่วโลกยินดีจะให้ความช่วยเหลือในการบูรณะและอื่น ๆ
เท่าที่จะสามารถช่วยได้”

ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thanat Inthisan

          ต่อมา เพจเฟซบุ๊ก วัดอุษาพุฒยาราม นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความว่า เบื้องต้น พระปฏิบัติศาสนกิจประจำวัด
พระธรรมทูตปฏิบัติศาสนากิจ 4 รูป ปลอดภัย คือ พระยุทธ จกฺกวโร (พะวงษ์),
พระมานพ ศรีสวัสดิ์ (พธบ.30), พระจิตรจา คุณกโร (ปะนะจิตต์) และ Wade
Bhuripanyo. (อาคันตุกะชาวอเมริกัน) ขณะที่ พระมหาดิเรก ชมพูนิด มรณภาพ
รวมถึงผู้เสียชีวิตอีกรายคือ นายพัด ยังไม่ทราบชื่อ-นามสกุล 

ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thanat Inthisan

ขอบคุณข้อมูลจาก New York Daily News, ABC News, New York Post 

KUBET – ผัวเมียเที่ยวฮันนีมูน อยู่ ๆ หายตัวทำวุ่นหนัก ความจริงโอละพ่อ ที่แท้เล่นเกมสะกดจิต

 
             คู่สามีภรรยาชาวจีน หายตัวตอนไปเที่ยวฮันนีมูนที่มาเลเซีย ทำตำรวจป่วนวุ่นวาย ความจริงโอละพ่อ ที่แท้เล่นเกมสะกดจิตเป็นหุ่นยนต์ AI



คนหายตัว
ภาพจาก Xiaohongshu

             วันที่ 12 ภุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ Sin Chew รายงานว่า
มีเหตุการณ์ประหลาดที่กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรง
เมื่อคู่สามีภรรยาชาวจีนคู่หนึ่ง ระบุชื่อว่า สวี้เจี้ยนเฟิง และ ซื่อเฉียน
เกิดหายตัวไปหลังมาทริปฮันนีมูนที่ประเทศมาเลเซีย
ก่อนความจริงทั้งหมดจะถูกเปิดเผยว่าเป็นเพียงวีรกรรมที่เหนือจินตนาการ
จากการที่ทั้งคู่ “เล่นเกมสะกดจิต”

             สามีภรรยาคู่นี้มีกำหนดเดินทางกลับไปถึงสนามบิมหนานจิง
ในประเทศจีน ช่วงเย็นวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ซึ่งทางครอบครัวได้ไปรอรับที่สนามบิน แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อพวกเขาได้
พบว่าสัญญาณโทรศัพท์ของทั้งคู่ถูกปิดไป และไม่ทราบตำแหน่งที่อยู่
ด้วยความเป็นกังวลทางครอบครัวจึงประกาศแจ้งคนหายมาถึงชาวมาเลเซียผ่านทางแพลตฟอร์มโซเชียล
Xiaohongshu
คนหายตัว
ภาพจาก Xiaohongshu

             ภายหลังจากเรื่องราวถูกแชร์ต่อกันออกไปจนกลายเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ
ทางตำรวจได้ออกมาชี้แจ้งว่า สามีภรรยาชาวจีนคู่นี้ไม่ได้หายตัวไป
แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินควบคุมตัวลงมาจากเครื่องบิน
ซึ่งกำลังเตรียมจะออกเดินไปยังเมืองเจียหยาง ประเทศจีน
เนื่องจากมีพฤติกรรมก่อความวุ่นวายและความคุมอารมณ์ไม่ได้ จากนั้นทั้ง 2คน
ได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล

             มีภาพถ่ายของคู่สามีภรรยาคู่นี้ปรากฏอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมาเลเซีย
โดยเผยให้เห็นว่า
ที่แขนของทางฝ่ายผู้เป็นสามีมีรอยขีดข่วนและฟกช้ำจากการถูกกัด
รวมทั้งยังมีภาพเหตุการณ์ที่ทั้งสองก่อเหตุความไม่สงบบนเครื่องบินถูกเผยแพร่ออกมา
ซึ่งทำให้ผู้โดยสารอยู่ในความตื่นตระหนก
และมีรายงานว่าเที่ยวบินนั้นต้องล่าช้าไปกว่าครึ่งชั่วโมง

             ในตอนแรกทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า
คู่สามีภรรยาคู่นี้น่าจะมีปัญหาทางจิต แต่หลังจากตรวจสอบทางการแพทย์
ทางโรงพยาบาลยืนยันว่า ทั้งสองคนมีสภาพจิตปกติ
ทางตำรวจจึงได้เข้าดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย
โดยควบคุมตัวทั้งสองไปที่สถานีตำรวจ
พร้อมทั้งตั้งข้อหากระทำความผิดฐานกระทำการไม่เหมาะสมในที่สาธารณะและมีพฤติกรรมคุกคามผู้อื่น

คนหายตัว
ภาพจาก Xiaohongshu

คนหายตัว

ภาพจาก Xiaohongshu

             อย่างไรก็ตาม สามีภรรยาคู่นี้ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นเผยว่า
สาเหตุของเหตุการณ์และความวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากการเล่น “เกมสะกดจิต” ซึ่งเป็นเกมทางจิตวิทยาแบบเล่นตามบทบาทสมมุติ
จนทำให้พวกเขาสูญเสียการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

             สวี้เจี้ยนเฟิง
เผยว่า ภรรยาของเขาเป็นคนเสนอไอเดียให้เล่มเกมที่ว่านี้
ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับในภาพยนตร์เรื่อง “Decoded”
โดยภรรยาสะกดจิตตัวเองให้กลายเป็น “หุ่นยนต์ AI”
และเธอได้เข้าสู่โหมดนั้นอย่างรวดเร็ว เธอทำตัวเหมือนหุ่นยนต์อย่างสมบูรณ์
จนถึงขนาดกัดแขนของเขา เธอสูญเสียการควบคุมทางอารมณ์และขาดสติ

             กระทั่งถึงวันที่จะต้องเดินกลับประเทศ
เมื่อมาถึงสนามบินทางสามีสามารถควบคุมจิตใจให้กลับมาเป็นปกติได้
แต่ภรรยาของเขากลับอาการแย่ลงเรื่อย ๆ และเขาก็ไม่สามารถหยุดเธอได้
สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่มาก
ตอนแรกทางเจ้าหน้าที่สนามบินช่วยเรียกรถพยาบาลพาไปรักษาที่คลินิกจนอาการดีขึ้นแล้ว
แต่หลังจากขึ้นเครื่องบิน เธอก็ควบคุมอารมณ์ไม่ได้อีก
จนนำไปสู่พฤติกรรมผิดปกติต่าง ๆ และถูกควบคุมตัวลงมาในที่สุด

             ล่าสุด
ทางซื่อเฉียน
ผู้เป็นภรรยาได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้นและสามารถสื่อสารได้เป็นปกติ
เธอยอมรับว่าเป็นคนแนะนำให้เล่นเกมจิตวิทยานี้
เธอรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์นี้ ทำให้สามีของเธอต้องรับผิดไปด้วย
เธอรู้สึกกลัวและรับปากว่าจะไม่เล่นเกมนี้อีกต่อไป เธอขอโทษสามี
พร้อมทั้งขอบคุณชาวมาเลเซียที่กระตือรือร้นและมีความเมตตากรุณาช่วยติดตามเรื่องราวของเธอสามี
เธอรู้สึกซาบซึ้งใจและคิดว่าจะอยากมาเที่ยวใหม่อีกครั้ง

คนหายตัว

ภาพจาก Xiaohongshu

ขอบคุณข้อมูลจาก Sin Chew, China Press, 8World  

KUBET – ฝรั่งเที่ยวไทย จะไปเกาะเต่า แต่คนขับรถพาไปดอยเต่า ทิ้งไว้กลางทาง เป๋าตังค์หายอีก

          ฝรั่งมาเที่ยวไทย จะไปเกาะเต่าที่สุราษฎร์ธานี แต่คนขับรถพาไปส่งดอยเต่า เชียงใหม่ แถมทิ้งไว้กลางทาง กระเป๋าตังค์หายอีก เรื่องนี้จะจบยังไง



ฝรั่งมาเที่ยวไทย จะไปเกาะเต่า เจอพาไปดอยเต่า
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Teerapat Modjod


          วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เฟซบุ๊ก Teerapat Modjod ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โพสต์เล่าเรื่องราวว่า ได้รับแจ้งเหตุมีคนเก็บพาสปอร์ต เงิน จำนวนมากได้ที่ ปตท.ปลาใหญ่ เมื่อไปถึงก็พบว่า เป็นคนต่างชาติและเด็ก มากับรถ 6 ล้อ จึงเข้าไปสอบถาม ทราบว่า นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวชื่อแจ็ค มาเที่ยวไทยครั้งแรก จะไปเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี แต่คนขับรถพาไปดอยเต่า จ.เชียงใหม่ แถมยังทิ้งแจ็คไว้กลางทาง

          ส่วนคนขับรถบรรทุก พอเห็นแจ็คโบกรถที่ จ.ลำพูน จึงรับตัวแจ็คมาด้วย กระทั่งมาถึงปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ แจ็คก็พบว่า ลืมกระเป๋าตังค์ และมีพลเมืองดีเก็บส่งไว้ให้ที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี แล้ว ทางคนขับรถบรรทุกจึงโทรศัพท์เรียกตำรวจ เพราะไม่สามารถย้อนไปที่โรงพักได้ ต้องไปส่งของให้ทันเวลา

ฝรั่งมาเที่ยวไทย จะไปเกาะเต่า เจอพาไปดอยเต่า
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Teerapat Modjod


          ดังนั้น แจ็คจึงไปกับตำรวจ
ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด เพราะกลัวถูกหลอกอีก
จนได้กระเป๋าตังค์คืนที่โรงพัก และมีคนใจดีอีกมากมายที่คอยช่วยเหลือ
เพื่อพาแจ็คไปเกาะเต่าให้ได้

ฝรั่งมาเที่ยวไทย จะไปเกาะเต่า เจอพาไปดอยเต่า
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Teerapat Modjod

ฝรั่งมาเที่ยวไทย จะไปเกาะเต่า เจอพาไปดอยเต่า
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Teerapat Modjod

ฝรั่งมาเที่ยวไทย จะไปเกาะเต่า เจอพาไปดอยเต่า
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Teerapat Modjod

ฝรั่งมาเที่ยวไทย จะไปเกาะเต่า เจอพาไปดอยเต่า
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Teerapat Modjod

KUBET – หญิงท้องอืดเป็นเดือน อาหารไม่ย่อย สุดท้ายโคม่า – ถูกตัดกระเพาะ เตือนใจสายกินจุ

          หญิงท้องอืดเป็นเดือน อาหารไม่ย่อย สุดท้ายโคม่า ถึงขั้นต้องตัดกระเพาะ เจอก้อนอาหารไม่ย่อย 5 กก. เตือนใจสายกินจุ กินมากไปอาจเสี่ยงถึงชีวิต



ผ่าตัดตัดกระเพาะ
ภาพจาก Affiliated Hospital of Nantong University

          ในขณะที่การกินอาหารอย่างไม่ระวังอาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านสุขภาพมากมาย แต่เชื่อหรือไม่ว่าการกินมากเกินไปยังอาจทำให้มีความเสี่ยงถึงชีวิตได้ด้วย ดังเช่นหญิงรายหนึ่งที่ตกอยู่ในภาวะโคม่าและจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน หลังท้องอืดอาหารไม่ย่อยมานานนับเดือน ก่อนจะถูกตัดกระเพาะ ซึ่งเป็นผลจากนิสัยชอบกินอาหารปริมาณมากจนเกินไป

          รายงานจากเว็บไซต์ MS News เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 เผยเคสช็อกของ จาง หญิงวัย 41 ปี จากมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ที่เป็นคนชอบกินจุ และมีนิสัยชอบกินอาหารมากจนเกินไป เธอทำนิสัยเช่นนี้มานานแล้ว กระทั่งช่วง 1 เดือน จางมีอาการท้องอืดและไม่สบายท้อง และอาการท้องอืดกับอาเจียนก็ยิ่งหนักขึ้นหลังผ่านไป 2 สัปดาห์

          จนไม่กี่วันก่อนเข้าโรงพยาบาล จางกินเค้กลูกพลับเข้าไปทั้งก้อน ทำให้เธอปวดท้องอย่างรุนแรง ครอบครัวจึงนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล ซึ่งตอนแรกแพทย์สงสัยว่าเธออาจมีภาวะตับอ่อนอักเสบขั้นรุนแรง จึงแนะนำให้ส่งตัวเธอไปยังสถานพยาบาลระดับสูงกว่า เพื่อรับการรักษาเร่งด่วน แต่ตอนที่เธอถูกพาตัวมาถึงห้องไอซียูของ Affiliated Hospital of Nantong University จางก็อยู่ในภาวะโคม่าแล้ว

          แพทย์พบว่าท้องของจางขยายใหญ่มาก เนื่องจากสำไส้เล็กอุดตัน เป็นผลให้กระเพาะอาหารขยายตัวมาก การยืดขยายทำให้กระเพาะอาหารของเธอมีเนื้อตายและผนังทะลุหลายจุด จนมีของจากในกระเพาะรั่วไหลออกไปภายในช่องท้อง

          ดร.กัวชิงซ่ง หัวหน้าแพทย์ที่นำการผ่าตัด เปิดเผยว่า
ผู้ป่วยอยู่ในภาวะช็อกจากการติดเชื้อ
และมีความเสี่ยงที่จะเกิดไตวายเฉียบพลัน อวัยวะส่วนอื่น ๆ
อาจล้มเหลวได้ทุกเมื่อ สัญญาณชีพของเธอยังไม่มั่นคงอย่างมาก
ไม่สามารถประคับประคองด้วยการให้ยาเพียงอย่างเดียว
ทางเลือกเดียวที่เหลือจึงมีเพียงการผ่าตัดเท่านั้น

          ทั้งนี้
ระหว่างการผ่าตัด ทีมแพทย์ได้ผ่านำอาหารที่ไม่ย่อย ร่วม 5 กิโลกรัม
ออกมาจากท้องของจาง ซึ่งมีทั้งผักดองและถั่วงอกจำนวนมาก
และยังนำเอานิ่วในกระเพาะออกมาอีกหลายก้อน บางก้อนมีขนาดใหญ่ถึง 6
เซนติเมตร อีกทั้งเนื่องจากอาการของเธอรุนแรงมาก
จึงจำเป็นต้องตัดกระเพาะอาหารของเธอออกทั้งหมด

         
ทีมแพทย์ได้สร้างระบบย่อยอาหารให้เธอใหม่
โดยผ่าตัดนำหลอดอาหารต่อเข้ากับลำไส้เล็กโดยตรง
เพื่อให้มีอาหารผ่านเข้าไปได้ จากนั้นก็ย้ายเธอออกมาพักฟื้นในห้องไอซียู
เพื่อเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดและการรักษาหลังจากนี้

สาหตุ ท้องอืด อาหารไม่ย่อย จนโคม่า
ภาพจาก Affiliated Hospital of Nantong University

ขอบคุณข้อมูลจาก MS News

KUBET – ดีเจแมน พัฒนพล แฉโดนดาราดังตัวจี๊ดเรียกเงิน 14 ล้าน ขู่ไม่งั้นพี่ไม่รอด หนุ่ม กรรชัย ยังแชร์

KUBET – ช็อก ดาว OnlyFans ลื่นตกจาก รร. ชั้น 8 ดับสลด ขณะถ่ายฉากแซ่บกับ 2 หนุ่ม

 

              ดาว OnlyFans ร่วงจากโรงแรมชั้น 8 ดับสลด ขณะถ่ายฉากแซ่บกับ 2 หนุ่ม ผลสอบล่าสุดชี้ ดื่มเหล้า-เล่นยา ก่อนสาวฮอตลื่นตกลงจากราวระเบียง



ดาว OnlyFans ลื่นตกจาก รร. ชั้น 8 ดับสลด
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

             วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ news.com.au
รายงานกรณีช็อกที่เกิดขึ้นในประเทศบราซิล เมื่อ แอนนา พอลลี่ (Anna Polly)
ดาว OnlyFans ชื่อดังวัย 27 ปี ถูกพบร่างที่เต็มไปด้วยเลือดอยู่บนพื้น
หลังพลัดตกจากระเบียงห้องพักชั้น 8 ของโรงแรมแห่งหนึ่ง
ขณะถ่ายฉากเซ็กส์ทรีซัม แบบ 1 หญิง 2 ชาย
ซึ่งล่าสุดทางตำรวจได้ออกมาสรุปผลการสอบสวน
เชื่อว่าการเสียชีวิตของดาวโป๊สาว เป็นอุบัติเหตุ

             รายงานเผยว่า
แอนนา พอลลี่ หรือชื่อจริงคือ แอนนา เบียทริซ เปเรรา อัลเวส
ตกลงมาจากระเบียงของห้องพักในโรงแรม 4 ดาว ในรัฐริโอเดจาเนโร ของบราซิล
เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยคาดว่าการถ่ายทำกำลังดำเนินไปอย่างถึงพริกถึงขิง ก่อนเกิดเหตุสลด
ซึ่งทางตำรวจได้ควบคุมตัวชายอีก 2 คนที่กำลังเข้าฉากกับเธอตอนเกิดเหตุ
ไปทำการสอบสวนแล้ว แต่ทั้งคู่ให้การขัดแย้งกัน  

             ด้านแฟนหนุ่มของแอนนา
ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการถ่ายทำดังกล่าว
ได้ออกมาเผยความเศร้าผ่านโซเชียลมีเดียของเขา
และหวังว่าทางตำรวจจะสืบหาสาเหตุจริง ๆ ที่ทำให้แฟนสาวของเขาเสียชีวิต
ขณะเดียวกันเพื่อน ๆ และครอบครัวของเธอยังออกมาเปิดข้อมูล
เรื่องที่แอนนาถูกแฟนคลับและผู้ติดตามคอยกดดันและคุกคาม
ซึ่งทางตำรวจก็ได้สอบสวนเรื่องนั้นเช่นกัน

             อย่างไรก็ตาม
ล่าสุดทางตำรวจชุดสืบสวนของบราซิลได้ออกมาเปิดเผยแล้ว
ว่าการเสียชีวิตของแอนนาเป็นอุบัติเหตุ
โดยเชื่อว่าเธอลื่นตกลงไปขณะปีนราวระเบียงของห้องพัก ระหว่างการถ่ายทำ

             ภายในห้องมีผู้ชาย
3 คนอยู่กับเธอขณะเกิดเหตุ โดยที่ 2 คนคือนักแสดงที่เข้าฉากร่วมกัน
ทางตำรวจได้ควบคุมตัวทั้ง 3 คนมาสอบปากคำหลายครั้ง
และสุดท้ายทุกคนก็ยอมรับตรงกับ ว่ามีการใช้ยาเสพติดและดื่มเหล้ากัน
ก่อนที่แอนนาจะพลัดตกลงไป

             ทางตำรวจชี้ว่า แอนนาเสพยาไปไม่กี่นาทีก่อนเกิดอุบัติเหตุ แม้ขณะนี้ทางตำรวจยังคงรอผลตรวจทางพิษวิทยาเพื่อยุติการสอบสวนคดีนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก
news.com.au, Daily Mail, New York Post

KUBET – ซนซอกกู พระเอกดัง ย้อนเล่าถึงรักแรก เป็นสาวไทย รวยมาก อึ้งในบ้านมีน้ำตก

KUBET – เซเว่น อีเลฟเว่น ของหมดอายุ ขายไม่ออก ทำอย่างไร รู้คำเฉลยแล้ว จากปมสินค้าป้ายเหลือง

 
          ของกินในเซเว่น อีเลฟเว่น ถ้าขายไม่ออกแล้วหมดอายุ จะทำอย่างไร น้องเปาเซเว่น ตอบแล้ว ทางร้านทำยังไงต่อ



 เซเว่น อีเลฟเว่น ของหมดอายุ
ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 7552962 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

         วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 คุณ สมาชิกหมายเลข 7552962
สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีการตั้งกระทู้ถามว่า พวกของกินในเซเว่น
อีเลฟเว่น
ถ้าขายไม่ออก หมดอายุแล้ว เค้าทำอย่างไร

เซเว่น อีเลฟเว่น ของหมดอายุ
ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 7552962 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 7552962 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          เรื่องนี้
น้องเปาเซเว่น เข้ามาตอบเพื่อเคลียร์ให้ชัดเจนว่า
น้องเปาขออนุญาตเรียนเเจ้งนะคะ กรณีสินค้าป้ายเหลือง
หากถึงวันหมดอายุทางสาขาจะมีกระบวนการเก็บทำลายทิ้งทันที
เพื่อควบคุมคุณภาพของสินค้าและความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคทุกท่านค่ะ