ทนายไพศาล โพสต์ปม นิวนิว เอวเด้ง ถูกทนายโกง เปิดเหตุที่ไม่บอก ทั้งที่เรียกพ่อ

นมชมพู ซื้อมาดื่ม เห็นแล้วก็สงสัย จะชมพูไปไหน ทำยังไงถึงชมพูแบบนี้

        สั่งนมชมพูมาดื่ม เพียงแค่เห็นถุงก็ได้แต่สงสัย มันจะชมพูไปไหน คนแห่เทียบมันเหมือนอะไร ก่อนมีเฉลย คาดว่า ทำยังไงถึงได้ชมพูแบบนี้



นมชมพู ซื้อมาดื่ม เห็นแล้วก็สงสัย จะชมพูไปไหน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Toonz Yosita

         วันที่ 9 มกราคม 2568 เฟซบุ๊ก Toonz Yosita มีการโพสต์เล่าประสบการณ์การสั่งนมชมพูจากร้านแห่งหนึ่งมา หวังดื่มอย่างอร่อย สดชื่น แต่เมื่อดูสีนมชมพูที่ได้กลับสงสัยว่า มันชมพูไปไหน

นมชมพู ซื้อมาดื่ม เห็นแล้วก็สงสัย จะชมพูไปไหน

         ส่วนชาวเน็ตที่เห็นภาพ ล้วนต่างจินตนาการถึงที่มาต่าง ๆ นานา เช่น เหมือนสีโปสเตอร์ เหมือนปลาแป้งแดง ขณะที่บางคนก็สงสัยว่า ต้องใช้อะไรผสมถึงสามารถทำสีได้แบบนี้ เป็นชมพูที่จริงใจ แต่ก็น่ากลัวจนไม่กล้ากิน

         หลายคนเดาว่า สิ่งที่ใช้ผสมสีจนผลออกมาเป็นแบบนี้คืออะไร คาดว่า น่าจะเป็นผงนมชมพู

นมชมพู ซื้อมาดื่ม เห็นแล้วก็สงสัย จะชมพูไปไหน

นมชมพู ซื้อมาดื่ม เห็นแล้วก็สงสัย จะชมพูไปไหน

นมชมพู ซื้อมาดื่ม เห็นแล้วก็สงสัย จะชมพูไปไหน

จนท. ขนสัมภาระเตือน นักเดินทางที่ชอบห่อกระเป๋าด้วยพลาสติก เผยสภาพจะเจอแบบไหน

 
           เจ้าหน้าที่ขนสัมภาระของสนามบิน เตือนนักเดินทางที่ชอบห่อกระเป๋าด้วยพลาสติก เผยสภาพจะเจอแบบไหน



ห่อกระเป๋าเดินทาง
ภาพจาก TikTok @teh_deagz

ห่อกระเป๋าเดินทาง
ภาพจาก TikTok @teh_deagz

             ผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเครื่องบินล้วนเป็นห่วงกระเป๋าสัมภาระของตัวเอง
ต้องการให้มันเดินไปโดยปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไป
ทั้งไม่อยากให้ได้รับความเสียหายหรือมีรอยขีดข่วน
บางคนจึงใช้วิธีการห่อกระเป๋าด้วยพลาสติกแรป
ซึ่งในความเป็นจริงจะเป็นผลดีหรือไม่ ?

             วันที่ 8 มกราคม 2568
เว็บไซต์ UNILAD เผยว่า
มีเจ้าหน้าที่ขนสัมภาระของสนามบินในต่างประเทศรายหนึ่ง
ซึ่งใช้ชื่อว่าเอเดรียน ได้เผยคลิปวิดีโอทาง TikTok เตือนว่า
นักเดินทางไม่ควรห่อกระเป๋าสัมภาระด้วยพลาสติกแรป โดยเขาบอกว่า
กระเป๋าสัมภาระบางประเภทจะถูกคัดออกจากสายพานลำเลียง แล้วเขาจำต้อง “โยน”
มันลงทางลาดไป
เนื่องจากมีความเสี่ยงว่าสัมภาระเหล่านั้นจะไปติดอยู่บนสายพานในขณะที่ถูกเคลื่อนย้าย

             และหนึ่งในประเภทของสัมภาระที่ว่านั้นก็คือ
กระเป๋าเดินทางที่ถูกห่อด้วยพลาสติกแรป โดยเอเดรียนได้เผยคลิปวิดีโอ
ระบุแคปชั่นว่า “เจอแบบนี้ทุกวัน”
ถ่ายให้เห็นกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสารใบหนึ่ง
ซึ่งห่อด้วยพลาสติกทั้งใบมาอย่างแน่นหนา
ได้ถูกคัดออกจากสายพานและถูกโยนลงมา
แม้แต่กระเป๋าที่แรปพลาสติกมาเพียงบางส่วนก็โดนด้วยเช่นเดียวกัน  

             นอกจากนี้ในคลิปวิดีโอของเอเดรียน
ยังเผยให้เห็นสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องประเภทอื่น ๆ
ที่จะเป็นปัญหาถูกคัดออกจากสายพายลำเลียงเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ
กระเป๋าเดินที่มีพื้นผิวเป็นยาง, สัมภาระที่ป้ายแท็กขาด,
รถเข็นเด็กที่จัดเก็บมาไม่เหมาะสม
รวมไปถึงปลาแช่แข็งขนาดใหญ่ที่ห่อมาด้วยพลาสติก

ห่อกระเป๋าเดินทาง
ภาพจาก TikTok @teh_deagz

ห่อกระเป๋าเดินทาง

ภาพจาก TikTok @teh_deagz

             หลังจากคลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ออกมาก็ได้รับความสนใจจากผู้ใช้โซเชียล
พากันเข้าไปแสดงความคิดเห็นโดยส่วนใหญ่คิดว่า
กระเป๋าของพวกเขาสมควรถูกห่อด้วยพลาสติก เพราะว่ามันถูกโยนแบบนี้

             “ฉันห่อกระเป๋าฉันเพราะว่ามันได้รับการจัดการแบบหยาบ ๆ จนเสียหาย”

             “หลังจากเห็นคุณทำกับกระเป๋าแบบนี้ ฉันจะห่อมันให้แน่นยิ่งขึ้น”

             “เที่ยวบินครั้งหน้า ฉันจะห่อกระเป๋าเดินทางด้วยพลาสติก กระเป๋าใบนี้ใหม่เอี่ยมมาก แต่พนักงานอาจจะทำลายด้วยการโยนไปมา…”

             อย่างไรก็ดี
ตามรายงานของ Travel & Leisure นิตยสารการท่องเที่ยวของสหรัฐฯ ระบุว่า
การห่อกระเป๋าเดินทางด้วยพลาสติกนั้น อาจไม่ได้มีประโยชน์มากนัก
โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ห่อกระเป๋าด้วยพลาสติก เนื่องจากไม่มีประโยชน์ใด ๆ
ที่จะคุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
แนะนำให้ใช้กระเป๋าเดินทางที่มีตัวล็อกมาตรฐานของ TSA Lock (Transportation
Security Administration Lock)
ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยของสัมภาระในระหว่างการเดินทางระหว่างประเทศ

ขอบคุณข้อมูลจาก UNILAD

บริษัทเหมาลอตเตอรี่ แจก พนง. รับปีใหม่ มีคนถูกจริง ๆ 28 ล้าน แต่สั่งให้คืน

          บริษัทเหมาลอตเตอรี่ แจก พนง. เจอคนดวงเฮงถูก 28 ล้าน สั่งให้เอามาคืน อ้างจะแบ่งเงินเท่า ๆ กันทุกคน ทนายตอบแล้ว ทำแบบนี้ได้เหรอ



บริษัทเหมาลอตเตอรี่ แจก พนง มีคนถูกจริง 28 ล้าน แต่สั่งให้คืน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 8 มกราคม 2568 เว็บไซต์ ETtoday รายงานเหตุความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เมื่อพนักงานชายคนหนึ่งจากบริษัทในเมืองหนิงโป มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน กำลังจะได้รับโชคก้อนใหญ่ หลังลอตเตอรี่ที่เขาได้รับมาจากบริษัท ถูกรางวัลใหญ่ มูลค่า 6.08 ล้านหยวน (ราว 28 ล้านบาท) ตอนแรกเขาก็ตื่นเต้นดีใจมาก แต่เพียงไม่นานกลับต้องขุ่นเคืองใจ เมื่อทางบริษัทสั่งให้เขาคืนลอตเตอรี่ใบนั้น เพื่อจะนำเงินรางวัลมาแบ่งให้แก่พนักงานทุกคนเท่า ๆ กัน

          พนักงานรายดังกล่าวเผยว่า เพื่อจะสร้างบรรยากาศต้อนรับปีใหม่ช่วงสิ้นปี ทางบริษัทจึงซื้อลอตเตอรี่จำนวน 500 ใบ มาแจกจ่ายแก่พนักงานที่เข้าร่วมอีเวนต์ช่วงสิ้นปี ด้วยความหวังว่าทุกคนจะสนุกไปด้วยกัน แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าลอตเตอรี่ที่ได้รับมานั้น จะนำโชคก้อนโตมาให้

          อย่างไรก็ตาม
เมื่อทางบริษัททราบกลับสั่งให้เขาเอาลอตเตอรี่ไปคืน และมีแผนจะนำเงินรางวัล
6.08 ล้านหยวน มาแบ่งให้พนักงานทุกคนที่ร่วมอีเวนต์นั้น เป็นจำนวนเท่า ๆ
กัน แต่เขาไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนั้น
สุดท้ายทั้งตัวเขาและบริษัทจึงต้องไปเคลียร์ปัญหานี้ที่สถานีตำรวจ

         
อย่างไรก็ตาม ทางสถานีตำรวจท้องถิ่นเผยว่า เนื่องจากเป็นข้อพิพาททางแพ่ง
จึงแนะนำให้ทั้ง 2 ฝ่ายแก้ไขปัญหากันผ่านช่องทางกฎหมาย  
 
         
ด้านคนวงในของบริษัทดังกล่าว เผยว่า จริง ๆ แล้วเลขที่ถูกรางวัลนั้น
ถูกประกาศตั้งแต่ก่อนจะนำลอตเตอรี่ไปแจกแก่พนักงาน
ดังนั้นเถ้าแก่จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
ตรวจสอบดูก่อนว่าลอตเตอรี่ใบไหนคือใบที่ถูกรางวัล
จากนั้นให้นำใบที่ไม่ถูกรางวัลไปแจกแก่พนักงาน
แต่คาดว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินที่นำลอตเตอรี่ไปแจก
ไม่ได้ตรวจสอบให้รอบคอบเสียก่อน

         
ทั้งนี้ ทนายในเมืองหนิงโป ให้ความเห็นในกรณีนี้ว่า
ลอตเตอรี่นี้เดิมเป็นของขวัญที่บริษัททมอบให้แก่พนักงาน นั้นหมายความว่า
ทั้งบริษัทและพนักงานได้ทำสัญญามอบของขวัญกัน
ซึ่งตีความได้ว่าบริษัทได้มอบสิทธิที่เกี่ยวข้องในลอตเตอรี่นี้แก่พนักงานไปแล้ว
ดังนั้นสิทธิต่าง ๆ จึงถูกโอนออกไป
ข้อเรียกร้องจากทางบริษัทให้นำเงินรางวัลมาแบ่งกัน
จึงไม่มีเหตุผลทางกฎหมายมารองรับ

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday  

สะพรึง แม่งูท้องแก่ถูกรถทับ – ท้องแตก สลดซากลูกงูกว่า 40 ตัว กองเต็มพื้น

          ภาพสะพรึง แม่งูอนาคอนด้าท้องแก่ ถูกรถทับตายบนทางด่วน ท้องแตกจนลูกงูไหลทะลัก กองเต็มพื้นถนนร่วม 40 ตัว



แม่งูท้องแก่ถูกรถเหยียบ - ท้องแตก
ภาพจาก Instagram ederfisherman

         วันที่ 8 มกราคม 2568 เว็บไซต์เดอะซัน มีรายงานภาพสลดปนสยองของงูอนาคอนด้าเขียวตัวใหญ่ ขนาดยาว 5 เมตร ที่ซากของมันนอนเหยียดยาวอยู่กลางถนน โดยมีลูกงูตัวเล็ก ๆ จำนวนมาก ไหลออกมากองรวมกันบนพื้นถนน หลังจากที่แม่งูตัวนี้ถูกรถทับบนทางด่วนในประเทศบราซิล จนท้องแตกเป็นทางยาว

         เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา บนทางด่วน MT-338 ใน Porto dos Gauchos โดย เอเดอร์สัน เนกรี อันโตนิโอลี ชาวประมงและยูทูบเบอร์ เปิดเผยว่า เพื่อนของเขาเป็นคนเจอซากงู หลังจากที่ทั้งคู่ไปตกปลาด้วยกันและแยกย้ายกลับบ้าน จึงถ่ายคลิปส่งมาให้เขาดู

แม่งูท้องแก่ถูกรถเหยียบ - ท้องแตก
ภาพจาก Instagram ederfisherman

แม่งูท้องแก่ถูกรถเหยียบ - ท้องแตก
ภาพจาก Instagram ederfisherman

         จากภาพคาดว่าแม่งูตัวนี้น่าจะกำลังท้องแก่ เมื่อถูกรถชนจนท้องแตก ลูก ๆ
ของมันจึงได้ไหลออกมาแบบนี้ โดยมีลูกงูอยู่ประมาณ 40 ตัว
และดูเหมือนจะไม่มีลูกงูตัวใดที่มีชีวิตรอดเช่นกัน ทั้งนี้
เป็นที่สังเกตว่าลูกงูมีลักษณะค่อนข้างสมบูรณ์ ตัวยาวมากกว่า 1 ฟุต
น่าจะอยู่ในสภาพที่พร้อมคลอดในไม่ช้า แต่กลับเกิดเหตุสลดขึ้นเสียก่อน

         อนึ่ง
งูอนาคอนดาเขียว เป็นหนึ่งในงูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
สามารถโตจนมีความยาวถึง 8 เมตร และมีน้ำหนักถึง 100 กิโลกรัม
และเป็นงูที่ออกลูกเป็นตัว
     
ขอบคุณข้อมูลจาก The Sun

ไรเดอร์หนุ่มห่าม ชูมือเซลฟี่ – หันมาแลบลิ้น เสี้ยววินาทีก่อนชนโครม หมอบคาที่

 
           ไรเดอร์หนุ่มโชว์ห่าม ชูมือถือเซลฟี่ตอนขี่รถ หันมาแลบลิ้น-หามุมเก๋ รู้ตัวอีกทีชนโครม หมอบคาที่ บาดเจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิต



จุดจบสายห้าว
ภาพจาก X @CronicaPolicial

            วันที่ 8 มกราคม 2568 เว็บไซต์เน็กซ์แอปเปิล
รายงานเหตุอุทาหรณ์เกี่ยวกับการขับขี่รถบนท้องถนน
เมื่อพนักงานเดลิเวอรี่หนุ่มวัย 21 ปี จากเซาเปาลู ประเทศบราซิล
ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อไลฟ์ภาพเซลฟี่อวดบนโซเชียลมีเดีย
ระหว่างขี่รถมอเตอร์ไซค์บนถนน เขาพยายามชูโทรศัพท์หามุมเก๋
พร้อมหันมาแลบลิ้นใส่กล้อง
โดยไม่รู้ว่านั่นจะเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่รถของเขาจะปะทะกับเสาไฟคอนกรีต
จนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในที่สุด

            ด้าน El Heraldo
สื่อท้องถิ่น เปิดเผยว่า ชายคนดังกล่าวชื่อ เจฟเฟอร์สัน คามาร์โก เฟลิกซ์
ดา ซิลวา แม้เขาจะสวมหมวกกันน็อกขณะขับขี่ แต่เพราะเขาไม่สนใจมองทาง
ทำให้เกิดอุบัติเหตุที่คร่าชีวิต โดยพบว่าระหว่างขับขี่มอเตอร์ไซค์
เขายกกล้องขึ้นมาไลฟ์ภาพบนโซเชียล และพยายามจะหามุมเก๋ ๆ
ในการบันทึกภาพตัวเอง

จุดจบสายห้าว
ภาพจาก X @CronicaPolicial

            จากคลิปพบว่าเขาหันมามองและแลบลิ้นใส่โทรศัพท์หลายครั้ง
กระทั่งถึงจังหวะสุดท้าย ที่กว่าเขาจะหันไปมองทาง
เสาไฟก็อยู่ด้านหน้าในระยะที่หักหลบไม่ทันแล้ว  

            ยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ

บันทึกภาพของไรเดอร์หนุ่มที่ขี่มอเตอร์ไซค์มือเดียวและหันไปมองโทรศัพท์มือถือ
โดยไม่รู้ตัวว่ารถกำลังเบนเข้าข้างทาง พุ่งตรงไปยังเสาไฟฟ้า
ก่อนที่จะชนเข้าอย่างจัง จนร่างกระเด็นไปนอนนิ่งบนพื้น
นับเป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้ขับขี่อย่างแท้จริง
 
            ทั้งนี้
หลังเกิดเหตุมีรายงานว่าทางตำรวจได้รีบตรงมายังจุดเกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
แต่หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนาน 8 วัน
ชายหนุ่มที่บาดเจ็บหนักก็เสียชีวิตในวันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา

จุดจบสายห้าว
ภาพจาก X @CronicaPolicial

จุดจบสายห้าว
ภาพจาก X @CronicaPolicial

จุดจบสายห้าว
ภาพจาก X @CronicaPolicial

ขอบคุณข้อมูลจาก Next Apple,  El Heraldo

ชอกช้ำ ผัวทิ้งเมีย-ลูก 5 เดือน หลังสร้างหนี้-ไปเปิดตัวอยู่กินชายชู้ เชื่อเปย์กันฉ่ำ

           เมียชอกช้ำ ผัวทิ้งเมีย-ลูก 5 เดือน หลังสร้างหนี้จนเกินแบก เคยทำร้ายร่างกาย ซ้ำไปเปิดตัวอยู่กินกับชายชู้ เชื่อเงินทองที่สูบไปเอาไปเปย์อีกฝ่าย



ผัวมีชู้
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล


            วานนี้ (7 มกราคม 2568) โหนกระแส รายงานกรณีได้รับร้องเรียนจากหญิงวัย 25 ปี รายหนึ่ง ว่าสามีไม่รับผิดชอบดูแลครอบครัว ทำร้ายร่างกาย สร้างภาระหนี้สิน และยิ่งช็อกเมื่อทราบว่าสามีไปเปิดตัวอยู่กินกับผู้ชาย

           โดยหญิงรายนี้เปิดเผยว่า รู้จักกับสามีขณะเรียนปริญญาตรี คบหากันตั้งแต่ปี 2566 อยู่กินกันฉันสามีภรรยา มีการหมั้นหมายไว้แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายรับรู้ ต่อมาสามีเริ่มมีพฤติกรรมรุนแรง เมื่อโมโหหรือไม่พอใจก็จะทำร้ายร่างกายและด่าทอสารพัด แม้แต่ตอนที่เธอตั้งครรภ์ก็ยังไม่เว้น

            โดยสามีเป็นคนขี้หึง ตอนที่เธอตั้งครรภ์ประมาณ 5 เดือน เขาเข้าใจผิดว่าเธอไปคุยกับผู้ชายคนอื่น จึงโมโหทำร้ายร่างกาย ตอนนี้คลอดลูกได้ 5 เดือนกว่าแล้ว
 
            นอกจากนี้สามียังบังคับให้เธอซื้อรถและคอนโดเป็นชื่อของเธอ แต่หลังจากออกรถ สามีกลับนำไปขายทันที เธอพยายามผ่อนส่งแต่ก็ส่งไม่ไหว จึงโดนฟ้องและยึดทรัพย์ โดยสาเหตุที่ยอมออกรถเพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายอีก เหมือนก่อนหน้านี้ที่สามีเคยบังคับให้ซื้อบ้าน แต่เธอไม่เห็นด้วยจึงตอบคำถามกับธนาคารเพื่อให้กู้ไม่ผ่าน สามีก็กระทืบเท้าต่อหน้าพนักงานธนาคาร และลากเธอออกมาต่อว่า กล่าวหาว่าเพราะทำตัวแบบนี้ ชีวิตเขาถึงไม่ดีขึ้น ทำไมไม่ฟังเขา
 
            ช่วงที่คลอดลูก สามีก็แอบนำเอกสารพวกวุฒิปริญญาและเอกสารที่อยู่ในหอพักไปหมด เธอกังวลว่าสามีจะไปทำให้เธอเป็นหนี้ เพราะตอนที่อยู่ด้วยกันเขาก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อจะกู้เงินออนไลน์ แต่เธอก็ขัดไม่ได้

            จนเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เธอทราบว่าสามีไปมีผู้ชายคนอื่น มีบ้านและรถด้วยกัน อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยพูดไปด้วยอารมณ์ว่าถ้ายังคิดไม่ได้ก็ให้เลิกกันไป หวังให้เขาได้คิด เพราะขนาดตอนที่เธอท้อง 8 เดือนแล้วโดนรถชน เขาก็ไม่ได้มาสนใจอะไร

            ทั้งนี้
ที่มาร้องผ่านโหนกระแส เพราะอยากให้เขามารับผิดชอบเรื่องลูก
ไม่จำเป็นต้องกลับมาคืนดี แต่อยากให้มาดูแลลูกของเขา
รวมถึงหนี้สินที่ก่อไว้ ส่วนเรื่องที่เขาเคยทำร้าย อยากให้เขาได้รับผลจากการกระทำ ไม่ใช่ไปมีชีวิตใหม่อย่างมีความสุข
โดยทิ้งให้เธอต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำไว้

 
            ตอนที่รู้ว่าเขามีคนอื่น เธอเคยติดต่อไปทางครอบครัวเขาแล้ว มีส่งรูปไปให้ดู
แต่ทางนั้นก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย ไม่คิดจะติดต่อหาหลาน เธอช็อกมากเพราะระหว่างคบกันเขาก็มีเรื่องผู้หญิงตลอด
ไม่เคยคิดว่าจะไปคบกับผู้ชาย

            ทั้งนี้ เธอคิดว่าเงินทองที่เขาหาไปจากเธอก็ถูกนำไปเปย์ผู้ชายคนใหม่
เพราะรุ่นน้องของเธอเห็นเขาเปิดตัวกันมานานแล้ว แค่ไม่อยากให้เธอรับรู้เพราะเพิ่งคลอด เมื่อเธอโทร. ไปถามสามี เขาก็บอกว่าไม่มีอะไรจะอธิบาย
มันก็ชัดเจนหมดแล้ว
 
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส

อาจารย์เฉลิมชัย เจอคนแอบวาดกำแพงข้างวัดร่องขุ่น ประกาศหา มารับรางวัล

 
              อาจารย์เฉลิมชัย เจอคนแอบมาลบ วาดกำแพงข้างวัดร่องขุ่น ถึงกับต้องประกาศหาตัว 3 คน บอกมารับรางวัล เงินปีใหม่ ผลงานโดนใจ สุดยอดมากน้อง !



 อาจารย์เฉลิมชัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก นรินทร ทามาส

             วันที่ 8 มกราคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก นรินทร ทามาส ลูกศิษย์ใกล้ชิดผู้ติดตาม
อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ โพสต์คลิปของอาจารย์เฉลิมชัย
ที่ประกาศตามหาน้อง 3 คน ที่แอบมาลบภาพบนกำแพงข้าง ๆ วัดร่องขุ่น
แล้ววาดใหม่ พร้อมระบุว่า

             “น้องศิลปินสามคนแอบมาลบแล้ววาดใหม่ รีบมารับเงินปีใหม่จากอาจารย์ วันนี้ท่านรอพบอยู่นะ”

อาจารย์เฉลิมชัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก นรินทร ทามาส

             โดยจากคลิป
อาจารย์เฉลิมชัยถ่ายให้เห็นภาพบริเวณกำแพงดังกล่าว
ที่มีภาพวาดแนวสตรีทอาร์ตวาดไว้อย่างงดงาม พร้อมเล่าว่า เมื่อปีก่อนมีเด็ก 3
คนแอบมาวาดรูปที่ผนังนี้ ตนจึงเรียกให้มาเขียนให้เต็มที่
ใช้เวลาหลายวันก็เสร็จเรียบร้อย แต่ไม่ใช่รูปนี้ รูปที่เห็นอยู่นี้คือเด็ก ๆ
กลุ่มนี้แอบมาอีกช่วงปีใหม่ แอบมากัน 3 คน รื้อและลบภาพเดิม
วาดใหม่ทั้งหมด ออกมาเป็นผลงานที่สวยมาก
 
             น้องทั้ง 3 คน
ยังแอบเขียนชื่อและเบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วย
ซึ่งอาจารย์เฉลิมชัยได้ชื่นชมในผลงานว่าสวยมาก ฝีมือดีขึ้นมาก
ผนังนี้สุดยอดจริง ๆ พร้อมประกาศถึงน้อง ๆ ทั้ง 3 คน ให้มารับเงินหน่อย
ซึ่งหากลุงไม่อยู่ ไปขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว
ก็ได้ฝากเงินไว้ที่ผู้จัดการไว้แล้ว เป็นค่าสี ค่ากินอยู่ ให้มาได้เลย
ขอบคุณน้อง ๆ ลูกหลานที่มาเขียน  

อาจารย์เฉลิมชัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก M Narintron Ta

อาจารย์เฉลิมชัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก M Narintron Ta

พิรุธ เช็คสั่งจ่าย 100 ปี อ้างไม่เจตนา ขอเวลาตั้งเบิก 5 วัน โอนคืนหนุ่ม กรรชัย ทนายยังอึ้ง

        อลวน เช็กสั่งจ่ายอีก 100 ปี เจ้าของหมาอ้างไม่เจตนา อ้างเดี๋ยวโอนเคลียร์ แต่ขอตั้งเบิก 5 วัน ทนายฟังยังงง ไหนว่ามีเงิน – หนุ่ม กรรชัย ลั่นอย่าเหลี่ยม อีก 5 วันไม่โอน เจอแน่



เช็กสั่งจ่ายอีก 100 ปี เจ้าของหมาอ้างไม่เจตนา
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

        จากดราม่าร้อน ๆ เจ้าของโพสต์ประกาศหาหมา “ทองดี” ลั่นจะให้รางวัล 20,000 บาท ซึ่งต่อมามีประเด็นเรื่องเบี้ยวเงินรางวัล จนต้องมาเคลียร์และมอบเช็คกลางรายการโหนกระแส แต่เรื่องไม่จบ เมื่อ หนุ่ม กรรชัย ออกมาโพสต์ว่า เช็คที่คุณกล้วยจ่ายในรายการ สั่งจ่าย พ.ศ. 2558 หรืออีก 100 ปีข้างหน้า ถึงเบิกได้ ซึ่งทางเจ้าของหมาอ้าง ไม่ได้มีเจตนาเขียนผิดนั้น
 

อ่านข่าว : บทสรุปดราม่า หมาหาย มอบเช็คกลาง โหนกระแส สรุปใครได้ ? ก่อนอึ้งต่อ เมื่อรู้ปี…

        ล่าสุด (8 มกราคม 2567) รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 รายงานถึงกรณีดังกล่าว โดยเล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรายการโหนกระแสก่อนหน้านี้ ว่าทางเจ้าของร้านหมูกระทะที่เคยบอกว่าจะไม่รับเงิน เปลี่ยนจะขอรับเงิน 20,000 บาท มาให้ โอเล่ คนที่ดูแลหมา ซึ่งจะให้มีการโอนกันทันที แต่คุณกล้วย เจ้าของหมา ยืนกรานไม่ยอมโอน จะให้เป็นเช็ค

        หนุ่ม กรรชัย ยอมรับว่าตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องจ่ายเป็นเช็ค โอนไปก็ได้ แถมพกเช็คมาเป็นเล่มเลย คือเอาจริง ๆ คนเราเจตนาเนี่ย… มนุษย์เรามีเช็คได้แต่จะไม่มีแอปฯ ธนาคารเลยเหรอ สามารถโอนจากแอปฯ เลยก็ได้ จะมีเช็กเป็นเล่มไว้ทำไม ตนก็ยังงงอยู่ แต่สุดท้ายก็มีการจ่ายเช็คกัน 20,000 บาท แล้วก็แยกย้าย

เช็กสั่งจ่ายอีก 100 ปี เจ้าของหมาอ้างไม่เจตนา
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

        จริง ๆ มีการเขียนสั่งจ่ายในวันนี้ (8 มกราคม 2568) ปรากฏว่าเมื่อโอเล่ได้เช็คจากร้านหมูกระทะ ก็เอาเช็คไปเข้า ธนาคารแจ้งว่าไม่สามารถขึ้นเงินได้ กลายเป็นว่ามีการลงวันที่สั่งจ่าย 8 มกราคม 2668 แถมมีเขียนวงเล็บไว้ด้วยว่า “เคสคนเจอน้องหมา” ซึ่งจริง ๆ จะไปเขียนแบบนี้ไม่ได้ เพราะห้ามมีร่องรอยอื่น ๆ บนหน้าเช็ค ถ้าหลังเช็คเขียนได้ แต่จะเขียนบนหน้าเช็คไม่ได้

        “คุณเขียนเช็คมาเป็นเล่ม ๆ คุณต้องรู้อยู่แล้ว ว่าเขาไม่ให้มีสิ่งอื่น ๆ ไปเขียนบนหน้าเช็ค ยกเว้นตัวเลขกับชื่อบุคคล หรือผู้ถือ ต่าง ๆ นานา” หนุ่ม กรรชัย ระบุ

        ด้านคุณกล้วย เผยถึงเรื่องปีที่ระบุในเช็คว่า ตอนแรกทางทนายบอกไม่ต้องระบุวันที่ ให้ไปใส่ตอนที่เขารับกับมือเลยก็ได้ เพราะเป็นเช็คเงินสด สามารถเขียนได้เลย เราเลยเหลือวันที่ เดือน ปี เอาไว้

เช็กสั่งจ่ายอีก 100 ปี เจ้าของหมาอ้างไม่เจตนา
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

        ตอนที่เขียนเกือบจะเขียนเป็นปี 2567 ด้วยซ้ำ แล้วเพิ่งมาเป็นว่าตัวหน้าเป็นเลข 6 ยืนยันว่าเราไม่ได้มีเจตนา ถ้าเรามีเจตนาให้เขาไปเขียนเองเลยก็ได้ แต่อันนี้เขาบอกว่าเขียนเลย เราไปกังวลกับเรื่องปีนี้ 67 หรือ 68 ไม่ได้มองตัวหน้า ยังบอกทนายกุ้งอยู่เลยว่าให้เขาส่งเลขบัญชีมาเลย จะได้ไม่มีปัญหา

        อย่างไรก็ตาม หนุ่ม กรรชัย ชี้ว่า การที่ไปแก้เลข 7 เป็นเลข 8
ก็ไม่ได้ ต้องมีการเซ็นกำกับ เพราะเป็นร่องรอยการแก้ไข คุณเขียนเช็ค
คุณใช้เช็คอยู่ คุณรู้อยู่แล้วว่าถ้ามีการแก้ตัวเลข วันที่บนหน้าเช็ค
จะทำยังไง คุณต้องรู้ว่าไม่สามารถเขียนตัวหนังสืออื่นเข้าไปได้
ว่าจ่ายค่าเคสคนเจอน้องหมา ต้องไปเขียนที่หลังเช็ค แบบนี้ต่อให้วันที่ถูก
ก็ไม่ให้เบิกอยู่ดี

เช็กสั่งจ่ายอีก 100 ปี เจ้าของหมาอ้างไม่เจตนา
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

        ส่วน โอเล่  ชี้ว่า
ธนาคารแจ้งว่าไม่สามารถขึ้นเช็คได้ เพราะลง พ.ศ. 2668
และมีการเขียนว่าเคสน้องหมาด้วย ไม่รู้ว่าเด้งหรือไม่เด้ง
เขาแค่บอกว่ามันขึ้นไม่ได้ ก็ไม่ทราบว่าเจตนาหรือไม่
คือถ้าสองตัวหลังผิดยังพอเข้าใจ แต่ถ้าสองตัวหน้าผิด มันไม่น่าเป็นไปได้
มันชัดเจนมาก

        ในเรื่องนี้ ทางพี่หนุ่มก็จัดการโอนให้เรา
เข้ามาจัดการและช่วยเหลือ ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว เดี๋ยวถูกฟ้องอีก
ตนก็อยากให้จบ ๆ ไป ถ้าพี่มี พี่ก็เชียนเช็คใหม่ให้
หรือทำการโอนเงินให้ใหม่ หรือถ้าพี่ไม่มี ก็บอกว่าไม่มีก็ได้ จะได้จบสักที
มันยืดเยื้อ ทุกคนมีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบกัน

        ทั้งนี้
ปัจจุบันเช็คฉบับดังกล่าวอยู่กับ หนุ่ม กรรชัย ซึ่งได้โอนเงิน 20,000
บาทให้โอเล่ไปก่อน โดยหนุ่ม กรรชัย ชี้ว่า
ในฐานะเจ้าของรายการตนก็มีส่วนรับผิดชอบ หากตนเฉลียวใจแล้วหยิบเช็กมาดู
ก็คงรู้แล้ว แต่ตนก็ไม่ได้หยิบเช็คมาดู
ก็เลยคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นความผิดของเรา เลยคิดว่างั้นโอนเงินให้โอเล่ก่อน
แล้วเอาเช็คมาให้พี่ แล้วเดี๋ยวพี่จะไปตามทวงกับคุณกล้วยเอง
ถ้าคุณกล้วยไม่ให้พี่ก็ส่งให้ทนาย เพราะโอเล่คงไม่มีทนาย แต่พี่มี ถ้าได้
20,000 บาทคืนมา ตนก็จะเอาไปทำอย่างอื่น

เช็กสั่งจ่ายอีก 100 ปี เจ้าของหมาอ้างไม่เจตนา
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

       
โดยก่อนหน้านี้คุณกล้วยบอกให้ส่งเลขที่บัญชีมา เดี๋ยวจะโอนไป
ก็คงจะต้องเป็นการส่งเลขที่บัญชีของหนุ่ม กรรชัย เพราะได้จ่าย 20,000
บาทแก่โอเล่ไปแล้ว ในเรื่องนี้ทางทนายกุ้งก็ยืนยันว่า
ได้บอกคุณกล้วยไปแล้วว่าถ้าเป็นแบบนี้ต้องรีบโอน 20,000 บาท คืนให้พี่หนุ่ม
แต่สิ่งที่คุณกล้วยตอบกลับมาคือ ต้องไปตั้งเรื่องเบิกกับทางบริษัท
ใช้เวลาอย่างน้อย 5 วันทำการ ตอนนี้ทนายกุ้งก็ไม่รู้จะพูดยังไง

       
ทนายกุ้ง ย้ำว่าให้รีบจ่ายไป แต่คุณกล้วยยืนยันว่าต้องตั้งเบิก ใช้เวลา
3-5 วัน ตนก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าเขาไม่จ่ายก็ให้ทัวร์แวะไปหาเขา อย่ามาหาตนเลย
เพราะตนไม่มีสิทธิ์ไปบังคับเขา แล้วเขาไม่ใช่ลูกความเรา
เราก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดแล้ว

        “เขาบอกว่าเขามีเงิน
ซึ่งพี่มองว่าเงิน 20,000 มันไม่ได้มาก แต่ไม่รู้ว่า..
ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า จริง ๆ แล้วมันเป็นยังไง
เขาก็พูดเองว่าเขามีทรัพย์สินเงินทอง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นไง
แต่ตอนนี้อยากให้เขารีบจ่ายไงจะได้จบ ๆ ไป ทัวร์จะได้ไม่แวะมาหาพี่”
ทนายกุ้ง ระบุ

เช็กสั่งจ่ายอีก 100 ปี เจ้าของหมาอ้างไม่เจตนา
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

         ทั้งนี้ หนุ่ม กรรชัย ชี้ว่า ถ้าอย่างนั้น 5 วัน
ตนรอได้ แต่ถ้า 5 วันไม่โอนเงินมา 20,000 บาท ตนก็เอาเช็คให้ทนายไปจัดการ
เพราะมันมีหลักฐานทุกอย่างอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาพบนรายการ มีตัวเช็ค
คือสุดท้ายก็นั่นแหละ เจตนาอยู่ตรงไหน

         หนุ่ม กรรชัย กล่าวต่อว่า “เอาจริง ๆ มนุษย์เราอยู่กับคำว่า 2500 มาทั้งชีวิต
อย่าลืมว่าเรายืนอยู่บนโลก ยืนอยู่บนพื้นที่ของ 2500 อยู่กับ 2567 อยู่กับ
2568 เราอยู่กับ 2500 มาทั้งชีวิตจนเราตายไปก็ยังเป็น 2500 คุณก็เกิดมาเป็น
2500 แต่คุณไปเขียนเช็ค 2600

         คือถ้าคุณเขียน 2568 หรือ 2569 หรือ
2570 เราก็เข้าใจ ส่วนใหญ่คนจะเขียน 2 ตัวหลังผิด เพราะคนไทยอยู่กับ 2500
มาตลอด มันเป็นไปได้เหรอ 2668 แถมมีการแก้เลข 8 แต่ไม่ได้เหลือบมาดูเลข 6
เหรอ ไม่รู้สิ ผมก็บอกเขาไปแล้วว่าไม่ต้องเหลี่ยมหรอก”

ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

หยางเจ๋อฉี นายแบบจีน หายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา ชี้คดีเหมือนซิงซิง

         โผล่อีก ญาติวอนช่วย หยางเจ๋อฉี นายแบบหนุ่มจีน หายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา เหมือนเคสซิงซิง พบตอนวิดีโอคอลกลับมา มีแผล-สภาพไม่สู้ดี



หยางเจ๋อฉี นายแบบจีน หายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา ชี้คดีเหมือนซิงซิง
ภาพจาก Weibo 古德牟宁

          เป็นประเด็นร้อนระดับประเทศ กรณี ซิงซิง  นักแสดงหนุ่มชาวจีน ถูกมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นบริษัทบันเทิง หลอกมาถ่ายงานที่ไทย ก่อนพาตัวข้ามชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งทางการไทยได้ประสานเรื่องจนช่วยเหลือได้สำเร็จ แต่ข่าวที่ปรากฏส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยที่ถูกใช้เป็นเส้นทางของกลุ่มอาชญากรรม และมีการเปิดเผยว่า ซิงซิง ไม่ใช่คนแรกที่ตกเป็นเหยื่อในลักษณะนี้

          ล่าสุด (9 มกราคม 2568) เว็บไซต์ 163.com รายงานว่า หลังมีกระแสข่าวของซิงซิง ในช่วงเย็นวานนี้ (8 มกราคม) ก็ได้มีผู้ใช้ Weibo อีกราย ออกมาโพสต์ขอความช่วยเหลือ หยางเจ๋อฉี นายแบบหนุ่มวัย 25 ปี ซึ่งขาดการติดต่อไปที่ชายแดนไทย-เมียนมา ลักษณะเดียวกับซิงซิง

หยางเจ๋อฉี นายแบบจีน หายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา ชี้คดีเหมือนซิงซิง
ภาพจาก Weibo 古德牟宁

          โดยเจ้าของโพสต์ซึ่งเป็นญาติของ หยางเจ๋อฉี ระบุว่า หยางเจ๋อฉีมาถ่ายงานที่ไทยและขาดการติดต่อไปที่ชายแดนไทย-เมียนมา ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2567 เวลา 14.00 น. ตามเวลาประเทศจีน (13.00 น. เวลาประเทศไทย) ทางครอบครัวได้เห็นรายละเอียดการหายตัวไปของซิงซิง และพบว่ามีลักษณะเหมือนกันมาก ตอนนี้พวกเขาจึงต้องมาโพสต์ข้อความช่วยเหลือบนโลกออนไลน์ และอยากติดต่อครอบครัวของนักแสดงซิงซิงด้วยเช่นกัน

          สำหรับ หยางเจ๋อฉี เป็นคนมณฑลเหอเป่ย์ เคยมีผลงานถ่ายแบบและงานแสดงมาก่อน โดยเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม เขาได้รับข้อมูลผ่านกลุ่ม WeChat และได้เพิ่มรายชื่อติดต่อเพื่อเข้าร่วมโปรเจกต์ เขาผ่านการสัมภาษณ์กับการออดิชั่น และยังแนะนำเพื่อนคนอื่น ๆ ให้มาร่วมสัมภาษณ์ด้วย แต่เพราะติดเรื่องตารางเวลา เพื่อนจึงไม่ได้สมัคร

หยางเจ๋อฉี นายแบบจีน หายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา ชี้คดีเหมือนซิงซิง
ภาพจาก Weibo 古德牟宁

หยางเจ๋อฉี นายแบบจีน หายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา ชี้คดีเหมือนซิงซิง
ภาพจาก Weibo 古德牟宁

          จากนั้นหยางเจ๋อฉีไปทำพาสปอร์ตด้วยตัวเอง
เพื่อเตรียมาเดินทางมาประเทศไทย และขึ้นเครื่องบินจากปักกิ่ง เที่ยวบิน
VZ3719 มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 20 ธันวาคม เวลา 06.16 น.
ตามเวลาประเทศไทย ก่อนจะขึ้นรถที่ทีมงานส่งมารับ และเปลี่ยนไปยังรถอีกคัน
หยางเจ๋อฉียังเซฟภาพจากแอปฯ แผนที่
เผยให้เห็นตำแหน่งของเขาว่าอยู่ที่ชายแดนไทย-เมียนมา

หยางเจ๋อฉี นายแบบจีน หายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา ชี้คดีเหมือนซิงซิง
ภาพจาก Weibo 古德牟宁

         
วันที่ 21 ธันวาคม หยางเจ๋อฉีส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ
ก่อนจะขาดการติดต่อไป และปิดเครื่องโทรศัพท์ หลังจากนั้น เพื่อน ๆ
จึงติดต่อหาพ่อแม่ของเขาทันที และไปแจ้งเรื่องต่อทางการ

         
กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 29 ธันวาคม หยางเจ๋อฉีวิดีโอคอลมาคุยกับแม่ของเขา
บอกว่าเขาปลอดภัยดี แต่ในคลิปหยางเจ๋อฉีสวมชุดสีดำ นั่งบนเก้าอี้
วางมือบนโต๊ะ แต่ที่ขอบตาของเขามีแผล และอยู่ในสภาพไม่สู้ดีอย่างเห็นได้ชัด
โทรศัพท์ของเขาถูกปิดเครื่องอีกครั้ง และขาดการติดต่อไป

หยางเจ๋อฉี นายแบบจีน หายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา ชี้คดีเหมือนซิงซิง
ภาพจาก Weibo 古德牟宁

         
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ครอบครัวได้ติดต่อสถานทูตในประเทศไทยและเมียนมาแล้ว
แต่ระหว่างรอตำรวจสืบสวน ครอบครัวของหยางเจ๋อฉีเห็นข่าวของซิงซิง
ที่มีรายละเอียดเหมือนกันมาก ทำให้ครอบครัวเป็นกังวล
และเลือกจะใช้วิธีการเดียวกันในการขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ต

         
ทั้งนี้ ผู้โพสต์ระบุว่า
เขาเองก็ดีใจที่ทราบว่าซิงซิงได้กลับมาเจอครอบครัวแล้ว
และก็หวังว่าเรื่องของหยางเจ๋อฉีจะได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเช่นกัน
 
         
163.com ระบุว่า
ญาติของหยางเจ๋อฉียืนยันกับนักข่าวว่าเนื้อหาในโพสต์ดังกล่าวเป็นความจริง
ตอนนี้ทางครอบครัวแจ้งตำรวจแล้ว  

หยางเจ๋อฉี นายแบบจีน หายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา ชี้คดีเหมือนซิงซิง

หยางเจ๋อฉี นายแบบจีน หายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา ชี้คดีเหมือนซิงซิง

หยางเจ๋อฉี นายแบบจีน หายตัวที่ชายแดนไทย-เมียนมา ชี้คดีเหมือนซิงซิง

ขอบคุณข้อมูลจาก 163.com, Weibo 古德牟宁