ผู้เขียน: admin

          อัยการคนสวย โพสต์ภาพแช่น้ำร้อนสุดเซ็กซี่ โชว์เรือนร่างชวนใจสั่น ความจริงของเธอทำคนตกตะลึง เนียนตาได้ขนาดนี้

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 樂樂檢察官

          วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ ETtoday เผยเรื่องราวของ เฉินฮั่นจาง อัยการประจำสำนักงานอัยการเขตนิวไทเป ของไต้หวัน หรือที่รู้จักบนโซเชียลมีเดียว่า เล่อเจี้ยน ด้วยความสามารถจากหน้าที่การทำงาน ประกอบกับมีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามน่าดึงดูด เธอจึงได้รับความนิยมเป็นที่ชื่นชอบ จนได้ฉายาว่า นางฟ้าอัยการคนสวย และอัยการที่สวยที่สุดของไต้หวัน

          ล่าสุด เมื่อไม่นานมานี้ อัยการคนสวยได้โพสต์ภาพผ่านทางโซเชียลมีเดีย แชร์ประสบการณ์ขณะไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่ผ่านมา โดยทริปนี้เล่อเจี้ยน ได้สร้างเซอร์ไพรส์ชวนฮือฮาให้กับแฟน ๆ โดยเธอได้ลงแช่น้ำพุร้อนโดยโชว์เรือนร่างให้เห็นแบบทั้งตัว

          ในรูปภาพดังกล่าว เล่อเจี้ยนได้รวบผมขึ้น เผยความงามของใบหน้า พร้อมเผยให้เห็นผิวขาวเนียนละมุนตา แม้ตัวจะอยู่ใต้น้ำแต่ก็สามารถมองเห็นท่วงท่าการโพสที่ดูอ่อนหวาน สดใสเปลั่งประกาย และดูน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน ชวนให้คนดูได้ใจสั่นไปตาม ๆ กันเลยทีเดียว

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 樂樂檢察官

          ภาพของเล่อเจี้ยนได้รับความสนใจไม่เพียงแค่ในกลุ่มผู้ที่ติดตาม แต่ยังรวมไปถึงคนอื่น ๆ ในโลกออนไลน์ ซึ่งบางคนตกตะลึงเมื่อได้รู้ความจริงว่า แท้จริงแล้วเขาเป็นผู้ชาย ทั้งยังมีภรรยาและลูกชายด้วย แต่เขาเป็นคนกล้าหาญพอที่จะเป็นตัวของตัวเอง ด้วยรสนิยมความชอบส่วนตัวเช่นนี้ ทำให้เล่อเจี้ยนเลือกที่จะสวมเสื้อผ้าและแต่งตัวสวยงามเช่นผู้หญิง รวมถึงยังได้ไปศัลยกรรมหน้าอกด้วย

          เล่อเจี้ยน เขียนข้อความในโพสต์เผยว่า “หลังจากหลายปี
ครอบครัวของเราได้กลับมารวมตัวกันที่เกียวโตอีกครั้งในปีนี้
อากาศในญี่ปุ่นหนาวมาก พ่อแม่ของฉันไม่ค่อยอยากออกไปข้างนอกในวันธรรมดา
ดังนั้นภรรยาที่เอาใจใส่ของฉัน
จึงแนะนำให้พาพ่อแม่ไปอาบน้ำที่โอโกโตะออนเซ็น”

         
เล่อเจี้ยน กล่าวอย่างเขินอายว่า “การอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อนนั้นสบายตัวมาก
อุณหภูมิของน้ำก็ดีมาก และผิวของฉันก็เรียบเนียนมากหลังอาบน้ำ
ทุกคนรู้ดีว่าฉันไม่ใช่คนประเภทที่กล้าโชว์หุ่น
ดังนั้นรูปถ่ายตอนอาบน้ำนี้จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับฉัน”
และเขากล่าวติดตลกว่า “ถ้าคุณไม่อยากเห็นรูปนี้
โปรดเลื่อนผ่านและไม่ต้องสนใจมัน”

          ทั้งนี้
เล่อเจี้ยนยังได้ขอบคุณแฟน ๆ ของเขาด้วยว่า
“ขอบคุณสำหรับการซับพอร์ตของพวกคุณในปีนี้ พลังงานบวกและกำลังใจของพวกคุณ
ทำให้ฉันก้าวต่อไปได้ โปรดมอบความรักให้ฉันต่อไปในปีนี้ด้วยเช่นกัน”

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 樂樂檢察官

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 樂樂檢察官

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 樂樂檢察官

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 樂樂檢察官

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 樂樂檢察官

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday

          รังสิตเดือด ! LGBTQ+ ระดมกำลังเป็นพัน ล้อมคอนโด ล่าตัวรุ่นพี่สาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้อง รับไม่ได้ไร้ท่าทีสลด ปักหลักกันข้ามคืน กดดันให้ขอโทษ

ภาพจาก ช่อง 3

          เป็นประเด็นเดือดในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หลังเกิดกรณีของนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกกลุ่มรุ่นพี่ซึ่งเป็น LGBTQ+ เหม็นขี้หน้า เข้าไปกลั่นแกล้งด้วยการตักน้ำซุปร้อน ๆ ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวมาราดใส่หลายครั้ง ซ้ำยังบังคับให้เอาซุปราดตัวเอง จับรุ่นน้องกร้อนผม และสั่งให้ดร็อปเรียน

          ต่อมารุ่นน้องได้ร้องเรียนกับ กัน จอมพลัง กระทั่งพบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกแก๊งรุ่นพี่ LGBTQ+ ทำร้ายอีก จึงพามาแจ้งความเพิ่มอีก 4 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นเผยว่าเคยทำงานส่งของให้รุ่นพี่ เพิ่งมารู้ที่หลังว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า ต่อมาตนแพ็คของผิดพลาดทำให้หายไป รุ่นพี่เลยบังคับให้ตนใช้เงินคืน 10 เท่า รวมเป็นเงิน 180,000 บาท สุดท้ายยอมลดเหลือ 45,000 บาท โดยบังคับให้ตนเซ็นสัญญากู้เงิน ให้ทำงานใช้หนี้ จากนั้นยังเรียกพวกมากว่า 10 คน ถ่ายคลิปทำร่ายร่างกายตน และขู่ว่ารู้จักกับตำรวจ หากแจ้งความจะทำให้หายไปจากโลก

          จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น
ทำให้ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (8 กุมภาพันธ์ 2568)
มีการรวมตัวกันครั้งใหญ่ของกลุ่ม LGBTQ+
บริเวณคอนโดแห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง
จ.ปทุมธานี เพื่อเรียกร้องให้กลุ่มผู้ก่อเหตุลงมาขอโทษ หลังราดน้ำซุปร้อน ๆ
ใส่หลังรุนน้องจนได้รับบาดเจ็บ

ภาพจาก Manatsanan Junsawang

         
ขณะที่ข่าวช่อง 3 รายงานว่า จากการสอบถาม นายบิ๊ก คาลิปโซ่ ตัวแทนกลุ่ม
LGBTQ+ เผยว่า
การมารวมตัวกันครั้งนี้แค่อยากให้ผู้ก่อเหตุที่ใช้น้ำซุปราดรุ่นน้องถึง 3
ครั้ง มาขอโทษ ซึ่งตั้งแต่เมื่อวานผู้ก่อเหตุไม่มีท่าทีสลดเลย
พวกตนแค่อยากให้เขามาขอโทษผู้เสียหายเท่านั้น พวกเราเป็นชาวสีม่วงด้วยกัน
ต้องรักกัน

          ต่อมา กัน จอมพลัง เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ ซึ่ง กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ที่น้อง ๆ
กลุ่ม LGBTQ+ กว่าพันคนมารวมตัวกัน เพราะแสดงให้เห็นว่ากลุ่ม LGBTQ+
นั้นรักกัน เพราะทั้งผู้กระทำและผู้ที่ถูกกระทำต่างก็เป็น LGBTQ+ เหมือนกัน
ไม่เห็นด้วยกับการกระทำรุนแรง และพวกนี้ไม่ได้มาทำร้ายอะไร
ตนมองว่าเคสนี้ผู้กระทำผิดหนีไม่รอด
เพราะทางตำรวจรับปากแล้วว่าจะทำคดีอย่างเต็มที่

ภาพจาก ช่อง 3

          ทั้งนี้
พบว่ากลุ่ม LGBTQ+ นับพัน
ได้ปักหลักรวมตัวกันล้อมคอนโดของรุ่นพี่ที่ก่อเหตุไว้นานหลายชั่วโมง
โดยมีตัวแทนกลุ่ม LGBTQ+ คอยไลฟ์อัปเดตสถานการณ์
ซึ่งสุดท้ายมีการเปิดเผยว่าตัวรุ่นพี่นั้นไม่อยู่ที่ห้อง
และขอให้ทางกลุ่มแยกย้ายกลับไปก่อน

ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว

ภาพจาก Manatsanan Junsawang

ภาพจาก Manatsanan Junsawang

ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3, ช่อง 3

          มือสาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้อง โพสต์แล้ว ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยันสำนึกผิดแล้ว น้อมรับผิด ที่เหลือขอให้เป็นเรื่องของตำรวจ พร้อมชี้แจง

ภาพจาก ช่อง 3

          จากกรณีกลุ่ม LGBTQ+ เดือด นัดรวมตัวที่คอนโดย่านรังสิตในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (8 กุมภาพันธ์ 2568) หวังกดดันให้รุ่นพี่ LGBTQ+ ที่ราดน้ำซุปร้อนใส่รุ่นน้อง พร้อมกร้อนผม สั่งให้ดร็อปเรียน ออกมาขอโทษเหยื่อ หลังพบว่าผู้กระทำไร้ท่าทีสลด แต่พบว่าในช่วงที่มีการล้อมคอนโดนั้น รุ่นพี่ที่ก่อเหตุไม่อยู่ในห้อง

          ล่าสุด (9 กุมภาพันธ์ 2567) เพจ บันเทิงหน้าตุ๊ด รายงานว่า รุ่นพี่ที่สาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้อง ได้ออกมาโพสต์ข้อความผิดอินสตาแกรมแล้ว โดยระบุว่า

          “ผมอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ตัว P เองสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จริง ๆ P
ไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือคิดที่จะเงียบหนีหาย
ไม่ได้มีเจตนาที่คิดจะนิ่งไม่รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
ต่อไปให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่นะครับ ทั้งหมดนี้ P ของยอมรับผิด
และพร้อมจะชี้แจงประเด็นต่าง ๆ กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ ขอโทษครับ”

ภาพจาก เฟซบุ๊ก บันเทิงหน้าตุ๊ด

         
ทั้งนี้ ตรวจสอบพบว่าในอินสตาแกรมของรุ่นพี่ดังกล่าว
ได้ลบหรือซ่อนโพสต์อื่น ๆ ไว้จนหมด เหลือเพียงโพสต์ขอโทษข้างต้น
ซึ่งมีการปิดไม่ให้แสดงความคิดเห็นไว้

          เปิดวีรกรรมแสบ หญิงโบกรถหาเจ้าบ่าวจากข้างทาง ลวงไปจัดงานแต่งปลอม ๆ จนหลอกเอาเงินจากญาติมาได้มากกว่า 55 ล้าน

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เผยเรื่องราวที่สร้างความตกตะลึงบนสังคมออนไลน์ของจีน เมื่อไม่นานมานี้ ช่องโทรทัศน์เซี่ยงไฮ้ทีวี ได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับหญิงรายหนึ่ง วัย 40 ปี ซึ่งได้วางแผนฉากใหญ่จัดงานแต่งงานปลอม ๆ ขึ้นมากับเจ้าบ่าวที่หาเอาจากข้างทาง จนกระทั่งสามารถหลอกลวงเอาเงินจากญาติ ๆ ของตัวเองไปได้มากกว่าหลายสิบล้าน

          รานงานเผยว่า หญิงรายนี้ชื่อสกุลเหมิง อาศัยในเมื่องเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อปี 2557 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กที่เธอบริหารเกิดวิกฤตล้มละลาย ต่อมาเธอจึงคิดวางแผนหาวิธีที่จะได้เงินก้อนใหญ่ จนในที่สุดก็ได้ไอเดียว่า เธอจะแกล้งทำเป็นว่าแต่งงานกับคนรวย เพื่อให้ญาติของเธอตกหลุมพราง 

          เหมิงใช้วิธีการที่น่าเหลือเชื่อในการหาเจ้าบ่าว
นั่นคือการสุ่มโบกหาคนขับรถจากข้างทาง
กระทั่งมีชายรายหนึ่งชื่อสกุลเจียงมาจอดรับเธอ
เธอก็โน้มน้าวให้เขามาเป็นเจ้าบ่าวจำเป็น โดยอ้างว่า
เธอถูกครอบครัวกดดันเพราะอายุมากแล้วแต่ยังไม่ได้แต่งงาน
จนสุดท้ายเขาก็ยอมตกลงไปแต่งงานด้วย  

         
เหมิงบอกกับบรรดาญาติของเธอที่มาร่วมงานแต่งงานว่า สามีของเธอมีฐานะร่ำรวย
เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
รับผิดชอบโครงการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่มากมาย
เขามีคอนเนคชั่นในแวดวงธุรกิจที่จะทำให้สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ
ได้ในราคาถูก

         
เหมิงเริ่มใช้กุลอุบายโดยการไปซื้ออพาร์ตเมนต์ห้องหนึ่งในราคา 1 ล้านหยวน
(ราว 4.6 ล้านบาท) แล้วขายให้ลูกพี่ลูกน้องของเธอในราคาเพียงครึ่งเดียว
จากนั้นก็ให้เขาไปบอกญาติ ๆ คนอื่นว่า ที่เขาซื้อได้ราคาถูกเช่นนี้
เป็นเพราะเส้นสายของเหมิงและสามี

          นอกจากนี้
เหมิงยังพาพาญาติ ๆ ของเธอไปเยี่ยมดูโครงการที่พักอาศัยใหม่ของชุมชน
และทำเป็นอ้างว่า เธอสามารถขอลดราคาลงได้ 5,000 หยวน (ราว 23,000 บาท)
ต่อตารางเมตร ซึ่งถูกกว่าราคาปกติประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์

         
ด้วยเหตุนี้ ทางญาติของเหมิงหลายคนจึงหลงเชื่อ
คิดว่าเหมิงและสามีของเธอจะช่วยทำให้พวกเขาได้ผลประโยชน์ที่คุ้มค่า
มีญาติของเธออย่างน้อย 5 ราย
ยอมควักเงินก้อนโตให้กับเหมิงเพื่อนำไปซื้ออพาร์ตเมนต์
บางคนถึงขนาดขายอพาร์ตเมนต์เก่าของตัวเอง
โดยหวังว่าจะได้ย้ายไปอยู่ที่ใหม่ที่ดีกว่า

         
หลังจากได้เงินไปโดยรวมกว่า 12 ล้านหยวน (ราว 55 ล้านบาท)
เหมิงก็พยายามยื้อเวลาไปเรื่อย ๆ
อ้างว่าต้องใช้เวลาในการจัดเตรียมส่วนลดต่าง ๆ นานา จนในปี 2561-2562
เหมิงก็ไปหาเช่าอพาร์ตเมนต์ห้องชุดที่ติดกัน
เพื่อใช้หลอกญาติว่าเป็นอพาร์ตเมนต์ที่พวกเขาซื้อ ทั้งยังอ้างว่า
ไม่สามารถออกเอกสารใบรับรองการเป็นเจ้าของทรัพย์สินได้
เนื่องจากซื้อในราคาส่วนลดมากกว่าปกติ  

         
เมื่อเห็นถึงความผิดปกติ ญาติผู้หญิงรายหนึ่งรู้สึกไม่ชอบมาพากล
จึงได้ไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ก่อนที่จะรู้ความจริงว่า อพาร์ตเมนต์ที่เธออยู่นั้นไม่ใช่ของเธอ
เรื่องราวจึงถูกเปิดโปงขึ้นมา ทำให้ญาติคนอื่น ๆ รู้ตัวว่าถูกหลอก
มีหนึ่งในเหยื่อของเธอยังเสียเงินเพิ่มเติมสำหรับค่าตกแต่งภายในอีกกว่า
100,000 หยวน (ราว 467,000 บาท)

         
ภายหลังจากมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับเหมิง ในที่สุดเมื่อเร็ว ๆ นี้
ศาลมีคำสั่งให้จำคุกเธอเป็นเวลา 12 ปี 6 เดือน ในความผิดฐานฉ้อโกง
ส่วนสามีปลอมของเธอที่มีส่วนร่วมด้วย ได้รับโทษจำคุก 6 ปี
เพราะเขาเป็นคนเซ็นสัญญาเช่ากับเจ้าของอพาร์ตเมนต์ตัวจริง
ส่วนลูกพี่ลูกน้องของเธอที่โกหกญาติ ก็ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน
โดยได้รับโทษจำคุก 5 ปี

ขอบคุณข้อมูลจาก South China Morning Post

          สาวขับรถกลับบ้าน โชคดีเจอสัตว์หายากสีขาวราวหิมะ ปรากฏตัวในท่าทางงดงามสง่า อย่างกับหลุดมาจากเทพนิยาย

ภาพจาก TikTok @carolynnrs

          วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์มิเรอร์มีเดียเผยว่า มีคลิปวิดีโอน่าทึ่งเป็นไวรัลในต่างประเทศ เมื่อหญิงรายหนึ่งในสหรัฐฯ ได้อัปโหลดคลิปวิดีโอเหตุการณ์ไม่คาดฝันในระหว่างที่เธอกำลังขับรถกลับบ้าน เธอได้บังเอิญเจอกับสัตว์หายากโผล่ออกมาอยู่ที่ข้างถนน จนกลายเป็นโมเมนต์สุดล้ำค่าที่สร้างความประทับใจไปตามกัน

          ผู้ใช้บัญชี TikTok @carolynnrs ได้โพสต์คลิปวิดีโอเมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นกวางสีขาวผุดผ่องตัวหนึ่ง ยืนนิ่งอยู่ริมถนนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ สีขาวของมันกลมกลืนไปกับสีของหิมะที่ขาวโพลน ทำให้ดูเหมือนว่ามันมีออร่าเปล่งประกายออกมาจากตัว มันปรากฎตัวอยู่ในที่ท่าทางที่งามสง่า ขณะที่ด้านหลังเป็นป่าในฤดูหนาว ฉากที่เห็นราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย

ภาพจาก TikTok @carolynnrs

          หญิงผู้โพสต์คลิปวิดีโอระบุแคปชั่นว่า “แบ่งปันช่วงเวลาอันแสนมหัศจรรย์กับสาวสวยคนนี้ ระหว่างทางกลับบ้านจากที่ทำงาน”

         
หลังจากนั้นไม่นานคลิปวิดีโอดังกล่าวก็ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว
มีผู้เข้าไปชมมากกว่า 3.2 ล้านครั้ง และกดถูกใจมากกว่า 5 แสนครั้ง
หลายคนต่างพากันเข้าไปแสดงความตกตตะลึง
และชื่นชมความงดงามของกวางเผือกตัวนี้ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าหาพบได้ยากมาก
ผู้ที่พบเห็นมันเช่นนี้จึงนับว่าโชคดีมาก

          “กวางขาวจากแดนมหัศจรรย์”

ภาพจาก TikTok @carolynnrs

         
ทั้งนี้ จากสถิติตามข้อมูลของ National Deer Association
องค์กรอนุรักษ์กวางป่าที่ไม่แสวงหากำไรของสหรัฐอเมริกา ได้ระบุว่า
กวางเผือก (Albino Deer) เป็นสัตว์หายากมากตามธรรมชาติ มีโอกาสเกิดน้อยมาก
คือ 1 ใน 30,000 เท่านั้น

         
โดยภาวะเผือกในกวางเกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่ไปขัดขวางการผลิตเมลานิน
ซึ่งเป็นเม็ดสีที่ทำหน้าที่ควบคุมสีผิว ขน และเนื้อเยื่อให้เป็นไปตามปกติ
กวางที่จะเกิดมาเป็นกวางเผือกได้นั้น พ่อแม่ทั้งสองจะต้องมียีนด้อย

ภาพจาก TikTok @carolynnrs

         
ลักษณะของกวางเผือก จะมีขนเป็นสีขาวทั้งหมด บางตัวอาจมีสีออกขาวเหลือง
เนื่องจากเม็ดสีที่แตกต่างกัน แต่กวางเผือกส่วนใหญ่มีขนเป็นสีขาวบริสุทธิ์
ตาและจมูกเป็นสีชมพู กีบเท้าเป็นสีชมพู-ขาว ภายในหูเป็นสีชมพู และเขาเป็นสี
ขาว-ชมพู   

ภาพจาก TikTok @carolynnrs

ภาพจาก TikTok @carolynnrs

ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media, Newsweek

          เชฟหมี ครัวกาก ๆ หรือ ตุล คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ ศิลปากร เสียชีวิตแล้ว คนร่วมโพสต์อาลัย ภรรยาเผยสาเหตุการเสียชีวิต ต้องทำ CPR ยื้อชีวิต

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Vichak Panich

          วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เฟซบุ๊ก Vichak Panich มีการโพสต์ข้อความว่า ตุล – อ.ตุล คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง ผู้เป็นที่รักของทุกคน จากไปอย่างสงบ เมื่อเวลา 20.51 น. ของวันที่ 8
กุมภาพันธ์ 2568

         
หลังจากนี้ญาติจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดที่ จ.ระนอง
ซึ่งรายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
สิ่งที่ดีที่สุดที่ทุกท่านสามารถทำได้เมื่อได้รับทราบข่าวนี้ คือ
ร่วมภาวนาส่ง อ.ตุล จากที่ใดก็ได้
ร่วมส่งกัลยาณมิตรอันประเสริฐสู่ดินแดนสุขาวดีร่วมกัน

         
สำหรับ ประวัติเชฟหมี ผศ.คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง เป็นอาจารย์คณะอักษรศาสตร์
มหาวิทยาลัยศิลปากร เชี่ยวชาญในปรัชญาอินเดีย และปรัชญาอื่น ๆ
ถูกรู้จักกันในนามว่า เชฟหมี จากรายการครัวกาก ๆ

* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุด วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 12.27 น.

          ชายถูกรางวัลได้ล่องเรือสำราญหรูแบบฟรี ๆ กับแฟนสาว แต่ลงเอยด้วยการติดหวัดบนเรือ เจอค่ารักษาสูงปรี๊ด 1.5 ล้าน

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ เผยเรื่องราวของไมค์ คาเมรอน ชายชาวอเมริกัน จากรัฐมินนิโซตา เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์ความโชคดีที่มาพร้อมกับความโชคร้ายขั้นกว่าอย่างที่คาดไม่ถึง เมื่อเขาถูกรางวัลได้ไปทริปล่องเรือสำราญฟรี แต่ผลสุดท้ายเขากลับต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนมหาศาล

          คาเมรอนเผยว่า เขาและทามารา มาสเตอร์แมน แฟนสาวของเขา ถูกรางวัลจากคาสิโน Grand Casino Hinckley เป็นทริปล่องเรือสำราญฟรีกับทาง Norwegian Cruise ซึ่งออกเดินทางจากไมอามี เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา ในตอนแรกเขาดีใจมาก เพราะมันเป็นทริปในฝันของเขาที่ได้ล่องเรือสำราญหรูเดินทางท่องเที่ยวไปยังเขตร้อนในทะเลแคริบเบียน

          แต่แล้วอยู่ ๆ ฝันที่แสนสวยงามของเขากลับสะดุด
เมื่อเขาเกิดติดหวัดไม่สบาย
เขาจึงได้ไปเข้ารับการรักษาที่ศูนย์บริการทางการแพทย์บนเรือสำราญ
และอาการดีขึ้นใน 3 วันต่อมา ตอนนั้นดูเหมือนว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
เขาและแฟนสาวก็ใช้เวลาบนเรือสำราญต่อจนจบทริป

         
แต่ปรากฏว่าพอถึงตอนนั้น คาเมรอนต้องเชิญกับฝันร้ายของจริง
เมื่อเขาเจอบิลเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนมากถึง 47,000 ดอลลาร์
หรือประมาณ 1.59 ล้านบาท เขารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เพราะไม่คิดว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้
อีกทั้งตอนที่เขาไปรักษาที่บนเรือ
ทางลูกเรือก็ให้ความมั่นใจกับเขาว่าไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย  

          “เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งในแผนกผู้ป่วยบนเรือบอกว่า เรามีประกันการเดินทางและนั่นหมายถึงความคุ้มครอง 20,000 ดอลลาร์” คาเมรอน กล่าว

         
อย่างไรก็ตาม
ผลสุดท้ายคาเมรอนกลับเจอปัญหากับทางบริษัทประกันทำให้ต้องรับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองเกือบ
5 หมื่นดอลลาร์ โดยเขาใช้บัตรเครดิตจ่ายไปจนเต็มวงเงิน
และยังเหลือที่ติดค้างไว้อีก 21,000 ดอลลาร์ (ราว 711,000 บาท)

          “ประกันการเดินทางจะไม่จ่าย จนกว่าจะได้รับอนุมัติจากประกันสุขภาพของเรา ส่วนประกันสุขภาพของเราก็ไม่จ่ายให้เพราะอยู่ต่างประเทศ” คาเมรอน กล่าว พร้อมทั้งเตือนว่า “อยากให้ทุกคนได้ตระหนักว่า หากคุณจะล่องเรือ
ให้แน่ใจว่าคุณมีประกันภัยการเดินทางที่ดี เพราะเมื่อคุณออกสู่น่านน้ำสากล
เรื่องราวจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง”

          ทั้งนี้ทั้งนั้น ในจดหมายแจ้งของทางบริษัทเรือสำราญ Norwegian Cruise ได้กล่าวว่า “การกำหนดราคา (ค่ารักษาพยายาบาล) นั้น ใกล้เคียงกับบริษัทเดินเรืออื่น ๆ และเราเชื่อว่าราคานี้ยุติธรรมและสมเหตุสมผล”

ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post

          นักโทษชายจำนวนหลายพัน แหกคุกประเทศคองโก หลบหนีจากเรีอนจำ ไล่ข่มขืนผู้หญิง จุดไฟเผาทั้งเป็นมากกว่า 165 ชีวิต

ภาพจาก X@C_NyaKundiH

          เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักข่าวบีบีซี และซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เกิดเหตุจลาจลครั้งใหญ่ นักโทษชายจำนวนมากกว่า 4,000 ราย แหกคุกหลบหนีออกมาจากเรือนจำมุนเซนเซ (Muzenze) ในเมืองโกมา ประเทศคองโก เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ภายหลังจากนักรบจากกลุ่มกบฏ M23 เริ่มเข้ายึดครองเมือง จนทำให้สถานการณ์ในเมืองตกอยู่ในความโกลาหล

          ตามรายงานของสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า ในระหว่างที่ก่อเหตุแหกคุกหมู่ ฝูงนักโทษชายได้ข่มขืนนักโทษหญิงจำนวนมากถึง 165-167 ราย ก่อนที่จะจุดไฟเผาร่างทั้งเป็นไปพร้อมกับการวางเพลิงเผาเรือนจำ โดยมีนักโทษชายบางรายถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำสังหาร แต่หลายรายหลบหนีไปได้

ภาพจาก X@C_NyaKundiH

          เซฟ มากังโก
โฆษกสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็น กล่าว่า
ว่านักโทษหญิง 165 รายที่ถูกข่มขืนโดยนักโทษชายที่หลบหนี
ส่วนใหญ่เสียชีวิตในกองเพลิง มีเพียง 9-13 รายที่รอดชีวิตจากกองเพลิง

         
คลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นจากภายนอกเรือนจำ
มีเปลวไฟและกลุ่มควันพวยพุ่ง
กลุ่มคนจำนวนมากซึ่งเชื่อว่าเป็นนักโทษกำลังวิ่งหนีออกมา
ในขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภาพจาก X@C_NyaKundiH

         
โดยภายหลังจากเกิดเหตุ
ปัจจุบันสภาพของเรือนจำแห่งนี้เหลือเพียงแต่ซากความเสียหาย
และถูกปล่อยทิ้งไว้เช่นนั้น ในขณะที่ แพทริค มูยายา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารของคองโก
เผยแถลงการณ์ประณามเหตุประณามอาชญากรรมอันโหดร้ายและโหดเหี้ยมครั้งนี้

         
เมืองโกมา เป็นเมืองใหญ่ในประเทศคองโก มีประชากรมากกว่าล้านราย
โดยกลุ่มกบฏ M23 ที่ได้รับการสนับสนุนจากรวันดา ประเทศในแอฟริกา
ได้รุกคืบเข้ามายึดครองพื้นที่อย่างรวดเร็วผ่านทางฝั่งตะวันออกของคองโก
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เมืองโกมาตกอยู่ในความโกลาหล
มีศพถูกทิ้งเกลื่อนท้องถนน
และมีขีปนาวุธถูกยิงตกลงมาใส่พื้นที่ชุมชนและบ้านเรือนประชาชน

         
ภายหลังจากโจมตีในเมืองโกมา UN รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย
2,900 ราย โดยมีศพถูกฝัง 2,000 ศพ และอีก 900 ศพ
ยังคงอยู่ในห้องเก็บศพของเมือง

ขอบคุณข้อมูลจาก BBC, CNN

          ว่อนข่าว พนักงานโรงงานดัง รับหนังสือเลิกจ้างทางการ เกือบพันชีวิต จ่อปิดโรงงานปลายปี

          วานนี้ (7 กุมภาพันธ์ 2568) โลกออนไลน์มีกระแสข่าวกรณีโรงงานดังแห่งหนึ่ง เลิกจ้างพนักงานเกือบ 1 พันคน โดยเฟซบุ๊กเพจ “บ่อวิน ปลวกแดง” ระบุว่า “พนักงานรับหนังสือเลิกจ้าง พร้อมกับข้อตกลง ตามกฎหมาย ปิดไปอีกโรงแล้ว เลิกจ้าง ปิดโรงงาน เกือบ 1 พันคน ปีนี้โบกมือบ๊ายบาย ประเทศไทย”

          พร้อมเปิดเผยว่า ทางโรงงานดังกล่าวมีแผนยุติการผลิต
ปิดโรงงานในไทยในช่วงปลายปี และจะใช้วิธีการนำเข้าสินค้ามาขายในประเทศแทน
ซึ่งแม้จะมีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้
แต่ทางพนักงานเพิ่งได้รับเอกสารเลิกจ้างอย่างเป็นทางการ