KUBET – ลูกจ้างถูกเฆี่ยนตีทั้งหลัง เจ้านายแจงปมลงโทษ ย้ำเลี้ยงดูเหมือนลูก

        ลูกจ้างสาวสุดทน โดนนายจ้างเฆี่ยนตีเต็มหลัง เคยถูกน้ำแกงสาด ด้านเจ้านายแจงเลี้ยงดูเหมือนคนในครอบครัว เผยสาเหตุที่โมโห



ลูกจ้างร้องถูกทำร้าย เจ้านายแจงสั่งสอน ย้ำเลี้ยงเหมือนคนในครอบครัว
ภาพจาก โหนกระแส

         วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานว่า จากกรณี กัน จอมพลัง พานางสาวบี (นามสมมติ) ลูกจ้างถูกนายจ้างทำร้ายร่างกายจนอ่วม เข้าแจ้งความที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี หลังลูกจ้างถูกใช้หวายเฆี่ยนตีที่หลังไม่ยั้ง, ตบหน้านับสิบที และเอาน้ำแกงสาดทั้งตัว โดยทนทุกข์มากว่า 5 ปี พอคิดจะออกก็ถูกนายจ้างกลั่นแกล้งแจ้งความฐานลักทรัพย์

         นางสาวบี บอกว่า เป็นลูกจ้างที่บ้านหลังนี้มานาน 5 ปี ตกลงกันว่า 6 เดือนแรก นายจ้างจะให้เงินเดือน 6,000 บาทต่อเดือน หลังจากนั้นจะให้เงินเดือนเพิ่มอีก 9,000 บาทต่อเดือน พอครบ 6 เดือน ไม่ได้รับเงินเดือนอีกเลย โดยนายจ้างอ้างว่า จะเก็บเงินเดือนทั้งหมดไว้ให้ เวลาเธอจะกลับบ้านจะได้มีเงินก้อนไว้กลับไปให้พ่อแม่ และย้ายชื่อของเธอ มาอยู่ในทะเบียนบ้านอ้างเหตุผลว่า จะให้เธอได้เรียนหนังสือ

ลูกจ้างร้องถูกทำร้าย เจ้านายแจงสั่งสอน ย้ำเลี้ยงเหมือนคนในครอบครัว
ภาพจาก โหนกระแส

         หลังจากทำงานได้ระยะหนึ่งถูกนายจ้างทารุณเป็นประจำ บังคับให้ถอดเสื้อเหลือแต่ชุดชั้นใน แล้วฟาดด้วยหวาย 98 ครั้ง จนเธอร้องโหยหวน นายจ้างก็ยังไม่หยุด ทั้งตบตีที่บริเวณใบหน้า 28 ครั้ง บางวันก็โดนสาดน้ำแกงร้อน ๆ ใส่ทั้งตัว สาเหตุส่วนใหญ่มาจากที่นายจ้างไม่พอใจเวลาเธอทำงานบ้านไม่ถูกใจ ทำอาหารไม่พอให้คนในบ้านกินก็โดนตี

         ขณะเดียวกัน มีการเปิดภาพร่องรอยที่ นางสาวบี ถูกเฆี่ยนตีจนเป็นรอยตามตัว ยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่เผยให้เห็นตอนที่เจ้าจ้างตบไปที่ศีรษะนางสาวบี ซ้ำ ๆ และมีบางเหตุการณ์ที่ใช้ไม้ตีลูกจ้างอีกด้วย


นายจ้างแจงปมลงโทษ โมโหทำร้ายหมาจนเจ็บหนักรักษา 2 แสน ย้ำเลี้ยงดูลูกจ้างเหมือนลูก

        
ด้าน คุณต่าย ผู้เป็นนายจ้าง ยืนยันว่า ตนเลี้ยงดู นางสาวบี เหมือนเป็นลูก
ให้อยู่ในบ้าน ให้นอนด้วยกัน อยู่ห้องแอร์ กินอาหารร่วมโต๊ะ
ไม่ได้เลี้ยงแบบคนใช้ เราสั่งสอนเขา เพราะเขามีพฤติกรรมที่ไม่ดี
อย่างเรื่องการทำร้ายสุนัข สุนัขเราเลี้ยงไว้ของเราดี ๆ
นางสาวบีมีหน้าที่คอยดูแล แต่ไปทุบตีทำร้ายจนสุนัขเจ็บป่วย เดินคอเอียง
มีประวัติการรักษายืนยันว่าหมาถูกทำร้ายจริง ๆ ต้องรักษาหมดเงินกว่า 2
แสนบาท

         แต่ตนก็ไม่ตัดโอกาส ยังให้เขากลับมาอยู่
กลับมาดูแลหมา กลับมาทำงานในบ้าน ทั้งที่ตนจะไล่ลูกจ้างคนนี้ออกไปเลย
หรือให้ถูกจับติดคุกไปเลยก็ได้ แต่เราอยู่กันแบบครอบครัว
เราถึงได้ให้โอกาสเขา

        
         ขณะที่ กัน
จอมพลัง ถามกลับนายจ้างว่า คุณบอกว่าคุณรักเขาเหมือนลูก แล้วคุณเคยตีลูก
หรือตีหมา แบบที่ตีคุณบีหรือเปล่า ซึ่งคุณต่ายก็บอกว่าไม่เคย

ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์, โหนกระแส
 

KUBET – สมิทธิ์ อดีตนักร้องดัง เปิดภาพล่าสุด สมิธแอนด์เชน หลังป่วยอัมพฤกษ์

          อัปเดตภาพล่าสุด สมิทธิ์ อดีตนักร้องชื่อดัง จากวงดูโอ สมิธแอนด์เชน หลังป่วยอัมพฤกษ์ พ่อเผยมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ



สมิทธิ์ บัณฑิตย์ อดีตนักร้องวง สมิธแอนด์เชน ป่วยอัมพฤกษ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Smith Bandithaya

          เรียกว่าเป็นศิลปินดังที่แฟน ๆ ต่างคิดถึงไม่น้อย สำหรับ สมิทธิ์ บัณฑิตย์ อดีตนักร้องดัง หลังจากป่วยเป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้ายมาประมาณนับ 10 ปี

          ล่าสุด (27 กุมภาพันธ์ 2568) โลกออนไลน์ได้แชร์ภาพของ สมิทธิ์ บัณฑิตย์ หลังเจ้าตัวโพสต์ความเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก Smith Bandithaya ซึ่งพบว่าปัจจุบันอาการอัมพฤกษ์ยังไม่ดีขึ้น ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก และยังต้องไปพบแพทย์อยู่เรื่อย ๆ

สมิทธิ์ บัณฑิตย์ อดีตนักร้องวง สมิธแอนด์เชน ป่วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Punjarat Bundithaya

          โดยโพสต์ล่าสุด ระบุว่า “สมิทธิ์ ครับ รอน้อง อจ.ศิริพงษ์ มารับไปพบแพทย์ ด้วยปวดหัวเข่า ทรมานมากครับ” ขณะที่คุณพ่อของสมิทธิ์ ได้อัปเดตอาการปัจจุบันว่า “สมิทธิ์ ยังคงมีอาการจำใครไม่ได้ หลง ๆ ลืม ๆ”

          สำหรับ สมิทธิ์ บัณฑิตย์ เคยเป็นสมาชิกวงดนตรีดูโอ สมิธแอนด์เชน ร่วมกับ เชน เมืองครุธ โดย สมิทธิ์ ทำหน้าที่ ร้องนำ และ เล่นเปียโน
เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539 กับอีพีอัลบั้ม Music’s Chair
มีบทเพลงฮิตเช่นที่ได้รับความนิยม เช่น เก็บไว้ในใจ เพราะผูกพัน
ขอเพียงเท่านี้ และ เพราะรักเธอ

สมิธแอนด์เชน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Smith Bandithaya

สมิธแอนด์เชน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Smith&Shane

สมิทธิ์ บัณฑิตย์ ป่วยอัมพฤกษ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Smith Bandithaya

สมิทธิ์ บัณฑิตย์ ป่วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Smith Bandithaya

สมิธแอนด์เชน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Smith&Shane

สมิทธิ์ บัณฑิตย์ อดีตนักร้อง สมิธแอนด์เชน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Smith&Shane

สมิธแอนด์เชน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Smith&Shane

KUBET – กู้ภัยพ้นมลทิน เจอแล้ว ทองคำ-แหวนเพชร เหยื่อรถบัสมรณะ ตำรวจเฉลยอยู่ที่ไหน

            กู้ภัยพ้นมลทิน เจอแล้วทรัพย์สินเหยื่อรถบัสมรณะ 18 ศพ อยู่ครบทั้งทองคำ-แหวนเพชร เผยอยู่ที่ไหน คืบหน้าตั้งข้อหาคนขับรถบัสแล้ว



รถบัสคว่ำ ปราจีนบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ตำรวจทางหลวง

            หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ญาติของผู้เสียชีวิตเหตุรถบัสคว่ำ 18 ศพ ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ากระเป๋าของแม่ที่เสียชีวิต สูญหาย ซึ่งภายในนั้นมีแหวนเพชรและทองหนัก 8-10 บาท ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่นั้น

            ล่าสุด (27 กุมภาพันธ์ 2568) ข่าวช่อง 3 เปิดเผยว่า ในคืนที่ผ่านมา พล.ต.ต. เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสั่งการให้เร่งรัดการค้นหาทรัพย์สินที่หายไป ตำรวจทำการกั้นพื้นที่เกิดเหตุและจัดเวรยามเฝ้าระวัง กระทั่งเช้านี้ เวลา 08.30 น. จึงประสานรถเครนมายกหลังคารถบัสออกเพื่อเข้าตรวจสอบภายในอีกครั้ง

รถบัสคว่ำ ปราจีนบุรี
ภาพจาก ครอบครัวข่าว 3 ระยอง

            กระทั่งพบกระเป๋าที่เป็นประเด็นอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่จึงประสานลูกสาวพร้อมส่งรูปกระเป๋ากับทรัพย์สินภายในให้ดู ลูกสาวยืนยันว่าเป็นของแม่ และทรัพย์สินอยู่ครบ ส่วนแหวนเพชรนั้น พบอยู่ที่นิ้วของแม่ตอนรดน้ำศพ

            ขณะนี้ทรัพย์สินที่สูญหายจึงถูกพบอย่างครบถ้วน และไม่มีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับน้ำหนักทอง ที่เคยแจ้งว่าหายไปประมาณ 8-10 บาท

รถบัสคว่ำ ปราจีนบุรี
ภาพจาก ครอบครัวข่าว 3 ระยอง

            ทั้งนี้
พ.ต.อ. โสภณ พรามณี ผู้กำกับการ สภ.วังขอนแดง
ได้แสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากโศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ
โดยทาง สภ.วังขอนแดง
ได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ
ทั้งในด้านการติดตามทรัพย์สินและการให้บริการต่าง ๆ

            สำหรับความคืบหน้าทางคดี
ทางตำรวจได้แจ้งข้อหากับคนขับรถบัส
ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บสาหัส
รวมถึงทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้น
พบว่าระบบเบรกรถมีปัญหา ควบคุมรถไม่ได้
เบื้องต้นยังมีการแจ้งข้อหากับคนขับเพียงรายเดียว
ส่วนเจ้าของรถหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รถบัสคว่ำ ปราจีนบุรี
ภาพจาก ครอบครัวข่าว 3 ระยอง

 
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3

KUBET – แม่ร้องจับ พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดเด็ก 15 ช็อกโดน 3 รอบใน 1 เดือน ขู่จะฆ่าถ้าบอกใคร

 
           แม่ร้องจับ พ่อเลี้ยงล่วงละเมิดเด็ก 15 ช็อกขืนใจ 3 รอบใน 1 เดือน ขู่จะฆ่าถ้าบอกใคร ฝ่ายแม่ยังไม่เชื่อใจลูก รอผลตรวจร่างกายพิสูจน์



ลากเข้าห้องน้ำ-ใต้ทางด่วน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
            วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ข่าวช่อง 3 รายงานกรณี แม่วัย 33 ปี
พาลูกสาววัย 15 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2
เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
หลังจากลูกสาวถูก นายนวสิทธิ์ หรือ โต้ พ่อเลี้ยงวัย 33 ปี
ล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

            ทางตำรวจได้ส่งเด็กหญิงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบางจาก
พร้อมกันนั้นได้ประสานหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ
เพื่อสอบปากคำเบื้องต้น และรวบรวมพยานหลักฐาน
จะได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

            เบื้องต้นทราบว่า
นายนวสิทธิ์ อาชีพไรเดอร์ ได้อยู่กินฉันสามีภรรยากับแม่เด็กมา 4 ปีแล้ว
และมีบุตรชายด้วยกัน 1 คน อายุ 2 ขวบ โดยช่วงที่อยู่ด้วยกัน
ก่อนนายนวสิทธิ์ออกไปทำงานก็มักจะแวะไปส่งลูกเลี้ยงที่โรงเรียนเป็นประจำทุกวัน
และก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ

            โดยเหตุเกิดครั้งแรกวันที่ 5
กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 06.30 น. บริเวณเลียบทางด่วนกาญจนา
ซึ่งเป็นพื้นที่รกร้างภายในซอยสุขสวัสดิ์ 70 แยก 21 ต.บางครุ อ.พระประแดง
ส่วนจุดเกิดเหตุที่ 2 คือภายในห้องน้ำหลังร้านสะดวกซื้อ ซอยสุขสวัสดิ์ 70
ซึ่งห่างจากบ้านพักไปไม่เกิน 200 เมตร และจุดที่ 3
บริเวณสวนสาธารณะสะพานภูมิพล ฝั่งปู่เจ้าสมิงพราย

            ในเวลาเกือบ 1
เดือน ผู้ก่อเหตุล่วงละเมิดเด็กหลายครั้ง พร้อมขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร
ไม่งั้นจะฆ่าทิ้ง ทำให้เด็กกลัว แต่สุดท้ายเด็กทนไม่ไหว
ตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ให้แม่ฟังในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ช่วงหลังเลิกเรียน
แม่จึงเรียกนายนวสิทธิ์มาสอบถาม แต่เจ้าตัวปฏิเสธ

            แม่เด็กจึงจะให้ทั้งคู่ไปตรวจร่างกาย
แต่นายนวสิทธิ์กลับหายตัวไปเลย
จึงตัดสินใจพาลูกสาวเข้าแจ้งความกับทางตำรวจ
ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงรอผลตรวจร่างกาย
หากพบว่ามีการล่วงละเมิดจริงก็จะขอศาลอนุมัติหมายจับนายนวสิทธิ์ทันที

            ด้านแม่เด็ก
เล่ากับผู้สื่อข่าวว่า ตัวเองรู้จักผู้ชายคนนี้ผ่านเฟซบุ๊ก
ก่อนย้ายมาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน ที่ผ่านมาแฟนมีพฤติกรรมชอบกินเหล้า
ติดเพื่อน และมีการใช้สารเสพติด มีอารมณ์ค่อนข้างรุนแรงและใจร้อน
มักจะมีปากเสียงทะเลาะกัน และยังเคยข่มขู่ตนว่าจะขับรถจักรยานยนต์ให้ 10
ล้อชน และจะทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนเองให้อภัยมาตลอด เพราะอยู่ด้วยกันมานาน

 
            ที่ตนเพิ่งทราบว่าลูกสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศ
เนื่องจากหลังเลิกเรียนเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์
ลูกได้มาบอกว่าทนไม่ไหวแล้ว เพราะถูกพ่อเลี้ยงกระทำชำเรา ตนจึงโทร.
หาถามแฟน แต่ฝั่งนั้นอ้างว่าลูกสาวโกหก
เมื่อชวนไปสถานีตำรวจและไปตรวจร่างกาย แฟนกลับหายไปติดต่อไม่ได้
จึงมาแจ้งความ
 
            ทั้งนี้ ก็ต้องรอผลการตรวจร่างกาย
เนื่องจากตนก็ไม่ได้เชื่อใจลูกร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่จากที่ถาม
ลูกยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงและทนไม่ไหวแล้ว และเล่าว่าถูกล่วงละเมิดที่ไหน
ทำอย่างไร

            ที่ผ่านมาตนถูกแฟนข่มขู่อยู่ตลอดว่าถ้าจะเลิกกันก็คือต้องตายจากกัน
และขู่ว่าหากตัวเองไปเอาปืนจากน้า ยิงนัดเดียวก็ตายแล้ว
หากผลตรวจพบว่าลูกสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง ๆ
ตนจะเอาเรื่องและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนแฟนยังอ้างว่า
เขาจะไม่ยอมติดคุก ยอมตายดีกว่า ซึ่งหากเขาตายตนก็จะไม่ปเหยียบงานศพ
และยังบอกไปด้วยว่าตายให้ดูหน่อย

 
            ด้าน นางสาวดีใจ อายุ 53 ปี
แม่บ้านร้านสะดวกซื้อ เล่าว่า ตนเองเห็นเด็กผู้หญิง
แต่งชุดนักเรียนและผู้ชายค่อนข้างมีอายุ
ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณหน้าห้องน้ำของตลาดแห่งนี้เป็นประจำ
ช่วงเวลาก่อน 06.00 น. และมักจะเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน โดยใช้เวลานานกว่า
30 นาที ซึ่งตอนแรกตนเองคิดว่าน่าจะเป็นแฟนกัน
แต่ผิดสังเกตเนื่องจากมาเป็นประจำทุกวัน

            ล่าสุดเมื่อพวกตนเห็นทั้งคู่มาด้วยกันอีก
ก็ได้ตะโกนถามไปว่ามาทำอะไรกัน ชายคนดังกล่าวไม่ตอบ
จากนั้นก็ออกมาและไม่เจอหน้าอีกเลย จนมาทราบข่าวว่านักเรียนถูกข่มขู่
พามาล่วงละเมิดทางเพศในห้องน้ำของตลาด

ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3


KUBET – โรคปริศนาระบาดในคองโก แค่เดือนกว่า คร่าไป 53 ศพ ส่วนใหญ่ตายใน 48 ชม.

           โรคปริศนาระบาดในคองโก คร่ากว่า 53 ศพ ใน 5 สัปดาห์ พบส่วนใหญ่ตายใน 48 ชม. นับจากแสดงอาการ ชี้พบโรคครั้งแรกในเด็ก 3 คน ที่กินค้างคาวและตาย



โรคปริศนาระบาดในคองโก ตาย 53 ศพ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

           เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เกิดการระบาดของโรคปริศนาภายในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โดยพบว่าในช่วงเวลาเพียง 5 สัปดาห์ นับตั้งแต่พบโรคนี้ครั้งแรก มีผู้ป่วยที่ถูกคร่าชีวิตด้วยโรคดังกล่าวแล้วมากกว่า 50 คน

           ด้าน แซร์จ เงาเลบาโต ผู้อำนวยการทางการแพทย์ ของโรงพยาบาลบิโกโร ซึ่งเป็นศูนย์เฝ้าระวังระดับภูมิภาค ระบุว่า นับตั้งแต่โรคเริ่มแสดงอาการ เช่น ไข้ อาเจียน และมีเลือดออกภายใน จนถึงช่วงที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ส่วนใหญ่มีระยะเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง ทำให้สถานการณ์น่าเป็นกังวลอย่างยิ่ง

           ตามปกติอาการไข้ที่มีเลือดออก มักเชื่อมโยงกับไวรัสร้ายแรงที่ผู้คนรู้จักกันดีอย่าง อีโบลา (Ebola) เดงกี (Dengue) ไวรัสมาร์บวร์ก (Marburg) และไข้เหลือง (Yellow Fever) แต่นักวิจัยได้ตัดสาเหตุเหล่านี้ออกไป หลังทำการทดสอบกับตัวอย่างมากกว่า 10 ตัวอย่าง ที่ถูกเก็บรวบรวมมา

          อนึ่ง
การระบาดของโรคปริศนาล่าสุดในคองโก เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม จากเด็ก 3
คนในหมู่บ้านโบโลโก ที่กินค้างค้าวและเสียชีวิตภายใน 48 ชั่วโมง
นับจากนั้นเมื่อเชื้อระบาดออกไป ก็มีจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการบันทึกข้อมูล
419 ราย และมีผู้เสียชีวิต 53 ราย

           มีความกังวลมายาวนานเกี่ยวกับโรคที่แพร่จากสัตว์สู่มนุษย์
ในพื้นที่ซึ่งนิยมการบริโภคสัตว์ป่า
โดยมีจำนวนการระบาดของโรคในแอฟริกาเพิ่มขึ้นมากกว่า 60% ในทศวรรษที่ผ่านมา
ขณะที่เมื่อปี 2567 คองโกได้สังเวยชีวิตผู้ป่วยอีกหลายสิบราย
ให้แก่โรคปริศนาคล้ายไข้หวัดใหญ่
ซึ่งต่อมามีการพิจารณาว่าโรคที่ระบาดในครั้งนั้นน่าจะเป็นมาลาเรีย
(Malaria)

ขอบคุณข้อมูลจาก CNN

KUBET – ฉาว หมอล่วงละเมิดลูกเลี้ยง 15 ปี ตั้งแต่ ป.3 ช็อกแม่รู้บอกให้ทนต่อ หวังสูบเงิน

         ฉาว แพทย์แผนจีนชื่อดัง ล่วงละเมิดลูกเลี้ยง ช็อกใช้เป็นทาสกาม ตั้งแต่ ป.3 ทุกข์ทน 15 ปี แม่รู้แทนที่จะช่วย กลับบอกให้ทน หวังสูบเงินต่อไป



หมอล่วงละเมิดลูกเลี้ยง 15 ปี ตั้งแต่ ป.3 ช็อกแม่รู้บอกให้ทนต่อ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา

          วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์เน็กซ์แอปเปิล รายงานฉาวที่สร้างความเดือดดาลแก่สังคม เมื่อมีการเปิดเผยคดีพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศลูกเลี้ยง โดยพ่อเลี้ยงนั้นเป็นแพทย์แผนจีนชื่อดังในเมืองไถจง ของไต้หวัน ที่ไม่เพียงแค่เปิดคลินิกของตัวเอง แต่ยังเป็นครูสอนตามโรงเรียน จึงไม่มีใครคิดว่าภายใต้ภาพลักษณ์ที่น่่าเคารพนับถือนี้ ชายคนดังกล่าวกลับข่มขู่ลูกเลี้ยงวัยเยาว์ให้ตอบสนองความใคร่ของตัวเอง ราวเป็นทาสกามนานถึง 15 ปี ตั้งแต่อยู่ชั้น ป.3

          ที่โหดร้ายไปยิ่งกว่านั้นคือ หลังจากที่เด็กสาวสารภาพเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แม่ฟัง แทนที่แม่จะช่วยเหลือหรือลุกขึ้นสู้เพื่อลูก กลับบอกให้เธออดทนแบกรับชะตากรรมนั้นต่อไป เพราะยังหวังสูบเงินจากฝ่ายชาย ที่เป็นคนทำลายลูกสาวของตัวเอง

          รายงานเผยว่า แม่ของเด็กสาวเคยแต่งงานมาก่อน หลังหย่าร้างก็พาลูกสาวที่ยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล มาแต่งงานใช้ชีวิตกับแพทย์แผนจีนรายหนึ่ง โดยที่ฝ่ายชายมีลูกติด 1 คน หลังจากแต่งงานกันในปี 2545 พวกเขาก็ยังมีลูกด้วยกันเพิ่มอีก 1 คน

          ในขณะที่ทั้ง 5 คนใช้ชีวิตอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน แพทย์แผนจีนที่เป็นพ่อเลี้ยง ได้จดทะเบียนเป็นพ่อตามกฎหมายของเหยื่อ แต่ไม่คาดคิดว่านับตั้งแต่เด็กหญิงเรียนอยู่ชั้น ป.3 เธอถูกพ่อเลี้ยงสั่งให้ถอดกางเกงและนอนลง โดยอ้างว่าเป็นเกมจุ๊บ ๆ กัน เด็กหญิงที่ยังไร้เดียงสาปล่อยให้พ่อเลี้ยงใช้อวัยวะเพศของเขา ถูไถของลับของเธอ

          เมื่อเด็กหญิงขึ้นชั้น ป.4 พ่อเลี้ยงก็ยิ่งเหิมเกริม
เขาขอให้เธออาบน้ำด้วยกันและช่วยถูหลัง
ก่อนจะฉวยโอกาสนี้กระทำอนาจารลูกเลี้ยง ไม่เพียงเท่านั้น
พ่อเลี้ยงยังล่วงละเมิดทางเพศเธออีกหลายครั้ง
รวมถึงบังคับให้มีความสัมพันธ์ทางทวารหนัก แม้เด็กหญิงจะร้อง บอกว่า “มันน่าขยะแขยง เจ็บ” และ “อย่าทำหนู” แต่พ่อเลี้ยงยังบังคับขืนใจเธอ โดยลงมือทั้งที่บ้าน คลินิก หรือแม้แต่ในห้องเรียน

         
เนื่องจากพ่อเลี้ยงมักด่าทอและใช้ความรุนแรงกับแม่
อีกทั้งแม่ยังเคยบอกว่าไม่สามารถหาเลี้ยงเธอได้ตามลำพัง
เด็กหญิงจึงเลือกที่จะอดทน เป็นเวลานานถึง 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2549-2563
ที่เด็กหญิงถูกพ่อเลี้ยงปฏิบัติเหมือนเป็นทาสกาม
เธอถูกล่วงละเมิดนับครั้งไม่ถ้วน
ส่งผลให้ได้รับความบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ จนเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง

         
เมื่อเด็กหญิงบรรลุนิติภาวะ เธอจงใจเว้นระยะห่างจากพ่อเลี้ยง
แต่ไม่คิดว่าแม่กลับด่าว่า
ตำหนิเธอว่าควรสำนึกในบุญคุณที่พ่อเลี้ยงเลี้ยงดูเธอมา
ทำให้เด็กสาวทนไม่ไหว ตัดสินใจเล่าประสบการณ์อันเจ็บปวดตลอด 15 ปีให้ฟังแม่

          แต่ใครจะคิดว่าคำพูดจากแม่แท้ ๆ คือการบอกให้เธออดทนต่อไป…

          “แม่รู้ว่าลูกรู้สึกแย่
และแม่ก็ไม่อยากให้หนูต้องรู้สึกแย่อีก แต่…
แม่อยากจะรีดเงินเขาให้หมดตัว ยังไงซะเขาก็ยังหาเงินได้
เราจะได้ไม่ต้องลำบากทำงานหนัก ลูกเข้าใจไหม เราแค่ตักตวงเงินไปเงียบ ๆ
ลูกอดทนหน่อยนะ !”

 
         
ท่าทีของแม่เหมือนเป็นการซ้ำเติมความเจ็บปวดของเด็กสาว
สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจร้องเรียนไปยังหน่วยงานคุ้มครองสตรีและเด็ก ซึ่งในปี
2567 ศาลในไถจง มีคำตัดสินให้จำคุกพ่อเลี้ยง 15 ปี ซึ่งเขายื่นอุทธรณ์
แต่เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ศาลสูงไถจงได้ยกคำร้องนั้น อย่างไรก็ตาม
พ่อเลี้ยงยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อได้

ขอบคุณข้อมูลจาก Next Apple

KUBET – อดีตนางงาม แฉเรือสำราญทิ้งขยะลงเจ้าพระยา ย้ำทิ้งทุกวัน ทัวร์ลงฉ่ำบริษัทเรือ

         อดีตนางงาม แฉเรือสำราญทิ้งขยะลงเจ้าพระยา ชี้ทำทุกวัน เชื่อมีคำสั่งนายบงการ ลั่นหากินกับแม่น้ำ กลับทำลายแม่น้ำซะเอง ทัวร์ลงฉ่ำเพจเรือสำราญ



เรือสำราญทิ้งขยะลงเจ้าพระยา ย้ำทิ้งทุกวัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Carla Porter

         กลายเป็นอีกประเด็นที่สังคมจับจ้องขึ้นมา หลังจากวานนี้ (26 กุมภาพันธ์ 2568) คาร์ล่า ปอร์เทอร์ ดีเจ นางแบบ และอดีตรองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2009 ออกมาโพสต์คลิปแฉพฤติกรรมของคนกลุ่มหนึ่งบนเรือสำราญ ที่นำขยะทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยาทุกวัน จึงอยากเป็นกระบอกเสียงให้เรื่องดังกล่าวเป็นข่าวขึ้นมา เพราะเชื่อว่าไม่น่ามีเพียงบริษัทเดียวที่ทำแบบนี้ ทั้งที่หากินกับแม่น้ำ กลับมาทำลายแม่น้ำแบบนี้

         โดยระบุว่า “เห็นคลิปนี้แล้วหงุดหงิดมากค่ะ ในระหว่างที่เราพยายามทำทุกอย่างให้โลกของเราน่าอยู่มากขึ้น ใช้ถุงผ้า ใช้หลอดกระดาษ คิดอย่างเดียวว่าต้องช่วยโลกร้อนได้บ้างแหละ แต่ก็จะมีบริษัทแบบนี้ ที่โยนขยะทิ้งทุกวัน ! ย้ำนะคะว่าทุกวัน !! ลงแม่น้ำเจ้าพระยา มีทั้งขวดพลาสติก มีทั้งกล่องโฟม เป็นการกระทำที่ทุเรศอุบาทว์ ทุกวันนี้โลกก็อยู่ยากแล้วยังจะต้องมีพวกคนไร้สมองทำแบบนี้อีก

         พอดีเพื่อนเปิดร้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ แล้วเพื่อนเราเห็นว่าเรือครูซบริษัทนี้มาทิ้งขยะหน้าร้านทุกวัน พอทางเรือครูซเห็นว่าทางร้านเห็น ก็เลยย้ายไปทิ้งด้านหลังเรือที่จอดไว้หน้าร้านแทนค่ะ นี่เพื่อนต้องแอบไปถ่ายมาถึงจะได้คลิปนี้ ร้านเพื่อนสวยมาก บรรยากาศดีมาก ทำดีมากค่ะใครว่างแวะไปนะคะ

เรือสำราญทิ้งขยะลงเจ้าพระยา ย้ำทิ้งทุกวัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Carla Porter


         ของคุณเจ้าของคลิป ที่ทำให้เราเห็นถึงการกระทำแบบนี้ คาร์ล่าเห็นแล้วก็หงุดหงิดตั้งแต่เมื่อคืน ไม่คิดเลยว่าบริษัทที่หากินกับแม่น้ำจะทำลายแม่น้ำแบบนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าลูกน้องไม่กล้าทำขนาดนี้หรอก เชื่อว่าจะต้องมีคำสั่งหรือมีอะไรมากกว่านั้น

         คาร์ล่าอยากแค่เป็นกระบอกเสียง ให้เรื่องนี้เป็นข่าวขึ้นมาค่ะ เพราะเชื่อว่าบริษัทนี้ไม่น่าจะใช่บริษัทเดียวแน่นอนที่ทำแบบนี้ เพียงแต่พวกเราไม่เคยเห็น !! รบกวนทุกคนช่วยแชร์นะคะคนแบบนี้ต้องโดนทำโทษค่ะ”

เรือสำราญทิ้งขยะลงเจ้าพระยา ย้ำทิ้งทุกวัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Carla Porter

         ทั้งนี้ พบว่าหลังคลิปดังกล่าวปรากฏจนเกิดกระแสทัวร์ลงบริษัทเจ้าของเรือ
ทางเพจของบริษัทเรือลำนี้ยังนิ่งเฉย
และต่อมาพบว่าเพจดังกล่าวเข้าไม่ได้แล้ว

         ด้านข่าวช่อง 3 รายงานว่า
จากการพูดคุยกับ คุณโตส คนถ่ายคลิป
ซึ่งเป็นผู้ดูแลร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านพระราม 3 เล่าว่า
เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (26 กุมภาพันธ์) ช่วงประมาณ 17.00 น.
และไม่ใช่ครั้งแรก คุณโตสเห็นการกระทำของพนักงานเรือนี้มา 2-3 ครั้งแล้ว
จึงทนไม่ได้และถ่ายคลิปเก็บไว้

         ที่ผ่านมาเนื่องจากร้านอาหารอยู่ริมน้ำ
จึงมักมีขยะลอยมาบริเวณร้านบ่อย ๆ
บางครั้งส่งกลิ่นเหม็นจนลูกค้าเอ่ยปากบ่น ทางร้านพยายามแก้ปัญหา
ทั้งตักขยะมาทิ้งและนำทุ่นมาวางกันขยะ
แต่คนบางกลุ่มที่หาผลประโยชน์จากแม่น้ำเจ้าพระยา
กลับเป็นคนทำลายแม่น้ำเสียเอง

         ทั้งนี้ ช่วงที่คนบนเรือทิ้งขยะ
เป็นช่วงที่ยังไม่ได้รับลูกค้า เพราะปกติเรือจะรับลูกค้าเวลา 17.30 น.
แสดงว่าเป็นขยะเก่าของวันก่อนที่ค้างบนเรือ แต่กลับไม่นำมาทิ้งบนฝั่ง
ปล่อยค้างข้ามคืนแล้วมาทิ้งลงแม่น้ำ

         เบื้องต้นทีมข่าวได้ส่งข้อมูลให้กับกรมเจ้าท่า ที่ดูแลกำกับแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ล่าสุดกำลังตรวจสอบอยู่

เรือสำราญทิ้งขยะลงเจ้าพระยา ย้ำทิ้งทุกวัน

ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3
 

KUBET – รวบดาราตัวประกอบช่องดัง โปรไฟล์ไม่ธรรมดา สู่ผู้บริหารเว็บพนัน

          ตำรวจไซเบอร์ แถลงปฏิบัติการทลายเว็บพนัน พบ ดาราตัวประกอบช่องดัง เอี่ยวเปิดบัญชีม้านิติบุคคลและถอนเงิน



ทลายเว็บพนัน
ภาพจาก ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.

          วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ แถลงผลการทลายเว็บพนันรายใหญ่จากการเข้าตรวจค้นพื้นที่ 2 จุดกลางกรุงเทพ มีเงินหมุนนับ 100 ล้านต่อเดือน รวมกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย หนึ่งในนั้นพบเป็นนักแสดงประกอบช่องดัง ร่วมขบวนการ

          สำหรับคดีนี้นั้น สืบเนื่องจากตำรวจ บก.สอท.2 สืบสวนพบการกระทำผิดของเว็บพนันออนไลน์เครือข่าย WM CASINO จากข้อมูลเส้นทางการเงินพบว่ามียอดเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน รวมกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้นับ 10 ราย

          ต่อมาตำรวจ บก.สอท.2 นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 2 จุดในพื้นที่กรุงเทพ จุดที่ 1 เป็นห้องพักชั้น 3 ภายในคอนโดแห่งหนึ่ง พื้นที่แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง และจุดที่ 2 เป็นบ้านพักในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งในซอยรามอินทรา 34 แยก 15 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ได้แก่

รวบตัวดาราตัวประกอบช่องดัง หมุนเงินเว็บพนัน
ภาพจาก ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.

          1. นายอมร อายุ 31 ปี นักแสดงประกอบละครของช่องดัง ทำหน้าที่จดทะเบียนบริษัท เปิดบัญชีนิติบุคคล และเบิกถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร
          2. นายอิศรา อายุ 37 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้เบิกถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร
          3. นายไพรัช อายุ 38 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้รับเงินต่อจากนายอมร

          พร้อมกันนี้สามารถตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย รถยนต์ จำนวน 5 คัน, สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 46 เล่ม, บัตรกดเงินสด จำนวน 6 ใบ, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 10 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 1 เครื่อง, กระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 10 ใบ, แท็บเลต จำนวน 1 เครื่อง, ซิมโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 ซิม, ตรายางแต่ละบริษัท กว่า 20 บริษัทและเอกสารการจดทะเบียนบริษัทต่าง ๆ รวมมูลค่าของกลาง ประมาณ 10.5 ล้านบาท

          จากการสืบสวนพบว่า นายอมร ทำหน้าที่จดทะเบียนบริษัท เปิดบัญชีนิติบุคคลและเป็นผู้เบิกถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร จากนั้นนำไปส่งให้นายไพรัช โดยเบิกถอนอาทิตย์ละ 2-4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1-3 ล้านบาท ต่อครั้ง โดยครั้งล่าสุดถอนเงินไปวันเดียวกว่า 9 ล้านบาท จากหลักฐานพบว่า นายอมรถอนเงินมากกว่า 15 ครั้งต่อเดือน รวมเป็นเงินจำนวนกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมระยะเวลา 4 เดือนตั้งแต่จัดตั้งบริษัทแล้ว ได้ถอนเงินสดไปแล้วกว่า 120 ล้านบาท

จับผู้ต้องหาหมุนเงินเว็บพนัน
ภาพจาก ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.

เปิดโปรไฟล์ ดาราตัวประกอบช่องดัง สู่ผู้บริหารการเงินเว็บพนัน

          จากข้อมูลพบว่า นายอมร มีอาชีพเป็นนักแสดงประกอบละครของช่องดังช่องหนึ่ง เคยรับบทเป็นเพื่อนพระเอกของละครดัง เคยแสดงเป็นพระเอกมิวสิกวิดีโอ
ถ่ายแบบนิตยสาร งานเดินแบบ งานประกวด และรับงานต่าง ๆ ในวงการบันเทิง

ดาราตัวประกอบช่องดัง หมุนเงินเว็บพนัน
ภาพจาก ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.

         
ส่วนนายอิศรา ทำหน้าที่เป็นผู้เบิกถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร
โดยได้เบิกถอนเงินจากบัญชีบริษัทต่างกันจำนวน 3 บริษัท
แล้วนำไปส่งตามจุดต่าง ๆ ตามที่นายไพรัชแจ้ง โดยไม่ซ้ำจุดกัน
เมื่อไปถึงแล้ว
จะนำเงินใส่ไว้ในรถที่จอดไว้ตามที่นายไพรัชแจ้งข้อมูลรถและสถานที่

         
จากข้อมูลพบว่า นายอิศรา เดินทางไปทำธุรกรรมทางการเงินไม่น้อยกว่า 4
วันต่อสัปดาห์ โดยทำการถอนมากกว่า 40 ครั้งต่อเดือน ประมาณ 1.5 – 2
ล้านบาทต่อครั้ง เป็นจำนวนเงินกว่า 80 ล้านบาท โดยรับจ้างทำมาแล้วกว่า 4
เดือน เมื่อรวมระยะเวลาทั้งหมดแล้ว นายอิศราได้ถอนเงินสดมากกว่า 320
ล้านบาท

            อย่างไรก็ตาม
เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ
โดยเฉพาะเจ้าของเว็บและอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี
เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ดาราตัวประกอบช่องดัง เปิดเว็บพนัน
ภาพจาก ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.

          พล.ต.ท. ไตรรงค์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง
3
รายนั้นเป็นระดับผู้บริหารการเงินและมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการบริหารจัดการเงิน

รวมทั้งอำพรางปกปิดการสืบสวนจับกุมด้วยการใช้บัญชีม้าในรูปแบบนิติบุคคลที่จดทะเบียนถูกต้อง
ซึ่งตัวนายอมรนั้น เคยเป็นอดีตนักแสดงประกอบตัวละครชื่อดัง
แต่ได้มาร่วมมือกับเพื่อนที่ 2 คนในการบริหารการเงินให้กับเว็บพนันออนไลน์
หลังจากนี้จะดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้ง 3
คนในข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินและความผิดเกี่ยวกับการพนันต่อไป

         

ส่วนจะถึงขั้นตรวจสอบบุคคลในวงการบันเทิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอื่น
ๆ อีกหรือไม่นั้น คงไม่ถึงไปขั้นนั้น และไปเหมารวมไม่ได้
แต่หากมีเรื่องร้องเรียนหรือมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำความผิด
ก็จะดำเนินคดีหมดทุกคนโดยไม่ละเว้น

เว็บพนันออนไลน์
ภาพจาก ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.

รวบดาราตัวประกอบช่องดัง หมุนเงินเว็บพนัน
ภาพจาก ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3

KUBET – สาวกระโดดบันจี้จั๊มพ์เชือกขาด ตกที่สูงกว่า 100 เมตร ลงแม่น้ำจระเข้ รอดปาฏิหาริย์

 
            ประสบการณ์ปาฏิหาริย์.. สาวกระโดดบันจี้จั๊มพ์เชือกขาด ตกที่สูงกว่า 100 เมตร แถมร่วงลงแม่น้ำแหล่งจระเข้ แต่รอดชีวิตมาได้เหลือเชื่อ



 บันจี้จั๊มพ์เชือกขาด ตกแม่น้ำจระเข้
ภาพจาก Australian Department of Foreign Affairs and Trade

 บันจี้จั๊มพ์เชือกขาด ตกแม่น้ำจระเข้
ภาพจาก Australian Department of Foreign Affairs and Trade

             วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์เดลี่เมล
เผยรายงานย้อนเหตุการณ์สุดระทึกขวัญของหญิงชาวออสเตรเลียรายหนึ่ง
เมื่อครั้งที่เธอเดินทางไปเที่ยวทริปผจญภัยในต่างประเทศ
และมันเกือบจะกลายเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ
เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เชือกขาดตอนกระโดดบันจี้จั๊มพ์ ทำให้เธอตกลงไปยังด้านล่างซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่อยู่ของจระเข้

             ย้อนกลับไปเมื่อปี
2555 เอริน แลงเวอร์ธี อยู่ในช่วงอายุวัย 20 ต้น ๆ
เธอได้เดินทางไปเที่ยวประเทศแซมเบีย ในแอฟริกาใต้
และได้ร่วมกิจกรรมสุดท้าทายด้วยการกระโดดบันจี้จั๊มพ์จากสะพานเหนือแม่น้ำแซมเบซี
แต่สถานการณ์ความสนุกตื่นเต้นกลับกลายเป็นฝันร้ายที่น่าสะพรึงในพริบตา
เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. เธอกระโดดลงไปแล้วเชือกบันจี้จั๊มพ์เกิดขาด
ทำให้เธอตกลงไปจากที่ความสูง 360 ฟุต (ราว 110 เมตร) อย่างรวดเร็ว

             ความน่าตกใจไม่ใช่เพียงแค่นั้น
เนื่องจากแม่น้ำด้านล่างนั้นเป็นแหล่งที่มีจระเข้อาศัยอยู่ชุกชุม
อย่างไรก็ตาม เคราะห์ดีที่เอรินยังคงมีสติ ภายหลังจากที่ตกลงไป
เธอพยายามดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองลอยคอขึ้นมาเหนือน้ำ
ในขณะที่กระแสน้ำเชี่ยวด้านล่างพัดพาร่างของเธอไป กระทั่งในที่สุดเธอได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาจากแม่น้ำได้สำเร็จโดยปลอดภัย
แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บทั้งภายนอกและภายใน มีแผลหลายจุด
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เธอรอดชีวิต

 บันจี้จั๊มพ์เชือกขาด ตกแม่น้ำจระเข้
ภาพจาก Australian Department of Foreign Affairs and Trade

 บันจี้จั๊มพ์เชือกขาด ตกแม่น้ำจระเข้

ภาพจาก Australian Department of Foreign Affairs and Trade

            ภายหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น
เอรินได้เล่าย้อนถึงอาการบาดเจ็บของเธอ เผยว่า
ร่างกายของเธอเขียวช้ำไปทั้งตัว ปอดของเธอเต็มไปด้วยเลือดและน้ำ
เธอได้รับการช่วยเหลือถูกนำตัวส่งถึงโรงพยาบาลใกล้เคียงในพื้นที่เขตประเทศซิมบับเว
ในเวลาประมาณ 23.00 น. เธอได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บ
รวมถึงอาการปอดยุบบางส่วน โดยต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและได้รับยาปฏิชีวนะ
และมีข้อกังวลเกี่ยวกับน้ำสกปรกที่เธอกลืนเข้าไป
แต่ยังมีส่วนโชคดีที่ผลเอกซเรย์ยืนยันว่าไม่มีกระดูกหัก

            “ฉันเริ่มไอเป็นเลือดและเริ่มกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บภายใน ฉันรู้สึกอ่อนแรงและพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น” เอริน กล่าว

            ต่อมา
ทางตัวแทนบริษัทบันจี้จั๊มพ์ได้เข้ามาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล
พร้อมทั้งกล่าวขอโทษ
และในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยอมรับรู้สึกตกตะลึงที่เธอรอดชีวิตมาได้ราวปาฏิหาริย์

            ทั้งนี้ เอรินยังได้เล่าว่า ก่อนวันที่เธอจะกระโดดบันจี้จั๊มพ์
เธอได้ส่งโปสการ์ดไปหาแม่ของเธอที่ออสเตรเลีย
พร้อมทั้งเขียนล้อเล่นติดตลกว่า “พรุ่งนี้หนูจะไปกระโดดบันจี้จั๊มพ์
คงต้องบอกลาแม่… ล้อเล่นค่ะ !”
โดยหารู้ไม่ว่ามันเกือบจะกลายเป็นจดหมายบอกลาของเธอจริง ๆ ซึ่งหลังจากนั้น
แม่ของเธอได้ติดโปสการ์ดแผ่นนี้เอาไว้อยู่ที่หน้าตู้เย็น
และภาวนาอยู่เสมอว่าลูกสาวของเธอจะไม่มีเรื่องตื่นเต้นมาให้อีก

 บันจี้จั๊มพ์เชือกขาด ตกแม่น้ำจระเข้
ภาพจาก Australian Department of Foreign Affairs and Trade

 บันจี้จั๊มพ์เชือกขาด ตกแม่น้ำจระเข้
ภาพจาก Australian Department of Foreign Affairs and Trade

 บันจี้จั๊มพ์เชือกขาด ตกแม่น้ำจระเข้

ภาพจาก Australian Department of Foreign Affairs and Trade

ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail


KUBET – เปิดสาเหตุรถบัสพลิกคว่ำ หลังลุยเช็กไม่เจอรอยเบรก – ญาติน้ำตานอง รับร่าง 18 ศพ

           เปิดสาเหตุรถบัสพลิกคว่ำ คร่า 18 ศพ ชี้คนขับไม่ชำนาญเส้นทาง – ใช้ความเร็วไม่เหมาะสม พบขับเร็ว 85 กิโลเมตร/ชั่วโมง ช่วงทางโค้งลงเขา ไม่พบรอยเบรก



 รถบัสตกเขา ปราจีนบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ตำรวจทางหลวง

          จากกกรณีอุบัติเหตุสลด รถบัสพลิกคว่ำตกเขาบริเวณโค้งลงเขาศาลปู่โทน ถนนสาย 304 จนเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บ 31 ราย ซึ่งขณะนี้ทางกู้ภัยได้ลำเลียงนำร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย ถึง จ.บึงกาฬ แล้วนั้น

           ล่าสุด (27 กุมภาพันธ์ 2568) เดลินิวส์ รายงานว่า นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยว่า ได้ประชุมสรุปสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ กรณีรถบัสโดยสารคณะดูงานของเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ พลิกคว่ำบนถนนทางหลวงหมายเลข 304 พื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบความจริงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าผู้ขับรถไม่ชำนาญเส้นทาง และการใช้ความเร็วไม่เหมาะสม

           ด้าน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้มีความห่วงใยต่อผู้ประสบเหตุ จึงมอบหมายผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก เดินทางเข้าเยี่ยม และให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ ณ โรงพยาบาลกบินทร์บุรี

รถบัสตกเขา ปราจีนบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ตำรวจทางหลวง

           ทั้งนี้ ในนามของกรมการขนส่งทางบก ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้เร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของ รมช.คมนาคม ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสรุปผลการสอบสวนอย่างเร่งด่วน เพื่อนำไปสู่การดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการขนส่ง หรือผู้ประจำรถ

           โดยเมื่อทีมสอบสวนอุบัติเหตุลงพื้นที่ และตรวจสอบจากระบบ GPS พบว่า รถโดยสารไม่ประจำทาง 2 ชั้น หมายเลขทะเบียน 30-0040 บึงกาฬ ได้ขับรถมาด้วยความเร็ว 85 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งขวา เป็นทางชันลงเขาต่อเนื่อง ทำให้รถเสียหลักเฉี่ยวชนกับแผงกั้นแบ่งช่องทางจราจรด้านซ้าย (แบริเออร์) และพลิกคว่ำ โดยไม่พบร่องรอยการเบรก เป็นเหตุให้มีทรัพย์สินเสียหาย มีผู้บาดเจ็บ 31 ราย และเสียชีวิต 18 ราย

           จากวิเคราะห์สาเหตุเบื้องต้น เกิดจากผู้ขับรถใช้ความเร็วไม่เหมาะสมกับเส้นทางลงเขาที่เป็นทางโค้งต่อเนื่อง เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
รถบัสตกเขา ปราจีนบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ตำรวจทางหลวง

           ทั้งนี้ ได้กำชับให้สำนักงานขนส่งจังหวัดปราจีนบุรี เร่งให้การช่วยเหลือแก่ผู้ประสบเหตุทั้งในด้านการรักษาพยาบาล และการเยียวยาจากประกันภัย รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับภูมิลำเนา หลังออกจากโรงพยาบาลแล้ว

           ขณะที่ก่อนหน้านี้
ข่าวช่อง 3 เผยข้อมูลจาก นายนาวิน อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นคนขับที่ 2
มาเริ่มขับที่ จ.นครราชสีมา ก่อนเกิดอุบัติเหตุ เจ้าตัวเล่าว่า
รถบัสลมเบรกหมด ทำให้เข้าเกียร์ไม่ได้ คุมเบรกไม่อยู่ขณะลงเนิน
ทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้น ก่อนหักรถเข้าข้างทาง

           ด้าน
เจ้าของรถบัสที่นั่งมากับรถที่เกิดเหตุ ระบุว่า
คนขับชำนาญเส้นทางและใช้เส้นทางนี้บ่อย
แต่ไม่รู้คนขับรู้หรือไม่ว่ามีจุดลงเวลา ยอมรับว่ามีการจอดรถ 1
ครั้งก่อนขึ้นเขาเพื่อเปลี่ยนคนขับ แต่ไม่ได้จอดที่จุดลงเวลา
มีช่วงหนึ่งก่อนหลับรู้สึกว่ารถเร็วขึ้น และได้ยินเสียงคนขับคุยกันว่า
เครื่องเสียงดัง ทำไมไม่มีลมเบรก คนขับพยายามประคองรถแล้ว
ก่อนจะหักหลบรถคันหน้าจนชนแบริเออร์ เป็นเหตุให้รถบัสพลิกคว่ำ
นอกจากนี้เจ้าของรถยอมรับว่าไม่ได้เช็กรถก่อนออกทริปนี้ เพราะเมื่อ 2
วันก่อนรถเพิ่งใช้งาน แค่ทำความสะอาดแล้วออกงานต่อทันที

รถบัสตกเขา ปราจีนบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ตำรวจทางหลวง

           ด้านบรรยากาศในวัดป่าวิเวกธรรมคุณ
ม.8 ต.พรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ
หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิต
เดินทางมาถึงบริเวณวัดซึ่งเป็นที่รวมศพ เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 กุมภาพันธ์)
มีญาติมารอยืนยันตัวตนท่ามกลางบรรยากาศเศร้าโศก หลายครอบครัวน้ำตานองหน้า
เป็นลมล้มพับ รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

          
โดยพิธีฌาปนกิจนั้นมีกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม ซึ่งจะฌาปนกิจรวม
13 ศพที่วัดนี้ ส่วนอีก 3 ศพจะตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าวิเวกพัฒนา
และวัดบ้านหนองกุงพัฒนา อีก 1 ศพ

ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์, ช่อง3, เดลินิวส์