KUBET – เคสช็อก ! หมอผ่าเจออาหารในกระเพาะปัสสาวะ เผยความอันตราย เหตุจากท้องผูกรุนแรง

        เผยเคสแปลก คนไข้ชายปัสสาวะเป็นเลือด หมอช็อก ผ่าเจอเศษอาหารในกระเพาะปัสสาวะ เผยความอันตราย เหตุจากท้องผูกรุนแรง



หมอผ่าเจออาหารในกระเพาะปัสสาวะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก U and泌的鳥醫師.黃維倫

        วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ MS News เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีเคสแปลกที่น่าตกใจถูกแชร์เป็นประเด็นที่ถกเถียงบนโลกออนไลน์ เมื่อชายรายหนึ่งเกิดอาการรปัสสาวะเป็นเลือด ก่อนที่จะไปเข้ารับการรักษา แต่แล้วทางแพทย์กลับต้องประหลาดใจมาก เมื่อพบว่ามีชิ้นส่วนเศษอาหารจำนวนหนึ่งอยู่ในกระเพาะปัสสาวะของคนไข้รายนี้

        โดยเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ดร.หวง เหว่ยหลุน แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะในไต้หวัน ได้โพสต์เรื่องราวผ่านทางเฟซบุ๊ก เผยว่า คนไข้ชายรายนี้มาพบแพทย์ที่คลินิกในเมืองเกาสง ทางตอนไต้ของไต้หวัน เมื่อช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ภายหลังจากมีอาการปัสสาวะเป็นเลือด

        จากนั้น แพทย์ได้ส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะของคนไข้ชายรายนี้ โดยจะสอดกล้องขนาดเล็กบางและมีความยืดหยุ่นเข้าไปในท่อปัสสาวะ กระทั่งได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด มีเศษชิ้นส่วนของอาหารอยู่ภายในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งมีทั้งเศษไข่ สาหร่ายทะเล และเมล็ดข้าวโพด

หมอผ่าเจออาหารในกระเพาะปัสสาวะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก U and泌的鳥醫師.黃維倫

หมอผ่าเจออาหารในกระเพาะปัสสาวะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก U and泌的鳥醫師.黃維倫

หมอผ่าเจออาหารในกระเพาะปัสสาวะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก U and泌的鳥醫師.黃維倫

        ดร.หวง เผยว่า
สาเหตุของความผิดปกติที่พบเกิดจากอาการท้องผูกเรื้อรังและรุนแรง
จนทำให้ถุงผนังลำไส้อักเสบและไปเชื่อมติดกับกระเพาะปัสสาวะ
ซึ่งจากการตรวจเพิ่มเติมพบว่า
ระหว่างลำไส้ใหญ่และกระเพาะปัสสาวะของผู้ป่วยเกิดรูทะลุจนกลายเป็นทางเชื่อมที่ผิดปกติ
(Fistula)
ดังนั้นอุจจาระและสิ่งที่ไม่ย่อยจากลำไส้ใหญ่จึงเข้าไปในทางเดินปัสสาวะได้

        ในเคสของคนไข้รายนี้ ดร.หวงและทีมศัลยกรรมลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
ได้ช่วยเหลือโดยการตัดและรักษาลำไส้ใหญ่ส่วนคด (Sigmoid colon)
รวมถึงตัดส่วนหนึ่งของกระเพาะปัสสาวะของคนไข้ออก
ทั้งนี้เนื่องจากทางเชื่อมผิดปกติที่พบนั้นอยู่ใกล้กับท่อไตซ้ายจนเป็นอันตราย
ทีมแพทย์จึงจำเป็นต้องปลูกถ่ายมันกลับเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะอีกครั้ง
ก่อนที่แยกเส้นทางของอุจจาระและปัสสาวะได้สำเร็จ
ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อนใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมง

หมอผ่าเจออาหารในกระเพาะปัสสาวะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก U and泌的鳥醫師.黃維倫

       
จากเคสแปลกครั้งนี้ ทางดร.หวง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพลำไส้
รวมถึงการทำงานของระบบทางเดินปัสสาวะโดยรวม โดยชี้ว่า
อาการท้องผูกเรื้อรังไม่เพียงแค่ส่งผลต่อระบบย่อยอาหารเท่านั้น
แต่ยังอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนในระบบทางเดินปัสสาวะและต่อมลูกหมากโตในเพศชายได้อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก MS News

KUBET – ไวรัล TikTok เมื่อซื้อฝักบัวติดผนัง มาติดด้วยตัวเอง แล้วเห็นอะไรแปลก ๆ จนฮา

          เมื่อซื้อฝักบัวมาติดผนัง แต่พอติดแล้วเห็นอะไรแปลก ๆ เปิดน้ำออกมาทีฮาจนกลายเป็นไวรัล อาบได้ แต่เหนื่อยหน่อยนะ




ฝักบัวอาบน้ำ
ภาพจาก TikTok @snowntshaaa

          หนึ่งในอุปกรณ์ที่ทำให้เราอาบน้ำอย่างสบาย ไม่ต้องจ้วงขันตักน้ำ คือ วิธีการอาบน้ำแบบฝักบัว ปล่อยน้ำไหลไปตามร่างกาย ทำความสะอาดได้ดีกว่ามาก

          วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 TikTok  @snowntshaaa มีการลงคลิปการซื้อฝักบัวแบบติดผนังด้วยตัวเอง แต่ตอนติดกลับพบสิ่งที่ทำให้เป็นไวรัล นั่นคือ หัวฝักบัวแหงนขึ้นเพดาน เท่ากับว่าตอนเปิดน้ำ น้ำจะพุ่งขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่จะมาโดนตัวเรา

ฝักบัวอาบน้ำ
ภาพจาก TikTok @snowntshaaa

          พร้อมกันนั้นยังมีการเปิดน้ำให้เห็นกันจะจะ เห็นแล้วยิ่งเอ็นดู
เพราะน้ำที่เปิดออกมาพุ่งไกลจนสุดกำแพง หากคนจะอาบต้องยืนห่างฝักบัวเป็นวาตัวถึงจะโดนน้ำ

ฝักบัวอาบน้ำ
ภาพจาก TikTok @snowntshaaa

          เจอแบบนี้เข้าไปคนดูคลิปแซวทันทีว่า เปียกทุกอย่างยกเว้นคนที่จะอาบ ฝักบัวนี้ไม่เคยก้มหัวให้ใครอยู่แล้ว

ฝักบัวอาบน้ำ

 

KUBET – ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดสาขาแดนเนรมิต หลังลงทุนไป 4 ล้าน

         ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง ผู้ติดตามเกือบ 1 ล้าน เผยข่าวเศร้า เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต ถึง มี.ค. 68 ทั้งที่ลงทุนไปกว่า 4 ล้าน



ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านเวทย์มนต์

          น่าจะเป็นอีกคาเฟ่ที่คุ้นตาของหลาย ๆ คน สำหรับ ร้านเวทย์มนต์ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการตกแต่งร้านสไตล์แฟนตาซีในโลกเวทมนตร์ นอกจากนี้ยังผลิตเค้กลายสุดแปลก ทั้งเห็บหมา ตุ๊กแก และเค้กหมูเด้ง จนกลายเป็นไวรัลมาแล้วหลายครั้ง โดยเพจร้านนั้นมีผู้ติดตามกว่า 8 แสนคน

ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านเวทย์มนต์

ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านเวทย์มนต์

ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านเวทย์มนต์

          ล่าสุด (16 กุมภาพันธ์ 2568) ร้านเวทย์มนต์ ประกาศข่าวเศร้า เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต ทั้งที่เพิ่งย้ายจากแถวไอคอนสยามมาเปิดที่แดนเนรมิต โดยลงทุนไปกว่า 4 ล้านบาท เมื่อ 5-6 เดือนที่ผ่านมา โดยจะเปิดร้านจนถึงแค่วันที่ 20 มีนาคม 2568 เท่านั้น

ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต

          เพจร้านเวทย์มนต์ ระบุว่า ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ แดนเนรมิต
จะเปิดถึงวันที่ 20 มีนาคม 2568 เป็นวันสุดท้าย ใครยังไม่มารีบมานะครับ
ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจ หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงแอดจะแจ้งในเพจครับ
ใครอยากให้มีต่อแนะนำห้องเช่าว่าง ๆ ดี ๆ ให้แอดหน่อยนะ

ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต

          หลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป
หลายคนต่างรู้สึกใจหายเพราะร้านเพิ่งจะย้ายมาเปิดสาขาที่นี่ได้ไม่นาน
แต่กลับโชคร้ายต้องเปลี่ยนสถานที่อีกครั้ง
คาดว่าเป็นเพราะตลาดแดนเนรมิตเริ่มเงียบเหงามาพักใหญ่แล้วก่อนจะปิดตัวลง
ผลกระทบจึงตกมาถึงผู้ประกอบการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยชาวเน็ตต่างให้กำลังใจและนำโลเคชั่นใหม่ให้ร้านลองพิจารณาเป็นจำนวนมาก

ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต

ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต

ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต

ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต

ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต

ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต

ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่ดัง เตรียมปิดร้านที่แดนเนรมิต

KUBET – ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก ไม่เคยเข้าใจว่าซื้อทำไม พอเห็นแล้วใจฟูเลย


          หมอลงโมเมนต์ประทับใจ ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ภรรยาที่บ้าน จากไม่เคยเข้าใจว่าคนรับดีใจแค่ไหน ได้เห็นภาพวงจรปิดแล้วกระจ่างทันที




ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก
ภาพจาก TikTok @dr.kolid 

          ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นเทศกาลที่หลายคนต่างซื้อของขวัญมอบให้กับคนพิเศษ ซึ่งบางครั้งแม้จะไม่ได้มีโอกาสมอบให้ด้วยตัวเอง แต่สิ่งเหล่านั้นก็มีความหมายสำหรับคนรักแบบคาดไม่ถึงเช่นกัน

          วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ใช้ TikTok @dr.kolid คุณหมอโกลิศ โพสตเรื่องราวการมอบดอกไม้ให้กับคนรัก แม้ที่ผ่านมาจะมอบให้ทุกปี แต่ก็มีคำถามในใจเสมอว่าจะซื้อไปทำไม อยู่ได้ไม่นาน สุดท้ายก็ต้องทิ้ง     

ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก
ภาพจาก TikTok @dr.kolid 

          โพสต์นี้ ระบุว่า
เป็นวันที่ได้คำตอบในทุกคำถามที่เกิดขึ้นทุกปี
หมอเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เวลาจะทำอะไรใช้เหตุผลในการคิดและตัดสินใจ
ฉะนั้นดอกไม้สำหรับหมอแล้วคิดมาตลอดว่าอยู่ได้ไม่นานสุดท้ายก็ต้องทิ้ง
เซอร์ไพรส์เป็นอย่างอื่นน่าจะยังมีประโยชน์กว่า จนกระทั่ง
บ้านเราติดกล้องวงจรปิด

         
จากคลิปเป็นนาทีที่ภรรยาได้รับสายจากคนส่งดอกไม้ เธอนั้นได้ฟังแล้วก็สงสัย
เพราะไม่ได้สั่ง ตอนแรกยังเอะใจว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์หรือเปล่า
จนกระทั่งพูดคุยไปเรื่อย ๆ และได้รับดอกไม้ที่สามีสั่งมาให้
ซึ่งแม้คนรักจะไม่ได้มอบให้ด้วยตัวเอง แต่เธอก็เปี่ยมไปด้วยความสุขมาก
โดยนำไปตั้งโชว์ไว้สวย ๆ แล้วก็ชื่นชม ก่อนจะเอ่ยประโยคชวนซึ้งว่า “แม่ เหมือนหนูเป็นเจ้าหญิงเลยอะ” ก่อนจะเล่นกับน้องหมา แล้วพูดว่า “วันหนึ่งถ้าหนูมีแฟนแล้วหนูจะแต่งงาน หนูต้องหาสามีแบบนี้เลยนะ”

ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก
ภาพจาก TikTok @dr.kolid

          คลิปนี้กลายเป็นไวรัลชวนประทับใจจนมียอดเข้าชมกว่า 5.1 ล้านครั้ง
หลายคนได้เห็นโมเมนต์แบบนี้ต่างก็รู้สึกใจฟูตาม โดยบางส่วนยืนยันว่า
แม้ดอกไม้จะอยู่ไม่นาน แต่มันถือเป็นความทรงจำดี ๆ ที่จดจำได้อยู่เสมอ
ซึ่งลึก ๆ
แล้วเชื่อว่าต่างคนต่างก็อยากได้รับการดูแลใส่ใจจากคนรักในมุมเช่นนี้
เป็นต้น

ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก

ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก

ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก

ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก

ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก

ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก

ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก
ภาพจาก TikTok @dr.kolid  

ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก
ภาพจาก TikTok @dr.kolid  

ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก
ภาพจาก TikTok @dr.kolid  

ไวรัล ส่งดอกไม้เซอร์ไพรส์ให้คนรัก
ภาพจาก TikTok @dr.kolid

KUBET – ตำรวจเปรูพรางตัว เป็นคาปิบาราสายโหด รวบคนร้ายค้ายาได้คาหนังคาเขา

       แบ๊วกรุบ ตำรวจเปรูพรางตัว เป็นคาปิบารา เนียนแจกของขวัญวันแห่งความรัก แบบมาสคอตสุดคิวต์ ก่อนพลิกเป็นขาโหดนาทีบุกรวบคนร้าย




ตำรวจเปรูพรางตัว เป็นคาปิบาราสายโหด รวบคนร้ายค้ายา
ภาพจาก X @PoliciaPeru

        เป็นคลิปปฏิบัติการสุดแบ๊วซึ่งกลายเป็นไวรัลในขณะนี้ สำหรับภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศเปรู ที่สวมชุดมาสคอต แต่งเป็นคาปิบาราสุดน่ารัก ออกปฏิบัติภารกิจพรางตัวเพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติด ก่อนสามารถรวบตัวคนร้ายได้แบบคาบ้าน

        รายงานจาก FOX9 เผยว่า คลิปปฏิบัติการดังกล่าวเป็นภาพบอดี้แคม ที่ได้รับการเปิดเผยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติของเปรู เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 พร้อมข้อความ “คาปิบาราออกปฏิบัติการ ในลูริน เจ้าหน้าที่ใช้กลยุทธ์พรางตัว สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดได้คาหนังคาเขาขณะก่อเหตุ”

ตำรวจเปรูพรางตัว เป็นคาปิบาราสายโหด รวบคนร้ายค้ายา
ภาพจาก X @PoliciaPeru

        โดยจากคลิปเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด สวมชุดคาปิบารา ถือของขวัญไปแจกเพื่อส่งความสุขแก่ประชาชนในวันวาเลนไทน์ บริเวณใกล้ ๆ บ้านของผู้ต้องสงสัย และยังมีการถ่ายรูปคู่กับประชาชนเหมือนมาสคอตทั่ว ๆ ไป ที่มักมีเด็ก ๆ เข้าไปเล่นด้วย จนกระทั่งจังหวะหนึ่งที่ผู้ต้องสงสัยเปิดประตูออกมาดู เจ้าหน้าที่ก็ฉวยโอกาสนั้น รีบบุกเข้าไปทำการจับกุมทันที

ตำรวจเปรูพรางตัว เป็นคาปิบาราสายโหด รวบคนร้ายค้ายา
ภาพจาก X @PoliciaPeru

ตำรวจเปรูพรางตัว เป็นคาปิบาราสายโหด รวบคนร้ายค้ายา
ภาพจาก X @PoliciaPeru

ตำรวจเปรูพรางตัว เป็นคาปิบาราสายโหด รวบคนร้ายค้ายา
ภาพจาก X @PoliciaPeru

ตำรวจเปรูพรางตัว เป็นคาปิบาราสายโหด รวบคนร้ายค้ายา
ภาพจาก X @PoliciaPeru

ตำรวจเปรูพรางตัว เป็นคาปิบาราสายโหด รวบคนร้ายค้ายา
ภาพจาก X @PoliciaPeru

ตำรวจเปรูพรางตัว เป็นคาปิบาราสายโหด รวบคนร้ายค้ายา
ภาพจาก X @PoliciaPeru

ตำรวจเปรูพรางตัว เป็นคาปิบาราสายโหด รวบคนร้ายค้ายา
ภาพจาก X @PoliciaPeru

        จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ที่สวมชุดคาปิบารา
เป็นคนที่ทำหน้าที่ชาร์จตัวผู้ต้องสงสัย ก่อนจะทำการจับกุมไปดำเนินคดี
ขณะที่การตรวจค้นบ้านของผู้ต้องสงสัย ยังพบของกลางเป็นโคเคน 1,700 ห่อ
พร้อมกัญชา ซึ่งหลังการจับกุม
เจ้าหน้าที่คาปิบารายังถ่ายรูปคู่กับผู้ต้องหาและของกลางด้วย

ตำรวจเปรูพรางตัว เป็นคาปิบาราสายโหด รวบคนร้ายค้ายา
ภาพจาก X @PoliciaPeru

       
ทั้งนี้ พบว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตำรวจของเปรูสวมชุดมาสคอต
ออกปฏิบัติภารกิจ โดย BBC ระบุว่า
ชุดปฏิบัติการพิเศษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปรู
มักจะให้เจ้าหน้าที่สวมชุดแฟนซีเป็นประจำในเทศกาลต่าง ๆ เช่น วันวาเลนไทน์
วันฮาโลวีน รวมถึงวันคริสต์มาส โดยชุดที่เคยใส่มาก่อนหน้านี้ มีทั้ง
สไปเดอร์แมน กัปตันอเมริกา หรือแม้แต่แบล็กวิโดว์

ขอบคุณข้อมูลจาก FOX9, BBC 

KUBET – แฉ อบต. จัดทริปดูงานญี่ปุ่น 5.5 ล้าน ยกก๊วนไปครบ ซ้ำชื่อไม่ตรง

          เพจชมรม STRONGต้านทุจริต แฉทริปดูงาน อบต.บางโฉลง ยกก๊วนไปกันครบ ซ้ำรายชื่อกับคนไปไม่ตรงปก



อบต. ทริปดูงานญี่ปุ่น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย

          วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เพจเฟซบุ๊ก ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย รายงานว่า ตรวจสอบพบความผิดปกติในทริปไปญี่ปุ่นของ อบต. แห่งหนึ่ง จำนวน 37 คน ใช้งบประมาณ 5.5 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะมีชื่อบุคคลเดินทางไม่ตรงกัน ยังเป็นการไปร่วมทริปทั้ง อบต. 36 คน จากที่ปกติจะส่งตัวแทนไปเพียงเท่านั้น

          เพจดังกล่าวระบุว่า ทริปดูงานญี่ปุ่น คนไป ไม่ตรงปก เมื่อราวปลายปีที่แล้วระหว่างวันที่ 11-17 ธันวาคม 2567 อบต.บางโฉลง สมุทรปราการ ยกขบวน 37 ชีวิต จัดทริปดูงานเมืองโอซากา เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น 7 วัน อ้างว่าไปในหลักสูตร ก.พ.ร.รุ่นที่ 2/2568 ใช้งบประมาณ คนละ 149,000 บาท รวมเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 5,513,000 บาท

ทริปดูงานญี่ปุ่น อบต.
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย

          เมื่อตรวจสอบรายชื่อที่ สำนักงาน ก.พ.ร. ประกาศ พบว่ามีรายชื่อบุคคลกับผู้เดินทางไปไม่ตรงกัน โดยในรายชื่อลำดับที่ 29 นางสาวจารุพร ไม่ได้เดินทางไปด้วย แต่กลับปรากฏตัวนายวิทยา ไปแทน ซึ่งอาจผิดระเบียบว่าด้วยค่าใช้จ่ายเดินทางไปราชการก็เป็นได้

ทริปดูงานญี่ปุ่น อบต. ไม่ตรงปก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย

          นอกจากนี้ยังพบว่า อบต. ดังกล่าว ยกขบวนไปญี่ปุ่น ทั้งทริป เลย 36 คน รวมท้องถิ่นจังหวัดอีก 1 คน  ซึ่งปกติแล้ว หลักสูตร ก.พ.ร. แต่ละ อบต.จะส่งเจ้าหน้าที่ตัวเองไป 2-3 คนเท่านั้นเพื่อเรียนรู้

         
ยังพบว่ารายละเอียดหลักสูตรนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาองค์การและสังคมอย่างยั่งยืน
ของ ก.พ.ร. นั้นมีรายละเอียดและค่าใช้จ่ายดังนี้..

          ค่าหลักสูตร 149,000 บาท รุ่นที่ 2/2568 ศึกษาอบรมในเดือนพฤศจิกายน, เดือนธันวาคม, 2567 และเดือนมกราคม 2568 ดังนี้

         
เดือนพฤศจิกายน วันที่ 12 และ 13 (แบบไป-กลับ) ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์
คอนเวนชั่น (กทม.) วันที่ 18, 21, 25, 27 (Online ผ่าน Zoom)

          เดือนธันวาคม วันที่ 2, 4, (Online) (11 – 17 ธันวาคม ศึกษาดูงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น เมืองโอซากา, เมืองนาโกย่า)

         
เดือนมกราคม วันที่ 21, 22 (Online)
มีการนำเสนอผลงานการสร้างสรรค์พัฒนานวัตกรรม
รับฟังความคิดเห็นจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ
และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลังจากกิจกรรมศึกษาดูงานภาควิชาการในต่างประเทศเสร็จสิ้นแล้ว

          ประชาชนตรวจสอบแล้ว ฝากต้นสังกัดและหน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบด้วย

อบต. ไปดูงานที่ญี่ปุ่น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย

KUBET – ศาลสั่งปรับ ซิปเม็กซ์ 1 แสนบาท และสั่งจำคุก เอกลาภ ยิ้มวิไล

         ศาลตัดสินปรับ ซิปเม็กซ์ 1 แสน พร้อมสั่งจำคุกเอกลาภ ยิ้มวิไล 5 ปี คดีนี้ผู้เสียหายเพียบเกือบ 700 คน



ศาลตัดสินปรับ ซิปเม็กซ์ 1 แสน พร้อมสั่งจำคุกเอกลาภ ยิ้มวิไล 5 ปี
ภาพจาก สำนักข่าวไทย

         วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาคดีที่จำเลยที่ 1 คือ บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล และจำเลยที่ 2 คือ นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ซึ่งเป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท

         
         ศาลพิเคราะห์ว่า จำเลยทั้ง 2 มีความผิด จึงพิพากษาปรับบริษัทซิปเม็กซ์ 1 แสนบาท และจำคุกนายเอกลาภ 5 ปี ซึ่งในคดีนี้ ไม่มีการรอลงอาญา และจำเลยอยู่ระหว่างการใช้สิทธิประกันตัว

ศาลตัดสินปรับ ซิปเม็กซ์ 1 แสน พร้อมสั่งจำคุกเอกลาภ ยิ้มวิไล 5 ปี
ภาพจาก สำนักข่าวไทย

         ขณะที่นายกิจจา จงขวัญยืน ตัวแทนผู้เสียหายกลุ่มร่วมสู้ Zipmex
เปิดเผยว่า
ขอบคุณที่ศาลให้ความเป็นธรรมต่อประชาชนตัวเล็กที่ลุกขึ้นสู้กับคนใหญ่โต
โดยปัจจุบันมีผู้เสียหายแล้ว 700 ราย มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2
พันล้านบาท และทางกลุ่มร่วมกันฟ้องจำเลย 23 ราย
ทั้งในไทยและนอกประเทศเพื่อเรียกค่าเสียหายเพื่อการลงโทษรวมไม่ต่ำกว่า 5
พันล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย

KUBET – หนุ่มสร้างโลก 2 ใบ แต่ง 2 เมีย ห่างกันไม่ถึงเดือน สุดแสบทำเจ้าสาวท้องพร้อมกัน

         ฉาว หนุ่มสร้างโลก 2 ใบ แต่ง 2 เมีย ห่างกันไม่ถึงเดือน ยกเรื่องงานมาอ้างตอนหายไปอยู่กับอีกคน เมียหลวงสุดช้ำหลังรู้ความจริง แถมเมียน้อยยังส่งรูปมาให้



หนุ่มสร้างโลก 2 ใบ แต่ง 2 เมีย ห่างกันไม่ถึงเดือน
ภาพจาก SAOstar

          วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ SAOstar รายงานเรื่องราวที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมเวียดนาม หลังจากที่หญิงรายหนึ่ง ออกมาเปิดโปง N ชายจากจังหวัดกว๋างนาม ที่สร้างโลก 2 ใบ แต่งงานกับหญิง 2 คน ในเวลาห่างกันเพียง 3 สัปดาห์ แถมมักจะใช้เรื่องงานมาเป็นข้ออ้างในการหายตัวไปเสมอ

          โดยหญิงที่ใช้นามแฝงว่า D แชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นบเฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าว่า เธอกับ N เข้าพิธีแต่งงานกันในวันที่ 6 สิงหาคม 2566 แต่ไม่รู้เลยว่าในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์จากนั้น เขาจะแอบไปแต่งงานกับผู้หญิงชื่อ L ในวันที่ 27 สิงหาคม ซึ่งที่เจ็บแสบไปยิ่งกว่านั้นคือตอนที่แต่งงาน ผู้หญิง 2 คนต่างตั้งครรภ์ลูกของ N และพ่อแม่ของเขาก็รู้เห็นเป็นใจ ไปเป็นสักขีพยานในพิธีแต่งงานทั้ง 2 ครั้ง แต่ไม่เคยบอกเล่าการมีอยู่ของภรรยาอีกคนของลูกชาย ให้ D ทราบ

หนุ่มสร้างโลก 2 ใบ แต่ง 2 เมีย ห่างกันไม่ถึงเดือน
ภาพจาก SAOstar

สำหรับไทม์ไลน์ของความสัมพันธ์ มีดังนี้

          – เดือนธันวาคม 2565 D เจอกับ N เป็นครั้งแรก ซึ่งตอนนั้นเขายอมรับว่าเคยมีแฟนเก่าชื่อ L แต่เลิกกันแล้วเมื่อ 6 เดือนก่อน

          – D กับ N คบหาเป็นคนรัก และยังพาฝ่ายชายไปทำความรู้จัก แนะนำตัวกับแม่ของฝ่ายหญิง

          – 30 เมษายน 2566 ทั้งคู่ไปเที่ยวด้วยกันตามประสาคนรัก ก่อนที่ต่อมา D จะรู้ตัวว่าท้อง จึงบอกข่าวดีให้แฟนหนุ่มทราบ

          – N นัด D มาพูดคุย พร้อมสารภาพว่าในต้นเดือนเมษายนนั้น เขาได้นัดดื่มกับแฟนเก่าแล้วมีอะไรกัน และ L ก็เพิ่งบอกเขาว่าตัวเองท้องเช่นกัน เพียงไม่นานก่อนที่จะรู้จาก D ว่าเธอท้อง

          – D จำต้องเก็บซ่อนเรื่องที่แฟนหนุ่มมีลูกกับแฟนเก่า เพื่อปกป้องเกียรติของครอบครัวเขา ในตอนที่มาสู่ขอเธอจากแม่และญาติ

          – ในวันสู่ขอ ตัวแทนครอบครัวผู้ชายอ้างว่าพวกเขาอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ จึงขอเลื่อนงานแต่งออกไป พร้อมสัญญากับตาและยายของเธอว่า เมื่อผ่านพ้นช่วงไว้ทุกข์แล้วจะนำสินสอดมาให้

          – 6 สิงหาคม 2566 D กับ N แต่งงานกัน ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะย้ายไปอยู่กับสามี

          – 27 สิงหาคม N แต่งงานกับ L โดยมีพ่อแม่เขาไปร่วมงาน

          – ระหว่างใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน N มักจะหายตัวจากบ้านไปหลายครั้ง โดยอ้างว่าต้องอยู่ที่ไซต์งานก่อสร้าง ซึ่งทางภรรยาก็ไม่ได้เอะใจ

          – แม่ของ D ได้รับข้อความปริศนาจากคนแปลกหน้า (L เป็นคนส่งมา) แล้วต้องช็อกเมื่อได้เห็นภาพแต่งงานของ N กับ L เธอตกใจมากที่เห็นว่าลูกเขยไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น จึงเอาเรื่องไปบอกลูกสาว

          – D สารภาพกับแม่ ว่ารู้เรื่องที่สามีแอบมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอีกคนแล้ว แต่ต้องเก็บไว้เป็นความลับเพื่อรักษาหน้าให้ครอบครัวของสามี ความจริงที่รับรู้ทำให้แม่เศร้าใจกับชะตากรรมของลูกสาวมาก

          – D เปิดเผยว่า ระหว่างแต่งงาน เธอบังเอิญรู้ว่าสามีไปแต่งงานกับ L เช่นกัน เธอโกรธมาก จึงไปเค้นถามความจริงจากแม่สามี ซึ่งแม่สามีก็อ้างว่า L มีอาชีพเป็นครู แต่เพราะ L ตั้งครรภ์ ครอบครัวฝ่ายนั้นจึงขอให้ N แต่งงานด้วยเพื่อปกป้องเกียรติ การแต่งงานจึงมีขึ้นโดยไม่ได้จัดฉลองใด ๆ มีแค่พ่อแม่ของ N และป้าของเขา ที่ไปเป็นสักขีพยาน

หนุ่มสร้างโลก 2 ใบ แต่ง 2 เมีย ห่างกันไม่ถึงเดือน
ภาพจาก SAOstar

          – ต่อมา D ทราบว่า ที่สามีหายตัวไปบ่อย ๆ นั้น แท้จริงไม่ได้ไปทำงานตามที่อ้าง แต่เขาไปอยู่กับ L และลูก แถมครอบครัวสามียังสร้างบ้านให้ผู้หญิงคนนั้นด้วย

          – D ชี้ว่าทุก ๆ ครั้งที่เธอกับสามีทะเลาะกัน แม่สามีก็มักจะพูดจาแย่ ๆ กับเธอ ความอัดอั้นใจกับเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญ ทำให้สุดท้าย D ตัดสินใจพาลูกกลับบมาอยู่บ้านแม่ตัวเอง

          – หลังจากนั้น พ่อแม่ฝ่ายชายยังมาเยี่ยมหลานเป็นบางครั้ง และยังนำหลานกลับไปเลี้ยงดูบ้าง

          – ต่อมาแม่ของ D พยายามถามฝั่งผู้ชาย ว่าเหตุใดมาสู่ขอลูกสาวจากเธอไปแล้ว ยังจะไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นอีก พ่อของ N กลับอ้างว่า “ทุกคน ๆ ต้องมีสถานะ เราไม่ได้ทำอะไรผิด”

          – คำตอบนั้นทำให้ฝั่ง D โมโหจัด ไม่พอใจกับวิธีจัดการของพ่อแม่ N ที่ขาดความชัดเจน ไม่เคยขอโทษ และไม่รับผิดชอบต่อคำสัญญาใด ๆ
ที่เคยให้ไว้กับญาติของเธอ สุดท้ายเธอก็บอกพวกเขา ไม่ให้มาที่บ้านของเธออีก

          – เมื่อเรื่องถึงทางการ ก็ได้ประสานนัดทุกฝ่ายมาเคลียร์กัน D กับ L จึงได้เจอกันเป็นครั้งแรกในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ขณะที่ N อ้างว่ามาไม่ได้ เนื่องจากติดงาน

          – L อ้างว่าไม่เคยรู้เรื่องของ D มาก่อน หากครอบครัวของเธอรู็ ก็คงไม่มีวันยอมให้มีการแต่งงานเกิดขึ้น
 
          – D ย้ำว่า ครอบครัวสามีใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ไม่ชัดเจน
ทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างครอบครัวของผู้หญิงทั้ง 2 คน
ขณะที่ตัวผู้ชายอ้างว่ามีความรู้สึกต่อผู้หญิงทั้ง 2 คนเท่า ๆ กัน
แต่พยายามใช้ชีวิตแบบ 2 โลก โดยไม่ให้แต่ละเมียรับรู้การมีอยู่ของกันและกัน

          – สุดท้ายก็ยังไม่สามารถสรุปเรื่องราวลงได้ ว่า N จะเลือกฝ่ายไหน แต่มีแนวโน้มว่า D อาจยอมพาลูกกลับไปเพื่อสภาพการศึกษาที่ดีกว่าของลูกชาย

ขอบคุณข้อมูลจาก SAOstar

KUBET – หนุ่มรักแม่เพื่อน เคยเจอที่ รร. ไม่หวั่นอายุห่าง 21 ปี ฝ่าสารพัดด่าน จนตอนนี้ได้เป็นคู่ชีวิต

           หนุ่มตกหลุมรักแม่เพื่อน เจอกันวันพบผู้ปกครอง ก้าวข้ามอายุต่างกัน 21 ปี ตอนนี้ขยับสถานะมาเป็นสามีภรรยา เล่าถึงอุปสรรคที่ต้องเจอ รักนี้ไม่ง่าย

 

           วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า รายการโทรทัศน์ของญี่ปุ่น “新婚さんいらっしゃい!” นำเสนอเรื่องราวของคู่รักต่างวัย ระหว่างสามีวัย 32 ปี และภรรยาวัย 53 ปี ซึ่งความน่าสนใจในความสัมพันธ์ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงอายุที่ห่างกันถึง 21 ปี แต่ยังมีเรื่องของสถานะเข้ามาเกี่ยว เมื่อฝ่ายหญิงนั้นเคยเป็นแม่ของเพื่อนร่วมชั้นฝ่ายชายมาก่อน และการพบกันครั้งแรกก็เกิดขึ้นในงานประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียน

 

           คู่รักต่างวัย จากจังหวัดชิซึโอกะของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า พวกเขาเจอกันครั้งแรกที่โรงเรียนก็จริง แต่เรื่องรักระหว่างทั้งคู่เพิ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อฝ่ายชายโตแล้ว โดยเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ชายหนุ่มได้บังเอิญเจอกับแม่ของเพื่อนร่วมชั้น และตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น นับจากนั้นเขาก็พยายามไล่ตามรักครั้งนี้อย่างกล้าหาญ โดยใช้เพื่อนสาวเป็นสื่อกลางในการชวนแม่ของเพื่อนมาดินเนอร์กับเขา

 

           ระหว่างดินเนอร์ครั้งแรก ชายหนุ่มสารภาพรักอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกเห็น ได้โปรดคบกับผมเถอะ” แต่ฝ่ายหญิงกลับตัดบทว่า “พูดอะไรโง่ ๆ”

 

           แม้การสารภาพรักจะไม่ราบรื่น แต่ชายหนุ่มยังไล่ตื๊อเธอไม่หยุด เขายังชวนเธอไปเดตต่อทุก ๆ วัน ต่อเนื่องกันนานถึง 30 วัน โดยเขารู้มาว่าเธอชอบดูโคมไฟ จึงพาเธอไปเที่ยวชมเทศกาลโคมไฟถึง 40 งาน ภายใน 30 วันนั้น กระทั่งวันที่ 30 เขาก็ตัดสินใจสารภาพรักกับเธออีกครั้งในสวนใกล้บ้าน แต่ฝ่ายหญิงยังปฏฺิเสธ และบอกว่าเธอคงมาเดตกับเขาไม่ได้อีกแล้ว ทำให้ชายหนุ่มน้ำตาไหลออกมาทันที

 

           เมื่อถามถึงสาเหตุที่เธอยอมไปเดตกับชายหนุ่มถึง 30 ครั้ง ฝ่ายหญิงเผยว่า “ตอนนั้นฉันเพิ่งหย่ากับสามีค่ะ และผ่านช่วงเวลาที่อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างมาก เขาคือแรงสนับสนุนทางใจที่ใหญ่ที่สุดของฉัน”

 

           อย่างไรก็ตาม เธอยังต้องคิดถึงหัวอกของลูกสาว รวมถึงภาพลักษณ์ต่อสาธารณะ แต่แล้วหลังจากที่ได้รับข้อความไลน์จากลูกสาว ซึ่งเป็นเหมือนแรงผลักดันให้เธอก้าวต่อไป ในที่สุดทั้งคู่ก็ตกลงที่จะสานความสัมพันธ์แบบคู่รัก

 

           แต่อุปสรรคที่ใหญ่ยิ่งกว่ายังคงมีอยู่ แม้ทั้ง 2 คนจะสานรักกันอย่างราบรื่นโดยที่ลูกสาวของฝ่ายหญิงไม่ติดขัด แต่กว่าที่พวกเขาจะได้แต่งงานยังต้องฝ่าด่านพ่อแม่ของทั้ง 2 ครอบครัว ซึ่งแสดงท่าทีคัดค้านอย่างหนักตอนที่ทั้ง 2 คนพาคนรักไปพบพ่อแม่ อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดพวกเขาก็สามารถเอาชนะอุปสรรคนี้จนได้รับความยินยอม กระทั่งได้แต่งงานกันเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567  

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday, magazine ABC