KUBET – สั่งล่า ชายจีน บังคับ น้องไอ อัพยาจนช็อกตาย แม่ลั่นเรียกเยียวยา 7 แสน ไม่ใช่แสนเดียว

          สั่งล่า ชายจีน บังคับ น้องไอ อัพยาจนช็อกตาย แม่ลั่นเรียกเยียวยาไป 7 แสน ไม่ใช่แสนเดียว สัญญาจะจ่ายแต่เงียบหาย วอนหาความจริง เกิดอะไรกับลูก



ล่า ชายจีน บังคับ น้องไอ อัพยาจนช็อกตาย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ

          กรณีเพจดังออกมาแฉเรื่องราวของเด็กเอนรายหนึ่งที่มีลูกค้าชาวจีนจ้างให้รับงานสาย VIP ผ่านโมเดลลิ่ง แต่กลับบังคับให้น้องอัพยาจนช็อกตาย ทิ้งศพคาโรงแรม แล้วทิ้งให้โมเดลลิ่งเคลียร์ให้ ซึ่งทางโมเดลลิ่งได้เสนอจ่ายเยียวยา 100,000 บาทแก่ญาติให้ปิดเรื่องนั้น

อ่านข่าว : เพจดังแฉ เด็กเอนรับงานลูกค้าจีน ให้เล่นยาจนช็อก ทิ้งศพคา รร. – เรื่องเงียบด้วย 1 แสน ! 

          ล่าสุด (16 กุมภาพันธ์ 2568) รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 รายงานข้อมูลจากแม่ของเด็กเอนดังกล่าว เปิดเผยว่า ตัวแม่อยู่ จ.ร้อยเอ็ด ส่วนลูกสาวอยู่ กทม. คนเดียว เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย โทร. มาแจ้งว่าลูกสาวอัพยาเกินขนาด เสียชีวิตที่โรงแรม ตอนนั้นทางตำรวจไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง แต่แจ้งว่าลูกสาวมีการรับงานเอน ดูแลลูกค้าแล้วมีการใช้สารเสพติด เบื้องต้นส่งศพไปชันสูตรแล้ว

          ทั้งนี้ น้องรับงานในเวลา 23.00 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน กทม. โดยมีลูกค้าเป็นชาวจีน จากนั้นช่วง 02.30 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ น้องมาที่โรงแรม และในเวลา 06.00 น. ชายชาวจีนแจ้งกับพนักงานโรงแรมว่าน้องไม่สบาย ให้ไปดูหน่อย จากนั้นก็รอรถพยาบาลมาถึง แต่เมื่อรถพยาบาลมาถึงปรากฏว่าชายชาวจีนหายตัวไปแล้ว

ล่า ชายจีน บังคับ น้องไอ อัพยาจนช็อกตาย
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

          แม่ชี้ว่า ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แค่ทางตำรวจบอกว่าลูกสาวอัพยาเกินขนาด ผลชันสูตรเบื้องต้นคือระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว ตำรวจบอกว่าต้องรอผลตรวจสารเสพติดอย่างน้อย 45 วัน และแนะนำให้คุณแม่ไปไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีเรื่องการเยียวยา ซึ่งคุณแม่ได้ประเมินเงินเยียวยาของลูกอยู่ที่ 700,000 บาท

          โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าชายชาวจีนตกลงว่าจะจ่ายให้ 700,000 บาท แต่ตอนนี้ทุกอย่างเงียบไป แม่ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการเงิน แต่ต้องการดูความจริงว่าสุดท้ายเกิดอะไรขึ้น

          ด้านเพื่อนของผู้เสียชีวิตได้มาที่จุดเกิดเหตุในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เมื่อมาถึงเห็นเจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เห็นว่าเพื่อนนอนห่มผ้าอยู่บนเตียง สภาพเปลือย ไม่มีบาดแผลตามเนื้อตัว ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ เจ้าหน้าที่บอกว่าเจอยาเสพติดเป็นไอซ์กับแฮปปี้วอเตอร์ แล้วเจออุปกรณ์เกี่ยวกับการเสพยาตกอยู่ข้างเตียง พิสูจน์หลักฐานได้เก็บไปหมดแล้ว แต่ไม่เห็นชายชาวจีน

          ตำรวจเล่าให้ฟังว่า คนจีนพยายามหนีหลังตำรวจมาถึง แล้วก็หนีไปได้สำเร็จ ตำรวจสรุปเบื้องต้นว่า น้องน่าจะอัพยาเกินขนาดจนเสียชีวิต แต่เพื่อนยังไม่เชื่อ เพราะปกติน้องไม่เสพยา

 ล่า ชายจีน บังคับ น้องไอ อัพยาจนช็อกตาย
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ 


งานเอน มีกี่ประเภท ส่องรหัสรับงาน แปลว่าอะไร ?

         
ขณะที่เช้าวันนี้ (16 กุมภาพันธ์) นักข่าวช่อง 3 ไปยังหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง
ในพื้นที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ ซึ่งข้อมูลระบุว่าเป็นสถานที่เกิดเหตุ
และได้มีการพูดคุยกับสาวคนหนึ่งที่ยอมรับว่ารับงานเด็กเอน
เพิ่งรับมาจากลูกค้าชาวจีนที่โรงแรมเมื่อคืน แต่ไม่รู้ว่ามีคนเสียชีวิตที่นี่

          จากการสอบถามข้อมูล
สาวคนนี้เผยว่า ลักษณะการรับงาน ปกติเด็กเอนจะรับงาน 2 แบบ
คือ รับงานผ่านโมเดลลิ่งกับอิสระ
หากรับผ่านโมเดลลิ่งก็จะเสียค่านายหน้าตามที่ตกลง งานส่วนใหญ่มี 3 แบบ คือ

          – งาน N หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์ เป็นการรับงานทั่วไป กินดื่ม สังสรรค์กับลูกค้า

          – งาน Up เป็นงานที่จะเพิ่มยาเสพติดเข้ามาด้วย ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นคนจัดเตรียมยาเสพติดมาให้

          – งาน VIP เป็นงานที่ต้องมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า

         
ซึ่งหากดูจากแชตที่น้องผู้เสียชีวิตรับงานจากโมเดลลิ่ง ซึ่งมีทั้ง En up VIP น่าจะหมายถึงงานเอนเตอร์เทน มีการอัพยา และเป็นงานแบบ VIP
คือการมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า ค่าจ้าง 6,000 บาท ในช่วงเวลา 4-5 ชั่วโมง
แต่จริง ๆ ก็ถือว่าค่าตัวไม่สูงเลย เพราะต้องอัพ+วี จริง ๆ
ควรจะต้องหลักหมื่นขั้นต่ำ

ล่า ชายจีน บังคับ น้องไอ อัพยาจนช็อกตาย
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

เช็กวงจรปิด ล่าตัวชายจีน รู้แล้วเป็นใคร

          ขณะที่ข่าวช่องวัน รายงานว่า พล.ต.ท. สยาม บุญสม ผบช.น.
สั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและ สน.โชคชัย เร่งรัดติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ไอรดา หรือ น้องไอ อายุ 22 ปี
ที่รับงานเอนไปดูแลลูกค้าชาวจีนและมีการใช้ยาเสพติด
ก่อนพบเสียชีวิตในห้องที่โรงแรมย่านบางกะปิ

          โดย พล.ต.ต.
นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ตำรวจ สน.โชคชัย
ได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวเสียชีวิตในห้องพักเลขที่ 112 ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
จึงไปตรวจสอบ พบศพ น.ส.ไอรดา นอนเสียชีวิตบนเตียงในสภาพเปลือยกายท่อนบน
ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการต่อสู้ เมื่อไล่ดูกล้องวงจรปิดพบว่า ในวันที่ 9
กุมภาพันธ์ เวลา 23.16 น. มีชายชาวจีนเข้ามาเช็กอิน
ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะตามมาเข้าพักในห้องเดียวกัน

          วงจรปิดจับภาพได้อีกครั้งช่วง 06.16 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์
ชายชาวจีนออกจากห้องพักไปและไม่กลับเข้ามาอีกเลย
กระทั่งพนักงานโรงแรมแจ้งว่าพบคนเสียชีวิตในโรงแรม
 

         
กรณีดังกล่าว พล.ต.ท. สยาม (น.1) ได้กำชับสั่งการให้ทางชุดทำงานเร่งรัดติดตามความคืบหน้า
พร้อมให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้
หากพบว่ามีตำรวจนายใดบกพร่อง ให้ความร่วมมือในการปกปิดข้อมูล
หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด น.1 จะสั่งการลงโทษขั้นเด็ดขาดทั้งทางวินัยและทางอาญา

          อย่างไรก็ตาม
เบื้องต้นมีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก มีการเร่งรัดผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ของที่เกิดเหตุ
พร้อมทั้งเรียกตัวโมเดลลิ่งเจ้าของงานเข้าให้การกับทางตำรวจ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำ


          ด้านชายชาวจีน ทราบชื่อคือ Mr.Duoying (สงวนนามสกุล)
ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับไว้แล้ว ข้อหา กระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัว พร้อมประสาน
ตม. แจ้งสกัดกั้นทุกด่านทุกช่องทางแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์, ข่าวช่องวัน

KUBET – แจ็ค เดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องในตำนาน ถูกเปิดเผยตัวจริง ไขปริศนาคดีดัง 137 ปี


           พบหลักฐานสำคัญนำไปสู่การเผยตัวตนที่แท้จริงของ แจ็ค เดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องชื่อดังในตำนาน หลังจากคดีเป็นปริศนามานานถึง 137 ปี



เผยตัวจริง แจ็ค เดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องในตำนาน 137 ปี

           หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ แจ็ค เดอะริปเปอร์ (Jack the Ripper) ฆาตกรต่อเนื่องชื่อดังในอังกฤษ ที่ได้ลงมือสังหารเหยื่อบนท้องถนนในกรุงลอนดอนเมื่อปี 1888 (พ.ศ. 2431) สร้างความหวาดผวาให้กับผู้คนและไม่สามารถจับตัวได้ จนกลายเป็นปริศนาโด่งดังไปทั่วโลกมานานถึง 137 ปี ล่าสุด วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ news.com.au ของออสเตรเลีย ได้เผยรายงานที่น่าสนใจ เมื่อเราอาจจะได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของแจ็ค เดอะริปเปอร์    

           โดยเหยื่อของแจ็ค เดอะริปเปอร์ ที่ถูกยอมรับอย่างเป็นทางการ เป็นผู้หญิง 5 คน ซึ่งเรียกว่า Canonical Five ถูกข่มขืนและฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน ได้แก่ แมรี่ นิโคลส์ อายุ 43 ปี, แอนนี แชปแมน อายุ 47 ปี, เอลิซาเบธ สไตรด์ อายุ 44 ปี, แคเธอรีน เอ็ดโดว์ส อายุ 46 ปี และแมรี เจน เคลลี อายุ 25 ปี

           เหยื่อทั้งหมดอยู่ในสภาพสยดสยอง อวัยวะหลายส่วนทั่วร่างกายถูกเฉือนและฉีกขาด ในจำนวนเหยื่อที่ถูกสังหารพบว่ามี 3 คนถูกตัดอวัยวะภายในออก จึงทำให้เกิดการคาดเดากันอย่างกว้างขวางว่า ฆาตกรน่าจะมีความรู้ด้านกายวิภาคหรือการผ่าตัด นำมาซึ่งคำถามที่น่าสงสัยว่า ฆาตกรเลือดเย็นหรือคนโรคจิตประเภทไหนที่ก่อเหตุอันเลวร้ายได้เช่นนี้

           แจ็ค เดอะริปเปอร์ เป็นอาชญากรที่ไม่เพียงแค่เป็นที่ต้องการตัวของตำรวจ แต่ยังเป็นปริศนาที่ค้างคาใจสำหรับนักประวัติศาสตร์และผู้ที่ชื่นชอบเรื่องอาชญากรรมมาเป็นเวลานานกว่าร้อยปี แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีชื่อของผู้ต้องสงสัยหลายรายปรากฏขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ กระทั่งล่าสุดมีผู้พบหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง   

           รัสเซลล์ เอ็ดเวิร์ดส (Russell Edwards) คือนักเขียนชาวอังกฤษผู้ประกาศตัวว่าเป็น ริปเปอร์โลจิสต์ (Ripperologist) หรือผู้ศึกษาอาชญากรรมของแจ็ค เดอะริปเปอร์ โดยเฉพาะ ย้อนไปเมื่อปี 2550 เขาได้ซื้อผ้าคลุมไหล่ของ แคเธอรีน เอ็ดโดวส์ หนึ่งในเหยื่อของแจ็ค เดอะริปเปอร์ ซึ่งมีเลือดและน้ำอสุจิติดอยู่

เผยตัวจริง แจ็ค เดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องในตำนาน 137 ปี
ภาพจาก Instagram russelledwards_jacktheripper

           หลายปีต่อมา ภายหลังจากผลการทดสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ถูกเปิดเผยออกมา พบว่ามีดีเอ็นเอของ 2 บุคคล หนึ่งในนั้นยืนยันว่าเป็นของเอ็ดโดวส์ เหยื่อหญิงผู้เป็นเจ้าของผ้าคลุม ผ่านการตรวจทดสอบกับทายาทผู้สืบทอดสายเลือดของเธอ ส่วนดีเอ็นเอของอีกคนตรงกับชายรายหนึ่ง ซึ่งเป็นทายาทของผู้อพยพชาวโปแลนด์ ที่น่าจะมีอายุประมาณ 23 ปี ในขณะที่เกิดการฆาตกรรม

           เอ็ดเวิร์ดส เผยว่า กระบวนการตรวจสอบดีเอ็นเอจากผ้าผืนนี้ต้องใช้เวลานานถึง 4 ปี เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่อาศัยความละเอียดขั้นสูง โดยจำเป็นต้องคัดแยกการปนเปื้อนและร่องรอยอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นอุปสรรค เมื่อนำเชื้ออสุจิที่หลงเหลือไปตรวจทดสอบ ทำให้ในที่สุดก็ค้นพบว่า แจ็ค เดอะริปเปอร์ ตัวจริงคือใคร

           โดยชายที่เชื่อว่าเป็น แจ็ค เดอะริปเปอร์ ถูกระบุชื่อว่า อารอน คอสมินสกี (Aaron Kosminski) อดีตช่างตัดผมชาวโปแลนด์ ซึ่งไม่เคยอยู่ในรายชื่อผู้ต้องสงสัยของทางการมาก่อนหน้านี้ เขาเกิดที่เมืองโคลดาวา ทางตอนกลางของประเทศโปแลนด์ ก่อนจะย้ายมาอยู่อังกฤษกับครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และเริ่มทำงานเป็นช่างตัดผมในย่าน Whitechapel ของลอนดอน

           บันทึกทางการแพทย์แสดงให้เห็นว่า คอสมินสกีป่วยเป็นโรคทางจิตเวชมาตั้งแต่ปี 1885 (พ.ศ. 2428) และเคยเข้ารับการบำบัดที่โรงพยาบาลจิตเวชหลายแห่งทั่วลอนดอน รายงานระบุว่า เขามีอาการเหมือนประสาทหลอนเกี่ยวกับการได้ยิน กลัวการถูกคนอื่นป้อนอาหาร และปฏิเสธที่จะล้างตัวหรืออาบน้ำ เขาเสียชีวิตในปี 1919 (พ.ศ. 2462) ในขณะที่อายุ 53 ปี

           “นี่คือการเดินทางเพื่อค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ที่มีเรื่องราวพลิกผันมากมาย การผจญภัยครั้งนี้น่าตื่นเต้นตั้งแต่ต้นจนจบ และผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้สัมผัสประสบการณ์นี้ มันเป็นช่วงเวลาที่น่าอัศจรรย์ที่สุดในชีวิตของผม” เอ็ดเวิร์ดส กล่าว

เผยตัวจริง แจ็ค เดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องในตำนาน 137 ปี

           เอ็ดเวิร์ดส์ เริ่มสนใจเรื่องราวของแจ็ค เดอะริปเปอร์ หลังจากชมภาพยนตร์เกี่ยวกับฆาตกรเรื่อง From Hell จากนั้นเขาก็ได้โทรศัพท์ไปยังตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด ก่อนจะได้รับแจ้งว่าเอกสารเกี่ยวกับคดีเหล่านั้นอยู่ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ เขาจึงรีบไปค้นคว้า แต่ก็เผชิญกับความจริงที่ว่าไม่มีใครทราบตัวตนของแจ็ค เดอะริปเปอร์ เพราะไม่มีหลักฐานใด ๆ

           เอ็ดเวิร์ดส์ ได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับการไขคดีนี้มาเป็นเวลาถึง 11 ปี จนเริ่มมีหวังเมื่อเขาตัดสินใจซื้อผ้าคลุมไหล่ผืนนี้มา จนกระทั่งผลการทดสอบปรากฏออกมาในที่สุด อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากระบวนการดังกล่าวจะถูกโต้แย้งจากนักวิทยาศาสตร์บางส่วน เนื่องจากยังไม่ได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่มีการตรวจสอบและรับรองอย่างเป็นทางการ แต่เอ็ดเวิร์ดส์ก็ยังคงยืนหยัดในความถูกต้องของวิธีการนี้

           ขณะที่ทางด้านทายาทของเหยื่อแจ็ค เดอะริปเปอร์ ต่างพากันเรียกร้องให้ตำรวจทำการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ อารอน คอสมินสกี โดยทันที เพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการและเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเหยื่อ ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายของสหราชอาณาจักร อัยการสูงสุดมีหน้าที่ในการอนุมัติการสอบสวนเพิ่มเติมในคดีแจ็ค เดอะริปเปอร์

           คาเรน มิลเลอร์ ลูกสาวของเหลนของแคเธอรีน เอ็ดโดวส์ กล่าวว่า “มีหลักฐานปรากฏแล้ว ตอนนี้เราต้องการการสอบสวนเพื่อระบุชื่อฆาตกรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คงจะมีความหมายสำหรับฉันและครอบครัวของฉันมาก รวมทั้งอีกหลาย ๆ คน หากปริศนาที่เกิดขึ้นมานาน 137 ปีนี้สามารถยุติลงได้”

ขอบคุณข้อมูลจาก news.com.au

KUBET – ไฟไหม้บ้านอาจารย์ ม.ดัง สลดภรรยาหนีไม่ทัน คาดเหตุแบตเตอรี่จักรยานไฟฟ้าระเบิด


           ไฟไหม้บ้านอาจารย์ ม. ดัง คลอกภรรยาเสียชีวิตบนชั้น 3 คาดเหตุจากแบตเตอรี่จักรยานไฟฟ้าระเบิด เจ้าหน้าที่เก็บซากส่งตรวจสอบ



ไฟไหม้บ้านอาจารย์ ม.ดัง ภรรยาหนีไม่ทัน ดับสลด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand

           วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า เมื่อเวลา 02.14 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านประชาชน ภายในซอยประชาอุทิศ 72 จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยทุ่งครุ พร้อมทั้งอาสาสมัครกู้ภัยเข้าตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ สูง 3 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง มองเห็นแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณหน้าบ้าน ลุกลามขึ้นสู่ชั้น 2 และชั้น 3 อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

           จากการตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางเกื้อพร อายุ 69 ปี อยู่ภายในห้องทำงานซึ่งเป็นห้องนอนของสามีที่ชั้น 3 ของบ้าน บริเวณหน้าบ้านพบผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควัน คือ นายสุชาติ อายุ 71 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยดังย่านปทุมวัน โดยหลังการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ผู้บาดเจ็บไม่ประสงค์จะไปโรงพยาบาล

ไฟไหม้บ้านอาจารย์ ม.ดัง ภรรยาหนีไม่ทัน ดับสลด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand

           นายสุชาติ เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้พวกตนอยู่กัน 2 คนกับภรรยา เพราะลูก ๆ มีครอบครัวกันหมดแล้ว ในเวลาประมาณ 02.00 น. ตนลุกไปเข้าห้องน้ำและได้ยินเสียงระเบิดโครมคราม ตอนแรกนึกว่ามีคนทะเลาะกัน แต่เห็นอีกทีก็มีแสงเพลิงลุกลามเข้าบ้าน ภายในบ้านมีถังดับเพลิง ตนฉีดข้างในแล้วแต่เอาไม่อยู่ คาดว่าสาเหตุเกิดจากแบตเตอรี่รถจักรยานไฟฟ้าระเบิด แต่ตนจอดทิ้งไว้เฉย ๆ หน้าบ้าน ไม่ได้ชาร์จแบตฯ ทิ้งไว้
 
           เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บซากแบตเตอรี่รถจักรยานไฟฟ้าและซากรถจักรยานไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนร่างผู้เสียชีวิตจะถูกส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ก่อนมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ไฟไหม้บ้านอาจารย์ ม.ดัง ภรรยาหนีไม่ทัน ดับสลด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand
ไฟไหม้บ้านอาจารย์ ม.ดัง ภรรยาหนีไม่ทัน ดับสลด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand

ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3

KUBET – เต้ บรม เปิดตัวคบ พอลล่า เทเลอร์ รับวาเลนไทน์ โพสต์ภาพหวานสมัยคบกันตั้งแต่วัยรุ่น

KUBET – แม่สู้ชีวิต นั่งเครื่องบินไปทำงานทุกวัน เผยประหยัดกว่าเช่าห้อง

          แม่ลูก 2 ใช้ชีวิตบินไป-กลับที่ทำงานทุกวัน เผยข้อดีคือประหยัดกว่าเช่าห้อง แถมได้มีเวลากับครอบครัว



ผู้โดยสารเครื่องบิน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า คุณแม่คนหนึ่งใช้ชีวิตประจำวันด้วยการเป็นสุดยอดนักเดินทาง เนื่องจากเธอนั้นเลือกจะโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ระหว่างบ้านกับที่ทำงานทุกวัน โดยให้เหตุผลว่าประหยัดกว่าการเช่าห้อง

          เรื่องราวนี้เป็นของ ราเชล คัวร์ ซึ่งอาศัยอยู่ที่มาเลเซีย ซึ่งชีวิตประจำวันของเธอนั้นต้องเดินทางด้วยเครื่องบินจากปีนัง ไปกัวลาลัมเปอร์ ตลอดสัปดาห์ที่ทำงาน โดยใช้เวลา 40 นาที ซึ่งเธอมองว่าการต้องตื่นเช้านั้นคุ้มค่ากับความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน

          ราเชล เผยว่า เธอนั้นมีลูก 2 คน วัย 12 ปี และ 11 ขวบ ซึ่งเธอมองว่ายิ่งลูก ๆ เติบโตขึ้น ลูก ๆ นั้นยิ่งต้องการให้แม่อยู่ใกล้ ๆ มากขึ้นกว่าที่เคย และด้วยชีวิตการเดินทางจากบ้านไปทำงานของเธอเช่นนี้ ทำให้เธอสามารถกลับบ้านได้ทุกวัน กลับมาดูแลลูกได้ตอนกลางคืน รวมทั้งมีเวลาได้ช่วยสอนการบ้านได้ลูกได้อีกด้วย

         การใช้ชีวิตเช่นนี้
ราเชล ตื่นนอนได้ช้าสุดคือ 04.00 – 4.15 น. จากนั้นจึงอาบน้ำ แต่งตัว
และออกจากบ้านตอน 05.00 น. เพื่อขึ้นเครื่องบินตอน 05.55 น.
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที และที่น่าประทับใจคือ
เธอนั้นไปถึงสำนักงานตอน 07.45 น. ในทุกเช้า ไม่เคยสาย

          อย่างไรก็ดี
แม้ว่า ราเชล จะทำงานอยู่กับสายการบินแห่งหนึ่ง
แต่เธอยืนยันว่าการใช้ชีวิตเช่นนี้เป็นการรับผิดชอบด้วยตนเองล้วน ๆ
เธอจ่ายค่าตั๋วเอง
โดยไม่ได้รับส่วนลดหรือสิทธิประโยชน์ของพนักงานแต่อย่างใด

          ส่วนเหตุผลที่เลือกเสียเวลาเดินทางไม่น้อยในแต่ละวัน
ราเชล ยืนยันว่าเดินทางไป-กลับด้วยเครื่องบิน
ยังประหยัดกว่าการต้องเช่าอพาร์ตเมนต์ในกัวลาลัมเปอร์
ซึ่งมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 300 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ราว 10,000 บาท)
โดยขณะนี้เธอนั้นซื้อบ้านอยู่ที่ปีนัง โดยมีค่าผ่อนบ้านอยู่ที่เดือนละ 223
ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ราว 7,500 บาท)

ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post

KUBET – ลิซ่า อวดกุหลาบของขวัญวาเลนไทน์ แฟน ๆ แซวหนุ่มฝรั่งเศสในเพลงให้มาหรือเปล่า

KUBET – พันเอกหญิง ขับรถ SUV ชนแบริเออร์ทางด่วน ร่างกระเด็นนอกรถ

         พันเอกหญิงหลับใน ขับรถชนแบริเออร์พลิกคว่ำ ร่างกระเด็นออกนอกตัวรถหมดสติกลางถนน บาดเจ็บสาหัส เร่งส่งโรงพยาบาล



พันเอกหญิง เสียหลักขับชนแบริเออร์ รถหวิดร่วงทางด่วน
ภาพจาก Mongkol Ngamkham

          วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เมื่อเวลา 16.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ปาเจโร่ เสียหลักชนแบริเออร์แล้วพลิกคว่ำหลายตลบ ผู้ขับขี่กระเด็นออกจากตัวรถ บนบูรพาวิถี กม.49 ขาเข้าชลบุรี

          ผู้บาดเจ็บเป็นพันเอกหญิง อายุ 46 ปี อยู่ในสภาพหมดสติ มีแผลที่บริเวณร่างกายและใบหน้า อาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทราจุดบางปะกง ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนประสานรถกู้ชีพโรงพยาบาลบางปะกงเร่งเคลื่อนย้ายนำส่งรักษาโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11

พันเอกหญิง เสียหลักขับชนแบริเออร์ รถหวิดร่วงทางด่วน
ภาพจาก Mongkol Ngamkham

          สอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนขับน่าจะวูบ
เห็นรถเสียหลักพุ่งชนขอบทางก่อนตีลังกา และคนกระเด็นออกมาจากตัวรถ
ตนจึงรีบวิ่งเข้าช่วยเหลือก่อนประสานตอนที่กู้ภัยสนับสนุนที่เกิดเหตุ หมู่ 1
ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

พันเอกหญิง เสียหลักขับชนแบริเออร์ รถหวิดร่วงทางด่วน
ภาพจาก Mongkol Ngamkham

พันเอกหญิง เสียหลักขับชนแบริเออร์ รถหวิดร่วงทางด่วน
ภาพจาก Mongkol Ngamkham

พันเอกหญิง เสียหลักขับชนแบริเออร์ รถหวิดร่วงทางด่วน
ภาพจาก Mongkol Ngamkham

พันเอกหญิง เสียหลักขับชนแบริเออร์ รถหวิดร่วงทางด่วน
ภาพจาก Mongkol Ngamkham

ขอบคุณข้อมูลจาก คนข่าวบางปะกง PBK V.2, กบ แปดริ้ว

KUBET – แพรรี่ ไพรวัลย์ รีเทิร์นคบ ฟอร์ด ปกรณ์ รับวาเลนไทน์ อวดโมเมนต์หวาน

            แพรรี่ ไพรวัลย์ เปิดตัวคนรักรับวันวาเลนไทน์ แฟนใหม่แต่หน้าคุ้น แถมโชว์โมเมนต์หวานรัว ๆ ทำ FC ฟินจิกหมอน



แพรรี่ ไพรวัลย์ คืนดี ฟอร์ด ปกรณ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร


            เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้หวานชื่นรับวันวาเลนไทน์ สำหรับ แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ซึ่งเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ได้เปิดตัวแฟนใหม่หน้าคุ้น แถมอีกฝ่ายยังโชว์หวานเซอร์ไพรส์แบบจัดเต็มสุด ๆ

            งานนี้แฟนใหม่ของ แพรรี่ ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ ฟอร์ด ปกรณ์ แฟนเก่าที่เคยรักหวาน ซึ่งแม้ต่างคนจะต่างแยกเส้นทางกันไปสักพัก แต่เร็ว ๆ นี้ ฟอร์ด ก็รุกหนักตามง้อคืนดี แพรรี่ แบบเต็มตัว ทำเอาชาวเน็ตต่างเอ็นดูในความน่ารัก ก่อนที่ทั้งคู่จะไม่ปล่อยให้แฟน ๆ ต้องลุ้นเก้อ ประกาศเปิดตัวคบกันเป็นแฟนอีกครั้งรับวันวาเลนไทน์ปีนี้

แพรรี่ ไพรวัลย์ คืนดี ฟอร์ด ปกรณ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร

            แพร์รี่ โพสต์ภาพคู่กับ ฟอร์ด ที่พามาดินเนอร์พร้อมด้วยดอกกุหลาบช่อโต โดยแคปชั่นว่า แฟนใหม่ หน้าคุ้น ขอบคุณสำหรับดอกกุหลาบนะคะ ขอบคุณที่ยังอยู่ที่เดิมเสมอ ไม่ว่าเราจะเคยห่างกันไปนานเท่าไหร่ กลับมาอยู่ด้วยกันครั้งนี้ ขอให้ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ยืนยาวและมั่นคงมากกว่าเดิมนะคะ ขอให้เราต่างเป็นหนังสือฉบับที่ปรับปรุงแล้วของกันและกันค่ะ

            ด้าน ฟอร์ด
ได้ลงคลิปหวานคู่กับแพรรี่ พร้อมแซวว่า วาเลนไทน์ปีนี้ถ้าไม่มีแฟนแย่แน่
เปิดมาในเฟซคนลงให้ดอกกุหลาบกันตั้งแต่เช้า ก่อนที่แพรรี่จะถามว่า
แล้วมีหรือยัง โดย ฟอร์ด ตอบว่า มีแล้ว ก่อนที่แพรรี่โชว์หวาน
จุ๊บแก้มแฟนไป 1 ที และทิ้งท้ายว่า จบ

แพรรี่ ไพรวัลย์ คืนดี ฟอร์ด ปกรณ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ford Pakon

            หลังจากเปิดตัวหวานรับวาเลนไทน์
ทำเอาเพื่อน ๆ และแฟนคลับต่างแห่คอมเมนต์กันสนั่น
พร้อมขอให้ทั้งคู่กลับมารักกันมั่นคงไปนาน ๆ
เรียกว่าใครที่คิดถึงโมเมนต์น่ารัก ๆ ระหว่าง แพรรี่ กับ ฟอร์ด
งานนี้เตรียมได้รับชมกันบ่อย ๆ ตามหน้าจอโซเชียลอย่างแน่นอน

แพรรี่ ไพรวัลย์ คืนดี ฟอร์ด ปกรณ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ford Pakon

แพรรี่ ไพรวัลย์ คืนดี ฟอร์ด ปกรณ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ford Pakon

แพรรี่ ไพรวัลย์ คืนดี ฟอร์ด ปกรณ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร

แพรรี่ ไพรวัลย์ คืนดี ฟอร์ด ปกรณ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร

แพรรี่ ไพรวัลย์ คืนดี ฟอร์ด ปกรณ์

แพรรี่ ไพรวัลย์ คืนดี ฟอร์ด ปกรณ์

แพรรี่ ไพรวัลย์ คืนดี ฟอร์ด ปกรณ์

KUBET – แฉ เด็กเอนรับงานลูกค้าจีน ให้เล่นยาจนช็อก ทิ้งศพคา รร. – เรื่องเงียบด้วย 1 แสน

        เพจดังเปิดเรื่องลับ เด็กเอน สายวี รับงานลูกค้าจีน ถูกบังคับให้เล่นยาจนช็อกตาย ก่อนทิ้งศพคาโรงแรม โมเดลลิ่งเคลียร์ให้ เสนอ 1 แสนปิดปาก ไม่ให้เรื่องถึงตำรวจ



เด็กเอนรับงานลูกค้าจีน ให้เล่นยาจนช็อก ทิ้งศพคา รร.
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ

         วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ออกมาเปิดโปงเรื่องลับจากวงในเด็กเอน สายวี หลังมีสาวคนหนึ่งถูกติดต่อให้ไปงาน โดยมีผู้ว่าจ้างเป็นลูกค้าชาวจีน แต่กลับมีการบังคับให้น้องไฮยาจนช็อก และเสียชีวิต
 
         จากนั้นทางลูกค้าชาวจีนรีบเช็กเอาต์หนีจากโรงแรม โดยปล่อยร่างของน้องทิ้งไว้กลางห้อง ก่อนจะโทร. ไปหาโมเดลลิ่งที่ส่งงานให้มาดู แต่เรื่องนี้ถูกปิดเงียบ หลังโมเดลลิ่งติดต่อไปหาญาติของน้องผู้ตาย โดยยื่นข้อเสนอเยียวยา เป็นเงินประมาณ 100,000 บาท เพื่อไม่ให้เรื่องถึงตำรวจ และไม่ให้ติดใจเอาความ โดยเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ลาดพร้าว

 
เด็กเอนรับงานลูกค้าจีน ให้เล่นยาจนช็อก ทิ้งศพคา รร.

         ทางเพจยังเปิดภาพแชต ที่น้องผู้ตายได้ส่งมาบอกทางโมเดลลิ่งว่าขอไม่อัพยา แต่ทางโมบอกให้อัพเอาฟีล นิดหน่อยก็ได้

เด็กเอนรับงานลูกค้าจีน ให้เล่นยาจนช็อก ทิ้งศพคา รร.

        
สำหรับคนที่สงสัยว่า ไฮ คืออะไร ก็มีชาวเน็ตเข้ามาอธิบายเพิ่มเติมว่า
การไฮคือการเสพยาขั้นรุนแรง เสพเกินขนาด จนเกิดภาวะช็อก

KUBET – โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ อวดกุหลาบวาเลนไทน์ช่อยักษ์ แห่แซวใครส่งให้ หรือมีรักใหม่แล้ว