KUBET – ครอบครัวหน้าเลือด ไม่พอใจค่าสินสอดแค่ 5 แสน ใช้เข็มติดเชื้อ HIV ฉีดลูกสะใภ้

         ครอบครัวหน้าเลือด ไม่พอใจค่าสินสอดแค่ 5 แสน ขอเพิ่มเกือบล้าน แต่ไม่ได้สมหวัง แค้นใช้เข็มติดเชื้อ HIV ฉีดลูกสะใภ้



ไม่พอใจค่าสินสอด ใช้เข็มติดเชื้อ HIV ฉีดลูกสะใภ้
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล 

         ตามธรรมเนียมท้องถิ่นของอินเดีย เจ้าสาวต้องเป็นฝ่ายจ่ายสินสอดทองหมั้นให้เจ้าบ่าว โดยฝ่ายหญิงจะให้เงินหรือทรัพย์สินแก่ฝ่ายชายตามเงื่อนไขข้อตกลงของการแต่งงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเงินสด ทองคำ และรถยนต์

         วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เผยเรื่องราวที่น่าตกใจ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย เมื่อครอบครัวของเจ้าบ่าวรายหนึ่ง เกิดไม่พอใจจำนวนค่าสินสอดที่ได้รับจากฝ่ายเจ้าสาว เมื่อเธอแต่งงานเข้ามาเป็นสะใภ้ ทางครอบครัวจึงจัดการแก้แค้นอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด ทำให้ทั้งชีวิตที่เหลือของเธอต้องอยู่กับเชื้อร้ายที่ผู้คนหวาดกลัวอย่างเชื้อ HIV

         ตามรายงานเผยว่า ฝ่ายหญิงชื่อว่า โซนัล ได้แต่งงานกับ อภิเษก สามีของเธอ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยพ่อของเธอได้ให้สินสอดกับทางครอบครัวของฝ่ายชายเป็นเงินจำนวน 1.5 ล้านรูปี (ราว 580,000 บาท) พร้อมด้วยรถยนต์อีก 1 คัน อย่างไรก็ตาม สินสอดจำนวนดังกล่าวไม่เป็นที่พอใจของทางครอบครัวฝ่ายชาย พวกเขาจึงได้เรียกร้องขอเพิ่ม

         โดยทางครอบครัวของอภิเษก ขอให้ทางครอบครัวของฝ่ายหญิงเพิ่มเงินค่าสินสอดให้อีก 2.5 ล้านรูปี (ราว 968,000 บาท) รวมทั้งยังต้องการรถยนต์คันใหญ่กว่า เป็นรถแบบ SUV ทว่าทางครอบครัวของเธอไม่สามารถทำตามที่อีกฝ่ายต้องการได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น งานแต่งงานของทั้งสองก็ยังจัดขึ้นตามกำหนด โดยที่คาดไม่ถึงว่า ฝันร้ายที่น่าสยดสยองกำลังจะเกิดขึ้น  

         หลังจากแต่งงานเป็นลูกสะใภ้ในครอบครัวของฝ่ายชาย
โซนัลได้รับความทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ
เธอถูกทำให้รู้สึกอับอายอีกทั้งพ่อแม่สามีของเธอยังขู่ว่าจะหาภรรยาใหม่ให้กับลูกชายของพวกเขา
กระทั่งหนึ่งเดือนต่อมา
เธอถูกไล่ออกจากบ้านของสามีและต้องมาอาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอ

        
แต่หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือน
ทางผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ของฝ่ายชายได้เข้ามายุ่งเกี่ยว
จนในที่สุดก็ส่งตัวโซนัลกลับไปอยู่บ้านสามีของเธอตามเดิม
ทำให้เธอได้รับความเจ็บปวดต่อไป ไม่เพียงแค่เธอจะถูกทำร้าย
แต่ยังมีรายงานที่น่าตกใจว่า ในเดือนพฤษภาคม 2567
ครอบครัวของฝ่ายชายได้ใช้เข็มที่ติดเชื้อ HIV ฉีดยาบางอย่างให้กับโซนัล  

         ต่อมา สุขภาพของโซนัลก็ย่ำแย่ลงอย่างรวดเร็ว
ทางครอบครัวจึงตัดสินใจพาเธอไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย
ก่อนที่ทางครอบครัวจะได้รับแจ้งข่าวร้ายว่า เธอติดเชื้อ HIV
ทางครอบครัวของเธอจึงดำเนินการทางกฎหมายกับครอบครัวอีกฝ่าย
ซึ่งพ่อของเธอบอกกับศาลว่า ในตอนแรกหลังจากที่แจ้งความไป
ทางตำรวจไม่ได้จัดการอย่างจริงจัง

        
ขณะนี้คดีความดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาไต่สวนในความผิดฐานพยายามฆ่า
ตามประมวลกฎหมายอินเดีย
รวมถึงการละเมิดกฎหมายคุ้มครองสตรีจากความรุนแรงในครอบครัว
และข้อห้ามสินสอดทองหมั้น
ทั้งนี้แม้ว่าทางการจะออกกฎหมายห้ามการให้และรับสินสอดตั้งแต่ปี 2504
แต่จนถึงปัจจุบันทางครอบครัวเจ้าสาวก็ยังคงต้องให้สินสอดครอบครัวเจ้าบ่าวตามประเพณี
 

ขอบคุณข้อมูลจาก World of Buzz

KUBET – สาวอดีตมิสเอเชีย เข้าไอซียู – ดับสลดขณะตั้งครรภ์ สะเทือนใจข้อความสุดท้าย

          ดาราสาวซีเรีย อดีตมิสเอเชีย เสียชีวิตหลังติดเชื้อ ปอดบวม ระหว่างตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 ครอบครัวสุดเศร้า สูญเสียทั้งแม่-ลูก



สาวอดีตมิสเอเชีย เข้าไอซียู
ภาพจาก YouTube Miss Asia_actress الممثلة أنجي مراد


          วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า แองจี้ โมราด (Angy Morad) วัย 33 ปี นักแสดงและอดีตนางงามชาวซีเรีย เสียชีวิตอย่างสุดช็อก หลังเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 จนต้องเข้าไอซียูตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา การจากไปของเธอไม่เพียงแค่จะทำให้แฟน ๆ ช็อกหนัก แต่ยังต้องสะเทือนใจกับข้อความสุดเศร้า ที่ดาราสาวได้โพสต์ทิ้งไว้เพียงไม่นานก่อนเสียชีวิต

          รายงานเผยว่า แองจี้ โมราด เคยมีชื่อเสียงระดับโลกจากการคว้ามงกุฎ Miss Asia World 2017 และยังเป็นนักแสดงที่คนในประเทศรู้จักกันดี จากผลงานละครโทรทัศน์

สาวอดีตมิสเอเชีย เข้าไอซียู
ภาพจาก YouTube Miss Asia_actress الممثلة أنجي مراد

          อย่างไรก็ตาม ระหว่างการตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2
ดาราสาวเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างรุนแรงที่ปอด
กระทั่งมีภาวะปอดบวมและต้องแอดมิตเข้าไอซียู ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา และแฟน ๆ ต่างเป็นกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของเธอหนักขึ้น
หลังจากที่แองจี้โพสต์ข้อความสุดเศร้าผ่านเฟซบุ๊ก ในวันที่ 25 มกราคม ว่า “ฉันกำลังจะตาย ยกโทษให้ฉันด้วย”

          ในเวลาต่อมา สามีของเธอยังโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวเช่นกัน ระบุว่า “แองจี้กำลังเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากระหว่างความเป็นและความตาย โปรดอธิษฐานเพื่อเธอด้วย”

สาวอดีตมิสเอเชีย เข้าไอซียู
ภาพจาก YouTube Miss Asia_actress الممثلة أنجي مراد

         
อย่างไรก็ตาม ข่าวร้ายมาถึงเมื่อดาราสาวเสียชีวิตในวันที่ 9 กุมภาพันธ์
จากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส
ทำให้เธอเสียชีวิตจากไปพร้อมลูกในครรภ์
โดยทิ้งสามีและลูกสาวที่ยังเล็กไว้เบื้องหลัง

          แม่ของแองจี้ เป็นผู้ยืนยันข่าวการจากไปของเธอผ่านโซเชียลมีเดีย โดยโพสต์ว่า “ขอพระเจ้าโปรดเมตตาลูกสาวของฉันด้วย”
 
         
อนึ่ง แองจี้ โมราด เกิดในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรีย เมื่อปี
2535 หลังจบการศึกษาจากสถาบันศิลปะการละครชั้นสูง
เธอก็เริ่มอาชีพการแสดงในปี 2550
และเป็นที่รู้จักจากบทบาทในซีรีส์เรื่องต่าง ๆ เช่น Baqaa Daw 13 และ
Al-Gharib ก่อนที่จะทำตามความฝันในการชิงตำแหน่งนางงามระดับโลก
กระทั่งคว้ามงกุฎ Miss Asia World 2017 มาครอง  

ขอบคุณข้อมูลจาก The Sun


KUBET – ลิซ่า อวดรถหรู Ferrari คันใหม่ ราคาสุดจึ้งสมเป็นคันแรกในประวัติศาสตร์ สวยและรวยมาก

KUBET – สาวเข้าห้องฉุกเฉินคืนวันวาเลนไทน์ เสียเลือด 1.5 ลิตร เหตุมีเซ็กส์ผิดวิธี เตือนให้ระวัง

        สาวเข้าห้องฉุกเฉินกลางดึกคืนวันวาเลนไทน์ ผ่าตัดด่วนเสียเลือดไป 1.5 ลิตร ทั้งเจ็บทั้งอาย เหตุมีเซ็กส์ผิดวิธี



สาวเข้าห้องฉุกเฉินคืนวันวาเลนไทน์ เสียเลือด 1.5 ลิตร
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล 

         เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ Soha เผยเคสอุทาหรณ์จากหญิงสาวรายหนึ่งในฮ่องกง วัย 28 ปี เธอได้แชร์ประสบการณ์ที่จำไม่มีวันลืม ในวันวาเลนไทน์เมื่อปีก่อน เมื่อเธอต้องถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินกลางดึกของวันแห่งความรัก หลังจากมีเซ็กส์กับแฟนหนุ่ม เรียกว่าทั้งเจ็บทั้งอาย และต้องเสียเลือดไปถึง 1.5 ลิตร  

         หญิงสาวเผยว่า เธอและแฟนหนุ่มอาศัยอยู่ต่างเมืองกัน และมีตารางการทำงานที่ยุ่งมาก ทั้งสองจึงไม่ค่อยได้เจอกัน กระทั่งเมื่อถึงวันวาเลนไทน์ เธอและแฟนหนุ่มจึงใช้โอกาสพิเศษนี้จัดหนักจัดเต็มให้หายคิดถึง ทั้งสองใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดทั้งวัน จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. เธอได้เข้านอน ส่วนแฟนหนุ่มก็ขับรถกลับ

         แต่แล้วในเวลาประมาณเกือบ 01.00 น. อยู่ ๆ หญิงสาวก็ตื่นมาพร้อมกับอาการปวดท้องและคลื่นไส้ ตอนนั้นเธอเข้าใจว่าอาจจะเป็นเพราะกินอาหารที่ไม่สะอาดเข้าไป เธอจึงกินยาที่เกี่ยวกับโรคทางเดินอาหาร รวมถึงดื่มชาขิงร้อน 1 ถ้วย ก่อนจะเข้านอนต่อ แต่ปรากฏว่าอาการปวดท้องกลับรุนแรงขึ้นจนเธอนอนไม่หลับ เธอกินยาแก้ปวดแต่ก็ไม่ดีขึ้น แถมอาการแย่ลงถึงขนาดอาเจียนออกมาเต็มเตียง

         ในที่สุดหญิงสาวก็ทนไม่ไหว
จึงตัดสินใจโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลให้มาช่วยเหลือ
จากนั้นเธอก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดในขณะนั้น
เมื่อไปถึงห้องฉุกเฉิน แพทย์พบว่า
อาการผิดปกติของเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร
แต่เกิดจากคอร์ปัสลูเทียม (Corpus Luteum)
หรือกลุ่มเนื้อเยื่อภายในรังไข่ฉีกขาด จนมีเลือดออกในช่องท้อง
ต้องได้รับการผ่าตัดทันทีเพื่อหยุดเลือด
และหลีกเลี่ยงภาวะช็อกจากเลือดออกที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

         กระทั่งเมื่อฟื้นขึ้นมาจากการผ่าตัด
หญิงสาวได้รับแจ้งจากพยาบาลว่า เธอมีเลือดออกในช่องท้องมากถึง 1.1 ลิตร
และเหตุครั้งนี้ทำให้เธอเสียเลือดไปมากถึง 1.5 ลิตร
โชคดีที่เธอมาถึงโรงพยาบาลทันเวลา จึงได้รับการรักษาจนปลอดภัย
และรังไข่ของเธอยังอยู่ดี ส่วนสาเหตุที่เกิดเรื่องไม่คาดคิดครั้งนี้
เป็นเพราะเธอมีเพศสัมพันธ์กับแฟนรุนแรงเกินไป
ผลที่ตามมาคือเธอทั้งเจ็บและอายมาก

         ดร.ฟง เซาอี
สูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญในฮ่องกง เผยว่า
อาการดังกล่าวนี้พบได้บ่อยในสตรีวัยเจริญพันธุ์
สามารถหายได้เองในกรณีที่ไม่รุนแรง แต่หากรุนแรงก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
และส่งผลต่อการเจริญพันธุ์ในอนาคตได้
เมื่อเนื้อเยื่อภายในรังไข่เกิดการฉีกขาด ของเหลวจะรั่วเข้าไปในช่องท้อง
ทำให้เกิดอาการปวดท้อง และอาจมีเลือดออกในช่องท้อง
หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
และในบางกรณีที่ไม่สามารถรักษารังไข่เอาไว้ได้
ผู้ป่วยหญิงจะสูญเสียสมรรถภาพในการสืบพันธุ์

         ดร.ฟง
เตือนว่า คู่รักควรมีเพศสัมพันธ์อย่างเหมาะสมและปลอดภัย
ไม่ควรใช้ความรุนแรงเกินควร โดยเฉพาะผู้หญิงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
หากมีอาการผิดปกติหลังมีเพศสัมพันธ์ เช่น ปวดท้องน้อยแบบตื้อ ๆ
หรือแบบฉับพลัน อาจคลื่นไส้ และมีอาการอ่อนเพลียอื่น ๆ
จากการเสียเลือดร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อจะได้รักษาได้ทันเวลา
ไม่ควรละเลยหรือเขินอายเด็ดขาด

ขอบคุณข้อมูลจาก Soha

KUBET – ไส้กรอกอีสาน แม่ซื้อให้ลูกชาย แต่ลูกไม่กินกระเทียม เลยโชคดีแทน ก่อนเจออาหารสกปรก

           ซื้อไส้กรอกอีสานให้ลูกชาย แต่ลูกไม่ชอบกระเทียม แม่เลยแกะให้ กลายเป็นโชคดีบุญรักษาแทน เพราะเจอสิ่งแปลกปลอมเข้าเต็ม ๆ คาดว่า โดนอัดมาก่อนย่างเกรียม



แมลงวันในไส้กรอกอีสาน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ฌิฌา บาร์บี้ร๊อค

           วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 เฟซบุ๊ก ฌิฌา บาร์บี้ร๊อค มีการเขียนข้อความหลังซื้อ ไส้กรอกอีสาน ว่า ลูกชายไม่ชอบกระเทียม แม่เลยแกะคำเล็ก ๆ ให้กิน แกะไปเจอแมลงวัน ปนอยู่กับหมู คงจะโดนอัดมาก่อนย่าง ถ้าลูกกัดกินจากไม้เลยก็คงได้กินแมลงไปด้วย แค่คิดก็ขมคอ อวสานไส้กรอกย่าง

แมลงวันในไส้กรอกอีสาน

แมลงวันในไส้กรอกอีสาน

          ด้านชาวเน็ตหลุดโฟกัสรูปที่ถ่ายลง แม้จะมีแมลงวันตายแล้ว
แต่น้องก็ยังอ้าปากพร้อมกินเสมอ สุดท้ายสิ่งที่ปลอดภัยที่สุดคือ
อาหารที่ทำเอง

แมลงวันในไส้กรอกอีสาน

KUBET – นะโม ร้านทองดัง ช่วยลูกค้าตรวจทองเก็บสะสมจากขยะ เฉลยได้เงินเท่าไหร่

         คุณนะโม ร้านทองดัง จ.สระบุรี เผยคลิปลูกค้านำทองที่สะสมจากบ่อขยะมาให้เช็ก งานนี้ลุ้นจะมีทองจริงบ้างไหม เห็นราคาแล้วถึงกับยิ้มออกเลย



ร้านทองช่วยลูกค้าเช็กทอง หลังเก็บสะสมจากขยะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่

          วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 คุณนะโม เจ้าของร้านทอง นะโมบ้านช่างทองเพชรทอง & จิวเวลรี่ ที่บ้านท่าลาน ต.เริงราง อ.เส้าไห้ จ.สระบุรี ลงคลิปผ่านเพจเฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่ หลังได้เจอกับลูกค้าที่น่าสนใจ ซึ่งบอกว่าเก็บสะสมทองมาจากกองขยะ จึงอยากให้ช่วยตรวจสอบว่าจะสามารถขายเป็นทองคำได้ราคาเท่าไหร่

          ลูกค้าเผยว่า รู้จักคุณนะโม ผ่านรายการโหนกระแส ส่วนทองที่นำมานี้ไม่เคยนำไปให้ร้านอื่นตรวจสอบมาก่อนเลย เพราะไม่มั่นใจว่าเป็นของจริงไหม ทองนี้เก็บได้มาทั้งหมดจากพี่ชายที่ทำงานอยู่ที่บ่อขยะ ที่ผ่านมาก็นำไปขายแบบทองเหลือง แต่ในใจก็นึกว่าอาจจะมีทองคำที่นำไปหล่อพระได้ จึงเก็บสะสมมาและนำมาให้ตรวจเช็ก เชื่อว่าคงจะมีทองบ้างเป็นค่าน้ำมันรถกลับ จ.ลพบุรี นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่คล้ายทำจากแร่เงินมาให้ตรวจสอบด้วย

ร้านทองช่วยลูกค้าเช็กทอง หลังเก็บสะสมจากขยะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่

          คุณนะโม เริ่มจากใช้ประสบการณ์ลองคัดเลือกส่วนที่น่าจะเป็นทองจริงด้วยตาเปล่าประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนใหญ่จะเป็นทองเหลืองงานชุบ ก่อนจะคัดมาเหลือชุดหนึ่งที่อาจจะมีทองนำไปทดสอบด้วยการเอกซเรย์ และพบว่ามีทองคำจริง ๆ จากนั้นจึงแยกทองไปหลอมเพื่อให้ได้น้ำหนักทองที่แท้จริง

          โดยลูกค้าเปิดใจว่า ตอนหอบทองเหล่านี้มาคิดว่าน่าจะได้สัก 1,000-2,000 บาท โดยสรุปแล้วคุณนะโมนำทองที่หลอมมาชั่งน้ำหนักและคิดราคาตามเปอร์เซ็นต์ทองให้ลูกค้า เป็นเงิน 19,595 บาท งานนี้ลูกค้าถึงกับยิ้มออกเลยทีเดียว ยอมรับว่าคุ้มค่ามากจริง ๆ

ร้านทองช่วยลูกค้าเช็กทอง หลังเก็บสะสมจากขยะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่

ร้านทองช่วยลูกค้าเช็กทอง หลังเก็บสะสมจากขยะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่

ร้านทองช่วยลูกค้าเช็กทอง หลังเก็บสะสมจากขยะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่

          ด้าน คุณนะโม เล่าเพิ่มเติมในคอมเมนต์ว่า
พี่คนนี้ที่นำของมาให้เราตรวจสอบ พี่ชายเขาทำงานที่บ่อขยะ
เก็บรวบรวมไว้หลายปี และนำมาให้เราตรวจสอบมีทอง (ขายได้เพียงเล็กน้อย )
เป็นเรื่องปกติที่ผมเจอประจำ
เพราะมีคนที่ทำอาชีพเก็บของเก่าเจอของลักษณะแบบนี้บ่อยมาก
ส่วนคนที่มาคอมเมนต์ว่าสร้างคอนเทนต์ให้ดูให้จบคลิปนะครับ (เจตนาเขา)
ขอให้มีทองบ้าง พี่ชายเขาเก็บมานาน คนเขาเก็บของเก่าย่อมมีความหวัง
ไม่มีใครหรอกครับที่จะมาทำละคร หรือคอนเทนต์หลอกคนดู
เพราะผมก็ไม่ได้มีรายได้จากการทำคอนเทนต์

ร้านทองช่วยลูกค้าเช็กทอง หลังเก็บสะสมจากขยะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่
          
          คุณสามารถตรวจสอบได้เขาทำอาชีพนี้จริง
และผมก็ไม่รู้จักเขามาก่อน ทุกเรื่องราวเราให้แง่คิดและวิชาการกับสังคม
ผมต้องช่วยเขาแยกและตรวจสอบเป็นชั่วโมง กว่าเราจะเจอของมีค่า
มันเป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้เขาได้สมหวัง เพาะเงินที่ได้มันอาจจะมีค่ามาก ๆ
ก็ได้สำหรับคนที่เก็บมานาน ผมขอปกป้องและขอบคุณพี่เขา
ที่มีอาชีพเก็บของเก่า ผมให้เกียรติเขามาก ๆ
เขาให้แง่คิดและประโยชน์แก่เพื่อน ๆ ในสังคม ขอบคุณมาก ๆ ครับ
ร้านทองช่วยลูกค้าเช็กทอง หลังเก็บสะสมจากขยะ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่

KUBET – รถบัสตกเหวลึก 800 เมตร ในโบลิเวีย ตายอย่างน้อย 30 บาดเจ็บ 15 คาดเหตุขับซิ่ง


          รถบัสตกเหวลึก 800 เมตร ในโบลิเวีย ดับหมู่อย่างน้อย 30 ศพ บาดเจ็บ 15 ราย คาดเกิดจากซิ่งบนถนนแคบ ๆ ชี้สภาพถนนบนเขาสุดอันตราย 



รถบัสตกเหวลึก 800 เมตร กู้ร่างอย่างน้อย 30 ศพ
ภาพจาก AFP PHOTO / BOLIVIAN POLICE

          วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักข่าว BBC รายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถบัสตกลงไปในเหวลึก 800 เมตร ในเขตเทศบาลโยกาญา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโบลิเวีย เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย และบาดเจ็บ 15 ราย

          ทางตำรวจเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้เก็บกู้ร่างของผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย นำไปไว้ยังห้องเก็บศพแล้ว และเชื่อว่าอุบัติเหตุดังกล่าวอาจเกิดขึ้นเนื่องจากการขับรถเร็วเกินกำหนด โดยคนขับไม่สามารถควบคุมรถได้

รถบัสตกเหวลึก 800 เมตร กู้ร่างอย่างน้อย 30 ศพ
ภาพจาก AFP PHOTO / BOLIVIAN POLICE

          สื่อท้องถิ่นเผยว่า ผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 15 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็ก 3 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาลบาลแล้ว โดยมีหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ามีผู้โดยสารจำนวนทั้งหมดกี่คนที่อยู่บนรถบัสดังกล่าว  

          อนึ่ง โบลิเวียขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีถนนค่อนข้างอันตราย โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขา ซึ่งจุดเกิดเหตุนั้นพบว่าเป็นถนนเชื่อมระหว่าง 2 เมือง มีลักษณะเป็นถนนแคบ ๆ ที่รถวิ่งสวนกัน ลัดเลาะไปตามเหวเหวลึก เชื่อว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เลวร้ายที่สุดของประเทศแถบอเมริกาใต้ของปีนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก BBC

KUBET – สติ๊กเกอร์สีฟ้า ที่ แอร์ตัวใหม่ มันคืออะไร แกะออกได้ไหม คอมเมนต์แรกเฉลยหมด


          สติ๊กเกอร์สีฟ้า ติดอยู่ข้างแอร์ตัวใหม่ คืออะไร แกะออกได้ไหม คำตอบแรกรับจบทุกอย่าง เฉลยในทันทีว่ามันคืออะไร



สติ๊กเกอร์สีฟ้า ติดอยู่ข้างแอร์ตัวใหม่ คืออะไร แกะออกได้ไหม
ภาพจาก คุณ ผมจะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกัน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
          วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 คุณ ผมจะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกัน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีการเล่าเรื่องราวการซื้อแอร์ตัวใหม่ามาติดตั้งที่บ้าน แต่มีข้อสงสัยหลังจากเห็นสติ๊กเกอร์สีฟ้าติดไว้ที่ข้างเครื่องว่า มันคือสติ๊กเกอร์อะไร คาดว่าช่างน่าจะลืมแกะออก แบบนี้เราสามารถดึงออกเองได้ไหมโดยไม่ได้ปิดแอร์ก่อน หรือมันจะมีผลเสียอะไรบ้าง

          สติ๊กเกอร์นี้อยู่ตรงรอยต่อด้านข้างของเครื่องพอดี ถ้าดึงออกแรง ๆ จะทำให้มีผลกับความแข็งแรงตรงล็อกนั้นไหม

          คำตอบชาวเน็ต เพียงแค่คอมเมนต์แรกก็ตอบได้จบทุกอย่างว่า มันเป็นสติ๊กเกอร์กันรอย แกะได้เลย ไม่มีผลอะไรทั้งสิ้น จุดประสงค์ของการติดคือ แปะให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ อยู่กับที่ ไม่ขยับหรือหลุด

สติ๊กเกอร์สีฟ้า ติดอยู่ข้างแอร์ตัวใหม่ คืออะไร แกะออกได้ไหม

สติ๊กเกอร์สีฟ้า ติดอยู่ข้างแอร์ตัวใหม่ คืออะไร แกะออกได้ไหม

ภาพจาก คุณ ผมจะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกัน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

KUBET – สาวตกใจ ต้มไข่ไก่พบเม็ดปริศนาในไข่ขาวเพียบ ชาวเน็ตวิเคราะห์คืออะไร


            สาวต้มไข่ไก่ แกะมาเจอเม็ดเล็ก ๆ ปริศนาจำนวนมากในไข่ขาว ชาวเน็ตแห่วิเคราะห์มันคืออะไรกันแน่



พบเม็ดปริศนาในไข่ต้ม มันคืออะไร
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rung Jirapach
            วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Rung Jirapach โพสต์ในกลุ่ม นี่ตัวอะไร เป็นภาพของไข่ต้มที่แกะเปลือกออกมากลับเจอสิ่งแปลกปลอมอยู่ในไข่ขาว ลักษณะคล้ายเม็ดขนาดเล็ก ๆ สีน้ำตาลเป็นจำนวนมาก

            เจ้าของโพสต์ระบุว่า ต้มไข่ไก่กินแต่แกะเปลือกออกมา มีแบบนี้อยู่ตรงไข่ขาว 1 จุดคืออะไรคะ ไม่กล้ากินต่อเลย

            หลังจากภาพนี้ถูกเผยแพร่ไป ปรากฏว่ามีผู้ใช้โซเชียลจำนวนมากร่วมกันหาคำตอบ โดยความเห็นที่ถูกมองว่าเป็นไปได้มากที่สุดคือ อาจจะเกิดจากแคลเซียมที่สร้างเปลือกไข่ผิดปกติ แต่ปกติจะเห็นลักษณะนี้อยู่ที่เปลือกด้านนอก ซึ่งการเจอด้านในแบบนี้ถือเป็นอะไรที่พบเห็นยากไม่น้อย

            ทั้งนี้ แม้จากหลาย ๆ คำตอบจะพบว่าดูจะไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมจากปัจจัยอื่น แต่หลายคนเห็นแล้วต่างยอมรับว่า หากเจอแบบนี้คงไม่กล้ากินต่อเช่นกัน พร้อมกับแนะนำให้ทิ้งไป เป็นต้น

พบเม็ดปริศนาในไข่ต้ม มันคืออะไร

พบเม็ดปริศนาในไข่ต้ม มันคืออะไร

พบเม็ดปริศนาในไข่ต้ม มันคืออะไร

พบเม็ดปริศนาในไข่ต้ม มันคืออะไร

พบเม็ดปริศนาในไข่ต้ม มันคืออะไร

พบเม็ดปริศนาในไข่ต้ม มันคืออะไร

KUBET – พ่อแม่เจอคุก อดอาหารลูกจนหนัก 27 กก. จงใจปลอมอายุ อึ้งตัวแค่นี้ อายุจริงคือ 17

          พ่อแม่เจอคุก หลังให้ลูกอดอาหารจนแคระแกรน ตัวจิ๋ว ซ้ำปลอมสูติบัตร ปลอมอายุให้สมกับรูปร่าง อึ้งอายุจริง 17 แต่หนักแค่ 27 กก. พ่อแม่อ้าง ลูกกินยากเอง



พ่อแม่เจอคุก อดอาหารลูกจนหนัก 27 กก
ภาพจาก District Court of Western Australia


          วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า พ่อแม่ของนักบัลเลย์สาววัย 17 ปี ถูกศาลในออสเตรเลียตัดสินจำคุก ในข้อหาเกี่ยวกับการละเลยลูกของตัวเอง หลังพบว่าพวกเขาให้ลูกสาวอยู่ในสภาพอดอาหาร จนร่างกายแคระแกรน มีน้ำหนักเพียง 27 กิโลกรัม แถมยังปลอมแปลงสูติบัตรของลูกเพื่อปิดบังอายุที่แท้จริง หลอกว่าเธอยังเป็นเด็กในอายุที่ดูเหมาะสมกับรูปร่างภายนอก

          การตัดสินโทษดังกล่าวมีขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ในศาลแขวงเวสเทิร์นออสเตรเลีย ที่เมืองเพิร์ธ โดยมีรายงานว่าพ่อแม่คู่นี้ ปล่อยให้ลูกสาวขาดสารอาหารจนมีสภาพร่างกายย่ำแย่ ไม่เพียงแค่รูปร่างแคระแกรน เธอยังมีเส้นผมเประบาง ผิวหนังแห้งเป็นขุย ภาวะขาดสารอาหารของเธอรุนแรงจนเสี่ยงต่อหัวใจหยุดเต้น หรือแม้แต่ความตาย

พ่อแม่เจอคุก อดอาหารลูกจนหนัก 27 กก
ภาพจาก District Court of Western Australia

          ลูกสาวซึ่งขณะนี้อายุ 20 ปีแล้ว ถูกเลี้ยงดูมาภายใต้ปีกของพ่อแม่
โดยเธอได้รับการศึกษาที่บ้านจากแม่
และมีโอกาสเข้าสังคมเฉพาะตอนไปเรียนเต้นเท่านั้น
แม้ร่างกายของเธอจะมีพัฒนาการไม่เหมาะสม
แต่พ่อแม่ยังคงโอ๋ลูกสาวจนเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น
และปล่อยให้เธอเสพสื่อสำหรับเด็กเล็กเท่านั้น

         
อย่างไรก็ตาม พ่อและแม่เด็กต่างอ้างว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นผลจากการที่ลูกสาวเลือกจะเป็นวีแกน
และยังเป็นเด็กที่กินยากมาก พร้อมย้ำว่าลูกสาวได้กินครบ 3
มื้อและของว่างในทุก ๆ วัน

          ด้านผู้พิพากษา ลินดา แบล็ก
กล่าวว่า เรื่องที่พ่อแม่รักลูกสาวนั้นเป็นสิ่งที่เห็นชัดเจน
แต่พวกเขายังควรถูกกล่าวโทษที่พยายามทำให้ลูก
เป็นเพียงเด็กหญิงตัวน้อยมานานเกินไป
นี่ไม่ใช่กรณีของนักบัลเลต์ที่ขาดสารอาหาร แต่พ่อแม่เป็นคนแยกลูกสาวออกมา
ขัดขวางเธอจากการเติบโต ขวางลูกจากพัฒนาการที่ควรจะเป็น
ยังเก็บลูกสาวให้เป็นเด็กหญิงตัวน้อย ๆ นานเกินกว่าที่อายุของเธอควรจะเป็น

          และนั่นศาลจึงพิพากษาให้พ่อแม่คู่นี้รับโทษจำคุก โดยผู้เป็นพ่อมีโทษจำคุก 6 ปี 6 เดือน และผู้เป็นแม่มีโทษจำคุก 5 ปี
 

         
ทางด้าน โอลิเวอร์ แพกซ์แมน ทนายความของพ่อเด็ก เผยกับซีเอ็นเอ็นว่า
ลูกความของเขาไม่ได้ทำให้ลูกอดอาหารเลย เขาไม่เคยกีดกันอาหารจากเธอ
เขาก็แค่รักและตามใจลูกสาว เธอมีอิสระที่จะกินได้เท่าที่ต้องการ
คดีนี้จึงควรเป็นเรื่องเกี่ยวกับโภชนาการที่ไม่เพียงพอจากการกินอาหารแบบวีแกนมากกว่า


          “พ่อแม่ทุกคนบนโลกต่างก็รู้ดี ว่าถ้าไม่ให้ลูกกินอาหารอย่างเพียงพอ พวกเขาก็จะอดอยาก แต่ถ้าลูกเลือกจะเป็นวีแกนเองล่ะ” ทนายถาม
 
         
แต่ถึงอย่างนั้น ผู้พิพากษาปฏิเสธไม่เชื่อคำกล่าวอ้างของคู่สามีภรรยา
ที่พยายามโกหกเรื่องอายุของลูกมาหลายครั้ง เพื่อจะปกปิดความจริงที่ว่า
ลูกสาวของพวกเขาอยู่ในสภาพขาดสารอาหารอย่างรุนแรง โดยผู้พิพากษากล่าวว่า

         
“ดูเหมือนทุกคนบนโลกที่ได้มีโอกาสคุยกับเธอ
ล้วนเข้าใจว่าเธอขาดสารอาหารรุนแรง ยกเว้นคน 2 คนที่อ้างว่ารักเธอ
ฉันไม่ยอมรับเรื่องที่คุณมองไม่เห็นมัน
และไม่ยอมรับเรื่องที่พวกคุณไม่สังเกตเห็น”

 

พ่อแม่เจอคุก อดอาหารลูกจนหนัก 27 กก
ภาพจาก District Court of Western Australia

         
ทั้งนี้ พบว่านักบัลเลต์หญิงต้องเข้าโรงพยาบาลตอนอายุ 17 ปี
แต่เธอมีสภาพผอมแห้งและมีค่าดัชนีมวลกายเพียง 12.5 เท่านั้น
ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ปกติที่ควรอยู่ระหว่าง 18-25 แพทย์ระบุว่าเธอผอมแห้งมาก
มีไขมันในร่างกายเพียงเล็กน้อย ตัวซีด ไม่แสดงสัญญาณของวัยแรกรุ่น
เส้มผมเปราะและบาง ผิวหนังแห้งและเป็นขุ่น หัวใจเต้นเร็ว
ตอนนั้นแพทย์แจ้งว่าจำเป็นต้องทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้เธอ
แต่พ่อแม่เด็กกลับปฏิเสธ

          ผู้พิพากษาชี้ว่า
ในจุดหนึ่งพ่อแม่ยังปฏิเสธคำสั่งโดยแพทย์
ที่ให้ใส่ท่อทางจมูกเพื่อป้อนอาหารแก่ลูกสาวด้วย
ทำให้เจ้าหน้าที่ทางการต้องเข้ามาแทรกแซง และนำตัวลูกสาวมาอยู่ในความดูแล  

         
“ไม่ใช่เรื่องผิดปกติเลยที่พ่อแม่อยากเกาะติดลูก
ลังเลที่จะปล่อยพวกเขาไปและกลายเป็นผู้ใหญ่ ไม่มีอะไรผิดปกติเลยสักนิด
แต่สิ่งที่ผิดเกิดขึ้น เมื่อพ่อแม่ขัดขวางลูกจากการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ
ตามกระบวนการตามธรรมชาติ หนึ่งในความล้มเหลวใหญ่ที่สุดของพวกคุณ
คือการเชื่อว่าคุณควรให้ในสิ่งที่ลูกอยากได้
แต่กลับไม่ยอมให้ในสิ่งที่ลูกจำเป็นต้องได้”
ผู้พิพากษา กล่าวระหว่างการพิจารณาคดี

         
ทั้งนี้ พ่อเด็กยอมรับผิดแค่เรื่องปลอมแปลงสูติบัตรของลูก
แต่เขากับภรรยายังปฏิเสธข้อหาอื่น ๆ ที่เหลือ ซึ่งผู้พิพากษามองว่า
ในเมื่อพวกเขาไม่แสดงท่าทีสำนึกผิด ไม่ยอมรับต่อความรับผิดชอบใด ๆ
ไม่แสดงความเข้าใจใด ๆ ต่อเรื่องนี้
เธอก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่จำคุกพวกเขาเช่นกัน
 
         
อย่างไรก็ตาม แม้ศาลจะตัดสินโทษพ่อแม่ที่ละเลยลูกสาว
แต่ฝั่งลูกสาวยังแสดงท่าทีเข้าข้างพ่อแม่ และทำเป็นจดหมายร้องถึงผู้พากษา
ให้ยุติการฟ้องคดีนี้ โดยระบุว่า “ฉันต้องพึ่งพาพ่อแม่โดยสมบูรณ์
ค่าครองชีพทั้งหมดของฉัน พ่อแม่เป็นคนจ่าย รวมถึงเสื้อผ้า อาหาร
เงินที่ฉันต้องการ ค่าเรียนมหาวิทยาลัย ฉันรักพ่อแม่มาก
พวกเขาเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตฉัน ถ้าพ่อแม่ฉันเข้าคุก
ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะรับไหว”

 

ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post