13,866อ่าน
เดือน: มีนาคม 2025
KUBET – โศกนาฏกรรม บ่อขยะถล่ม ฝังทั้งเป็นกว่า 30 ชีวิต หนุ่มเผยนาทีเศร้าขุดเจอศพเพื่อน
เปิดโศกนาฏกรรม บ่อขยะถล่มทับกว่า 30 ชีวิต ตายทั้งเป็น คนเก็บขยะเศร้า เล่าความสะเทือนใจตอนขุดเจอศพเพื่อน ชี้ผ่านมาหลายเดือน คนที่ต้องเสียบ้านยังไร้ชดเชย

ภาพจาก BADRU KATUMBA / AFP
วันที่ 9 มีนาคม 2568 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า โอคูคู ปรินซ์ ชาวยูกันดาวัย 22 ปี ได้ออกมาเปิดประสบการณ์สุดสะเทือนใจจนยากจะกลั้นน้ำตา ในช่วงเวลาที่พบศพของเพื่อนรักจากบ่อขยะมหึมา หลังเกิดเหตุการณ์บ่อขยะกีตีซี (Kiteezi) ในกรุงกัมปาลา ถล่มทับคนตายทั้งเป็นกว่า 30 ศพ ซึ่งแม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2567 แต่คนเก็บขยะรายนี้เชื่อว่ายังคงมีอีกหลายศพที่ติดอยู่ใต้กองขยะนั้น
เป็นเวลานานหลายเดือน นับตั้งแต่บ่อขยะกีตีซี ซึ่งเป็นบ่อขยะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและรองรับขยะจากเมืองหลวงมากที่สุด เกิดเหตุภูเขาขยะถล่มลงมาทับผู้คนหลายสิบชีวิต หลังเกิดฝนตกหนัก โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตก็คือ ซานย่า เคเซีย เพื่อนรักของปรินซ์
ปรินซ์ ได้เล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์
ตอนที่รถแทร็กเตอร์ของทางการเข้ามาขุดพบศพของเคเซีย วัย 21 ปี
เขายอมรับว่ามันเป็นภาพน่าสยดสยองมาก
เมื่อได้เห็นร่างของเพื่อนที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยขยะเน่าเหม็น
และใบหน้าของเพื่อนก็ปรากฏบาดแผลได้รับบาดเจ็บ
“พวกเราไม่ปลอดภัยที่นี่ เว้นแต่พวกเขาจะซ่อมแซมหรือปรับระดับพื้นที่ มิเช่นนั้นผู้คนก็ไม่ปลอดภัย” ปรินซ์ กล่าว
สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่พยายามหาเลี้ยงชีพด้วยการเก็บของมีค่าจากกองขยะ
เพื่อนำมาล้างและขาย ไม่ว่าจะเป็นอวนตกปลา ขวดพลาสติก โหลแก้ว
และชิ้นส่วนของเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์เก่า แต่เมื่อเกิดเหตุภูเขาขยะถล่ม
ไม่เพียงแค่กว่า 30 ชีวิตที่ถูกขยะทับจนเสียชีวิตทั้งเป็น
แม้แต่บ้านเรือนของผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ก็ยังถูกทำลายระหว่างปฏิบัติการกู้ภัย
บางคนต้องย้ายออกจากพื้นที่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ทั้งสภาเมืองกัมปาลาและรัฐบาลกลางต่างก็โยนความผิดกัน
และกล่าวหากันว่าละเลยหน้าที่
ขณะที่ผู้เสียชีวิตหลายศพยังจมอยู่ใต้กองขยะหนักนับตัน
โดยไม่ได้รับการฝังร่างอย่างสมศักดิ์ศรี
สำหรับ ปรินซ์
เขาเคยเป็นนักศึกษาด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ก่อนจะผันตัวมาเป็นคนเก็บขยะ
หลังทางครอบครัวประสบปัญหาด้านการเงินจนไม่มีเงินส่งเสียค่าเทอมอีกต่อไป
เขาต้องแบกรับความเสี่ยงและทิ้งความฝันเพื่อมาหาเลี้ยงชีพที่บ่อขยะแห่งนี้
โดยเขาต้องมาอยู่ที่บ่อขยะทั้งแต่เช้า คอยเก็บถุงโพลีเอทิลีนไปล้างและขาย
ทำเงินได้ประมาณวันละ 10,000 ชิลลิง (ราว 2.7 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 91 บาท)
การที่บ่อขยะถล่มยิ่งทำให้เขาประสบปัญหาด้านการเงินหนักขึ้น
เนื่องจากเดิมเขาเคยอาศัยอยู่ข้างบ่อขยะ
แต่ต้องย้ายออกด้วยความกังวลด้านความปลอดภัย ทั้งนี้
แม้ทางการจะมีการจ่ายเงินชดเชยแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต
แต่ไม่ได้จ่ายให้แก่ประชาชนกว่า 200 ชีวิต ที่ต้องสูญเสียที่อยู่อาศัยไป
โดยอยู่ระหว่างรอการประเมินมูลค่าและการจัดสรรงบประมาณ
“พวกเขาสัญญาว่าจะให้ค่าชดเชยกับเรา แต่ผมยังไม่ได้รับอะไรเลย แทบทุกคนก็บ่นเช่นกัน” ปรินซ์ บอกกับบีบีซี และเสริมอีกว่า “เราสูญเสียเพื่อนไป ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกระบวนการนี้คือความเศร้าโศก”
ขอบคุณข้อมูลจาก BBC
KUBET – เม จีระนันท์ โพสต์แจ้งข่าวแม่หายจากบ้าน มีทิ้งท้ายฝากดูแล ขอลาแม่และทุกคน
KUBET – กรมอุตุฯ เตือน 12-13 มี.ค. 68 เฝ้าระวัง ! ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง ก่อนเย็นลงอีก
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนสภาพอากาศล่วงหน้า 12-13 มี.ค. 68 ยังต้องเฝ้าระวังฝนถล่ม ! มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง หลายพื้นที่ ก่อนอากาศเย็นลงอีก

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 11 มีนาคม 2568 เฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา โพสต์เตือนสภาพอากาศล่าสุด ระบุว่า “วันที่ 12-13 มีนาคม 2568 มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง เฝ้าระวัง !!!”
โดยก่อนหน้านี้ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา เผยแพร่ข้อมูลพยากรณ์อากาศ อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 11-25 มี.ค. 68 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป หรือ ECMWF (วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลองฯ เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย) ระบุว่า

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา
– วันนี้ (11 มี.ค. 68) อากาศจะเริ่มร้อนขึ้น ฝนน้อยลง
กลางวันอากาศร้อน ยังมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่งบริเวณภาคกลางตอนล่าง
ภาคตะวันออก และภาคใต้ ลมตะวันออกพัดปกคลุม
– ช่วง 12-13 มี.ค. 68 โดยเฉพาะภาคอีสานและภาคตะวันออก ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากมีลมตะวันออก
ลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดปกคลุมประเทศไทย มีกำลังอ่อนถึงปานกลาง
ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจาย เป็นฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยถึงปานกลาง
คลื่นลมมีกำลังอ่อนในระยะนี้
– ช่วง 16-24 มี.ค. 68 ยังมีมวลอากาศเย็นแผ่เสริมลงมาอีกระลอกทางด้านภาคอีสาน
(มวลอากาศเย็นยังไม่หมดพลัง) ทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ช่วงแรก ๆ
(16-17 มี.ค. 68) จากทิศทางลมที่แปรปรวน อากาศเย็นลง
โดยเฉพาะในช่วงกลางวันพอจะคลายความร้อนลงได้บ้าง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา
– อากาศเปลี่ยนแปลงต้องระวังรักษาสุขภาพ
ฤดูร้อนปีนี้คาดว่าอากาศจะไม่ร้อนแรงเหมือนปีที่แล้ว จะมีฝนฟ้าคะนอง
พายุฤดูร้อนมาสลับในบางวัน ต้องระวังพายุฤดูร้อน มาเร็ว แรง
อาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
–
ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่
ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ
เป็นข่าวที่ยังต้องติดตามเป็นระยะ ๆ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา
KUBET – สาวผวา เพื่อนบ้านส่งจดหมายขู่ฆ่าหมา โวยเสียงเห่ารบกวนทั้งวัน
สาวผวา เพื่อนบ้านส่งจดหมายโวย หมาร้อง เห่าเสียงดัง ทั้งวัน ขู่ถ้าไม่แก้พวกกูจะฆ่าหมาทิ้ง ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์เสียงแตก

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 10 มีนาคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ปรึกษาปัญหาลงในกลุ่ม ทาสหมาผู้น่ารัก กรณีได้รับจดหมายจากเพื่อนบ้านที่ไม่พอใจเสียงร้องและเสียงเห่าของสุนัขเธอ โดยเป็นการข่มขู่ว่าหากเธอไม่แก้ไขจะถูกฆ่าหมาทิ้ง พร้อมกับสอบถามว่า “ถ้าคุณโดนคนส่งจดหมายมาขู่ฆ่าน้องหมาแบบนี้คุณจะทำยังไงต่อดีคะ”
จดหมายดังกล่าว ระบุว่า “ถึงบ้านเจ้าของหมา 400/50 เนื่องด้วยชุมชน… เป็น ชุมชนที่มีประชากรอยู่ด้วยกันจํานวนมาก เพราะฉะนั้น จึงขอความเห็นใจคนที่เป็นเจ้าของหมา ช่วยดูแลจัดการอย่าง เด็ดขาด เพราะหมาของคุณนั้น ส่งเสียงร้อง เห่าเสียงดังมาก รบกวนการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของลูกบ้าน…

คุณต้องเข้าใจว่าหมาของคุณมันไม่น่ารักสําหรับทุกคน
อยากให้คุณมีสามัญสํานึกของความเป็นคน
เพราะลูกบ้านแต่ละคนต้องการพักผ่อนและความสงบ แต่หมาของคุณนั้น
ทั้งร้องทั้งเห่าทั้งหอนทั้งวันทั้งคืนทําให้เกิดความอึดอัด เครียด
ไม่สบายใจ รบกวนการใช้ชีวิตประจําวันเป็นอย่างมาก
ถ้าไม่ฟัง หรือว่า ไม่ให้ความร่วมมือ ทางพวกกูก็จะจัดการฆ่าหมาของมึง
มึงคงคิดออกนะว่าพวกกูจะใช้วิธีการใด กูหวังว่า
มึงคงจะให้ความร่วมมือและจัดการชีวิตของหมาของมึงให้ดี ให้เรียบร้อย
อย่าให้สร้างปัญหาและภาระให้กับคนอื่น และการรบกวนใด ๆ อีกต่อไป
มิฉะนั้นอย่าหาว่าพวกกูใจร้าย
(มีสมองก็หัดเกรงใจคนอื่นซะบ้างจะไม่ได้เป็นภาระของสังคม)”
หลังจากเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป
ปรากฏว่าส่วนใหญ่ต่างแนะนำให้เจ้าของบ้านตรวจสอบให้ดีก่อนว่า
หมาที่บ้านนั้นเห่าและร้องเสียงดังตามที่ถูกร้องเรียนจริงหรือไม่
หากเป็นเรื่องจริงจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไรบ้าง
เนื่องจากเชื่อว่าเพื่อนบ้านคงจะไม่โกหกเช่นกัน เพราะหากไม่สุดทนจริง ๆ
คงไม่ส่งจดหมายมาข่มขู่เช่นนี้
ขณะเดียวกัน
นอกจากเรื่องที่ต้องแก้ไขปัญหาการเลี้ยงสุนัขแล้ว
เพื่อความสบายใจก็ควรจะไปแจ้งความไว้ด้วย
รวมทั้งต้องปรึกษานิติหมู่บ้านให้ช่วยประสานไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี
ป้องกันเรื่องราวที่จะบานปลายไปมากกว่านี้

KUBET – ฉากสะเทือนใจ ร้านปิ้งย่างดังถูกทิ้ง ลูกค้าลุกหายทั้งอาหารเต็มโต๊ะ แถมร้านต้องคืนเงิน
เผยภาพปิ้งย่างเกาหลีร้านดังถูกทิ้ง ลูกค้าลุกหายหมดทุกโต๊ะ ทั้งที่อาหารยังอยู่เต็ม แถมเจ้าของร้านต้องคืนเงิน กลายเป็นฉากสะเทือนใจ

ภาพจาก Threads
ปิ้งย่างบาร์บีคิวสไตล์เกาหลีเป็นหนึ่งในอาหารที่หลายคนโปรดปราน โดยเฉพาะหากเป็นร้านดังที่ฮิตติดเทรนด์ สายกินตัวจริงต้องไม่มีพลาดอย่างแน่นอน ทว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้มีภาพเหตุการณ์สะเทือนใจคนรักปิ้งย่าง เมื่อร้านปิ้งย่างเกาหลีชื่อดังแห่งหนึ่ง ถูกทิ้งจนกลายสภาพเป็น “ร้านร้าง” กลางคัน ทั้งที่อาหารยังอยู่ในสภาพดีและวางอยู่เต็มทุกโต๊ะ
วันที่ 10 มีนาคม 2568 เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เผยว่า มีผู้ใช้โซเชียลได้แชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ประหลาดตา เหตุเกิดขึ้นที่ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลีแห่งหนึ่งในศูนย์การค้า Sunway Pyramid รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยมทั้งสำหรับกลุ่มคนทำงาน กลุ่มเพื่อน และครอบครัว ปกติแล้วจะมีลูกค้าเต็มร้านอยู่ตลอด

ภาพจาก Threads
ทว่าในคลิปวิดีโอดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ภายในร้านว่างเปล่า
ไม่มีลูกค้านั่งอยู่ที่โต๊ะแม้แต่คนเดียว
แต่บนโต๊ะทุกโต๊ะกลับเต็มไปด้วยเครื่องดื่มและอาหารที่ยังกินไม่หมด
บางส่วนยังค้างอยู่บนเตาปิ้ง
และอีกหลายอย่างที่ถูกสั่งมาวางซ้อนกันเป็นจำนวนมาก
ซึ่งทั้งหมดยังคงอยู่ในสภาพเช่นเดิม
อย่างไรก็ดี
ความจริงแล้วลูกค้าไม่ได้อยากที่จะทิ้งอาหารของพวกเขาและลุกหายไปจนหมดทุกโต๊ะเช่นนี้
แต่มีเหตุจำเป็นที่ไม่คาดคิด เมื่ออยู่ ๆ
เกิดไฟดับกลางคันในระหว่างที่พวกเขากำลังเพลิดเพลินกับอาหารมื้อเย็น
ทำให้พวกต้องจากไปในที่สุด

ภาพจาก Threads
“มันน่าเศร้ามากที่เห็นอาหารทั้งหมดนี้กลายเป็นของเหลือทิ้ง” ผู้โพสต์ กล่าว
ชาวเน็ตพากันเข้าไปคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น
หลายคนรู้สึกประหลาดใจกับเหตุการณ์นี้ และรู้สึกเสียดายเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ มีบางรายสงสัยเข้าไปถามว่า “ทางร้านได้คืนเงินค่าอาหารให้หรือไม่ ?” ซึ่งหลังจากนั้นก็มีลูกค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เข้าไปตอบว่า “เราได้รับเงินคืน แต่ก็นั่งรอให้ไฟกลับมาอยู่นานถึง 30 นาที”

ภาพจาก Threads
ผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่ง กล่าวว่า “น่าเสียดายมาก ให้พวกเขานำอาหารกลับบ้านไม่ได้เหรอ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ เพราะมันน่าจะเป็นนโยบายของทางร้าน”
ขอบคุณข้อมูลจาก World of Buzz
KUBET – หญิงช็อกเสียชีวิต เพิ่งรู้จ้างทนาย 8 ปี แต่คดีถูกจำหน่ายไปแล้ว
ร้องแม่เครียดช็อกดับ ปมจ้างทนายทำคดี 8 ปีไร้ความคืบหน้า เพิ่งรู้คดีถูกจำหน่ายไปแล้ว เป็นลมหมดสติหน้าศาลก่อนจากไป

ภาพจาก โหนกระแส
วันที่ 11 มีนาคม 2568 โหนกระแส รายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น.
วันที่ 10 มีนาคม ที่วัดพุทธบูชา ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
ซึ่งเป็นสถานที่จัดบำเพ็ญกุศลศพของ หญิง อายุ 61 ปี
โดยลูกสาวของผู้เสียชีวิต อายุ 38 ปี ออกมาร้องเรียนกับสื่อว่า
แม่ของตนเกิดอาการช็อกและเสียชีวิต เพราะเจอเหตุสะเทือนใจรุนแรง
หลังเพิ่งรู้ความจริงว่าถูกหลอกให้จ่ายเงินเรื่องคดีความมายาวนาน 8 ปี
วันที่ 10 มีนาคม ที่วัดพุทธบูชา ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
ซึ่งเป็นสถานที่จัดบำเพ็ญกุศลศพของ หญิง อายุ 61 ปี
โดยลูกสาวของผู้เสียชีวิต อายุ 38 ปี ออกมาร้องเรียนกับสื่อว่า
แม่ของตนเกิดอาการช็อกและเสียชีวิต เพราะเจอเหตุสะเทือนใจรุนแรง
หลังเพิ่งรู้ความจริงว่าถูกหลอกให้จ่ายเงินเรื่องคดีความมายาวนาน 8 ปี
ลูกสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า ช่วงปี 2558
ครอบครัวของตนมีคดีเกี่ยวกับการจัดการมรดก แม่จึงว่าจ้างทนายคนหนึ่ง
ให้ดูแลคดีเกี่ยวกับการจัดการและคัดค้านผู้จัดการมรดก โดยที่ผ่านมา
ดูเหมือนว่าคดีถูกยืดเยื้ออย่างต่อเนื่อง
มีการอ้างว่าอยู่ระหว่างส่งเรื่องให้กองปราบฯ
หรือส่งเรื่องไปตรวจพิสูจน์ทางนิติเวช เมื่อสอบถามถึงเลขคดี
ทนายกลับไม่เคยให้เลขคดี โดยทุกครั้งทนายจะอ้างเรื่องการดำเนินการทางคดี และคิดค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ 5,000 – 10,000 บาทต่อครั้ง รวมเป็นเงินราว
60,000 – 80,000 บาท ส่วนที่ดินที่ต้องสูญเสียมีมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท
ตั้งแต่ปี 2566 ที่ผ่านมา แม่ของตนพยายามติดตามเรื่องคดีจากทนาย
แต่กลับได้รับการบ่ายเบี่ยงมาตลอด ส่งผลให้เกิดความเครียดสะสม
จนนำไปสู่การขอคัดสำนวนคดีด้วยตนเองในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
โดยแม่เดินทางไปที่ศาลจังหวัดเวียงสระเพื่อขอคัดสำนวนคดี
แต่กลับพบว่าคดีถูกจำหน่ายไปตั้งแต่แรก โดยที่ไม่เคยมีการแจ้งให้ทราบมาก่อน
และไม่เคยได้รับหมายเรียกไปขึ้นศาลเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทนายยังคงเรียกเก็บค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
เมื่อแม่ได้ทราบความจริงดังกล่าว ทำให้แม่ช็อกหมดสติบริเวณหน้าศาล
เจ้าหน้าที่จึงช่วยแจ้งกู้ภัยให้มานำตัวส่งโรงพยาบาล
แม่เข้ารับการรักษาในห้องไอซียูและเสียชีวิตในเวลา 20.53 น. ของวันที่ 9
มีนาคม ที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้แม่ไม่มีโรคประจำตัวและไม่เคยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเลย
ลูกสาวยืนยันว่า หลังจากนี้จะร้องเรียนไปยังสภาทนายความ
และจะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุด
เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับใครอีก
และยืนยันว่าจะไม่เผาศพแม่จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรมอย่างที่ควรจะเป็น
รายงานระบุว่า คดีที่มีการว่าจ้างทนายดังกล่าว
เกี่ยวข้องกับที่ดินของครอบครัว
แต่มีบุคคลหนึ่งซึ่งเป็นภรรยาของญาติที่เสียชีวิต ปลอมแปลงเอกสารราชการ
โดยทำสูติบัตรปลอมของเด็กว่าเป็นลูก เพื่อรับสิทธิ์ในมรดก
โดยพบว่ามีสูติบัตรเด็กถึง 2 ใบ
ซึ่งเป็นที่มาที่ทนายอ้างว่าต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติเวชที่กรุงเทพฯ
และต้องส่งเรื่องไปยังกองปราบปราม
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส
KUBET – ว่อนข่าว คิมซูฮยอน คบกับ คิมแซรน ตั้งแต่เธออายุ 15 ต้นสังกัดแถลงโต้ จ่อฟ้อง
KUBET – ฮวีซอง (Wheesung) นักร้องดัง เสียชีวิตกะทันหัน ในวัย 43 ปี หลังถูกพบหมดสติที่บ้านพัก
KUBET – ไวรัลช็อก แก๊งเด็กเล่นกระโดดเชือก ความจริงสะพรึง ที่ถืออยู่ไม่ใช่เชือก ยาวถึง 2.5 เมตร
ไวรัลชวนช็อก แก๊งเด็กเล่นกระโดดเชือก ดูชัด ๆ เห็นความจริงสุดสะพรึง ที่ถือกันอยู่ในมือนั้นไม่ใช่เชือก ตัวยาวถึง 2.5 เมตร

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Simon Murray
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2568 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า บนโลกออนไลน์ได้แชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์น่าตกใจ เมื่อมีกลุ่มเด็กผู้ชายจำนวนหนึ่ง พากันเล่นกระโดดเชือกอย่างสนุกสนาน คล้ายกับว่ากำลังเล่นสนุกตามประสาเด็กทั่วไป แต่เมื่อสังเกตดูชัด ๆ ก็ปรากฏความจริงสุดช็อก เพราะ “เชือก” ที่อยู่ในมือของเด็ก ๆ นั้นไม่ใช่เชือก สร้างความสะพรึงให้กับผู้คนไปตาม ๆ กัน
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองวูราบินดา เขตชนบทในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย จากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่า มีเด็กประมาณ 7 คน จับกลุ่มเล่นกันในตอนกลางคืน โดยให้ 2 คน จับ “เชือก” เอาไว้แล้วเหวี่ยงขึ้นลงเป็นจังหวะ เพื่อให้เพื่อนคนอื่น ๆ กระโดด โดยเด็ก ๆ ต่างพากันหัวเราะชอบใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าไปใกล้จะสังเกตเห็นว่า สิ่งที่อยู่ในมือของเด็กกลุ่มนี้เป็นงูชนิดหนึ่ง ซึ่งมีความยาวกว่า 2.5 เมตร โดยมันถูกนำมาใช้ในลักษณะเดียวกันกับเชือก และพวกเขาก็ดูไม่มีความหวาดกลัวแต่อย่างใด
โดยในคลิปวิดีโอ จะได้ยินเสียงผู้หญิงซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ถ่ายคลิปพูดว่า “โชว์ให้ดูหน่อย โชว์ให้ฉันดูว่ามันคืออะไร” ก่อนที่จะมีเด็กคนหนึ่งตะโกนตอบว่า “มันคืองูหลามหัวดำ”

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Simon Murray
สำหรับ
งูหลามหัวดำ (Black-headed python) เป็นงูไม่มีพิษ
มีถิ่นกำเนิดในทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ใช้วิธีโจมตีเหยื่อด้วยการรัด
โดยทั่วไปแล้วจะไม่ทำร้ายมนุษย์ ส่วนใหญ่มักถอยหนีเมื่อถูกรบกวน
แต่หากรู้สึกว่าถูกคุกคาม
พวกมันอาจแสดงท่าทีป้องกันตัวหรือจู่โจมเข้ากัดได้
คลิปวิดีโอดังกล่าวจุดประกายให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง
แม้จะไม่รู้แน่ชัดว่างูในคลิปวิดีโอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ตอนที่เด็ก ๆ
เริ่มนำมาใช้แทนเชือกกระโดด
แต่หลายคนต่างตำหนิพฤติกรรมดังกล่าวที่ทั้งเป็นอันตรายต่อเด็กรวมไปถึงสัตว์
กลุ่มอาสมัครจับงูซันไชน์โคสต์ กล่าวประณามว่า “สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดในวิดีโอนี้ก็คือ ผู้ใหญ่สนับสนุนให้เด็ก ๆ
ทำพฤติกรรมเช่นนี้
เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้ปกครองควรจะสอนให้ลูกหลานรู้จักเคารพสัตว์ป่า
เราพบว่ามีคนจำนวนมากจับงู ทำร้าย หรือฆ่างูเหมือนในคลิปนี้
และมันน่ารังเกียจมาก”

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Simon Murray
ล่าสุด
ทางหน่วยงานที่ดูแลด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ได้ออกมากล่าวว่า “เราขอประณามพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนี้
และจะดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
ทั้งนี้
ตามกฎหมายข้อบังคับของท้องถิ่น ระบุว่า ผู้ที่ฆ่าหรือทำร้ายงูหลามหัวดำ
ถือว่ามีความผิด มีโทษปรับสูงสุดถึง 12,615 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 270,000
บาท)
ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail, News Australia