15,833อ่าน
เดือน: มีนาคม 2025
KUBET – หมิง ชาลิสา อัปเดตเรือนหอสุดอลัง ขั้นกว่าของคำว่าบ้าน หรูหราสมฐานะสุด
KUBET – โม แฉบอสถูกไล่ออกจากงานเก่า ปมแอบถ่าย ย้ำต้องมาพูดเพราะถูกบิดเบือน
จากปาก โม บอสถูกไล่ออกจากที่ทำงานเก่า เพราะเรื่องแอบถ่าย ตอนนั้นโกรธ แต่ไม่ถึงขั้นจะเลิก เพราะวันนั้นเขามีเราคนเดียว แถมคอยหนุนเรื่องเงินให้

ภาพจาก โหนกระแส
จากดราม่าร้อน ลำไย ไหทองคำ ซึ่งเกี่ยวพันกับ บอส แดนเซอร์ชาย รวมถึง โม
แฟนเก่าของแดนเซอร์ ซึ่งทาง บอส ได้มาออกรายการโหนกระแสไปแล้ว
ยอมรับว่าบอกลำไยว่าโสดจริง ส่วนเรื่องเงิน 1 แสนที่ได้มานั้น
เป็นเงินที่ลำไยโอนให้จริงเพื่อช่วยเหลือ ซัพพอร์ตคนในวง
ไม่เกี่ยวกับการมีเซ็กส์
ล่าสุด (6 มีนาคม 2568)
ถึงตาของอีกหนึ่งตัวละครสำคัญอย่าง โม แฟนเก่าบอส ที่มาออกรายการโหนกระแส
ทางช่อง 3 โดยเหตุผลที่เธอกล้าจะเปิดหน้า
มาออกรายการทั้งที่มีสัญญาอยู่นั้น โม ชี้ว่า
ตนจะออกมาพูดเรื่องความสัมพันธ์เฉย ๆ
ในส่วนที่บอสพูดไปเมื่อวานแล้วมีการบิดเบือน
โม เผยว่า
ทราบเรื่องที่มีการประกาศว่าจะฟ้องตน ยอมรับว่ากลัว
ซึ่งที่จะมาพูดในวันนี้ตนจะไม่พูดเรื่องนั้นเลย
จะไม่ไปเกี่ยวข้องกับทางนั้นเลย ขณะที่ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล
ชี้ว่าตามข้อสัญญานั้น ก็สามารถพูดพาดพิงได้ตามปกติ
แต่ต้องไม่กล่าวให้เขาได้รับความเสียหาย

ภาพจาก โหนกระแส
รู้จักกับบอสได้ไง
โม : รู้จักกันผ่าน TikTok ตั้งแต่ปี 2564 บอสจีบก่อน ตอนนั้นบอสอยู่ ม.6 ตนอายุ 20 ปี ปัจจุบันตนอายุ 25 ปี
ช่วงที่คบหากัน บอสยังเรียนอยู่ หลังจากนั้นมาอยู่กินกันฉันสามีภรรยาไหม
โม
: ใช่ค่ะ คือตอนนั้นต่างคนต่างอยู่ต่างจังหวัด ช่วงแรกก็คบกันผ่านแชต
มีวิดีโอคอล ประมาณ 1 ปีจากนั้นก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ มาอยู่กินด้วยกันเลย
พ่อของตนรับรู้ พ่อแม่ฝ่ายชายก็รับรู้ว่าเรา 2 คนอยู่กันเป็นผัวเมียกัน
โดยไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส
มีโครงการจะแต่งงานมีลูกกันไหม
โม
: มีค่ะ วางแผนกันว่าอยู่กันไป ถ้าบอสเรียนจบก็อาจจะทำงาน แล้วมีลูก
แต่ว่าช่วงที่บอสเรียนอยู่ บอสก็ต้องทำงานไปด้วย ตอนเรียนก็มีปัญหา
จึงดรอปเรียนและไปทำงานเต็มตัว ตนก็ทำงานเต็มตัว
จนไปมีเรื่องเมื่อต้นปี 2567 ที่บอสต้องออกจากที่ทำงานเก่า เนื่องจากมีปัญหาเรื่องแอบถ่าย ไปแอบถ่ายเค้าเลยให้ออก

ภาพจาก โหนกระแส
โมรู้ไหม จะเลิกกับเขาไหมตอนนั้น
โม
: โกรธค่ะ โกรธมากเหมือนจะเลิก แต่พออยู่ด้วยกัน 2 คน
พอคนนอกว่าเขาเราก็รู้สึกสงสาร เรารู้ว่าเขาทำอะไรไม่ดี
แต่เป็นเราคนเดียวที่อยู่กับเขาตรงนั้น เขาไม่มีใคร เราเลยไม่ได้เลิก
พอบอสออกจากงาน ชีวิตแย่ไหม
โม
: แย่ค่ะ มันเป็นรายได้ทางเดียวของเขา พอต้องออกกะทันหันมาก ณ
ตอนนั้นเขาก็ไม่มีเงิน ตนไม่ได้ทวงบุญคุณ แต่ตนก็ให้เขายืมเงินบ้างอะไรบ้าง
ก็อยู่กันแบบไม่ค่อยมีเงิน หนูก็คอยช่วย ณ ตอนนั้น
หลังจากนั้นทำไมไปทำงานกับไหทองคำ
โม
: ตนเห็นโปสเตอร์รับสมัครแดนเซอร์ชาย เลยส่งไปบอกให้บอสสมัคร
แต่บอสบอกว่าไม่ ไม่ใช่แนวเขา ตนก็บอกว่าให้ไปเถอะ
ตอนนี้ทั้งคู่ไม่มีรายได้ จะอยู่กันแบบนี้ไม่ได้หรอก
ถ้ามีโอกาสแล้วก็ไปดีกว่า ถึงการเต้นไม่ใช่แนวแต่ก็ฝึกได้
ตนดันให้เขาไปสมัคร

ภาพจาก โหนกระแส
หลังจากไปสมัครที่ไหทองคำ เป็นยังไง
โม :
เขาไปออดิชั่นแล้วไม่ได้ แต่พอคนขาดบอสก็ถูกเรียกไปเป็นตัวสำรองก่อน
ประมาณช่วงกลางเดือนมีนาคม พอมีพี่ที่ไม่สะดวกจะเต้น ลาออกไป
บอสเลยได้ขึ้นเป็นตัวจริงเดือนเมษายน
หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น
โม
: พอเขาเข้าไปก็มีปัญหาเพิ่มขึ้น จากเรื่องแรกที่เขาต้องออกจากที่เก่า
ซึ่งทำให้เราเริ่มระแวงเขามากขึ้น ขี้หวงมากขึ้น
พอไปเต้นก็จะมีท่าที่ไม่เหมาะสม มีความใกล้ชิด
ก็เลยทำให้ทะเลาะกันบ้างในเรื่องนี้ ทะเลาะกันบ่อยแต่ไม่ได้เลิก
เขาก็เข้าใจว่าเคยเกิดเรื่องใหญ่มา ทำให้โมกลายเป็นคนระแวงแบบนี้
จากนั้นก็มีอะไรแปลก
ๆ เช่นเขาโกหกมากขึ้น ทั้งที่เป็นเรื่องที่ไม่ต้องโกหกก็ได้
ทำให้เราเอ๊ะหลายครั้งมาก เช่นเขานั่งอยู่กับคนนึง แต่พอมีรูปออกมา
กลับบอกว่าไปนั่งอยู่กับอีกคน ซึ่งจริง ๆ เป็นเรื่องที่ไม่ต้องโกหกก็ได้
เวลาที่เคยมีให้กันก็ลดลงเกือบหมด
เพราะการที่เขาไปทัวร์ เขาไม่ได้กลับมาเลย 1-2 สัปดาห์
ได้คุยกันน้อยเพราะเขาต้องทำงาน ไม่ค่อยได้เจอกันด้วย
ตอนนั้นมีเรื่องทะเลาะ เหมือนจะเลิกแบบที่บอสพูดจริงไหม
โม
: ไม่จริงเลย แม้เขาจะโกหก แต่เราก็ไม่ได้เอ๊ะว่าเขาจะมีใคร
แค่คิดว่าเขาเปลี่ยนไปเพราะไม่มีเวลา
เลยทำให้รู้สึกว่าแปลกหรือห่างกันออกไป และทะเลาะบ่อยเรื่องเวลา
เรื่องไม่ได้คุยกันเลย แต่ไม่ได้ถึงขั้นจะเลิกกัน
บอสโฟนอิน โต้เรื่องความสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม
ต่อมา บอส ได้โฟนอินเข้ามา ยืนยันว่าที่โมบอกคิดจะมีครอบครัวมีลูกกันนั้น
ไม่เป็นความจริง เพราะโมไม่เคยคิดจะมีลูก 100% ส่วนที่โมบอกว่า
ไม่เคยบอกเลิกหรือจะเลิกกัน ตนมีแชตว่าโมเคยบอกเลิกตน
ในช่วงที่ตนเคยเล่าว่าทะเลาะกันบ้าง ระหองระแหงกัน ยืนยันว่าโมเคยบอกเลิก
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส
KUBET – สาวเจอหอพักหลอน คราบปริศนาใต้ที่นอน ต้องย้ายตอนเที่ยงคืน
สาวรีวิวหอพักหลอน ได้กลิ่นเหม็นแปลก ๆ ก่อนเจอต้นตออีกด้านของที่นอน พีคนอนคนเดียวเจอดึงผ้าห่ม ทำต้องย้ายออกตอนเที่ยงคืน

ภาพจาก TikTok @bm_mb_01
วันที่ 6 มีนาคม 2568 โลกออนไลน์แชร์คลิปจากผู้ใช้ TikTok @bm_mb_01 เผยประสบการณ์ชวนสะพรึง หลังต้องย้ายออกจากห้องเช่าอย่างกะทันหันตอนเที่ยงคืน เมื่อเจอกับต้นตอกลิ่นเหม็นปริศนาภายในห้อง ซ้ำยังเจอกับประสบการณ์ชวนขนลุกซึ่งยากที่จะอธิบายอีกด้วย
จากภาพเป็นรูปของที่นอนซึ่งอีกด้านหนึ่งมีคราบปริศนาสีคล้ำ ๆ หลายจุด โดยเธอระบุข้อความว่า “นี่คือจุดเริ่มต้นของความหลอนจนอยู่ไม่ได้ ย้ายออกเที่ยงคืน มาอยู่หอแล้วได้กลิ่นเหม็น ๆ เลยหาที่มา นึกว่ามีหนูตาย พอยกที่นอนขึ้น ตกใจมาก คราบอะไรเยอะไปหมด เลยขอเปลี่ยน
หลังจากนั้นก็เจอเรื่องแปลก ๆ หลอน ๆ มาตลอด ถามห้องอื่น ๆ และถามเจ้าของหอ ทุกคนบอกไม่มีอะไร ปกติ แต่นี่ว่าไม่ปกติ เที่ยงคืนเก็บของหนีเลย บาย

ภาพจาก TikTok @bm_mb_01
เรื่องราวนี้กลาวเป็นไวรัลซึ่งมียอดเข้าชมกว่า 7 ล้านครั้ง ซึ่งสร้างความขนลุกให้กับหลาย ๆ คนที่ต้องอยู่ห้องเช่า ซึ่งบางส่วนนั้นต่างมาปลอบใจว่า กลิ่นเหม็นนั้นอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น หนูตาย ก็เป็นได้ ก่อนที่เจ้าของคลิปจะเข้ามาตอบคอมเมนต์ว่า “แต่มาดึงขา ดึงผ้าห่ม ไม่ใช่หนูแน่นอนค่ะ”
ต่อมา เจ้าของโพสต์เล่าเพิ่มว่า เรื่องนั้นเริ่มจากที่เธออยากได้หอพัก
แฟนจึงตระเวนไปหาหอพักแต่ส่วนใหญ่ก็เต็มหมด จนมาได้ห้องนี้ เป็นห้องเบอร์
13 จากนั้นจึงขนของเข้าไปวันนั้นเลย แต่วันต่อมาเธอต้องอยู่คนเดียว ตอนดึก ๆ
เห็นคนผมยาวแวบ ๆ ในห้อง แต่ก็คิดว่าคงคิดไปเอง
วันที่สองได้กลิ่นเหม็นอับจึงหาสาเหตุว่ามีอะไรตายไหม
ก่อนจะเจอว่ามาจากที่นอน จึงไปขอให้เจ้าของหอเปลี่ยน แต่ก็ถูกปฏิเสธ

ภาพจาก TikTok @bm_mb_01
นับตั้งแต่นั้น เธอเริ่มเจอเรื่องแปลก ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน
แต่ลองสอบถามเพื่อนข้างห้องและเจ้าของหอพัก
แต่ทุกคนกลับยืนยันว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ซึ่งเธอรู้สึกไม่สบายใจ
และเริ่มกลัวขึ้นทุกวัน มีอยู่วันหนึ่ง ไปกินที่ร้านอาหารกับแฟน 2 คน
แต่ร้านกลับนำจานมาให้ 3 ชุด ก็เริ่มแปลกใจ แต่คิดว่าคงบังเอิญ
จนกระทั่งไปอีกร้าน ก็ยังเจอแบบเดิม
จึงเริ่มเอะใจว่าอาจจะมีสิ่งลี้ลับตามติดมา
คืนหนึ่ง
ขณะที่เธออยู่ห้องคนเดียว รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกระชากขาอย่างแรง
ก่อนที่ผ้าห่มจะถูกดึงตกลงพื้น ตอนนั้นรู้สึกกลัวสุดขีด
จึงคว้าโทรศัพท์ข้างหนึ่ง แล้วพูดท้าทายออกไปด้วยความไม่พอใจ แต่จู่ ๆ
โทรศัพท์ในมือก็ตกลงพื้นจนหน้าจอแตก
เธอจึงรีบหยิบมือถือแล้ววิ่งออกจากห้องทันที ตอนนั้นน้ำตาคลอจะร้องไห้
แล้วออกจากหอพักทันทีในช่วงเที่ยงคืน

ภาพจาก TikTok @bm_mb_01
KUBET – สภาพอากาศ 7 มีนาคม 2568 เปิด 45 จังหวัดที่สุ่มเสี่ยงฝนตกจาก พายุฤดูร้อน
เปิดรายชื่อ 45 จังหวัดที่มีโอกาสโดนฝนกระหน่ำจากพายุฤดูร้อน 7-8 มีนาคม 2568 ขอให้ระวังตัว ทั้งที่เป็นฤดูร้อน

ภาพจาก 2p2play / Shutterstock.com
วันที่ 7 มีนาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา มีการประกาศเรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 7-8 มีนาคม 2568) ฉบับที่ 7 สภาพอากาศ มีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
วันที่ 7 มีนาคม 2568
ภาคเหนือ : ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก : นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร
วันที่ 8 มีนาคม 2568
ภาคกลาง : กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก : ชลบุรีและระยอง
ภาคใต้ : เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร
KUBET – บอส แดนเซอร์ ลำไย ไหทองคำ ออกโหนกระแส ตอบปมทำไมต้องโอนเงินแสน
บอส แดนเซอร์ เล่าจุดเริ่มต้นสัมพันธ์ลำไย ไหทองคำ ย้ำ ผมหลอกทั้งแฟนเก่าและลำไย ก่อนเสนอเงิน 5 หมื่นเพื่อจบกับโม

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 บอส เอวหวาน หรือบอส แดนเซอร์ ลำไย
ไปทองคำ มีการมาออกรายการโหนกระแส เพื่อชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ไปทองคำ มีการมาออกรายการโหนกระแส เพื่อชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
บอส เปิดเผยว่า รู้จักกับโมประมาณ 2-3 ปี อยู่ด้วยกันแบบไม่มีทะเบียนสมรส
ส่วนการทำงานเป็นแดนเซอร์ให้ลำไย ไหทองคำ ตอนแรกไม่ได้สนใจ แต่แม่และโมส่งข้อมูลมาให้จนตนไปออดิชั่น
เมื่อผ่านออดิชั่นในเดือนมีนาคม 2567 ทางค่ายไหทองคำก็รับรู้ว่า
ตนมีแฟนอยู่แล้ว

ภาพจาก รายการโหนกระแส
ตนใช้เวลา 1
เดือนขยับตัวเองจากแดนเซอร์ตัวสำรองมาเป็นตัวจริง
เหตุผลอาจจะเป็นเพราะแดนเซอร์ตัวหลักติดภารกิจ ถ้าถามว่าเลื่อนเร็วไปไหม ตนไม่คิดว่าเร็ว
ตนพร้อมเป็นตัวจริงอยู่แล้ว มั่นใจในการเต้นตัวเองระดับหนึ่ง
และคนที่เลือกตนเป็นตัวจริง คือ ลำไย ไหทองคำ
เดือนขยับตัวเองจากแดนเซอร์ตัวสำรองมาเป็นตัวจริง
เหตุผลอาจจะเป็นเพราะแดนเซอร์ตัวหลักติดภารกิจ ถ้าถามว่าเลื่อนเร็วไปไหม ตนไม่คิดว่าเร็ว
ตนพร้อมเป็นตัวจริงอยู่แล้ว มั่นใจในการเต้นตัวเองระดับหนึ่ง
และคนที่เลือกตนเป็นตัวจริง คือ ลำไย ไหทองคำ
หนุ่ม
กรรชัย ถามตรง ๆ ว่า วันที่เป็นแดนเซอร์ รู้ไหมว่าลำไย มีแฟน ทางบอส ตอบว่า
ไม่รู้ แต่หลังจากนั้นถึงรู้ ส่วนปุ้ย L.กฮ. เคยเห็นบ้างในตอนซ้อม

ภาพจาก รายการโหนกระแส
ภาพจาก รายการโหนกระแส
ส่วนความสัมพันธ์กับลำไย เป็นลูกน้องกับเจ้านาย จากนั้นหนุ่ม กรรชัย
ถามเพิ่มว่า มันพัฒนายังไง ทางบอสตอบว่า ช่วงแรก ๆ
คุยกันเรื่องปัญหาส่วนตัวกับทุกคนในวง
แล้วก็เริ่มมีการทักแชตส่วนตัวไปคุยกับลำไย เช่น
เรื่องเวลามีคนจะมาหอมมือเรา ควรจัดการยังไง เพราะแฟนไม่ค่อยโอเค
ส่วนทางลำไยก็เริ่มเล่าเรื่องปัญหาความรักของตัวเองเหมือนกัน
เรื่องของปริศนาที่โม แฟนเก่าสงสัยว่าได้มาได้ยังไง เช่น ลิปสติก
ทางบอสยอมรับว่า ลำไยเป็นคนซื้อให้ และความสัมพันธ์กับลำไยก็เป็นคนคุย
หรือจะเรียกแฟนก็ได้ ส่วนเรื่องปุ้ย ก็ตามที่โพสต์คือ
เขารับรู้ในเรื่องลำไยมาลองใช้ชีวิตของตัวเองบ้าง มันจะเป็นยังไง

ภาพจาก รายการโหนกระแส
ในตอนที่คบกับลำไย ตนก็คบกับโมไปด้วย แต่ตนก็บอกลำไยไปว่า โสด
ก่อนที่จะพูดคุยกัน ผมบอกเขาไปว่า เลิกกับโมแล้ว แต่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน
มันเป็นช่วงระหองระแหงที่คิดจะเลิก ก็เลยต้องโกหกลำไยไป
ยืนยันว่า เรื่องนี้ตนไม่ได้รับจบแทนลำไยว่าเป็นการคบซ้อน
เป็นคนโกหกลำไยเอง และโมก็ไม่ได้รู้เรื่อง ส่วนในวันที่โมจับได้
เพราะเจอแชตจากไอแพด เขามีรหัสอยู่
เรื่องลำไย เริ่มตอนไหน
ความสัมพันธ์กับลำไย
เริ่มต้นเดือนเมษายน 2567 และถูกจับได้ในเดือนสิงหาคม ก่อนที่ตนจะเสนอเงิน 5
หมื่นให้กับโม เพื่อแลกกับการเลิกยุ่งเกี่ยวกัน และยอมรับว่า
ไม่เชื่อในสิ่งที่โมพูดว่า ไม่ได้เป็นคนส่งเรื่องตนกับลำไยไปให้ตามเพจต่าง ๆ
มั่นใจว่า คนที่ส่งเรื่องไป ยังไงก็คือโม ถ้าไม่ได้ส่ง ข้อมูลก็มาจากโม
100%

ภาพจาก รายการโหนกระแส
หลังจากเกิดเรื่อง
อาจารย์ประจักษ์ชัยก็ยุติบทบาทแดนเซอร์ของตนในวงไหทองคำ ส่วนเรื่องเงิน 1
แสนมีการโอนเข้ามาจริงจากลำไย แต่ไม่ใช่การมีเซ็กส์ เป็นเงินที่ช่วยเหลือ
เอามาหมุนเวียน เนื่องจากตนเดือดร้อนในช่วงนั้น ไม่มีรายได้
และทางโมก็ตีความไปเอง เข้าใจผิดคิดว่ามีเซ็กส์
ย้ำชัดว่า
ลำไยโอนเงินให้ 1 แสนบาท รวมถึงเงินอื่น ๆ เช่น สังสรรค์ในวง
ลำไยซัพพอร์ตทุกคน ประมาณ 5-6 หมื่น แต่ไม่เกี่ยวกับการมีเซ็กส์
ลำไยโอนเงินให้ 1 แสนบาท รวมถึงเงินอื่น ๆ เช่น สังสรรค์ในวง
ลำไยซัพพอร์ตทุกคน ประมาณ 5-6 หมื่น แต่ไม่เกี่ยวกับการมีเซ็กส์
เมื่อถูกโมจับได้เรื่องคบซ้อน ตนจึงเสนอให้เงินโมเดือนละ 5 หมื่น
โดยที่ทำงานตรงนี้ต่อ เลิกยุ่งกับลำไย แต่โมไม่โอเค
โมอยากได้จากลำไยเป็นค่าเสียความรู้สึก เรียก 10 ล้าน

ภาพจาก รายการโหนกระแส
ภาพจาก รายการโหนกระแส
KUBET – สัญญาเรื่องเงียบ 2 ล้าน พบพิมพ์ผิดจุดสำคัญ ล่าสุด ทนายรณณรงค์ อธิบายมีผลแค่ไหน
เปิดช่องโหว่สัญญา 2 ล้าน จบปัญหา ลำไย ไหทองคำ กับ บอส แดนเซอร์เอวหวาน และ โม แฟนเก่าบอส พบพิมพ์ผิดจุดสำคัญ ล่าสุด ทนายรณณรงค์ เผยหากค่ายฟ้องกลับ 20 ล้าน อาจเรียกได้ไม่เต็มยอด

ภาพจาก รายการโหนกระแส
เป็นประเด็นร้อนแรงที่ใคร ๆ ก็อยากใส่ใจกันมากที่สุด กับกรณีดราม่า “ลำไย ไหทองคำ” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ที่มีความสัมพันธ์พัวพันกับ “บอส” แดนเซอร์เอวหวานในวง และ โม แฟนเก่าบอส โดยในรายการโหนกระแสวันนี้ (5 มีนาคม 2568) ได้มีการสัมภาษณ์เปิดปาก บอส ครั้งแรก พร้อมทั้งฟังข้อเท็จจริงจากนายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ ต้นสังกัด และ โม ที่โฟนอินเข้ามา รวมถึงเปิดสัญญาที่ถูกเรียกว่าเป็นค่าเสียใจ 2 ล้านบาทด้วย
ทว่า หลังจากมีการเปิดเผยเอกสารสัญญาดังกล่าว ก็พบว่าในสัญญานั้นพิมพ์ผิดในจุดสำคัญ ระบุว่า “ผู้รับสัญญา ยินยอมให้ผู้รับสัญญาดำเนินการตามกฎหมาย” ซึ่งควรจะเป็น “ผู้รับสัญญา ยินยอมให้ผู้ให้สัญญาดำเนินการตามกฎหมาย” จนมีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นช่องโหว่ในเงื่อนไขที่ว่า หากผู้รับสัญญาละเมิดข้อใดข้อหนึ่ง จะต้องถูกปรับ 20 ล้านบาทนั้น อาจไม่สามารถฟ้องกลับ โม ได้ หรือไม่

ภาพจาก รายการโหนกระแส
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ให้อธิบายข้อกฎหมายผ่านทาง เพจทนายคู่ใจ ะบุว่า สัญญายังมีผลผูกพันอยู่
เพียงแต่ในเรื่องของค่าเสียหายที่เป็นค่าปรับอาจจะเรียกไม่ได้เต็มยอด 20
ล้านบาท เพราะถ้าเป็นสัญญาฉบับนั้นเป็นของจริง และเป็นการพิมพ์ผิด
ก็ต้องกลับมาใช้หลักของประมวลแพ่งพาณิชย์มาตรา 420
เรื่องเหตุละเมิดเรียกค่าเสียหายที่พิสูจน์ได้ต่อไป

ภาพจาก รายการโหนกระแส
ภาพจาก รายการโหนกระแส
ภาพจาก รายการโหนกระแส
ภาพจาก รายการโหนกระแส
KUBET – พบศพหนุ่มไทย วัย 23 บนหาดที่อังกฤษ ระดมหาตัวนับสัปดาห์ ก่อนพบเสียชีวิต
พบศพคนไทย วัย 23 ปี ที่ชายหาดในอังกฤษ หลังหายตัวนับสัปดาห์ หลายหน่วยงานร่วมระดมกำลังค้นหา ยังไม่เผยสาเหตุการเสียชีวิต

ภาพจาก Merseyside Police
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์ ECHO สื่อท้องถิ่นของเมืองลิเวอร์พูล ในเทศมณฑลเมอร์ซีย์ไซด์ ของอังกฤษ รายงานข่าวพบศพชายวัย 23 ปี บนหาดฟอร์มบี้ ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่าศพที่พบนี้ คือ นายธีรพัฒน์ คงทะเล (Theeraphat Khongthale) ชายวัย 23 ปี ที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ท่ามกลางความพยายามค้นหาของเจ้าหน้าที่
รายงานเผยว่า มีคนพบเห็นชายคนดังกล่าวครั้งสุดท้าย ในเวลา 15.30 น. วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ โดยข้อมูลเกี่ยวกับนายธีรพัฒน์ พบว่าเขาเป็นชายรูปร่างผอม สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมแว่นตากรอบเหลี่ยมสีดำ สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ เสื้อฮู้ดสีดำ และกางเกงขายาวสีดำ ขณะที่ทางตำรวจ ชุดกู้ภัยชายฝั่ง พร้อมองค์กรช่วยเหลือ ได้ระดมกำลังนับสัปดาห์ในการค้นหา
กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินจำนวนมากได้มารวมตัวกันที่หาดฟอร์มบี้ รวมถึงรถพยาบาลและรถตำรวจ 4 คัน และพบศพอย่างน่าสลดใจในเวลาประมาณ 08.30 น.

ภาพจาก Merseyside Police
อย่างไรก็ตาม
ทางตำรวจเพิ่งยืนยันในวันที่ 18 กุมภาพันธ์
ว่าศพที่พบบนชายหาดได้รับการระบุตัวอย่างเป็นทางการว่าคือ นายธีรพัฒน์
ที่หายตัวไป
ซึ่งจากนี้เจ้าหน้าที่จะมีการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต
และญาติสนิทของผู้ตายทราบเรื่องแล้ว
อนึ่ง มีข้อมูลเผยแพร่ผ่านสื่อไทยในประเทศอังกฤษ ว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนไทย โดยมีคนเข้ามาร่วมแสดงความเสียใจกันจำนวนมาก
KUBET – รถ EV พุ่งชนด่าน พลิกตลบ 2 รอบ สภาพยับ คนขับชี้ใช้ระบบขับอัตโนมัติ
ระทึก รถยนต์ไฟฟ้าพุ่งชนด่านเก็บค่าผ่านทาง บนทางด่วนในจีน พลิกตลบ 2 รอบกลางอากาศ สุดท้ายกลายเป็นซาก คนขับรอดตาย รับใช้ระบบขับอัตโนมัติ ตอนง่วง

ภาพจาก Sina
วันที่ 4 มีนาคม 2568 เว็บไซต์ Sina รายงานว่า
เกิดเหตุรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งชนด่านเก็บค่าผ่านทาง บนทางด่วนในมณฑลเสฉวน
ประเทศจีน
โดยคลิปวงจรปิดเผยให้เห็นภาพของรถคันดังกล่าวที่พุ่งชนถังทรายตรงหน้าด่านเก็บเงิน
ก่อนจะหมุนเคว้งกลางอากาศ 2 รอบ และพุ่งเข้ามาตรงจุดเก็บค่าผ่านทาง
สภาพรถพังเสียหายยับเยิน เครื่องยนต์ด้านหน้าไม่เหลือสภาพ
เศษซากกระจายทั่วบริเวณ แต่น่าเหลือเชื่อที่คนขับนั้นรอดปาฏิหาริย์
แถมยังปีนออกมาจากซากรถได้ด้วยตัวเอง ในสภาพง่วงงุนเล็กน้อย
เกิดเหตุรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งชนด่านเก็บค่าผ่านทาง บนทางด่วนในมณฑลเสฉวน
ประเทศจีน
โดยคลิปวงจรปิดเผยให้เห็นภาพของรถคันดังกล่าวที่พุ่งชนถังทรายตรงหน้าด่านเก็บเงิน
ก่อนจะหมุนเคว้งกลางอากาศ 2 รอบ และพุ่งเข้ามาตรงจุดเก็บค่าผ่านทาง
สภาพรถพังเสียหายยับเยิน เครื่องยนต์ด้านหน้าไม่เหลือสภาพ
เศษซากกระจายทั่วบริเวณ แต่น่าเหลือเชื่อที่คนขับนั้นรอดปาฏิหาริย์
แถมยังปีนออกมาจากซากรถได้ด้วยตัวเอง ในสภาพง่วงงุนเล็กน้อย
รายงานเผยว่า
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. วันที่ 3 มีนาคม
ที่ผ่านมา ตอนที่ทางตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ
พบว่าคนขับปีนออกจากรถมาด้วยตัวเองแล้ว
หลังสอบปากคำก็พบว่าเขายังอยู่ในอาการช็อก แต่มีสติแจ่มชัด

ภาพจาก Sina
คนขับยอมรับว่า
ขับเปิดใช้งานระบบขับอัตโนมัติไว้ โดยที่มือทั้ง 2 ข้างยังจับพวงมาลัยอยู่
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาค่อนข้างง่วงเล็กน้อย
และน่าจะเป็นเพราะระบบรถจำด่านเก็บค่าผ่านทางไม่ได้ มันจึงพุ่งเข้าไปตรง ๆ
ทางตำรวจเผยว่า
หลังจากเกิดเหตุคนขับรถก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
พบว่าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่มือและเท้า แต่ไม่มีกระดูกหักตรงไหน
ส่วนสาเหตุที่รถชนรุนแรงขนาดนี้แต่คนขับกลับรอดจากการบาดเจ็บสาหัส
น่าจะเป็นเพราะรถชนเข้ากับถังทรายก่อน จึงลดแรงกระแทกไปได้มากก่อนพลิกคว่ำ
และอีกปัจจัยสำคัญคือถุงลมนิรภัยที่ทำงานตอนที่เกิดเหตุชน

ภาพจาก Sina
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทางตำรวจจราจรสั่งลงโทษด้วยการปรับคนขับรถ เป็นจำนวนเงิน 200 หยวน (ราว
920 บาท) พร้อมตัด 3 คะแนน
นอกจากนี้เขายังต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้กับอุปกรณ์และสิ่งปลูกสร้าง
เช่น ด่านเก็บค่าผ่านทางที่ได้รับความเสียหาย
เมื่อภาพการชนของรถคันนี้ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์
ก็กลายมาเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก
ในเรื่องที่ว่าทำไมคนขับถึงรอดมาได้โดยบาดเจ็บเล็กน้อย
ทั้งที่รถชนกระแทกรุนแรงมาก นอกจากนี้ยังตั้งคำถามด้วยว่า “ระบบขับขี่อัตโนมัตินั้น สามารถไว้ใจได้หรือไม่”

ภาพจาก Sina
เป็นที่เข้าใจว่าปัจจุบันนี้
ระบบขับขี่อัจฉริยะ มักได้รับการโปรโมตจากบริษัทรถว่าเป็นฟังก์ชันที่สะดวก
และผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องควบคุมพวงมาลัย
แต่ถึงอย่างนั้นระบบดังกล่าวยังเป็นเพียงตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่เท่านั้น
ซึ่งตามกฎหมายของจีน แม้จะมีการเปิดระบบขับอัตโนมัติ
คนขับก็ยังต้องรับผิดชอบความปลอดภัยเกี่ยวกับการขับขี่
และต้องอยู่ในสภาพพร้อมที่จะควบคุมรถได้ตลอดเวลา
ทางตำรวจที่ดูแลคดีนี้
ชี้ว่า เหตุการณ์นี้แม้ผู้ขับขี่จะเปิดใช้ระบบขับอัตโนมัติ
โดยไม่ได้ปล่อยให้หลุดจากการควบคุมของมนุษย์อย่างสมบูรณ์
นั่นคือยังจับพวงมาลัยอยู่ แต่เขาไม่ได้รักษาความตื่นตัว
นับว่าละเมิดต่อกฎหมายความปลอดภัยในการขับขี่
และการขับขี่ในภาวะง่วงนอนซึ่งนับเป็นพฤติกรรมที่เป็นอุปสรรคต่อการขับขี่อย่างปลอดภัย
จึงต้องมีบทลงโทษตามกฎหมาย

ภาพจาก Sina
ขอบคุณข้อมูลจาก Sina, Shanghai Daily
KUBET – เปิดสัญญา โม แฟนเก่าบอส แดนเซอร์ ลำไย ไหทองคำ จ่อโดนปรับ 20 ล้านในโหนกระแส
เปิดสัญญา โม ทำกับไหทองคำ ปรับ 20 ล้านหากเรื่องลำไย ไหทองคำ เสียชื่อเสียง งานนี้โมอาจจะหนาว เพราะเพจอวตารไล่ทีขี่แพะไล่ ? โมกับบอส ใครพูดจริง ใครโกหก

ภาพจาก โหนกระแส
วันที่ 5 มีนาคม 2568 นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแสเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นของ ลำไย ไหทองคำ ว่า ตนไม่รู้เรื่องจ่ายเงิน 2 ล้านตั้งแต่แรก เพิ่งมารู้เรื่องเมื่อวานนี้เอง จึงรีบไปหาต้นตอ พบว่า มีการลงสัญญาในนามบริษัท จึงสงสัยว่า ทำไมไม่จ่ายเงินสด พอไปสืบมาจึงรู้ว่า สาเหตุที่ทำแบบนี้ เพราะกลัวบอสจ่ายเงินให้ไม่จบ บริษัทจ่ายให้ก่อน แล้วให้บอสมาใช้หนี้
ช่วงนั้นแอนนา แฟนผม เป็นคนตัดสินใจ แล้วผมไม่รู้จริง ๆ เขาคงจะคิดว่า คงอยากใช้สัญญาจากบริษัทไปควบคุมน้องโม เพื่อให้เรื่องนี้มันจบจริง ๆ
ส่วนรายละเอียดสัญญา ถ้าหากโมละเมิดสัญญาในเรื่องยุติข้อพิพาท และหลักฐานที่ทำให้ศิลปินเสื่อมเสียชื่อเสียง จะถูกดำเนินคดีทางอาญา 20 ล้านบาท
ในตอนนี้ เหมือนไม่จบตามที่ข้อตกลง เพราะมีเพจอวตารเอาไปโพสต์แนวไล่ทีขี่แพะไล่กันเยอะมาก และทางรายการโหนกระแสก็เปิดเผยตัวสัญญาดังกล่าวเอาไว้แล้วว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง

ภาพจาก โหนกระแส
โม ปัดเรื่องเงิน 10 ล้าน
ขณะที่โม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องเงิน 10 ล้านไม่เป็นความจริง สิ่งที่ต้องการคือ อยากให้เขาออกมาพูดเรื่องจริง แถลงข่าวยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ได้ต้องการเงิน จากนั้นบอสไปติดต่อกับค่าย กลับมาบอกตนว่า ทำไม่ได้ และทางบริษัทมีข้อเสนอว่า ให้เรียกเงินจากบอส 5 ล้านเป็นค่าเสียใจ ถ้าบอสมีไม่พอให้มาปรึกษากับทางค่าย
ทว่าบอสแย้งโมสด ๆ กลางรายการว่า โมขอ 10 ล้าน ส่วนทางโมก็ปฏิเสธ สาบานให้ตายได้เลยว่าไม่ได้โกหกเรื่องตัวเลข ก่อนที่จะบอกต่อไปว่า เงินข้อเสนอสุดท้ายลดเหลือ 2 ล้าน เป็นค่าเสียใจ เสียเวลา ทางไหทองคำเขาว่าแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม พนักงานของไหทองคำรายหนึ่ง มาช่วยยืนยันว่า โมขอ 10 ล้าน แต่ไม่รู้ว่าพูดด้วยอารมณ์โกรธหรือเปล่า แต่ทางโมก็ยืนยันว่า เรื่องนี้ตนคุยกับบอสแค่ 2 คนในห้อง ไม่มีบุคคลที่สาม

ภาพจาก โหนกระแส
โมกับบอส พูดไม่ตรงกันตรงไหน
จุดแตกต่างที่ทำให้โมกับบอส พูดไม่ตรงกันอีกเรื่องคือ โมบอกว่า จะเรียกเงินจากบอส แต่บอสบอกว่า โมจะเรียกเงินกับลำไย จากนั้น หนุ่ม กรรชัย ก็ถามว่า แล้วโมไปทำสัญญากับไหทองคำทำไม
ทั้งนี้ โมยืนยันว่า ไม่ได้บอกใครที่ไหน แต่บอสแย้งซึ่งหน้าว่า ข้อมูลที่หลุดจากเพจอวตาร มาจากโมแน่นอน เพราะเรื่องเงิน 1 แสนในบัญชีที่เข้ามา ไม่เคยบอกใคร
บอส ยืนยันว่า โมเป็นคนส่งคลิปลับให้กับแม่บอสรับรู้ ทางโม ชี้แจงว่า เพราะแม่บอสไม่เชื่อ จึงส่งไป แล้วแม่บอสอาจจะส่งให้คนอื่นก็ได้ นอกจากนี้ บอส ยังเปิดเผยว่า โมเคยยื่นข้อเสนอให้บอสไปหลอกค่ายไหทองคำว่า เลิกกันแล้ว แล้วค่อยหาทางมาแฉเรื่องนี้ทีหลังเมื่อมีโอกาสเหมาะสม แต่โมปฏิเสธว่า ไม่ได้พูดประโยคนี้
ทนายแก้ว เปิดเผยว่า ความจริงโมไม่มีสิทธิ์ได้เงิน 2 ล้าน เพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ในเรื่องกฎหมาย ต้องดูว่า เข้าองค์ประกอบมาตราไหน มันมีเงื่อนไขไปแลกมา อีกทั้งคดีสัญญาทางแพ่งกับอาญา มันคนละส่วนกัน

ภาพจาก โหนกระแส

ภาพจาก โหนกระแส