เดือน: มีนาคม 2025

         ภาพฮือฮา ซูเปอร์คาร์ 2 คันชนกัน เฟอร์รารี่ ปะทะ แมคลาเรน อึ้งค่าซ่อมรวมกันอาจสูงถึง 7 ล้าน ชี้เจ้าของรถหรูรู้จักกัน กำลังจะไปงานแสดงรถด้วยกัน แต่ขับชนกันก่อน

ภาพจาก 中天新聞

          วันที่ 3 มีนาคม 2568 เว็บไซต์ Liberty Times Net รายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถซูเปอร์คาร์ 2 คัน ชนกันบนทางหลวงหมายเลข 86 ในเมืองไถหนาน ของไต้หวัน หลังจากที่รถ McLaren 765LT สีดำ ขับชนท้ายรถ Ferrari SF90 สีแดง เป็นผลให้รถทั้ง 2 คันได้รับความเสียหายหนัก น่าจะต้องเสียค่าซ่อมแพงหลายล้าน

          อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (2 มีนาคม) เวลาประมาณ 07.18 น. เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนขับรถทั้ง 2 ราย อายุประมาณ 45 ปี ทางตำรวจตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ พบว่าไม่มีฝ่ายใดอยู่ในภาวะมึนเมา

ภาพจาก 中天新聞

          เป็นที่เข้าใจว่า นายตง คนขับรถ McLaren และ นายหวง คนขับรถ Ferrari รู้จักและเป็นเพื่อนที่ชื่นชอบรถหรูเหมือนกัน ทั้งคู่กำลังจะไปงานแสดงรถ 2025 Tainan Auto Show ด้วยกันที่ศูนย์จัดการประชุมและนิทรรศกาลไถหนาน แต่กลับเกิดอุบัติเหตุขึ้นก่อนระหว่างทาง

          ภาพถ่ายที่ปรากฏ เผยให้เห็นว่า Ferrari
ได้รับความเสียหายบริเวณท้ายรถ ส่วนรถ McLaren เสียหายหนักบริเวณหน้ารถ
ทำให้ผู้คนที่ขับรถผ่านมาต่างอึ้งหนัก
กับภาพซูเปอร์คาร์สุดหรูมูลค่าหลายล้าน ขับชนกันเอง

ภาพจาก Thread _zen_22

         
ขณะที่ ETtoday รายงานว่า มูลค่าของของรถ McLaren 765LT
ซึ่งทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน หากเป็นรถใหม่น่าจะมีราคาเกือบ 30
ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 31 ล้านบาท) เนื่องจากด้านหน้ารถได้รับความเสียหาย
และน่าจะกระทบถึงชิ้นส่วนอื่น ๆ ด้วย คาดว่าค่าซ่อมศูนย์น่าจะอยู่ระหว่าง 2
– 3 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 2 – 3.1 ล้านบาท)

ภาพจาก Thread _zen_22

          ส่วนรถ
Ferrari SF90 ก็ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคันเช่นกัน
มูลค่าของรถใหม่จะอยู่ที่กว่า 20 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 20 ล้านบาท)
สำหรับรถคันที่เกิดเหตุนี้เป็นรถใหม่ที่มีอายุไม่ถึง 2 ปี
เมื่อพิจารณาความเสียหาย ที่น้ำมันเครื่องไล่ออกมาทั่วพื้นถนน
คาดว่าไม่ใช่เพียงแค่กันชนท้ายและสปอยเลอร์ด้านหลังที่เสียหาย
แต่ยังมีระบบอื่น ๆ ที่น่าจะได้รับความเสียหายด้วย ค่าซ่อมคงไม่ต่ำกว่า 4
ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 4.1 ล้านบาท)
 
ขอบคุณข้อมูลจาก Liberty Times Net, ETtoday

          วันที่ 3 มีนาคม 2568 TikTok @khoriyoh21 ซึ่งเป็นพนักงานเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาหนึ่ง เธอนั้นตั้งครรภ์ จึงได้แจ้งทางร้านและเพื่อนร่วมงาน ก่อนที่จะได้รับการตอบรับที่แสนประทับใจ เพราะทางร้านและเพื่อนร่วมงานต่างซื้อของบำรุงครรภ์ เครื่องประดับ ของกินต่าง ๆ เป็นการรับขวัญหลานที่อยู่ในท้อง เห็นแล้วใจฟูมาก

          คลิปดังกล่าวมีคนดูกว่า 5 แสนครั้ง เพราะประทับใจในบรรยากาศความใจดีของเพื่อนร่วมงานที่มีต่อเพื่อนฝูง

ภาพจาก TikTok @khoriyoh21

ภาพจาก TikTok @khoriyoh21

          เด็ก 10 ขวบหวิดดับ อาเจียนไม่หยุดจนแม่ต้องพาส่ง รพ. อึ้งต้นเหตุจากสิ่งที่กินเมื่อ 3 ปีก่อน อยู่ในตัวมานาน ตอนนี้ออกฤทธิ์

          วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ มีรายงานกรณีของเด็กชายวัย 10 ขวบ จากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ที่เผชิญประสบการณ์เฉียดตาย อยู่ ๆ ก็อาเจียนไม่หยุดและล้มป่วย จนเมื่อเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา แพทย์พบว่าเด็กชายมีภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ ก่อนจะพบว่าต้นเหตุเกิดจากปูดิบที่เขากินเข้าไปเมื่อ 3 ปีก่อน

          รายงานเผยว่า ตอนที่เห็นว่าอยู่ ๆ ลูกชายก็ล้มป่วย แม่ได้รีบพาลูกชายมาตรวจที่โรงพยาบาล โดยจากการอัลตราซาวด์ พบว่าเด็กชายมีของเหลวสะสมในเยื่อหุ้มหัวใจถึง 300 มิลลิลิตร แพทย์จึงให้เด็กชายแอตมิตเพื่อทำการรักษาทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น โดยระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการตรวจพร้อมถ่ายของเหลวออกไปทุกวัน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร

          ต่อมาวันที่ 6 กุมภาพันธ์
เด็กชายถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลเด็กอูฮั่น
ก่อนจะตรวจพบว่าสาเหตุนั้นเกิดจากการติดเชื้อโรคพยาธิใบไม้ปอด (paragonimiasis) ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยในผู้ที่รับประทานปูและกุ้งเครย์ฟิช ที่ปรุงไม่สุก

          เมื่อแพทย์ซักประวัติ
อยู่ ๆ แม่ของเด็กชายก็นึกขึ้นได้ ว่าเมื่อ 3
ปีก่อนตอนที่พาลูกชายกลับไปบ้านเกิด เด็กชายไปเดินเล่นในลำธารและจับปูได้
เธอจึงบอกให้ลูกหักขาปูออกมา และชิมเนื้อปูสด ๆ ตรงนั้น
เนื่องจากน้ำในลำธารของหมู่บ้านใสมาก และทุก ๆ
คนต่างก็ทำแบบนี้กันมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงไม่คิดว่าจะเกิดปัญหาอะไร

         
ทั้งนี้ หลังจากแพทย์ทำการถ่ายพยาธิ อาการของเด็กชายก็ดีขึ้น
ภายหลังจากสังเกตอาการอยู่อีกระยะหนึ่งก็สามารถกลับบ้านได้ในที่สุด

         
ด้านแพทย์ได้แนะนำประชาชนให้ปรุงอาหารทะเลสุกก่อนรับประทานเสมอ
โดยข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค พบว่า
พยาธิใบไม้ปอดสามารถอยู่ในตัวได้นานหลายปี
สามารถทำให้เกิดอาการป่วยคล้ายปอดอักเสบหรือไวรัสลงกระเพาะได้
โดยมีอาการเบื้องต้นเช่น ท้องเสีย ปวดท้อง สามารถรักษาได้ด้วยา
โดยผู้ที่ต้องการกินปูหรือกุ้งเครย์ฟิช
ควรนำไปปรุงสุกภายใต้อุณหภูมิอย่างน้อย 63 องศาเซลเซียส

ขอบคุณข้อมูลจาก World of Buzz, Oriental Daily

           ข่าวดีที่แจ้งชนิดไม่ให้แฟน ๆ ตั้งตัวนี้ ถูกโพสต์ผ่าน X ของหญิงสาวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยเปิดภาพทั้งทะเบียนสมรส พร้อมภาพสวีตคู่กับ เทสึยะ ชิโดะ (Tetsuya Shido) ที่ขยับสถานะจากเพื่อนนักแสดง ขึ้นมาเป็นสามีอย่างเป็นทางการ

           กระทั่งเมื่อเธอเปลี่ยนชื่อมาเป็น คามิ อันนา และเดบิวต์อย่างเป็นทางการ ก็ไม่ได้เข้าฉากร่วมกับนักแสดงชายคนนี้อีกเลย อย่างไรก็ตาม ใครจะคาดคิดว่าการพบกันเมื่อ 9 ปีก่อนจะกลายเป็นพรหมลิขิต ที่ทำให้ทั้งคู่ปลูกต้นรักจนกลายมาเป็นคู่สามีภรรยาในวันนี้ ซึ่งนับเป็นเรื่องหายากสุด ๆ ในวงการ AV และยังเป็นการทำลายกฎที่คนรู้กันเงียบ ๆ เรื่องที่ “นักแสดงชายและหญิงจะรักกันไม่ได้”

ภาพจาก Instagram anna.kami3

ภาพจาก Instagram anna.kami3

ภาพจาก Instagram anna.kami3

ภาพจาก Instagram anna.kami3

          หนุ่มวัย 27 นอนเมาแอ๋อยู่ข้างถนน ซ้ำข้างตัวมีกระเป๋าใส่เงิน 5 แสน วางทิ้งไว้โดยไม่สนใจ สอบสวนจนเจอที่มา คาดฉลองหนักเกินไปหน่อย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 全國即時報

           วันที่ 2 มีนาคม 2568 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า เกิดเหตุการณ์ชวนตกใจเมื่อมีคนพบชายหนุ่มนอนหมดสติอยู่ในซอยเปลี่ยวช่วงกลางดึก ซ้ำข้าง ๆ ตัวและในกระเป๋ายังมีเงินสดจำนวนมาก แต่กลับถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ไยดี

           เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองไถจง ไต้หวัน ช่วงเวลา 05.00 น. ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่ามีชายรายหนึ่งโวยวายเสียงดังและทำตัวผิดปกติในซอยจิงเฉิง 9 ตำรวจจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุทันที

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 全國即時報

           ปรากฏว่าจุดดังกล่าวตำรวจพบตัวชายวัย 27 ปี นอนไม่ได้สติอยู่บนถนน ร่างกายของเขาอ่อนแรงไม่สามารถลุกได้ นอกจากนี้ทั้งตัวของเขายังอบอวลไปด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์ ไม่สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ แต่ที่ชวนตกใจคือใกล้ ๆ ตัวนั้นมีกระเป๋าเป้ใส่เงินสดจำนวนกว่า 500,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 520,000 บาท) วางอยู่อีกด้วย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 全國即時報

           ตำรวจเรียกรถกู้ชีพเข้ามาตรวจร่างกายของชายหนุ่ม
พบว่าเจ้าตัวมีความดันผิดปกติ และมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ
แต่ระหว่างนั้นเขาก็พยายามขัดขืน
จนเงินในกระเป๋าหล่นออกมากระจัดกระจายไปตามพื้นถนนเต็มไปหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องพยายามพาตัวเขาส่งไปยังโรงพยาบาลอย่างทุลักทุเล

          
จากการสอบสวนทราบว่า ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า นายจี อาชีพพ่อค้าขายรถมือสอง
เบื้องต้นคาดว่า ก่อนเกิดเหตุเขาสามารถขายรถให้กับลูกค้ารายหนึ่งได้ แล้วนำเงินที่ได้มาเฉลิมฉลองกับก๊วนเพื่อนตั้งแต่หัวค่ำ
ก่อนจะถูกพบตัวในสภาพเมาแอ๋พร้อมกับเงินจำนวนมาก โชคดีที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ติดต่อกับครอบครัวเขาได้หลังพาตัวมาที่โรงพยาบาล

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 全國即時報

          
ด้านเจ้าหน้าที่ฝากให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนภัยในการดื่มอย่างมีสติ
เพราะเสี่ยงจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย
และอาจตกเป็นเป้าหมายของเหล่าอาชญากรได้
จึงอยากขอให้เฉลิมฉลองโดยคำนึงถึงครอบครัวและคนสนิทที่ต้องเป็นห่วงด้วย
โดยหากเจอสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยให้โทร. แจ้งตำรวจทันที  

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday

         เปิดรายละเอียดเงิน 750 บาท ประกันสังคมที่ลูกจ้างจ่าย คุ้มครองอะไรบ้าง แบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน บางข้อไม่ใช้สิทธิก็ไม่ได้เงินคืน

ภาพจาก Cat Box / Shutterstock.com

          ล่าสุด วันที่ 3 มีนาคม 2568 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว มีการเปิดเผยรายละเอียดเรื่อง เงินประกันสังคม ที่ลูกจ้างจ่าย 750 บาทต่อเดือน มีความคุ้มครองอะไรให้กับลูกจ้างบ้าง และแบ่งจำนวนเงินกันเท่าไร มีรายละเอียดดังนี้

          – เงินชราภาพ 450 บาท เป็นเงินออมยามเกษียณหลังอายุ 55 ปี

          – ความคุ้มครอง 225 บาท เอาไว้ดูแลอาการเจ็บป่วย พิการ คลอดบุตร เสียชีวิต หากไม่ใช้สิทธิจะไม่ได้ส่วนนี้คืน

          – ประกันว่างงาน 75 บาท ใช้สำหรับกรณีถูกเลิกจ้างหรือว่างงาน ได้รับระหว่างรองานใหม่ หากไม่ใช้สิทธิจะไม่ได้ส่วนนี้คืน

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
 

          หยึย สาวจับปูจากเขื่อน ตั้งใจจะเผากินแต่เจอตัวอะไรยึกยือโผล่มาเพียบ เจอแบบนี้ดับฝัน อวสานมื้ออร่อย คนเดาเป็นปลิงหรือพยาธิ ล่าสุดมีคำตอบ

ภาพจาก ศูนย์วิจัยโรคปรสิต-parasitic disease research center

          เป็นภาพสุดสะพรึงที่ทำเอาหลายคนยกให้เป็นภาพอวสานปูนา หลังมีคนโพสต์คลิปขณะเผาปูบนตะแกรง แต่กลับสังเกตเห็นสิ่งมีชีวิตปริศนาโผล่ออกมาจากตัวปูเป็นจำนวนมาก ลักษณะเป็นเส้นเล็ก ๆ ยาว ๆ ขยับตัวยึกยือไป-มา พร้อมระบุว่า “เป็นคนชอบกินปูนามาก แต่ไม่เคยเจอตัวนี้มาก่อน ดับฝันสุด ๆ (เก็บมาจากเขื่อนค่ะ)”

          งานนี้จึงทำให้มีชาวเน็ตมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็น บ้างก็มองว่าน่าจะเป็นพยาธิ ขณะที่บางคนก็ฟันธงว่าเป็นปลิงเข็ม แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหนก็สยองพอกัน หลายคนถึงกับบอกว่าเลิกกินปูนาไปนานแล้วเพราะแบบนี้

          ล่าสุด (2 มีนาคม 2568) เพจ ศูนย์วิจัยโรคปรสิต-parasitic disease research center ได้ออกมาไขข้อข้องใจแบบชัด ๆ ว่า “น้องยึกยือ” ที่เห็นในตัวปูนั้น แท้จริงไม่ใช่พยาธิ แต่เป็น “ปลิง” โดยทั่วไป ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์โดยตรง แต่สามารถส่งผลกระทบทางอ้อมได้ในบางกรณี

ความเสี่ยงจากการบริโภคปูที่มีปลิง

          – การปนเปื้อนของเชื้อโรค : ปลิงบางชนิดอาจเป็นพาหะของแบคทีเรีย ปรสิต (พยาธิใบไม้ปอด Paragonimus พยาธิปอดหนูหรือพยาธิหอยโข่ง Angiostrongylus) หรือไวรัสที่อยู่ในกระแสเลือดของปู ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อโรคทางเดินอาหาร หากปูไม่ผ่านการปรุงสุกที่เหมาะสม

          – สารคัดหลั่งจากปลิง : ปลิงบางชนิดหลั่งสารป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulant) และอาจมีสารพิษบางชนิด ซึ่งแม้จะไม่ก่อให้เกิดพิษร้ายแรง แต่หากมีการปนเปื้อนอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้

ภาพจาก ศูนย์วิจัยโรคปรสิต-parasitic disease research center

อาการแพ้หรือระคายเคืองจากการสัมผัสปลิง

          – หากสัมผัสปลิงที่ติดอยู่ในปูโดยตรง อาจเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองทางผิวหนังในบางคน โดยเฉพาะหากปลิงขับเมือกหรือสารคัดหลั่งออกมา

          – ในกรณีที่ปลิงยังมีชีวิต อาจเกาะติดผิวหนังและดูดเลือดได้ (แม้จะไม่ใช่พฤติกรรมหลักของปลิงที่อาศัยในปู)

ความเสี่ยงจากปูที่ติดเชื้อจากปลิง

         
– ปลิงที่ดูดเลือดปูอาจทำให้ปูอ่อนแอและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น
แบคทีเรีย Vibrio spp. ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษในคน

          – หากบริโภคปูที่ติดเชื้อโดยไม่ปรุงให้สุก อาจเสี่ยงต่ออาการท้องเสีย อาเจียน หรืออาหารเป็นพิษ

ปลิงที่พบในปู เป็นปลิงน้ำจืดหรือปลิงทะเลที่อาศัยเกาะอยู่ตามกระดองและขาเพื่อดูดเลือดปู มี 2 ชนิด คือ

          1. ปลิงใส (Glossiphonia sp.)

          – พบในปูน้ำจืด เช่น ปูนา
          – มีลำตัวโปร่งใสหรือสีอ่อน
          – เกาะดูดเลือดจากปู แต่อาจไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง

          2. ปลิงปู (Branchellion sp.)

          – พบได้ในปูทะเลและปูน้ำกร่อย
          – มีลำตัวแบนและโปร่งใส หรือมีสีออกน้ำตาล
          – เกาะติดตามกระดอง ขา หรือช่องเหงือกของปู
          – ดูดเลือดและอาจทำให้ปูอ่อนแอ หรือเป็นพาหะนำเชื้อโรค

ภาพจาก ศูนย์วิจัยโรคปรสิต-parasitic disease research center

วิธีป้องกันและกำจัด

          – แช่ปูในน้ำเกลือเจือจาง (3-5%) ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ปลิงหลุดออก
          – ตรวจสอบแหล่งน้ำและสภาพแวดล้อม ลดความชื้นและแหล่งอาศัยของปลิง
          – ในฟาร์มเลี้ยงปู ควรเปลี่ยนน้ำสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการใช้แหล่งน้ำที่มีปลิงปะปน

ภาพจาก ศูนย์วิจัยโรคปรสิต-parasitic disease research center

ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยโรคปรสิต-parasitic disease research center

           สลด ลูก ๆ รวมตัวจัดงานศพพ่อ กลับมานอนก่อนเสียชีวิต 4 ศพ ชาวบ้านช็อก คาด จุดเตาทำความร้อนแต่ไม่ระบายอากาศ นอนสูดควัน ตายไม่รู้ตัว

ภาพจาก 四川观察

           วันที่ 1 มีนาคม 2568 เว็บไซต์ MS News มีรายงานเหตุสลดจากมณฑลส่านซี ประเทศจีน พบสมาชิกในครอบครัว 4 คน เสียชีวิตหลังจัดงานศพให้แก่พ่อวัย 90 ปี โดยทั้ง 4 คนสิ้นใจไประหว่างนอนหลับ และคาดว่าสาเหตุอาจเกิดจากการสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไป

           รายงานเผยว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน ประกอบไปด้วยลูกชาย 3 คน และลูกเขย 1 คน เดินทางมาจัดพิธีศพให้แก่พ่อวัย 90 ปีที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองซินโจว โดยหลังจากนำศพไปฝังในช่วงเช้า ทั้ง 4 คนก็กลับมานอนค้างคืนที่บ้านในหมู่บ้าน ก่อนจะเสียชีวิตระหว่างนอนหลับ

           จากการสอบสวน พบว่าทั้ง 4 คนเสียชีวิตด้วยภาวะพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังเข้ามาจัดการกับเหตุดังกล่าว พร้อมตรวจสอบด้านความปลอดภัย ขณะที่คนในหมู่บ้านได้จัดสรรความช่วยเหลือแก่ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว

ภาพจาก 四川观察

           ชาวเน็ตบางคนสงสัยว่า
บ้านหลังดังกล่าวอาจถูกทิ้งร้างมานาน และทั้ง 4
คนน่าจะจุดเตาเพื่อทำความร้อนในห้อง โดยไม่มีการระบายอากาศออกไป
ทำให้เกิดการสะสมของควันและก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์
นำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด อย่างไรก็ตาม
ยังไม่มีข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการถึงที่มาของกลุ่มควัน
ที่ผู้เสียชีวิตทั้งหมดสูดดมเข้าไปจนเกิดเหตุสลด

ขอบคุณข้อมูลจาก MS New