เหยื่อแอปฯ เงินกู้ในมือถือแบรนด์ดัง กู้เงิน 5 หมื่น ติดหนี้เพิ่มเรื่อย ๆ พุ่งถึง 7 แสนบาท ถูกดึงข้อมูลส่วนตัวทวงคนใกล้ชิด ขู่ถ้าไม่จ่ายจะประจาน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแบรนด์ OPPO และ realme พบการติดตั้งแอปฯ เงินกู้เข้ามาโดยอัตโนมัติ ทั้งที่ผู้ใช้งานไม่ได้ดาวน์โหลด และไม่สามารถลบแอปฯ ดังกล่าวออกได้เอง โดยพบว่าแอปฯ นั้นใช้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในเครื่องโดยไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งต่อมาทั้ง 2 แบรนด์ ออกแถลงการณ์ขอโทษ และระบุว่ากำลังเร่งแก้ไขเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถถอนการติดตั้งแอปฯ ดังกล่าวเองได้โดยเร็วที่สุด
วันที่ 13 มกราคม 2568 ข่าวช่องวัน รายงานว่า น.ส.เอ ผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้รับความเสียหายหลังเข้าใช้แอปฯ กู้เงิน ที่ติดมากับมือถือแบรนด์ดังโดยถูกคิดดอกเบี้ยเยอะผิดปกติจนกลายเป็นหนี้สินกว่า 7 แสนบาท ทั้งที่เงินต้นอยู่ที่หลัก 5-6 หมื่นบาทเท่านั้น ซ้ำยังถูกทวงหนี้กับบุคคลใกล้ชิดจนเกิดความเสียหาย
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
น.ส.เอ เผยว่า ใช้มือถือยี่ห้อดังกล่าวมานานแล้ว และมักจะมีข้อความเสนอให้สินเชื่อเงินสดแจ้งเตือนเข้ามาตลอด ช่วงหนึ่งตนมีปัญหาด้านการเงิน จึงตัดสินใจเข้าไปโหลดแอปฯ ตามลิงก์ที่มีข้อความส่งมา จากนั้นแอปฯ ก็ให้กดอนุญาตเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ และให้ถ่ายภาพใบหน้าคู่กับบัตรประชาชน กรอกข้อมูลบัญชีธนาคาร และกรอกหมายเลขโทรศัพท์
จากนั้นจะมีบริษัทสินเชื่อขึ้นมาให้เลือกมากกว่า 10 ราย แต่ละรายมีรายละเอียดดอกเบี้ยต่างกัน เช่น หากกู้เงิน 10,000 บาท จะถูกหักดอกเบี้ย ออกทันที แล้วได้รับเงินจริง 6,000 – 7,000 บาท ขณะนั้นตนเองต้องการเงิน 50,000 บาท จึงทำการกู้กับบริษัทสินเชื่อไปประมาณ 10 ราย แต่เพิ่งมาทราบว่าต้องใช้เงินคืนภายใน 5 วันเท่านั้น จึงไม่สามารถหาเงินมาจ่ายคืนได้ทัน ต้องเสียค่าขยายระยะเวลาครั้งละ 1,000 บาท โดยที่เงินต้นยังยอดเท่าเดิม
หากไม่มีเงินมาจ่ายคืนตามกำหนดอีก จะมีคนโทรศัพท์มาพูดจาไม่ดีใส่ เล่นสงครามประสาท และข่มขู่ว่าจะนำภาพใบหน้าที่ถ่ายคู่บัตรประชาชนไปประจาน รวมถึงยังมีการโทรศัพท์ติดต่อไปยังบุคคลต่าง ๆ ที่อยู่ในรายชื่อโทรศัพท์ เพื่อทวงถามเงินคืน อ้างว่า ไม่สามารถติดต่อผู้กู้ยืมได้ ทำให้อับอายและเกิดความเข้าใจผิด
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าข้อมูลส่วนตัวยังถูกส่งต่อไปบริษัทสินเชื่อรายอื่นอีกจำนวนมาก เนื่องจากได้รับข้อความ รวมถึงสายโทรศัพท์มาเสนอสินเชื่อเยอะมาก คาดว่าบริษัทเหล่านี้ทราบข้อมูลว่าตนมีความจำเป็นต้องใช้เงิน ทั้งนี้ หลังตกเป็นเหยื่อแอปฯ ให้บริการสินเชื่อ เดิมมีหนี้สิน 50,000 – 60,000 บาท แต่ตอนนี้มีหนี้รวมกว่า 700,000 บาท
ทั้งนี้ ยอมรับว่าส่วนหนึ่งก็พลาดที่ไปกู้ยืมเอง แต่อีกมุมหนึ่งก็ไม่คิดว่าจะถูกรุกล้ำข้อมูลส่วนตัวมากเช่นนี้ และเงื่อนไขการให้บริการก็ใช้ภาษากำกวม เข้าใจยาก ไม่มีทางที่ชาวบ้านจะอ่านเข้าใจ ซึ่งตนมองว่าไม่ควรมีแอปฯ สินเชื่อพวกนี้อีก เพื่อป้องกันไม่ให้มีประชาชนตกเป็นเหยื่อได้รับความเดือดร้อน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน
