วัดใจน้องหมา เจ้าของแกล้งหัวใจวายล้ม จะเข้ามาช่วย หรือ เลือกขนม

          เจ้าของลองใจหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะเข้ามาดูคนเลี้ยงหรือเลือกขนม เห็นอาการน้องแล้วเอ็นดู พื้นสะอาดเอี่ยมเลยทีเดียว



ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม
ภาพจาก TikTok @nivea_veavear

          เรียกว่าเป็นสัตว์แสนรู้สุด ๆ สำหรับ น้องหมา ซึ่งนอกจากเรื่องความน่ารักแล้ว ยังมีจุดเด่นเรื่องความซื่อสัตย์ รักเจ้าของมาก ๆ แต่กับบางสถานการณ์ ก็ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป

          วันที่ 8 มกราคม 2568 ผู้ใช้ TikTok @nivea_veavear ลงคลิปพิสูจน์ความรักเจ้าของกับสุนัขสายพันธุ์บีเกิลที่เลี้ยงไว้ พร้อมข้อความว่า “เมื่อทดสอบถ้าเราหัวใจวายเฉียบพลัน ลูกจะเลือกอะไร เรา หรือ ขนม”

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม
ภาพจาก TikTok @nivea_veavear


          จากคลิปเจ้าของนั้นเดินถือกล่องขนมมา ก่อนที่จู่ ๆ
จะล้มลงไปและขนมร่วงกระจาย ทำเอาน้องหมาทั้ง 2 ตัวตกใจ รีบเดินเข้ามาหา
แต่ไม่ใช่ไปดูอาการเจ้านาย เพราะทั้งสองตัวต่างเข้ามากินขนมทันที
ตัวหนึ่งไล่เก็บขนมที่หล่นพื้น อีกตัวเข้าไปกินในกล่องที่เจ้านายนอนถืออยู่

          ช่วงหนึ่งน้องหมาก็เข้ามาหาเจ้านายที่นอนอยู่
แต่ไม่ใช่มาเช็กอาการ
เป็นการพยายามมุดไปกินขนมที่หล่นอยู่ใกล้กับตัวของเจ้าของ
แถมชอตพีคคือน้องหมาพยายามมุดเข้าไปกินขนมใต้โต๊ะวางทีวี
พยายามยกใหญ่แต่ก็เข้าไปไม่ได้เพราะติดพุง

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม
ภาพจาก TikTok @nivea_veavear

         
คลิปนี้มียอดเข้าชมกว่า 5 แสนครั้ง ชาวเน็ตได้เห็นต่างเอ็นดูเจ้าของ
คงได้คำตอบแล้วว่าหมาจะเลือกอะไร อีกมุมมองว่าน้องหมาคงรู้ทันว่าแกล้ง
แต่เจ้าของก็ไม่ต้องกลัวบ้านเลอะ
เพราะน้องเก็บกวาดขนมที่หล่นให้เกลี้ยงเรียบร้อยแล้ว เป็นต้น

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม
ภาพจาก TikTok @nivea_veavear

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม
ภาพจาก TikTok @nivea_veavear

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม
ภาพจาก TikTok @nivea_veavear

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม
ภาพจาก TikTok @nivea_veavear

ลองใจน้องหมา ถ้าหัวใจวายล้ม จะช่วยเจ้าของ หรือ เลือกขนม
ภาพจาก TikTok @nivea_veavear

ไวรัล TikTok สั่งกะเพราผ่านแอปฯ ย้ำทางร้านขอฉ่ำ ๆ พอมาถึง ช็อกเลย

 
          สั่งกะเพราผ่านแอปฯ ย้ำทางร้านว่า ขอฉ่ำ ๆ พออาหารมาถึงแทบอึ้ง นี่ยิ่งกว่าฉ่ำอีก เรียกว่าแกงก็ว่าได้




สั่งกะเพราผ่านแอปฯ
ภาพจาก TikTok @plobmuang
          วันที่ 9 มกราคม 2568 TikTok @plobmuang มีการสั่งอาหารผ่านแอปฯ เป็นเมนูกะเพรา พร้อมบอกร้านว่า “ขอฉ่ำ ๆ” ตามที่ตัวเองอยากกิน อย่างไรก็ตาม เมื่ออาหารมาถึงมือกลายเป็นช็อก
เพราะจากฉ่ำ ๆ ที่ใจคิด กลายเป็นซุปกะเพรา น้ำท่วมครึ่งถุง
เรียกว่าเกินคำว่าฉ่ำไปแล้ว

สั่งกะเพราผ่านแอปฯ
ภาพจาก TikTok @plobmuang

          ด้านชาวเน็ตแซวว่า นี่คือ
แกงกะเพราชัด ๆ กะเพราอยู่ใต้น้ำ เกิดมาเพิ่งเคยเห็น ถ้ามีเต้าหู้ด้วยคือ
แกงจืดแน่นอน แต่บางคนก็ยอมรับว่า ชอบแกงกะเพราแบบนี้
ถ้าเอาน้ำราดข้าวด้วยน่าจะอร่อย

          สุดท้ายมีคนแนะทางแก้ไข บอกว่า ถ้าสั่งครั้งต่อไปควรบอกว่า กะเพราแยกน้ำ ก็ตัดปัญหาเรื่องแกงกะเพราะได้แล้ว

สั่งกะเพราผ่านแอปฯ

หมอเตือน ของใช้ในบ้านที่เป็นพิษที่สุด ชี้คนมากมายใช้กันทุกวัน แนะนำให้โยนทิ้ง

            หมอเตือน ของใช้ในบ้านที่เป็นพิษที่สุด ชี้คนมากมายใช้กันทุกวัน แนะนำให้โยนทิ้งไปซะ เผยมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากเต็มไปด้วยสารพิษ สูดเข้าไปไม่ดีแน่



น้ำหอมปรับอากาศ

            ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลาย ๆ บ้านจะประสบปัญหาเกี่ยวกับกลิ่นตกค้าง ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นจากอาหารที่อบอวลข้ามคืน หรือแม้กระทั่งกลิ่นของสัตว์เลี้ยง หลายคนจึงลงทุนซื้อผลิตภัณฑ์ปรับอากาศมาใช้ในบ้านเรือน เพื่อให้มั่นใจว่ากลิ่นไม่พึงประสงค์จะหายไปและมีความหอมสดชื่นเข้ามาแทน

            อย่างไรก็ตาม ดร.เปดี มิร์ดามาดี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมชาติบำบัด จากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ที่มักออกมาให้คำแนะนำด้านสุขภาพผ่าน TikTok ได้ออกมาเตือนถึงของภายในครัวเรือนชิ้นหนึ่ง ที่มีความเป็นพิษมากที่สุดในบ้าน ซึ่งของดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายใช้กันเป็นประจำทุกวัน และเขาแนะนำว่าควรจะหยุดใช้และโยนมันทิ้งไปทันที

น้ำหอมปรับอากาศ
ภาพจาก TikTok @drpedinaturalhealth

            โดยวันที่ 8 มกราคม 2568 เว็บไซต์ Unilad รายงานว่า ในคลิปหนึ่งของ ดร.เปดี เมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา เขาอธิบายว่าของที่คนใช้กันในครัวเรือนบางอย่าง อาจเชื่อมโยงกับอาการคันตาหรืออาการภูมิแพ้ ในกรณีเลวร้ายที่สุดยังทำให้เกิดอาการหอบหืดรุนแรงด้วย ซึ่งของที่ว่านั้นก็คือ น้ำหอมปรับอากาศแบบเสียบปลั๊ก ที่ผู้คนใช้กันโดยทั่วไปในสหรัฐฯ

            ปรากฏว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จำนวนมาก มีสารเคมีที่เป็นพิษ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde) และสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ที่จะเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านการหายใจ ซึ่งอากาศที่เราหายใจเข้าไปก็คือวิธีการง่ายและเร็วที่สุดที่จะนำสารพิษเข้ามาสู่ร่างกายของเรา

            “หากคุณมีน้ำหอมปรับอากาศแบบเสียบปลั๊กใด ๆ ในบ้านหรือรถ ให้ปิดและโยนมันทิ้งไปซะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีอาการภูมิแพ้หรือหอบหืด”
ดร.เปดี ระบุ

น้ำหอมปรับอากาศ

            ข้อมูลจาก Indoor Doctor พบว่ามีผลการศึกษาวิจัย
พบว่ามีน้ำหอมปรับอากาศถึง 86% ที่มีสารพาทาเลต (phthalates)
ซึ่งอาจขัดขวางการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
และทำให้เกิดปัญหาด้านการสืบพันธุ์ นอกจากนี้น้ำหอมปรับอากาศทั่ว ๆ ไป
ก็มักจะมีฟอร์มาลดีไฮด์ ที่เชื่อมโยงกับมะเร็งในจมูกและลำคอ รวมถึงมีสาร
VOCs ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืดในเด็ก  

            ทั้งนี้
ดร.เปดี ย้ำว่า ใครที่ยังใช้น้ำหอมปรับอากาศแบบนี้
ให้ทำเพื่อตัวเองและครอบครัวด้วยการโยนมันทิ้งไปซะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากภายในบ้านมีโรคหอบหืดหรือปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจ
พร้อมกันนั้น ดร.เปดี ยังแนะนำทางเลือกอื่น ๆ สำหรับแก้ปัญหากลิ่นในบ้าน
คือให้หันมาใช้เครื่องพ่นน้ำมันหอมระเหยแทน

ขอบคุณข้อมูลจาก Unilad

ชายผู้โชคดี เดินเล่นหลังฝนตกเจอหินสี ที่แท้คือแซฟไฟร์ 394 กะรัต บอกชัดไม่ขาย !

 
            ชายเดินเล่นหลังฝนตก กลายเป็นผู้โชคดีเจอหินสีสะดุดตา ที่แท้คือแซฟไฟร์ 394 กะรัต บอกชัดไม่ขายจะเก็บไว้เอง  



หินสี
ภาพจาก TikTok @betteridge_sapphires

หินสี
ภาพจาก TikTok @betteridge_sapphires

              เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 เว็บไซต์เดลี่เมล
เผยเรื่องราวน่าตกตะลึงจากชายรายหนึ่งในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย
เมื่อวันหนึ่งเขาออกไปเดินเล่นหลังจากฝนตกหนัก
แต่กลับกลายเป็นผู้โชคดีอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่ออยู่ ๆ
เขาบังเอิญเจอหินสีสะดุดตาส่องประกายออกมาจากในดินจึงเก็บมันขึ้นมา
ก่อนที่จะพบว่ามันคือ แซฟไฟร์ 394 กะรัต

              แมตต์ เบตเทอริดจ์
เป็นนักขุดแซฟไฟร์มืออาชีพ เขากับแอมเบอร์ ผู้เป็นคนรัก
ทำธุรกิจครอบครัวชื่อว่าเบตเทอริดจ์ แซฟไฟร์ (Betteridge Sapphires)
อยู่ที่ใจกลางแหล่งเหมืองแร่ของรัฐในควีนส์แลนด์ตอนกลาง เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เขาได้โพสต์คลิปวิดีโอ แชร์ประสบการณ์ผ่านทาง TikTok ว่า
เขาได้ไปเดินสำรวจในพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่งหลังจากฝนตกหนัก
เผื่อว่าจะเจอหินดี ๆ ก่อนที่อากาศจะเปียกชื้น

              โดยเบตเทอริดจ์ได้สะดุดตากับหินก้อนหนึ่งซึ่งฝั่งอยู่ใต้พื้นดิน
เขาจึงใช้มือเปล่าพยายามขุดมันขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
และเชื่อว่ามันจะต้องใหญ่กว่าที่โผล่ขึ้นมาให้เห็น จนในที่สุด
เขาก็สามารถเอาหินก้อนนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ

              “ฉันแค่อยากเห็นว่าสิ่งนี้ใหญ่แค่ไหน
ว้าว ! ดูนี่สิ โชคเข้าข้างฉันในช่วงนี้
สถานที่แห่งนี้เคยขึ้นชื่อว่ามีอุกกาบาตลูกใหญ่ในอดีต
ฉันคงต้องขัดมันก่อนถึงจะเห็นว่าสีอะไร”
เบตเทอริดจ์ กล่าว

หินสี
ภาพจาก TikTok @betteridge_sapphires

หินสี

ภาพจาก TikTok @betteridge_sapphires

              ต่อมาในคลิปวิดีโอได้เผยให้เห็นหินก้อนดังกล่าวที่ถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว
โดยแอมเบอร์ ได้กล่าวว่า “มันคือแซฟไฟร์ออสเตรเลีย 394 กะรัต” หลังจากนั้น
ทางเบตเทอริดจ์ได้เปิดเผยกับรายงานของ Yahoo บอกว่า
“เหมือนมันรอให้ฉันไปพบ”

              ทั้งนี้
เบตเทอริดจ์เผยว่าเขาและแอมเบอร์ตัดสินใจที่จะไม่เจียระไนแซฟไฟร์เม็ดนี้ไปขาย
เนื่องจากคาดการณ์ว่ามันน่าจะมีมูลค่าในตลาดเพียง 1,000 ดอลลาร์เท่านั้น
(ราว 34,600 บาท) จึงตั้งใจที่จะเก็บมันเอาไว้เอง

              “เราจะคงสภาพเดิมไว้เช่นนี้
เพราะมันมีโครงสร้างผลึกที่เจ๋งมาก
มันจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างสวยงามตามธรรมชาติของมัน” เบตเทอริดจ์ กล่าว

            สำหรับแซฟไฟร์
(Sapphire) คืออัญมณีประเภทแร่ตระกูลคอรันดัม (Corundum)
เป็นกลุ่มพลอยเนื้อแข็ง กลุ่มพลอยเนื้อแข็งที่มีหลากหลายสี ส่วนสีน้ำเงิน
หรือบลูแซฟไฟร์  (Blue Sapphire) จะถูกเรียกว่าไพลิน
ซึ่งเป็นหนึ่งในอัญมณีที่มีราคาแพงของโลก

หินสี
ภาพจาก TikTok @betteridge_sapphires

หินสี
ภาพจาก TikTok @betteridge_sapphires

หินสี
ภาพจาก TikTok @betteridge_sapphires

ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail

ไวรัล TikTok พนักงานไม่ได้รับโบนัสคนเดียวในแผนก เพื่อนร่วมงานจึงทำซึ้งให้

            ไวรัล พนักงานซับไม่ได้โบนัสอยู่คนเดียวในแผนก เพื่อนร่วมงานจึงระดมเงินช่วยจนซึ้งใจ ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้รับอยู่คนเดียวเพราะทำงานแค่ 3 เดือน



เรื่องราวดี ๆ
ภาพจาก TikTok @ampmy09

            หนึ่งในความคาดหวังของพนักงานบริษัทเอกชนในช่วงปลายปีคือ การมาลุ้นโบนัสว่าจะได้กันกี่เดือน ทว่าแต่ละบริษัทก็มีเงื่อนไขการรับโบนัสต่างกันไป บางบริษัทต้องทำงานให้ครบ 1 ปีก่อนถึงจะได้โบนัส ดังนั้นการเข้าทำงานปีแรกก็อาจจะไม่ได้เงิน

            วันที่ 9 มกราคม 2568 TikTok @ampmy09 มีการลงคลิปน่ารักในบริษัท FTS เมื่อพนักงานในแผนกทุกคนได้รับโบนัสกันหมด แต่มีน้องพนักงานซับคนเดียวที่ไม่ได้รับ เพราะเพิ่งทำงานมาแค่ 3 เดือน ดังนั้นหัวหน้างาน พี่ ๆ ทุกคนในทีมจึงรวบรวมเงินก้อนหนึ่งมาเป็นกำลังใจให้น้อง พร้อมบอกอีกว่า ปีหน้าก็ได้โบนัสเหมือนพี่แล้ว

เรื่องราวดี ๆ
ภาพจาก TikTok @ampmy09

            ชาวเน็ตต่างชื่นชมเพื่อนร่วมงาน
ใส่ใจน้องมาก ทั้งที่เป็นเรื่องเล็ก ๆ ไม่จำเป็นต้องรวบรวมให้ก็ได้
ส่วนเจ้าของคลิปยืนยันอีกครั้งว่า ทำงานที่นี่มา 15 ปี
หัวหน้างานน่ารักมากจริง ๆ แถมน้องคนในคลิปยังดวงดีกว่าที่คิด แม้จะมาใหม่
แต่จับสลาก แลกของขวัญยังได้ซองเงินอีก

เรื่องราวดี ๆ


เรื่องราวดี ๆ
ภาพจาก TikTok @ampmy09
เรื่องราวดี ๆ
ภาพจาก TikTok @ampmy09

เรื่องราวดี ๆ
ภาพจาก TikTok @ampmy09

แบงค์ พชร ประกาศหย่า นิหน่า สุฐิตา ยุติสถานะสามีภรรยา ลั่นชัด NO DRAMA

อาจารย์หมอ ภัครดา จันทิมา คว้ามงนางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ 2568 ให้เกียรติสิ่งที่เป็น

ไฟป่าแคลิฟอร์เนียโหมหนัก ดับแล้ว 5 ราย เผาวอดร้านอาหารไทยชื่อดัง ปิดตำนาน 25 ปี

            สถานการณ์ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย รุนแรงหนัก มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย ร้านอาหารไทยชื่อดังถูกเผาวอด ปิดตำนาน 25 ปี



ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย เผาวอดร้านอาหารไทยชื่อดัง
ภาพจาก Instagram choladathailongbeach

            วันที่ 9 มกราคม 2568 เว็บไซต์ยูเอสเอทูเดย์ และซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีลมกระโชกแรง ทำให้เพลิงไหม้โหมกระหน่ำและลุกลามอย่างรวดเร็ว จนล่าสุดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่บ้านเรือนหลายร้อยหลังถูกเผาเสียหายเป็นวงกว้าง และประชาชนกว่า 100,000 ชีวิตต้องอพยพ

            ตามข้อมูลของกรมดับเพลิงแคลิฟอร์เนียเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นไฟป่าที่ทำลายล้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของลอสแอนเจลิส โดยไฟป่าพาลิเซดส์ (Palisades Fire) ได้เผาไหม้บริเวณชายทะเลระหว่างมาลิบูและซานตาโมนิกา ลุกลามไปแล้วกว่า 15,800 เอเคอร์ (ประมาณ 39,974 ไร่) โดยที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ขณะนี้ไฟป่าได้ทำลายอาคารบ้านเรือนไปแล้วอย่างน้อย 1,000 หลัง

            โดยหนึ่งในนั้นคือ ร้านอาหารไทย ชลดาไทยลองบีช (Cholada Thai Cuisine Long Beach) ซึ่งสาขาแรกตั้งอยู่ในเมืองมาลิบู ทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกไฟป่าเผาวอดเสียหายจนหมด ปิดตำนานร้านอาหารไทยแท้ชื่อดังที่เปิดให้บริการลูกค้ามาตั้งแต่ปี 1999 (พ.ศ. 2542) รวมเป็นเวลานานถึง 25 ปี

ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย เผาวอดร้านอาหารไทยชื่อดัง
ภาพจาก AGUSTIN PAULLIER / AFP

            บนโซเชียลมีเดียของทางร้านได้เผยให้คลิปวิดีโอเหตุการณ์ขณะที่ทั้งร้านกำลังจมกองเพลิง พร้อมทั้งเผยข้อความระบุว่า “พวกเราใจสลายที่ต้องประกาศว่าร้านอาหารไทยชลดา สาขาแรกบนชายฝั่งแปซิฟิกถูกไฟป่าพาลิเซดส์เผาทำลาย หลังจากเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1999 ขอขอบคุณทุกคนอย่างสุดซึ้งที่ส่งกำลังใจมาให้เราในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ความเมตตาและน้ำใจของทุกคนมีความหมายกับเรามาก” 

ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย เผาวอดร้านอาหารไทยชื่อดัง
ภาพจาก Instagram choladathailongbeach

            ทั้งนี้ ทางร้านยังได้เปิดขอความช่วยเหลือบนเว็บไซต์ระดมทุน GoFundMe โยทางเจ้าของร้านซึ่งระบุชื่อว่านิค ได้กล่าวว่า “ร้านไทยชลดาแห่งนี้
ไม่ได้เป็นเพียงร้านอาหาร แต่เป็นชีวิตของฉัน ฉันใช้เวลาเกือบทุกวันที่นี่
ทุ่มเทให้กับทุกจานอาหาร ทุกปฏิสัมพันธ์
และทุกช่วงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกับลูกค้าที่รัก มันไม่ใช่แค่ธุรกิจ
แต่เป็นสถานที่ที่ฉันสร้างความสัมพันธ์ตลอดชีวิต
ให้บริการครอบครัวนับไม่ถ้วน และทำงานเคียงข้างกับทีมงานที่ยอดเยี่ยม
การสูญเสียครั้งนี้ไม่ใช่แค่โครงสร้างภายนอกเท่านั้น
แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจฉันด้วย”

            โดยทางร้านได้ตั้งเป้าเงินระดมทุนช่วยเหลือไว้อยู่ที่
150,000 ดอลลาร์ (ราว 5.1 ล้านบาท) ซึ่งขณะนี้มีผู้ร่วมบริจาคไปแล้ว 2,764
ดอลลาร์ (ราว 95,800 บาท)

ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย เผาวอดร้านอาหารไทยชื่อดัง
ภาพจาก Instagram choladathailongbeach 

ขอบคุณข้อมูลจาก USA Today, CNN

ระทึกขวัญ คู่รักเล่นเรือลากร่ม เชือกขาดกลางอากาศ ร่างถูกลากไถลทะเล-กระแทกฝั่ง

         คู่รักเล่นเครื่องเล่นเรือลากร่ม เกิดเชือกที่ติดกับสปีดโบ๊ทขาดกลางอากาศ ร่างถูกลากไถลไปกับทะเลก่อนกระแทกฝั่งแรง



เรือลากร่มเชือกขาด
ภาพจาก X@heathcliffwin

          วันที่ 8 มกราคม 2568 เว็บไซต์เน็กซ์แอปเปิล รายงานว่า เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นกับนักท่องเที่ยวคู่หนึ่ง ซึ่งได้เดินทางไปเที่ยวบนเกาะซันอันเดรส ในทะเลแคริบเบียน ประเทศโคลอมเบีย และได้เล่นเครื่องเล่นพาราเซลลิ่ง หรือเรือลากร่ม แต่อยู่ ๆ เชือกเกิดขาดกลางอากาศ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งสองเผชิญเหตุไม่คาดฝัน

          โดยเจ้าหน้าที่บนเรือได้บันทึกคลิปวิดีโอช่วงเวลาเกิดเหตุเอาไว้ได้ โดยแสดงให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวคู่นี้กำลังสนุกสนานกับการเล่นเครื่องเล่นอยู่กลางอากาศ แต่ระหว่างนั้นกลับมีลมพัดแรงมาอย่างกะทันหัน ทำให้เชือกที่ลากติดกับเรือสปีดโบ๊ทถูกกระชากจนขาด ทางสปีดโบ๊ทได้รีบขี่ตามนักท่องเที่ยวไปอย่างรวดเร็วเพื่อให้ความช่วยเหลือ  

เรือลากร่มเชือกขาด
ภาพจาก X@heathcliffwin

          อย่างไรก็ตาม
แรงลมได้พัดร่มของนักท่องเที่ยวจนปลิวไปไกลและได้ลากพวกเขาไถลไปกับน้ำทะเล
ก่อนที่ร่มดังกล่าวจะถูกพัดขึ้นฝั่งและหยุดปลิวในที่สุด
แต่ร่างของนักท่องเที่ยวทั้งสองกระแทกเข้ากับพื้นอย่างรุนแรง 

เรือลากร่มเชือกขาด
ภาพจาก X@heathcliffwin

         
หลังจากเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินได้รับแจ้งจึงรีบเดินทางเข้าช่วยเหลือ
โดยนักท่องเที่ยวผู้ประสบเหตุทั้งสองรายถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
เบื้องต้นรายงานเปิดเผยเพียงว่า ทั้งสองได้รับบาดเจ็บสาหัส
แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด

ขอบคุณข้อมูลจาก Next Apple

เจอ 2 ศพ ในซุ้มล้อเครื่องบิน ขณะตรวจเช็กเครื่อง สภาพแย่ยังไม่รู้เป็นใคร

          สะพรึง เจอ 2 ศพ ในซุ้มล้อเครื่องบิน ขณะช่างตรวจเช็กเครื่อง พบเพิ่งบินมาจากนิวยอร์ก ยังไม่รู้เป็นใคร สภาพศพเน่าเปื่อย ส่งชันสูตร



ศพบนเครื่องบิน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 7 มกราคม 2568 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เจ้าหน้าที่พบศพบุคคลปริศนา 2 ศพ อยู่ในซุ้มล้อของเครื่องบิน สายการบินเจ็ตบลู (JetBlue) ที่เพิ่งเดินทางจากนิวยอร์ก ซิตี มายังเมืองฟอร์ตลอเดอร์เดล รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา โดยขณะนี้ทางสายการบินยังไม่ทราบว่าชายผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนเป็นใคร และอยู่ระหว่างสอบสวนว่าทั้งคู่เข้าถึงเครื่องบินได้อย่างไร

          รายงานเผยว่า ศพของทั้งคู่ถูกพบในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 มกราคม) ระหว่างการตรวจเช็กเครื่องบิน หลังทำการบินในเที่ยวบิน 1801 ซึ่งขณะนั้นผู้โดยสารลงจากเครื่องไปหมดแล้ว เหตุการณ์นี้นับเป็นกรณีล่าสุดจากหลาย ๆ เหตุการณ์ที่เพิ่มความกังวลด้านความปลอดภัยของสายการบิน

         มีการเปิดเผยว่า เครื่องบินลำนี้เพิ่งบินมาจากสนามบินจอห์น เอฟ. เคนเนดี ในนิวยอร์ก มาถึงสนามบินที่ฟอร์ตลอเดอร์เดลในเวลา 23.10 น.
ก่อนที่ช่างเทคนิคประจำประตูบริเวณ landing gear
ซึ่งเป็นระบบล้อของเครื่องบิน จะสังเกตเห็นชาย 2
คนนี้ที่อยู่ในสภาพแน่นิ่งและเสียชีวิตแล้วภายในซุ้มล้อของเครื่องบิน
 
          จากนี้ทางนิติเวชจะทำการชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของทั้ง
2 ศพ ขณะที่ทางการเปิดเผยว่าทั้ง 2 ศพอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยมาก
แต่ศพที่พบไม่ได้กระทบต่อการดำเนินงานของสายการบิน

 
          อนึ่ง
การพบศพในซุ้มล้อของเครื่องบินนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลา 2 สัปดาห์
หลังมีการพบศพบริเวณล้อเครื่องบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ที่เดินทางจากชิคาโก
ไปยังเกาะเมาวี ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานการบินสหรัฐฯ พบว่า
ช่องที่ระบบล้อเครื่องบินมักถูกใช้โดยคนที่ลักลอบขึ้นเครื่องบิน
โดยที่คนเหล่านี้ไม่ทราบว่าช่องดังกล่าวมีพื้นที่เล็กแค่ไหนตอนที่ล้อถูกดึงกลับ
หากคนเหล่านี้ไม่ถูกทับก็มักจะหมดสติเพราะขาดออกซิเจน
หรือถูกแช่แข็งขณะเครื่องบินอยู่ที่ระดับความสูง
และมีรายงานว่าคนที่ลักลอบขึ้นเครื่องบินด้วยการเข้าไปอยู่ในซุ้มล้อหรือช่องภายนอกอื่น
ๆ ของเครื่องบิน มีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 80%
 
ขอบคุณข้อมูลจาก CNN