KUBET-ข่าว สาระ บันเทิง วาไรตี้

          ยังไม่เจอตัว ซิงซิง ดาราหนุ่มจีน ตม. ตาก ยันพบจุดสุดท้ายที่แม่สอด ประสานทางเมียนมาแล้ว ด้านแฟนสาวซิงซิง เผยความคืบหน้า คนของสถานทูตพาแจ้งความแล้ว

ภาพจาก Weibo 失眠爹地

           จากกรณีของดาราหนุ่มชาวจีน ซิงซิง หรือชื่อจริงคือ หวังซิง ขาดการติดต่อไปหลังเดินทางมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 โดยคาดว่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้มาถ่ายหนังในไทย ก่อนส่งคนขับรถพาตัวมาที่ชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณแม่สอด จน เจียเจีย แฟนสาว ต้องออกมาร้องขอความช่วยเหลือทางออนไลน์ และเตรียมเดินทางมาติดตามความคืบหน้าที่ไทยนั้น

อ่านข่าว : ด่วน ! ดาราหนุ่ม ขาดการติดต่อที่ชายแดนแม่สอด หลังถูกหลอกมาถ่ายหนังที่ไทย 

           วันนี้ (7 มกราคม 2568) เพจ เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานข้อมูลจาก พ.ต.อ. บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก ยืนยันว่า ได้หารือกับฝ่ายปกครองแม่สอด และฝ่ายความมั่นคง ในการติดตามค้นหาดาราหนุ่มแล้ว จากการตรวจสอบพบว่า ซิงซิง เดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 3 มกราคม เวลา 03.00 น. และไปถึง อ.แม่สอด เวลาประมาณ 10.00 น. ซึ่งตรวจสอบพบจุดสุดท้ายอยู่ที่วงเวียนพระเจ้าตาก หน้าสำนักงานตำรวจทางหลวงแม่สอด ก่อนเข้าเมืองแม่สอดเท่านั้น

ภาพจาก Weibo 失眠爹地

           อย่างไรก็ตาม ทาง ตม. จังหวัดตาก ได้ประสานกับ ตม. จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา เพื่อติดตามค้นหา ซึ่งทางเมียนมารับปากว่าจะตรวจสอบให้ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
 

           ด้าน เพจลุยจีน เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบตัวนักแสดงหนุ่ม
และข่าวเดียวที่เชื่อถือได้ในขณะนี้คือแฟนสาวของซิงซิง
ที่ขณะนี้อยู่กรุงเทพฯ แล้ว

ภาพจาก Weibo 失眠爹地

           จากการตรวจสอบความเคลื่อนไหวบนเว่ยป๋อของ เจียเจีย แฟนสาวของซิงซิง ล่าสุดเปิดเผยว่า เธอได้รับข้อมูลมากมาย
และเห็นผู้คนจำนวนมากแสดงความเป็นห่วงซิงซิงกับเธอ ซึ่งเธอขอขอบคุณ
ขณะนี้เธอมาถึงกรุงเทพฯ แล้วในช่วงเที่ยงวันที่ 6 มกราคม
และได้รับข่าวว่าทางสำนักงานความมั่นคงสาธารณะของเซี่ยงไฮ้รับคดีนี้ไว้แล้ว รวมถึงเธอได้รับการติดต่อจากสถานทูตจีนในเมียนมา
และสถานกงสุลจีนในจังหวัดเชียงใหม่

          
ในช่วงบ่ายเธอรีบไปยังสถานทูตจีนในกรุงเทพฯ
เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบรายละเอียดเพิ่มเติมก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือเธอในการแจ้งความกับตำรวจสนามบินสุวรรณภูมิ
ด้วยความช่วยเหลือของล่าม ทำให้อุปสรรคด้านภาษาคลี่คลาย
และสามารถยืนยันรายละเอียดสำคัญของคดีได้ มีการแจ้งความเรียบร้อย

          
ทั้งนี้ เจียเจีย ระบุว่า ตำรวจไทยมีทัศนคติที่ดีต่อการช่วยติดตามคดี
แม้เหตุการณ์นี้จะรุนแรงเกินกว่าที่เธอจินตนาการไว้
แต่การดูแลและความช่วยเหลือที่ได้รับก็เกินความคาดหมายเช่นกัน ทั้งนี้
เธอได้เห็นคนดังมากมาย บล็อกเกอร์ และแพลตฟอร์มต่าง ๆ
ออกมาช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ และสนับสนุน เธอรู้สึกขอบคุณมาก
โดยขณะนี้การช่วยเหลือซิงซิงยังคงดำเนินต่อไป
และยืนยันว่ายังไม่เจอตัวซิงซิง

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, Weibo 失眠爹地  

          สยอง ชายเข้าไปกรงสิงโต หวังอัดคลิปส่งให้แฟนดู ไม่รู้จะกลายเป็นคลิปสุดท้าย บันทึกภาพสุดสยอง สิงโต 3 ตัวรุมขย้ำ กินเข้าไปทั้งเป็น กว่าคนจะรู้ก็สายไป

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานเหตุการณ์ช็อก เกิดเหตุคนดูแลสัตว์ในสวนสัตว์เอกชนของเมืองปาร์เคนต์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ถูกสิงโต 3 ตัวรุมขย้ำทั้งเป็น และกัดกินร่างของเขาเป็นเวลา 4 ชั่วโมง หลังเจ้าตัวอัดคลิปขณะเดินเข้าไปในกรงสิงโต หวังส่งไปสร้างความประทับใจแก่แฟนสาว

          รายงานเผยว่า คนดูแลสัตว์รายดังกล่าวชื่อ เอฟ อิริสคูลอฟ อายุ 44 ปี โดยเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา เขาฉวยโอกาสขณะที่ตัวเองเข้าเวรกะดึก ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปตัวเองขณะเข้าไปในกรงสิงโต โดยไม่รู้ว่าจะกลายเป็นการบันทึกภาพนาทีสุดท้ายของตัวเอง

          จากคลิปพบว่า อิริสคูลอฟเป็นคนไขประตูกรงสิงโต
และเดินเข้าไปภายในกรง ตอนแรกสิงโต 3
ตัวที่นั่งอยู่บริเวณมุมหนึ่งยังมีท่าทีเฉย ๆ แต่จากนั้นอยู่ ๆ
มันก็เด้งตัวขึ้นมา ทำให้อิริสคูลอฟผงะถอยไปอย่างประหลาดใจ

         
จากนั้นกลุ่มสิงโตได้เข้ามาหาเขาช้า ๆ
อิริสคูลอฟจึงเรียกชื่อสิงโตตัวหนึ่งอย่างคุ้นเคย พยายามบอกให้มันนิ่งไว้
รวมถึงหันกล้องมาให้เห็นใบหน้าของตัวเอง ขณะที่ถูกสิงโตทั้ง 3
ตัวล้อมไว้อยู่ ในจุดหนึ่งขณะที่สิงโตเข้ามาใกล้
เขายังเอื้อมมือไปลูบมันด้วย แต่ทันทีที่มือของเขาสัมผัสโดนแผงขนที่คอมัน
สัญญาณแห่งความสยองก็เริ่มปรากฏ

          สิงโตเลียริมฝีปากของมัน
ในขณะที่อิริสคูลอฟเริ่มถอยกลับไปยังประตูเหล็ก อย่างไรก็ตาม
หลังจากที่เขาอยู่ในกรงสิงโตได้ราว 2 นาที
ภาพจากกล้องก็เปลี่ยนเป็นความสยอง
เมื่อสิงโตตัวหนึ่งเริ่มพุ่งเข้ามาจู่โจมเขา
อิริสคูลอฟกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
และกล้องของเขายังคงบันทึกภาพในขณะที่เขาถูกสิงโต 3 ตัวรุมทำร้าย
จากนั้นภาพมืดลง แต่เสียงตะโกนอันน่าสะพรึงของเขายังคงดังอยู่
กระทั่งภาพตัดไปในที่สุด

          ทั้งนี้
มีรายงานว่าสิงโตทั้ง 3 ตัวได้กินชายคนนี้ไปทั้งเป็น
ขณะที่กว่าจะมีพนักงานสวนสัตว์คนอื่น ๆ มาเจอร่างของเขา เวลาก็ผ่านไปนาน 4
ชั่วโมงแล้ว
โดยสื่อรัสเซียรายงานว่าสิงโตได้ฉีกกระชากผิวหนังที่ใบหน้าของเหยื่อ
ซึ่งหลังเกิดเหตุทางกู้ภัยต้องใช้ยากล่อมประสาทกับสิงโต 2 ตัว
และยิงสิงโตตัวที่ 3 ตาย
ขณะที่ทางสวนสัตว์ได้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
 
ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail

          ต่างชาติอึ้ง มาเที่ยวตลาดน้ำไทย เจอภาพเอากระทะไปล้างในน้ำคลอง บอกอาหารก็อร่อยนะ แต่… คนเมนต์สนั่น ลั่นขนาดคนไทย เห็นแล้วยังไม่กล้ากิน !

 ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้แหลก

          เป็นภาพฉาวที่อาจสะเทือนถึงการท่องเที่ยว หลังจากที่เพจ อีซ้อขยี้แหลก ออกมาเปิดคลิปจากบริเวณริมน้ำ พร้อมระบุข้อความ “ต่างชาติไปเที่ยวตลาดน้ำ อัดคลิปมาถาม คนไทยใช้น้ำล้างจานแบบนี้หรอ ต้องตอบว่าอะไร” โดยพบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี

          ซึ่งจากคลิป เผยให้เห็นหญิงคนหนึ่งที่กำลังนำอุปกรณ์ทำอาหารอย่าง กระทะและตะหลิว มาล้างบริเวณริมน้ำ โดยมีการจุ่มล้างลงในน้ำคลองตรง ๆ ทำเอาหญิงต่างชาติที่เป็นคนถ่ายคลิป ถึงกับพูดบรรยายว่า อาหารอร่อยนะ ฉันไม่มีปัญหา แต่ก็รู้สึกว่าพวกเขามาล้างจานในจุดเดียวกับที่มีเรือแล่น ในน้ำนี้… พร้อมซูมภาพไปยังเศษขยะที่ลอยอยู่ในแม่น้ำ

 ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้แหลก 

          เมื่อภาพดังกล่าวปรากฏก็เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก โดยมีคอมเมนต์เช่น “อร่อยถูกใจ อนามัยถูกลืม” “ภาพนี้ออกมาแล้วผม คงไม่กล้ากินอะไรแล้วครับ” “กูเป็นคนไทยกูก็ไม่โอเค” และ “อร่อยทุกคำ สวดอภิธรรมทุกคน”

         
บางคนถึงกับตั้งคำถามว่าตลาดน้ำทำแบบนี้กันทุกที่หรือไม่
และเห็นพ้องกันว่าการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง
แม้บางคนจะมองว่าอาจเป็นแค่การล้างเศษอาหารก่อน ก็ยังไม่สมควร
อีกทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก ต่างให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาด
การที่มีภาพแบบนี้ปรากฏออกไป อาจกระทบถึงการท่องเที่ยวได้

 ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้แหลก 

 ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้แหลก 

          ช็อกโดนฉกบัตรไม่รู้ตัว เจออีกทีรูดไปเกือบแสน โซเชียลชี้มีคนโดนกันเพียบ เตือนระวังอย่าพกของมีค่าไป

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          เพจเตือนภัย หญิงเข้าออนเซ็นดังหวังผ่อนคลาย ช็อกโดนฉกบัตรไม่รู้ตัว เจออีกทีรูดไปเกือบแสน โซเชียลชี้มีคนโดนกันเพียบ เตือนระวังอย่าพกของมีค่าไป

          วันที่ 5 มกราคม 2568 เพจ Drama-addict โพสต์กรณีเตือนภัย หลังได้รับข้อมูลจากหญิงคนหนึ่งที่ไปใช้บริการออนเซ็นชื่อดัง ในวันที่ 4 มกราคม เวลาประมาณ 15.00-17.15 น. โดยที่ล็อกเกอร์ชั้นผู้หญิงซึ่งไม่น่าจะมีกล้องวงจรปิด เพราะคนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงนั้น เป็นล็อกเกอร์ดิจิตอล ปลดล็อกด้วยสายข้อมือที่มีเลขล็อกเกอร์ ของใครของมัน ตัวล็อกแน่นหน้าดี เช็กทุกครั้งว่าปิดสนิท

          แต่หลังออกจากออนเซ็นไปทานข้าวที่อื่น กลับพบว่ามียอดรูดบัตรเข้ามา 3 ยอด ในช่วง 18.43-18.45 น. เป็นจำนวน 49,000 บาท 29,000 บาท และ 7,900 บาท ยอดรวม 85,900 บาท หรือเรียกว่าเต็มวงเงินที่เหลืออยู่ ซึ่งมีการแจ้งเตือนผ่านทางไลน์แล้ว แต่เธอไม่ได้แตะโทรศัพท์ช่วงนั้น เลยรู้ตัวค่อนข้างช้า มารู้ตัวตอนเปิดกระเป๋าตังค์เวลา 21.00 น. ว่ามีบัตรเครดิต 1 ใบ และบัตรเดบิต 1 ใบ หายไป ส่วนบัตรอื่น ๆ ยังอยู่เพราะเก็บแยกช่องไว้ คนร้ายน่าจะไม่เห็น

          โดยในล็อกเกอร์ เธอมีเก็บของไว้ทั้ง iPhone15 กระเป๋าแบรนด์เนม และเงินในกระเป๋าตังค์ทั้งหมดอยู่ครบ ไม่มีอะไรหายนอกจากบัตร 2 ใบ มั่นใจว่าไม่ได้ทำหายเองเพราะไม่ได้หยิบมาใช้งานเลย รวมถึงกระเป๋ามีช่องและซิปปิดสนิท

          ทั้งนี้ เจ้าของเรื่องฝากเตือนภัยไปถึงคนอื่น ๆ
เพราะเพื่อนคนรู้จักก็เจอเหตุการณ์เดี่ยวกับที่ออนเซ็น เมื่อไม่นานมานี้
และยังมีคนออกมาเตือนภัยใน X ตอนสิ้นปีด้วย
ส่วนออนเซ็นที่เธอเข้าไปใช้บริการ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาค่อนข้างเยอะ
ทั้งเอเชีย ยุโรป ไม่แน่ใจว่ามีโดนกันไปบ้างไหม

         
ด้านชาวเน็ตมีคนเข้ามาคอมเมนต์
เผยว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดที่ออนเซ็นหลายครั้งแล้ว
โดยมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่โดนขโมยบัตรไปขณะเข้าออนเซ็น บางคนถูกรูดไปเกือบ
2 แสน ทั้งยังมีเคสที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้
ซึ่งหลายคนแสดงความคิดเห็นว่า ทางร้านน่าจะเปลี่ยนระบบ
แยกที่แต่งตัวออกจากล็อกเกอร์ที่เก็บของ
จะได้ติดกล้องวงจรปิดตรงล็อกเกอร์ได้
หรือไม่เช่นนั้นก็แนะนำว่าไม่ควรพกทรัพย์สินมีค่าหรือบัตรเครดิต
ขณะเข้าไปใช้บริการออนเซ็นเลย

            หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา สรุปดวงชะตาปี 2568 ราศีมังกร ดูดวงชะตาครบ ทั้งด้าน การเงิน การงาน ความรัก ปีนี้จะเป็นยังไงบ้าง

            เข้าสู่ช่วงต้นปี 2568 กันแล้ว หลาย ๆ คนก็อยากจะรู้ดวงชะตาประจำปีนี้ ว่าจะมีสิ่งดี ๆ อะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งล่าสุด (4 มกราคม 2568) หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา หมอดูชื่อดัง ก็ได้ออกมาเปิดข้อมูล สรุปดวงชะตาปี 2568 ของชาวราศีมังกร ไว้แบบครบทั้งในด้าน การงาน การเงิน และความรัก

สรุปดวงชะตาปี 2568 ราศีมังกร (15 ม.ค.-12 ก.พ.)

การงาน

            – ได้เริ่มงานในรูปแบบที่ไม่คาดคิด
            – มีความท้าทายแต่ให้ซึ่งความสำเร็จ
            – ครึ่งปีหลังมีข่าวดีรออยู่

การเงิน

            – ดวงการลงทุนจะให้ผลลัพธ์ที่ดี
            – มีเรื่องรายจ่ายเยอะที่ต้องรอบคอบ
            – การเสี่ยงโชคต้องเลี่ยง

ความรัก

            – ปัญหาคู่ครองเกิดขึ้นง่าย
            – คนโสดมีญาติพี่น้องช่วยแนะนำ
            – ครึ่งปีหลังความรักหวานชื่น

ภาพจาก เฟซบุ๊ก หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา

          อินฟลูเอนเซอร์สาวสายกิน ทำคอนเทนต์ ม็อกบัง ผ่านไป 2 ปี เปลี่ยนไปเหมือนคนละคน ทำโซเชียลต่างเป็นห่วงสุขภาพ

ภาพจาก Xiaoyan517

          เป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ที่พบเห็นได้ตามโซเชียล สำหรับ อินฟลูสายกิน หรือ ม็อกบัง (Mukbang) เป็นคำในภาษาเกาหลีที่มาจากการรวมคำว่า “ม็อก” (กิน) และ “บังซอง” (ถ่ายทอดสด) สื่อถึงการทำคอนเทนต์กินอาหารหน้ากล้องโต้ตอบกับผู้ชม จนกลายเป็นวิธีหาเงินที่หลายคนทำตาม แต่อีกด้านหนึ่งการทำคลิปแนวนี้อาจตามมาซึ่งปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน

          วันที่ 2 มกราคม 2568 เว็บไซต์ 2Sao รายงานว่า ผู้ใช้โซเชียลมีเดียชื่อ Xiaoyan517 ซึ่งได้รับความนิยมในจีน โดยสร้างชื่อเสียงและหารายได้มากมายจากการทำคลิปม็อกบัง ผ่านหลายแพลตฟอร์ม เช่น YouTube และ Douyin แต่ล่าสุดจากพฤติกรรมดังกล่าว ดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ

          หลังจากทำม็อกบังมาเป็นเวลา 2 ปี Xiaoyan มีใบหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมาก โดยเฉพาะส่วนแก้มและบริเวณขากรรไกร นอกจากนี้ร่างกายของเธอก็ดูไม่สมดุล แม้เธอจะพยายามแสดงท่าทีสนุกสนามในคลิป แต่ผู้ชมยังคงสังเกตเห็นว่าเธอมีอาการเหนื่อยล้าและดูมีสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคง

ภาพจาก Xiaoyan517

          หนึ่งในเหตุผลที่อินฟลูฯ สาวดูเปลี่ยนไปเยอะมาก สาเหตุเกิดจากการที่เธอต้องกินอาหารที่มีไขมันสูง อาหารแปรรูป และอาหารที่มีแคลอรีสูง ซึ่งเธอนั้นเลือกจะกินอาหารแปลก ๆ ในปริมาณมาก เป็นการกินอย่างผิดปกติเพื่อดึงดูดผู้ชม ซึ่งการกินอาหารที่ไม่เป็นเวลาในปริมาณมากเกินไป รวมกับการใช้ชีวิตที่ไม่ดูแลสุขภาพ ส่งผลกระทบโดยตรงกับร่างกายของเธอ จนทุกคนต่างสังเกตความผิดปกติได้ชัดเจน

          จากเคสนี้ถือเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์อินฟลูฯ สายกิน ให้หันมาดูแลสุขภาพ ควบคู่ไปกับการทำคอนเทนต์ เพราะนอกจากจะอันตรายต่อร่างกาย ยังมีผลกระทบทางด้านจิตใจอีกด้วย โดยมีข้อควรระวังดังต่อไปนี้

โรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร

          การกินมากเกินไป โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง อาจทำลายระบบย่อยอาหารอย่างรุนแรง การกินอาหารในปริมาณมากในช่วงเวลาสั้น ๆ อาจทำให้เกิดอาการ ท้องอืด อาหารไม่ย่อย โรคกระเพาะ หรืออาจถึงขั้น กระทั่งตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน เพราะร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารทั้งหมดได้ และการทำงานหนักของกระเพาะ จะนำไปสู่ปัญหาของระบบย่อยอาหารในระยะยาว อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกในระบบย่อยอาหารได้

ภาพจาก Xiaoyan517

ความเสี่ยงโรคอ้วนและโรคเรื้อรัง

          อาหารหลายเมนูในคลิป
มีไขมันอิ่มตัวและน้ำตาลสูง เสี่ยงต่อโรคอ้วน โรคเบาหวาน
และความดันโลหิตสูง การกินโดยไม่ใส่ใจเรื่องนี้
ส่งผลให้ไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไขมันในช่องท้อง
นำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด หลอดเลือดแข็งตัว
และโรคเรื้อรังอื่น ๆ

ผลกระทบทางจิตใจ

          เพื่อรักษารูปร่างและดึงดูดผู้ชม
อินฟลูฯ บางคนอาจใช้วิธีการหักโหม เช่น การอดอาหาร
การตั้งใจทำให้อาเจียนออกหลังกิน
ซึ่งพฤติกรรมเช่นนอกจากจะทำให้การเผาผลาญของร่างกายผิดปกติ แต่ยังสร้างภาวะ
บูลิเมีย หรือโรคกลัวอ้วน
ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกายอย่างร้ายแรง

ผลกระทบต่อรูปร่าง

          การกินโดยไม่ใส่ใจสุขภาพไปนาน
ๆ ส่งผลให้รูปร่างเปลี่ยนไป เช่น ใบหน้าบวม มีไขมันรอบใบหน้า
แสดงให้เห็นถึงอันตรายของการทำตามเทรนด์โดยไม่ควบคุมระดับการกิน

ขอบคุณข้อมูลจาก 2Sao 

         ใจหายวูบ แม่คลาดสายตาชั่วขณะ ลูกตกน้ำหัวทิ่ม โชคดีแม่คว้าขึ้นจากน้ำได้ทัน คนชี้โชคดีแม่อยู่ตรงนั้น อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อจริง ๆ

ภาพจาก TikTok @dafu15102022

          เป็นคลิปอุทาหรณ์เตือนใจผู้ปกครอง หลังจากที่วานนี้ (4 มกราคม 2568) คุณแม่รายหนึ่งได้โพสต์คลิปผ่าน TikTok @dafu15102022  พร้อมระบุข้อความ “ต่อไปไม่ให้ห่างสายตาเลยคอยดูสิ ห่างการเรียนมานาน ว่ายไม่เป็นเลย”

          โดยจากคลิป เผยให้เห็นคุณแม่ที่กำลังยืนดูลูกชายตัวน้อย ซึ่งกำลังเล่นอยู่บริเวณขอบสระว่ายน้ำ ซึ่งแม้ว่าคุณแม่จะคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด แต่ในช่วงจังหวะหนึ่งที่คุณแม่ละสายตาไป กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำเอาใจหายวูบ เมื่อเด็กชายเกิดพลัดตกลงสระ ในสภาพหัวทิ่มตกลงไปในน้ำ

ภาพจาก TikTok @dafu15102022

          อย่างไรก็ตาม เคราะห์ดีที่คุณแม่หันมาเป็นไว
จึงรีบเข้าไปดึงขา คว้าตัวลูกชายขึ้นจากน้ำได้อย่างรวดเร็ว
ก่อนที่ลูกชายจะร้องไห้ออกมาเสียงดัง

ภาพจาก TikTok @dafu15102022

          ทั้งนี้
ชาวเน็ตได้เห็นถึงกับบอกว่า นี่ขนาดคุณแม่ยืนดูแลแบบไม่ห่างเลย
แต่อุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ โชคดีที่คุณแม่อยู่ตรงนั้น
และชื่นชมคุณแม่ที่เก่งมาก มีสติและรีบเข้าไปช่วยลูกชายได้อย่างรวดเร็ว
โดยบางคนยังให้คำแนะนำว่าในกรณีเด็กจมน้ำ อย่าเพิ่งจับน้องยืน
แต่ควรให้นอนหงายหรือนอนตะแคงก่อนจะดีกว่า 

ภาพจาก TikTok @dafu15102022