29,464อ่าน
Sizzler สยามสแควร์ ปิดตำนาน 24 ปี ปิดสาขา 12 มกราคม 2568 คนวิเคราะห์ทำไม
Sizzler สาขาสยามสแควร์ ปิดให้บริการ 12 มกราคม 2568 หลังเปิดมา 24 ปี ชาวเน็ตบ่นเสียดายตำนาน พร้อมวิเคราะห์สาเหตุ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก SizzlerThai
วันที่ 3 มกราคม 2568 เฟซบุ๊ก SizzlerThai มีการประกาศว่า จะมีการปิดร้านที่สาขาสยาม เซ็นเตอร์ ซึ่งเปิดทำการมาแล้ว 24 ปี โดยร้านจะเปิดให้บริการถึงวันที่ 12 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
สำหรับใครก็ตามที่ต้องการรับประทานอาหาร Sizzler ยังสามารถไปใช้บริการที่สาขาใกล้เคียง ได้ดังนี้
– MBK Center ชั้น 7
– Central World ชั้น 6
– One Bangkok, Zone Parade ชั้น 5
– Park Silom ชั้น 2
และหลังจากนี้จะมีการเปิดสาขาใหม่เร็ว ๆ นี้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก SizzlerThai
ชาวเน็ตวิเคราะห์ ทำไมถึงปิดสาขา
ด้านชาวเน็ตต่างเสียดายที่ร้านสาขาในตำนานต้องปิดไป พร้อมวิเคราะห์ถึง 2 ปัจจัยที่ทำให้ร้านซิสเลอร์ อาจต้องปิดสาขาที่สยามสแควร์ หลัก ๆ มี 2 เหตุผล คือ
– คาดว่าค่าเช่าที่แพง และลูกค้าอาจจะไม่เพียงพอกับต้นทุนที่ต้องจ่าย
– ลูกค้าที่เดินทางมากินอาหารย่านสยามสแควร์ มักเลือกรับประทานอาหารที่ร้านออริจินอล มากกว่าร้านอาหารเช่น (มีหลายสาขา) เพราะหากินได้ยากกว่า อย่างไรก็ตาม ก็มีคนแย้งว่า สาขานี้คนเยอะทุกครั้ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก SizzlerThai
คฑา ชินบัญชร เปิด 5 ราศี ดวงความรักดีปี 2568 มีราศีอะไรบ้าง ในปีมะเส็ง
การดูดวง นับว่าเป็นสิ่งที่คูุ่กันกับเทศกาลปีใหม่เป็นอย่างดี อย่างน้อยใคร ๆ ก็อยากรู้ว่า เข้าสู่ปีใหม่ ดวงเราในปีนั้นจะเป็นยังไงบ้าง โดยเฉพาะเรื่องความรักที่ช่วยทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวย
วันที่ 2 มกราคม 2568 ข่าวช่องวัน รายงานว่า อ.คฑา ชินบัญชร มีการเปิด 5 ราศี ยืนหนึ่งเรื่องความรัก โดยในปีนี้ ดวงความรักจะมีลักษณะร้อนแรง และมีการเจริญเติบโต ก้าวหน้าเพิ่มขึ้น ดังนี้
ภาพจาก คฑา ชินบัญชร
1. ราศีมีน (19 ก.พ. – 20 มี.ค.)
ราศีมีนได้อิทธิพลของดาวศุกร์กับดาวเสาร์ ส่งผลให้ตั้งแต่กลางปีเป็นต้นไปจะเจอความรักที่มีความสุข คนโสดมีโอกาสมีคู่และเสน่ห์แรงเป็นพิเศษ
2. ราศีกันย์ (23 ส.ค. – 22 ก.ย.), ราศีพฤษภ (20 เม.ย. – 20 พ.ค.) และราศีธนู (22 พ.ย. – 21 ธ.ค.)
3 ราศีนี้จะมีเกณฑ์มีความรักที่มีความสุข มีครอบครัว
ใครที่โสดอาจจะได้แต่งงาน ขยายครอบครัว มีบุตร ซื้อบ้านได้ มีความมั่นคง
ถ้าหากมีความขัดแย้งก็อาจจะมีเกณฑ์ปรับความเข้าใจกันได้
3. ราศีสิงห์ (23 ก.ค. – 22 ส.ค.)
ราศีนี้มีเกณฑ์เจอความรักแบบไม่คาดฝันโดยบังเอิญหรือเหนือความคาดหมาย
นักธุรกิจพันล้าน เจ้าของสาหร่ายดัง แก๊สระเบิด ไฟไหม้บ้าน เจ็บ 2
ไฟไหม้บ้านหรูนักธุรกิจพันล้าน สาหร่ายแบรนด์ดัง บาดเจ็บ 2 ราย คาดสาเหตุเกิดจากแก๊สระเบิด
ภาพจาก ศูนย์วิทยุคชสีห์
วันที่ 2 มกราคม 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ตำรวจ สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งเหตุ ไฟไหม้บ้าน ภายในซอยเทิดราชัน 9 ถนนเทิดราชัน แขวงสีกัน เขตดอนเมือง จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะโครงการบ้านพักขนาดใหญ่ภายในมีบ้านพักเพียง 3 หลัง บริเวณห้องครัว พบเครื่องครัว โต๊ะ เก้าอี้ ประตู หน้าต่าง พังเสียหายกระจัดกระจาย เนื้อที่ประมาณ 20 ตารางเมตร ทั้งนี้ยังพบผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อ น.ส.มินตรา อายุ 35 ปี และ น.ส.ละอองทิพย์ อายุ 26 ปี มีบาดแผลไฟลวกบริเวณมือ เท้า และใบหน้า ศีรษะ เจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) ทำการรักษา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nonthawat Wisutthipat
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nonthawat Wisutthipat
จากการสอบถามผู้บาดเจ็บเบื้องต้นทราบว่าแก๊สได้ระเบิดขณะที่กำลังเปิดเตาแก๊ส
ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจจะเป็นเพราะขณะผู้บาดเจ็บกำลังจุดเตา
แต่ไฟที่เตาไม่ติดทำให้มีแก๊สสะสม
เมื่อพยายามจุดอีกทำให้เกิดประกายไฟและเกิดระเบิดขึ้น
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของนักธุรกิจหนุ่มพันล้าน
เจ้าของแบรนด์สาหร่ายชื่อดัง
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บ
รวมถึงตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดระเบิดอย่างละเอียดอีกครั้ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nonthawat Wisutthipat
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nonthawat Wisutthipat
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
สะใภ้อายหน้าชา แกะกล่องพัสดุผิดเป็นเหตุ บังเอิญรู้ความลับแม่ผัว ถามควรทำไงดี
สะใภ้แชร์ประสบการณ์สุดอาย แกะกล่องพัสดุผิดใบเป็นเหตุ บังเอิญรู้ความลับแม่สามี ถามความเห็นควรทำไงดี
ความสัมพันธ์ระหว่างลูกสะใภ้และแม่สามีมักมีเรื่องให้ต้องไม่ลงรอยกันอยู่บ่อยครั้ง
แต่สำหรับเรื่องราวนี้ ไม่ใช่ปัญหาขัดแย้งใด ๆ แต่เป็น “ความน่าอับอาย” อย่างที่ไม่คาดคิด เมื่อลูกสะใภ้บังเอิญไปเจอความลับเหลือจะเชื่อของแม่สามี
โดยต้นเหตุมาจากการแกะกล่องพัสดุผิดใบ
แต่สำหรับเรื่องราวนี้ ไม่ใช่ปัญหาขัดแย้งใด ๆ แต่เป็น “ความน่าอับอาย” อย่างที่ไม่คาดคิด เมื่อลูกสะใภ้บังเอิญไปเจอความลับเหลือจะเชื่อของแม่สามี
โดยต้นเหตุมาจากการแกะกล่องพัสดุผิดใบ
วันที่ 1 มกราคม 2568
เว็บไซต์มิเรอร์มีเดีย เผยว่า
มีหญิงรายหนึ่งได้แชร์ประสบการณ์ผ่านทางกลุ่มเฟซบุ๊กของไต้หวัน เล่าว่า
เธอแต่งงานกับสามีและย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังเดียวกับครอบครัวของเขา
วันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ในขณะที่เธออยู่ที่บ้าน
มีพัสดุส่งด่วนกล่องหนึ่งมาส่งที่บ้าน
ซึ่งเธอคิดว่าเป็นของรางวัลจากการช้อปปิ้งออนไลน์ของเธอ
เธอจึงแกะออกดูภายใน แต่ก็ต้องตกตะลึงในทันที
ของที่หญิงรายนี้พบอยู่ภายในกล่องพัสดุเป็นอะไรที่เธอไม่เคยจินตนาการถึงมาก่อน
สิ่งนั้นก็คืออุปกรณ์เซ็กส์ทอยแบบสั่น ประเภทแท่ง สำหรับผู้หญิง
เธอทั้งตกใจและประหลาดใจมาก ตอนแรกเข้าใจว่าพัสดุกล่องนี้น่าจะส่งมาผิด
แต่ปรากฏว่าเมื่อดูชื่อของผู้สั่งซื้อสินค้ากลับทำให้เธออึ้งยิ่งกว่าเดิม
มันไม่ใช่ชื่อของคนอื่นคนไกลที่ไหน แต่เป็นชื่อของแม่สามี
ตอนนั้นเธอรู้สึกอายจนหน้าชา
เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดีกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
หญิงสาวจึงนำเรื่องราวนี้มาแชร์พร้อมทั้งถามความคิดเห็นจากผู้คนบนโลกออนไลน์
“ฉันไม่ได้เป็นคนซื้อ
เป็นแม่สามีที่สั่งซื้อมาแล้วฉันดันไปเปิดผิด ฉันควรทำยังไงดี
แล้วเครื่องสั่นนี้ก็จะกลายมาเป็นพ่อสามีคนใหม่ของฉันหรือเปล่า ?”
ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้าไปตอบสนองต่อโพสต์นี้
หลายคนอดไม่ได้ที่จะขำขันต่อประสบการณ์แปลกของลูกสะใภ้รายนี้
มีชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าวแซวติดตลกว่า “ลองใช้ดูก่อน
แล้วค่อยรีวิวให้แม่สามีฟัง” ในขณะที่บางรายแนะนำว่า “ติดเทปแล้วห่อมันกลับไปให้เหมือนเดิม จากนั้นก็ส่งให้แม่สามี
และทำเป็นเหมือนว่าไม่เคยรู้เรื่องอะไรมาก่อน” และ “เก็บให้มันเป็นความลับระหว่างผู้หญิงต่อไปจะดีที่สุด”
อย่างไรก็ตาม
เรื่องราวนี้ได้กลายเป็นประเด็นดราม่าในขณะเดียวกัน
เมื่อมีคอมเมนต์บางรายตำหนิเธอที่แกะพัสดุของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
ชี้ว่าการเธอละเมิดความเป็นส่วนตัวของแม่สามี กล่าวว่า “ทำไมคุณถึงแกะพัสดุของคนอื่น
โดยปกติแล้วเราจะต้องดูชื่อผู้รับก่อนที่จะเปิดไม่ใช่เหรอ ?”
ทั้งนี้ทั้งนั้น
ทางหญิงเจ้าของโพสต์ได้เข้าไปอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“ปกติแล้วแม่สามีของฉันไม่ค่อยซื้อของออนไลน์
มีแต่ฉันที่ชอบสั่งของออนไลน์อยู่เป็นประจำ เมื่อมีกล่องพัสดุมาถึง
ทำให้ฉันเข้าไปใจไปโดยอัตโนมัติว่าเป็นของฉัน
ฉันจึงแกะมันด้วยความไม่ตั้งใจจริง ๆ และมันทำให้รู้สึกน่าอายมาก
ฉันจึงมาขอความช่วยเหลือจากทุกคน”
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media
ไวรัล TikTok เมื่อลูกค้าเหยาะน้ำปลาในก๋วยเตี๋ยว แต่พอรูุ้ว่าเป็นอะไร ฮาเลย
ไวรัล 3 ล้าน เหตุเกิดในร้านก๋วยเตี๋ยว เมื่อลูกค้าต้องการเติมน้ำปลา แต่หน้าหันไปอีกทาง ชาวเน็ตเบรกไม่ทัน มันไม่ใช่น้ำปลา
ภาพจาก TikTok @wz.30x
เมื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 หลายคนก็มักมีคำเตือน มีความหวังกับชีวิตว่าจะมีอะไรใหม่ ๆ ดี ๆ เข้ามา ปีใหม่ต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ แม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ ก็ต้องตื่นตัว
วันที่ 2 มกราคม 2568 TikTok @wz.30x มีการลงคลิปร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง มีชาย 2 คนนั่งกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันคนละชาม กลางโต๊ะมีเครื่องปรุงและโค้กขวดหนึ่ง
ภาพจาก TikTok @wz.30x
เรื่องนี้เป็นไวรัลหลัก 3
ล้านครั้ง เพียงเพราะหนึ่งในคนที่กำลังกินก๋วยเตี๋ยวรู้สึกไม่พอใจในรสชาติ
ต้องการเพิ่มความเค็ม จึงหยิบขวดน้ำปลามาเติมเพิ่ม
ทว่าเขากลับไม่รู้ตัวว่า แม้ใจจะคิดถึงขวดน้ำปลา แต่มือกลับไปหยิบขวดโค้ก
แล้วก็เทลงใส่ชามทันที
ภาพจาก TikTok @wz.30x
เมื่อเทโค้กลงใส่ชาม
เจ้าตัวก็รู้ตัวว่าหยิบผิด ก่อนที่จะหัวเราะกันทั้งโต๊ะ
ส่วนชาวเน็ตก็แซวว่า เขย่าก่อนดื่ม โค้กกินกับอะไรก็อร่อย
ภาพจาก TikTok @wz.30x
ภาพจาก TikTok @wz.30x
ไวรัล TikTok ซื้อแซลมอน 150 บาท ดูเผิน ๆ นึกว่าคุ้ม แต่เมื่อแกะดูแทบขยี้ตา
รีวิวซื้อแซลมอน 150 บาท จากรถเข็นแถวหาดจอมเทียน พัทยา ดูเผิน ๆ ถึงกับปลื้มในปริมาณ แต่ลองแกะออกดูถึงกับเฟลหนัก ลวงตากันขั้นสุด
ภาพจาก TikTok @kanun2300
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 คนที่เดินทางไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวอาจจะต้องทำใจเรื่องของราคาอาหารที่อาจพุ่งสูงขึ้น แถมบางครั้งเมื่อเลือกซื้อของที่คิดว่าราคาดีแล้ว แต่ความจริงก็อาจจะใม่ใช่อย่างที่คิดเช่นกัน
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2567 ผู้ใช้ TikTok @kanun2300 ลงคลิปพร้อมข้อความระบุว่า “พัทยาเล่นกูแล้ว” เล่าประสบการณ์สุดพีคหลังซื้อแซลมอน จากรถเข็นที่หาดจอมเทียน พัทยา โดยซื้อมาในราคากล่องละ 150 บาท
ภาพจาก TikTok @kanun2300
จากคลิปจะเห็นว่าดูจากนอกกล่องนั้น นอกจากปลาจะดูสีสด มีลายชัด
แถมยังถูกอัดแน่นมาจนเต็มกล่อง ดูยังไงก็น่าจะคุ้มค่ากับราคาแน่นอน
จนกระทั่งลองใช้ตะเกียบคีบปลาชิ้นแรกขึ้นมา
ก็พบว่าที่จริงแล้วปลาที่ดูชิ้นใหญ่แน่นกล่อง
เป็นเพราะด้านล่างถูกยัดแครอตหั่นฝอยไว้เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ปลาชิ้นที่เหลือนั้นไม่ได้ถูกแล่เป็นชิ้นใหญ่ ๆ เหมือนกับชิ้นแรก
แต่เป็นการซอยเป็นเส้นบาง ๆ นำมาวางต่อกันเพื่อหลอกตาให้ดูเยอะ
ทำเอาเจ้าตัวอุทานว่า “กูจะบ้า ว่าแล้วทำไมมันถูกจัง”
คลิปนี้กลายเป็นไวรัลจนมียอดเข้าชมกว่า 3.8 ล้านครั้ง
งานนี้ชาวเน็ตเห็นแล้วต่างเมนต์กันสนั่น
บ้างก็มองว่าร้านทำการตลาดแบบไม่เน้นซื้อซ้ำ
ตั้งใจทำมาเพื่อหลอกขาจรโดยเฉพาะ ขณะที่หลายคนก็เอะใจตั้งแต่แรกแล้วว่าราคา
150 บาท ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะให้เยอะตั้งแต่แรก
แต่พอมาหลอกกันแบบนี้ก็อดผิดหวังไม่ได้จริง ๆ เป็นต้น
ภาพจาก TikTok @kanun2300
ภาพจาก TikTok @kanun2300
หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา เปิดราศีปี 2568 ดวงของใครปัง ใครต้องระวัง
หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา แบ่งกลุ่มดาว 12 ราศีปี 68 ต้อนรับปีงูไฟ ราศีไหนต้องระวัง ราศีไหนโคตรปัง โคตรรวย
รายการโหนกระแส วันที่ 1 ม.ค. 68 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ “หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา” ผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ ซึ่งสัมภาษณ์เป็นประจำทุกปี โดยในปี 2568 ต้อนรับปีงูไฟ ดวงแต่ละราศีจะเป็นอย่างไร
“โหราศาสตร์ โดยที่มาเป็นวิชาดาราศาสตร์ บวกวิชาสถิติ เดี๋ยวนี้พอเรามีออนไลน์กันเยอะ ๆ เราจะเห็นดวงรูปแบบแปลก ๆ เยอะมาก ก็ทำให้คนเข้าใจผิดเรื่องโหราศาสตร์ค่อนข้างจะเยอะ จริง ๆ แล้วโหราศาสตร์เป็นศาสตร์ที่หนึ่ง ทุกคนสามารถเรียนรู้และเข้าใจได้ อาจไม่ใช่วิทยาศาสตร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มีพาร์ตนึงเป็นวิทยาศาสตร์ เช่นเรื่องการคำนวณ เรื่องสถิติ ที่สำคัญดวงในราศีนึง มีคนเกิดเยอะมาก แต่ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับต้นทุนบุญกรรมของคนที่ไม่เท่ากัน ราศีที่เราบอกว่าดวงดี อย่างวันนี้เราจะมาให้ดาว เหมือนร้านอาหาร 5 ดาว 4 ดาว 3 ดาว แบ่งเป็นดาว ว่า 5 ดาวมีราศีอะไรบ้าง”
“แต่ถ้าได้ 5 ดาวแล้วชีวิตเขาไม่พร้อมก็จะเสียโอกาสตรงนั้นไป คนที่ได้ 2 ดาว ถ้ามีความขยัน ความตั้งใจเป็นทุน ต้นทุนเขาดี เขาก็ไม่ได้เดือดร้อนมาก ฉะนั้นบุญกรรม ต้นทุน ฝีมือ ความสามารถ เป็นพื้นฐานที่ทำให้คนมีความสำเร็จที่แตกต่างกัน โหราศาสตร์ก็เหมือนแผนที่ให้เรา มนุษย์เราก็ยังเป็นคนเลือกเดินได้ด้วยตัวเราเอง เพียงแต่วันนี้เราจะกางแผนที่ว่าปี 68 คุณเลี้ยวซ้ายรถติดหน่อย คุณเลี้ยวขวาถนนโล่งกว่า แต่เราจะเลือกเลี้ยวไปทางไหนก็ยังคงเป็นตัวเราเป็นผู้กำหนดและตัดสินใจแต่ว่าปี 68 เป็นปีที่ดูดวงยากพอสมควร เพราะปกติถ้าเราติดตามข่าว ในปี 67 ไม่มีอีเวนต์ไหว้ดาวเสาร์ พระราหูเลย พอ 67 เงียบ มันก็มากองกัน 68 เยอะ หลายดาว และเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาใกล้เคียงกันมาก นี่เป็นไฮไลต์ดวงเมืองในช่วงเดือน พ.ค.”
“ใครติดตามผม เวลาบอกพระราหูย้ายเมื่อไหร่ ย้ายเสร็จผ่านไปหลายเดือน อาจมีดาวเสาร์ย้าย หรืออะไรย้าย แต่เดือน พ.ค. เกิดปรากฎการณ์ 3 ดวงดาวย้ายราศี ในเดือนเดียวกัน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้มีบ่อย พระราหูก็ย้ายราศีในเดือน พ.ค. ดาวพฤหัส ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดก็ย้ายราศีในเดือน พ.ค. ดาวเสาร์ซึ่งโบราณบอกว่าทายโทษทุกข์ให้ทายดาวเสาร์ ก็ย้ายราศีในเดือน พ.ค. 3 ดาว ถ้าเป็นร้านอาหารคือสุดยอด แต่พอเป็นโหราศาสตร์มันเยอะเกินไป ง่าย ๆ คนที่ราหูเคยเข้าปี 67 พอราหูย้ายปุ๊บ มันจะออกจากดวงเราไปเข้าอีกคนนึง แต่ปัญหาคือมันยังไม่จบแค่นั้น มันยังมีดาวเสาร์ คนที่ดาวเสาร์เข้าอยู่ก็จะออกไปเข้าอีกคน พอดาวย้ายเยอะมากไปวุ่นวาย เลยทำให้ราศีที่ได้รับผลกระทบเยอะมาก”
มีคนที่เข้าทั้ง 3 ดวงเลยมั้ย?
“มีคนที่อันนึงออก อันนึงเข้า มี แล้วมีมาเจอ 2 ดวงพร้อมกัน ในครึ่งปีหลังมีอีก ในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์เรื่องโหราศาสตร์ ก็เกรงใจคนไหว้นะ เสียตังค์ เปลืองเงิน อาจรวบยวดคอมโบเซ็ตไป ทำบุญทีเดียวไปเลย แล้วรวมกัน 3 ดาว”
เริ่มจากกลุ่มที่ได้ 3 ดาว?
“ราศีแรก ราศีสิงห์ ชีวิตในปี 67-68 ไม่ได้แตกต่างกันมาก เป็นราศีที่ของเดิมพระเสาร์เข้าดวง อยู่กับดวงมาเป็นปีแล้ว น่าจะ 2 ปีแล้ว อย่างที่พูดเมื่อต้นรายการ ข่าวดีคือพระเสาร์กำลังจะย้าย คนที่เข้าอยู่ดาวเสาร์กำลังจะออกจากดวงแล้ว ใครราศีสิงห์ ดาวเสาร์กำลังจะออกจากดวงคุณ แต่ด้วยความที่ดวงดาวเปลี่ยนเยอะ สิงห์ด้วยความของเดิมเจอดาวเสาร์มาในปี 67 ซึ่งหนักกว่า พอมาเจอราหูมันไม่ได้น่ากลัวมาก ดังนั้น 67 กับ 68 เลยอยู่เท่า ๆ เดิม”
“แต่ราหูมีข้อดีมากกว่า พระราหูให้ผลดีเรื่องโชคลาภ งานที่ต้องเดินทางเยอะ เงินที่ไม่คิดว่าจะได้ แล้วได้ไม่คาดฝัน เป็นราศีที่เน้นหนักในเรื่องของโชค โดยเฉพาะครึ่งปีแรก ย้ำว่าครึ่งปีแรกกับครึ่งปีหลัง ดวงมันต่างกันเยอะ ใครราศีสิงห์ให้มั่นใจว่าพระราหูจะย้ายในเดือน พ.ค. อาจจะมีเซ ๆ อยู่บ้าง แต่จะมีผลดีเรื่องโชคลาภเป็นหลัก”
“ความรักแนะนำว่าถ้าเราชอบอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ เช่น ไม่เคยมีแฟนที่อายุน้อยกว่าเราเยอะ ๆ เลย อายุห่างกัน หรือเดี๋ยวนี้โลกเปิดกว้าง แฟนต่างประเทศ ต่างชาติ จะมีโอกาสในสิ่งเหล่านี้เข้ามา แต่ปัญหาเกิดขึ้นคือถ้าคนมีสถานะใกล้เคียงกัน ดวงดาวมันต้องทำให้มีคู่ที่แตกต่าง ถ้าเจอเพื่อนสมัยเรียน อายุใกล้กัน ไม่ได้มีอะไรห่างเลยต้องระวัง อาจส่งผลกระทบต่อความรักหรือความสัมพันธ์เกิดขึ้นได้”
“ในเชิงการทำงาน เชื่อว่าคุณจะเป็นราศีแห่งความก้าวหน้าที่ดี เดินทางเยอะ มีเรื่องวุ่นวาย รับผิดชอบอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่ว่าทำให้เกิดความสำเร็จและความก้าวหน้าที่ดี โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวพันกับพระราหู งานต่างประเทศ ใครที่ขายของในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับเงา กลุ่มราศีสิงห์ก็จะเป็นราศีที่ได้รับข่าวดี ดารา นักแสดง บันเทิง ขายของออนไลน์ ราศีแรกเบา ๆ นะ ตัวท็อป ๆ อยู่ท้าย ๆ มีแบบรวยมาก รวยไม่มีเหตุผล และมีแบบที่ต้องเตือน”
ราศีต่อไป?
“ราศีพิจิก จริง ๆ พิจิกควรได้มากกว่า 3 ดาว แต่ติดตรงที่ว่าดวงพิจิกจะไปปัง มั่งคั่ง ร่ำรวยในครึ่งปีหลัง ครึ่งปีแรกพิจิกไม่ได้โดนดาวเสาร์ ราหูอะไรเลยนะ คุณมีเรื่องเสียเงินเสียทองเยอะ ถ้าเป็นการเสียเงินกับการลงทุน ขยับขยายธุรกิจ ต่อเติมซ่อมแซมบ้าน หรือซื้ออะไรที่เป็นปัจจัย 4 สำคัญ อันนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะพิจิกครึ่งปีแรกเป็นราศีกระเป๋ารั่ว พอครึ่งปีหลัง ดวงดาวการเงินกลับมาสว่าง มีพลัง”
“ดาวพฤหัสจะมาโคจรเป็นมหาอุต ดาวพระพฤหัสในเวลาเราดูดวง สมมติเคยได้ยินดาวนพเคราะห์ ดวงนึงที่ดีที่สุดคือดาวพฤหัส ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ดาวพฤหัสสว่างที่สุด ส่งผลดีต่อการเงินของพิจิกในช่วงครึ่งปีหลัง ฝากพิจิกว่าครึ่งปีแรก ลุ่ม ๆ ดอน ๆ หน่อย ศัตรูเยอะ อุปสรรค ทำอะไรเหมือนจะติดขัด มีปัญหา แต่ครึ่งปีหลังผู้ใหญ่เริ่มเมตตา งานเริ่มราบรื่น ลูกค้าเริ่มสนใจในสิ่งที่เราทำมากขึ้น ตำแหน่งหน้าที่การงานก็จะก้าวหน้า รวมถึงคนที่ตั้งใจเรื่องครอบครัว อยากลงหลักปักฐาน แต่งงานหมั้นหมาย ในช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นจังหวะดีนาทีทองของคนราศีพิจิก พอขึ้น ๆ ลง ๆ แบบนี้ เลยอยู่กลาง ๆ ไม่ได้ขี้เหร่ แต่ครึ่งปีแรกเหนื่อย ถ้าเรามองอย่างมีความหวังก็ให้โฟกัสไปที่ครึ่งปีหลัง เวลาเจออะไรยาก ท้อ ก็ให้มองว่ายังมีแสงสว่างรอเราอยู่ พอหลังจากตรงนั้นไปปุ๊บ พิจิกก็จะเป็นราศีที่มีแต่ข่าวดีเข้ามา”
ราศีถัดไป?
“ราศีมังกร อยู่ในกลุ่ม 3 ดาว เป็นราศีที่ถ้าเป็นสมัยก่อนอาจถือว่าศัตรูเยอะมาก ความขัดแย้งสูง ปี 68 ที่สำคัญราศีมังกรเป็นราศีที่กำลังมีเส้นทางใหม่เข้ามา ในเชิงของงานอาจเปลี่ยนแปลงไม่ทันตั้งตัว หรือเป็นการพลิกชีวิต พลิกอาชีพของตัวเองใหม่ เช่นของเดิมเคยทำมา 10 20 ปี ปีนี้ก็อาจได้ลองอะไรใหม่ ๆ ถ้ามองเป็นเรื่องที่ดีก็ดีเลย ได้เจอสิ่งใหม่ ๆ ท้าทาย แต่ถ้ามองเป็นความน่ากลัว ความกังวลใจ อันนี้ต้องระมัดระวังในเชิงจิตใจ ใครที่เกิดราศีมังกร อันดับแรกดูเรื่องจิตใจไว้ก่อน ความท้อแท้หมดกำลังใจจะเกิดขึ้นได้ง่าย”
“แต่ข้อดีทำให้เขายังอยู่ในเกณฑ์ 3 ดาว คือดวงดาวการเงินแข็งแรงมาก ถึงมีเรื่องการลงทุนอยู่บ้าง แต่เป็นราศีที่เน้นเรื่องรายได้ประจำทั้งหลายอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่ได้เกี่ยวกับโชคลาภใด ๆ นะ พื้นฐานคนราศีมังกร เป็นคนที่ทำงานหนักที่สุด เป็นราศีที่ทำโปรดักชั่น ผลิตโรงงานอุตสาหกรรม ลงมือทำด้วยตัวเอง แล้วมักไม่ค่อยมีโชคจากการเสี่ยงเท่าไหร่ แต่ในปี 68 รายได้ประจำ สวัสดิการชีวิต ทำให้มีความมั่นคงก้าวหน้ามากขึ้น แล้วจะไปรุ่งช่วงปลาย ๆ ปี ใครรอเรื่องความรัก มังกรเป็นราศีที่จะมีคู่หน้าตาดี ความรักจะโดดเด่นช่วงปลายปี เป็นช่วงที่ดีของราศีมังกร”
ราศีสุดท้ายของ 3 ดาว?
“ราศีกรกฎ ต้องย้ำก่อนว่า ชีวิต 6 เดือนแรกของปี 68 กับ 6 เดือนหลัง เหมือนเป็นภาพยนตร์คนละเรื่องกันเลย หนังคนละม้วน จากสยองขวัญไปเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ เรื่องที่เตือนก่อน ดวงดาวตัวช่วยไม่ค่อยมี ใครเกิดราศีกรกฎ กองหนุนเป็นเรื่องสำคัญ หรือบางอาชีพ อย่างคนทำงานประจำ คุณต้องมีเรื่องเจ้านาย ผู้บังคับบัญชา ต้องระมัดระวัง บางทีผู้ใหญ่ที่เขาคอยช่วยอยู่เขาอาจถูกย้าย หรือลาออกไป คนที่ซัปพอร์ตเราอยู่ เหมือนมีบทบาทกับการทำงานของเราลดน้อยลง ใครราศีกรกฎเตือนเรื่องนี้เรื่องแรกก่อน บางคนไม่ได้ไปลงเรื่องที่ทำงาน ไปลงเรื่องผู้ใหญ่ในบ้าน คือญาติผู้ใหญ่ บุพการี ต้องดูแลเอาใจใส่ จะมีเรื่องเจ็บป่วยไม่สบายของคนในครอบครัวเกิดขึ้นได้ง่าย ของผู้ใหญ่”
“สองปัจจัยเรื่องความสัมพันธ์ หุ้นส่วน เรื่องนี้ต้องระวัง ครึ่งปีแรก ส่วนตัวก็ไม่ดี ส่วนรวมก็ไม่ค่อยเวิร์กเท่าไหร่ กลุ่มราศีกรกฎก็อย่าไปออกหน้าเยอะ เป็นราศีที่ต้องเก็บตัวโลว์โปรไฟล์นิดนึง ใครเกิดราศีนี้ 6 เดือนแรกต้องเตือน แต่พอ 6 เดือนหลังปุ๊บโรแมนติกคอมเมดี้เลย ชีวิตเปลี่ยน ดาวพฤหัสที่เป็นดวงดาวที่สุด รอบนี้สว่างที่สุด จะโคจรมาเข้าราศีกรกฎ เป็นราศีที่ดวงพลิกฟื้น เผลอ ๆ จาก 3 ดาวจะกลายเป็น 5 ดาวช่วงปลายปี ดาวพฤหัสจะเข้ามาในช่วงเดือน ต.ค. เข้า ต.ค. แต่อยู่ข้าม ใครราศีกรกฎก็เตรียมตัวให้พร้อม ของคุณหนุ่มก็ไม่ต้องกลัว ปลายปีเป็นมินิมาร์ทเลยนะ (หัวเราะ) ฝากเทคแคร์เรื่องครึ่งปีแรก เป็นช่วงต่อสู้อุปสรรคปัญหาเยอะหน่อย แต่พอครึ่งปีหลัง โอ้โห ชีวิตจะเปลี่ยน วงรอบนี้ภาษาดวงเขาชอบนับเป็น 12 ปี 12 ปีจะมีเหตุการณ์แบบนี้มาครั้งนึง”
“ง่าย ๆ ถ้าดวงดีปุ๊บ เวลาป่วย ไม่ใช่อยู่ดี ๆ จะหายเพราะดวง แต่เราอาจจะเจอยาที่ดี เจอหมอที่ดี การรักษามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น มีตัวช่วยที่ดีเข้ามา”
ราศี 4 ดาว?
“4 ดาวคือชีวิตอัปเกรด เลื่อนขั้นจากปี 67 ยังไงคนได้ 4 ดาว ปี 68 ดีกว่า 67 ราศีแรกคือราศีเมษ เป็นราศีที่มีเกณฑ์เปลี่ยนงาน ดวงเมืองก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเหมือนกันเพราะเป็นราศีเดียวกัน อะไรที่ว่าแน่ ๆ ก็ไม่แน่นะปีหน้า แต่เป็นการเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น เมษมีการเปลี่ยนงาน บางคนไม่ได้เปลี่ยนงาน เปลี่ยนสภาพแวดล้อม ย้ายที่นั่ง ย้ายโต๊ะ ทาสีร้านใหม่ ย้ายออฟฟิศใหม่ มีพาร์ตเนอร์อะไรใหม่ ๆ แต่เมษจะโชคดีเรื่องการเจรจาค้าขาย อาชีพเซลล์ นายหน้า ตัวแทน ติดต่อสื่อสาร พูดคุย ค้าขายเยอะ จะส่งผลดีมาก เทียบกันแล้ว ปี 67 ดวงราศีเมษก็โอเคอยู่แล้วนะ ไม่ใช่ไม่ดี แต่ถ้าอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน จะเกิดขึ้นในปี 68 ใครอยากเรียนต่อ ปิดการขาย นัดคุยกับลูกค้าคุณจะมีข่าวดีเข้ามา ฉะนั้นคนเกิดราศีเมษจะอยู่นิ่ง ๆ เก็บตัวเงียบไม่ได้ ต้องออกไปพบปะผู้คน สังคม ประชุม ออกบูธต่าง ๆ นานา แต่งานช่วงครึ่งปีแรก มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน แต่เปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น อย่าไปตกใจกับมัน”
“สุขภาพร่างกายไม่ได้มีประเด็นอะไร อย่าไปตกใจ เป็นราศีที่แคล้วคลาดราหู ถ้าจะเน้นเรื่องโชคลาภขอเป็นครึ่งปีหลัง ครึ่งปีหลัง ราศีเมษจะเป็นราศีที่รวยแบบรู้เรื่อง”
ทำไมปีนี้ราศีจะไปดีครึ่งปีหลังทั้งนั้นเลย?
“แต่จะมีราศีที่ดีครึ่งปีแรก และไม่ดีครึ่งปีหลัง แย่ทั้งปีไม่ค่อยมี พอดวงดาวเกิดแรงกระเพื่อม ทั้งช่วงต้นปีและปลายปี มันเลยเหมือนตาชั่งอยู่สองข้าง ถ้ากระจุกอยู่รอบเดียว จะไม่มีครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังเลย เมษครึ่งปีหลังโชคลาภมาแรง จะเป็นราศีที่รวยและรู้เรื่อง บางทีหมอดูชอบทายว่ารวยแบบไม่รู้เรื่อง แสดงว่าไม่ดีแล้ว คนอื่นจะเอาเงินเราไปใช้หมด นี่คือ 4 ดาว ราศีแรก”
มีกลุ่ม 4 ดาวอีก 3 ราศี?
“ผู้ที่เกิดในราศีกุมภ์ จัดอยู่ในอันดับ 4 ดาว เป็นราศีที่ดาวเสาร์ย้ายออกจากดวงในปี 68 ดาวเสาร์จะอยู่กับดวงคุณถึง พ.ค. ปี 68 ครบ 2 ปีครึ่ง ทายโทษทุกข์ ความเหน็ดเหนื่อย ผิดหวัง เสียใจ ปัญหาสุขภาพทั้งหลาย พอ พ.ค. 68 ดาวเสาร์ออกไปแล้ว แต่พอดาวเสาร์ออก ดาวราหูเข้ามาทันที แต่ข่าวดีคือในบรรดา 12 ราศี ดาวราหูบ้านเกิดเขาคือราศีกุมภ์ พระราหูเกิดจากราศีกุมภ์และโคจรหมุนไปหมุนมา จนเวลาครบ 17 ปี กลับมาที่บ้านตัวเองคือราศีกุมภ์ ดังนั้นชาวราศีกุมภ์ มีภูมิต้านทานก็ไม่ค่อยกลัวพระราหูเท่าไหร่ เลยทำให้ราศีกุมภ์อัปเกรดเป็น 4 ดาว ราศีกุมภ์ เวลคัม โฮม สมัยก่อนคนจะกลัวพระราหู จะทายกันไม่ค่อยดี แต่เดี๋ยวนี้ใครยิ่งราหูเข้ายิ่งดี คริปโต ออนไลน์ต่างๆ เดินทางไกลต่างประเทศ สตรีมมิ่ง กลุ่มราศีกุมภ์ ถ้าทำสิ่งเหล่านี้อยู่ ยอดติ๊กต๊อกคุณจะโตขึ้น”
สิงห์ก็เสาร์ย้าย กุมภ์ก็เสาร์ย้าย?
“มันเข้าสองราศี พอออกก็ออกทั้งคู่ ราหูก็เข้าทั้งคู่ แต่ราหูเข้ากุมภ์โดยตรงเพราะเป็นบ้าน แล้วชิ่งมาโดนราศีสิงห์ แต่กุมภ์พระราหูเข้า เขาไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ ขอให้มาเถอะ แต่ฝากนิดเดียว ราหูมีผลเรื่องสุขภาพอยู่บ้าง มันอาจจะดีเรื่องงานเรื่องเงิน เรื่องสุขภาพอาจต้องเตือน โรคจากพระราหูคือโรคจากเงา หรือโรคที่ต้องอาศัยเงา คือการเอกซเรย์ อัลตร้าซาวด์ ซีทีสแกน เพราะเป็นเครื่องที่ต้องฉายเงาของเรา ดังนั้นคนเกิดราศีกุมภ์ ดูแลเรื่องโรคภัยไข้เจ็บตัวเองให้มากขึ้น แล้วเรื่องความรักก็ต้องระวัง เพราะพระราหูบางทีเป็นเรื่องรักสามเส้า แนวอักษรย่อต้องระวัง แต่ถ้าเรื่องงาน เรื่องเงิน ถือว่าเป็นปีที่ดีและน่าจดจำ”
ราศีต่อไป?
“ผู้ที่เกิดในราศีพฤษภ ถ้าให้ดาวของปีที่แล้ว 5 ดาว ปีนี้ตกชั้นมาเป็น 4 พฤษภในปี 68 เด่นเรื่องเดียวเลยคือเรื่องเงิน เงิน รายได้ การเสี่ยงโชค ทั้งปีดีมาก แต่เรื่องอื่น เช่น เริ่มงาน เริ่มความรัก ถ้าคุณได้เริ่มปี 67 ไปแล้ว ปี 68 ก็ได้สานต่อ เช่นคบใครในปี 67 ปี 68 ก็ยังเป็นแฟนกันอยู่ ถ้าเริ่มเปิดร้านปี 67 ปี 68 ก็ยังทำธุรกิจต่อได้ แต่สิ่งที่เติบโตงอกเงย ทำให้พฤษภได้ 4 ดาวคือเรื่องการเงิน บวกไปเรื่องโชคลาภด้วย การเงินดี รายได้ประจำดีขึ้น โชคลาภก็มีเข้ามา ย้ำว่าคนงานเงินดี นั่ง ๆ นอน ๆ ก็ไม่ดี ต้องขยันทำมาหากิน คนขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย ขยันถูกที่ก็อาจต้องอยู่อีกเป็น 10 ปีเหมือนกัน (หัวเราะ) ใครเกิดราศีพฤษภ ฟ้าเปิด สิ่งที่คุณทำจะเป็นที่ยอมรับ เจ้านายเริ่มมองเห็นผลงาน ลูกค้าจะไว้เนื้อเชื่อใจสินค้าเรา แต่เราต้องมีสินค้าที่ดีและมีคุณภาพรออยู่ก่อน เลยเป็นราศีที่ได้ 4 ดาว เงินเป็นเรื่องที่หนึ่งของเขาเลย”
ราศีสุดท้ายกลุ่ม 4 ดาว?
“ราศีตุลย์ ชีวิตเป็นรถไฟเหาะมาหลายปี เดี๋ยวดีเดี๋ยวไม่ดี ราศีตุลย์ทายยากเหลือเกิน แต่หลังจากปีนี้ ปี 68 จะเป็นจุดเริ่มต้นดวงชะตาขาขึ้นของราศีตุลย์ และยิงยาวไปอีกหลายปีเลย ดีที่สุดคือเรื่องตำแหน่ง ใครทำงานประจำ จะมีการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งที่ดีขึ้น คุณจะได้รับรางวัล ประกาศนียบัตร ได้รับชื่อเสียงเกียรติยศที่ดีขึ้น เงินมีบ้างนิดหน่อย สู้พฤษภเขาไม่ได้ แต่กล่องเพียบเลย มาเป็นลัง ตุลย์อาจเหมาะกับพวกทำงานประจำ ข้าราชการ ได้เลื่อนขั้นเลื่อนซีเลื่อนยศ หรืออาชีพที่ต้องติดต่อ เดินทางเยอะๆ เป็นราศีที่มีความเจริญก้าวหน้าที่ดี ใครเกิดราศีตุลย์ เงินอาจเฉย ๆ ความรักแฮปปี้ดี ไม่มีอะไร แต่เรื่องของงานเป็นราศีที่เป็นปีแห่งการเติบโต ทำให้คุณมีความมั่นคงเรื่องของงานไปสู่อีกขั้นนึงเลยทีเดียว”
มีอีก 4 ราศี?
“มี 2 คนมีเฮ มี 2 คนมีหนาว หนาวแบบฮอกไกโดเลย”
ราศี 2 ดาว?
“ราศีที่ได้ 2 ดาว ราศีแรกคือราศีกันย์ ชาวราศีกันย์อาจบ่นว่าทายอะไรไม่เคยดีเลย เกลียดราศีกันย์หรือเปล่า โดนตลอด แต่มีเหตุผล หนึ่งราศีกันย์เจอพระราหูมาก่อน หลักการเดียวกัน พอราหูออก แต่ดาวเสาร์เข้ามาแทน การที่ดาวเสาร์มาหยุดเล็งภาษาดวงเขาเรียกดวงแตก มันค่อนข้างแรงหน่อย สิ่งที่จะเกิดขึ้นและต้องระวัง ไม่ใช่เรื่องตัวเองแต่เป็นเรื่องของคนรอบตัว คนราศีกันย์โดยพื้นฐานเป็นราศีดูแล เหมือนผู้ช่วยเลขาฯ คอยจัดการเรื่องโน้นเรื่องนี้ ชีวิตไปผูกพันเรื่องคนอื่นค่อนข้างเยอะ เรื่องชาวบ้านเอาง่าย ๆ ชาวบ้านจะเอาเรื่องเดือดร้อนมาให้ตัวเรา ถ้าไปแก้ปัญหาให้ใครดูดี ๆ หน่อยนะ เพราะปัญหาของเขาจะกลายเป็นความทุกข์ของเรา”
“ใครเกิดราศีกันย์ ย้ำว่า เรื่องการทำธุรกรรม เซ็นสัญญา ติดต่อสื่อสาร อะไรก็ตาม มีข้อผิดพลาด มีคดีความ มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น การถูกโกง เอารัดเอาเปรียบ มีเรื่องเสียเงินแบบที่ไม่ควรเสีย เป็นปีที่งานหนักขึ้น ต้องรับภาระหลายอย่าง สมมติปี 67 คุณทำอยู่สองสามอย่าง แต่ปี 68 คุณทำอีกสี่ห้าอย่าง แต่เงินไม่ได้เพิ่มขึ้น ข้อดีอย่างนึงของราศีกันย์คือคนเป็นเจ้าของร้าน พ่อค้า แม่ค้า การที่ทำงานหนักอย่างน้อยมันหมายถึงการที่คุณมีปริมาณลูกค้าเพิ่มขึ้น ขายของได้จำนวนมากขึ้น อันนี้ส่งผลดี คนทำอาชีพประจำจะกลัว”
“อีกเรื่องที่อยากจะเตือน คือเรื่องความสัมพันธ์ ราศีกันย์ของเดิมไม่ค่อยแข็งแรง พอเจอดาวเสาร์อาจมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ได้ง่าย แต่ไม่ใช่ทุกราศีกันย์นะ เหมือนบ้าน ถ้าบ้านสองหลังอยู่ติดกัน หลังนึงลงเสาเข็ม 21 เมตร อีกหลังเอาสามเกลอมาตอก พอพายุเข้าหลังตื้นๆ ก็พังก่อน ดังนั้นไม่ได้บอกว่าทุกคู่มีปัญหา แต่ถ้าคู่ไหนของเดิมมันไม่มั่นคง พอพายุเข้าในปี 68 โอกาสในเชิงความสัมพันธ์ที่ต้องระวัง ก็ให้ดูดี ๆ มันอาจกระทบได้ ใครไม่เชื่อเดี๋ยวลองไปดู คนในวงการ ลองไปลิสต์ราศีกันย์ ซึ่งดาวเสาร์เข้า ผมไม่รู้ใครด้วยนะ อันนี้พูดตามทฤษฎี ให้จับตาเรื่องความสัมพันธ์ดี”
อีกราศี?
“ราศีมีน สำหรับ 2 ดาว กันย์กับมีน คุ้นมั้ย (หัวเราะ) เป็น 2 ราศีที่พระราหูเข้ามาก่อนหน้านี้ เป็นราศีที่เจออะไรพร้อมกัน นี่พูดถึงพระราหูนะ ปี 68 พระราหูออกแล้ว มีนอาจ 1.5-2 นะดาว (หัวเราะ) มีนตอนเจอราหูอาจไม่น่ากลัวเท่าดาวเสาร์ มีนเป็นราศีคนจิตใจดี อ่อนโยน อ่อนไหว แต่ดาวเสาร์เป็นดาวอุปนิสัยตรงข้าม เหมือนนางฟ้ามาเจอนายพราน เจอสิ่งที่เราไม่ถนัด ไม่คุ้นเคย โหดร้าย”
“ราศีมีนเรื่องจิตใจสำคัญสุด คนเราอะไรก็ได้ แต่อย่าหมดหวัง อย่าหมดกำลังใจ ต้องมีสติ มีสมาธิ สวดมนต์ไหว้พระให้เรามีพลังใจ สองเรื่องสุขภาพ พอใจมีปัญหา กายก็จะป่วยตามมา ดาวเสาร์เป็นดาวแห่งความหนัก คุณต้องหาสิ่งที่หนักให้ชีวิตเรา ตื่นมายกดัมเบลเลย เสาร์เข้ามา และอยู่กับเราไป 2 ปีครึ่ง กันย์ก็เข้า 2 ปีครึ่งเหมือนกัน แต่เจ้าภาพคือมีน อย่าเพิ่งไปตกใจ คนเราโดนดาวเสาร์กันไม่บ่อย บางทีจะเข้าราศีเกือบ 30 ปี จะมาสักครั้งนึง ดาวที่เห็นบ่อย ๆ อย่างดาวพุธ ทำไมไม่พูด ดาวพวกนี้ 3-4 เดือนมันก็มาแล้ว ดวงเราก็ชิน แต่พวกที่ 30 ปีมาทีนึง ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าของเดิมคุณไม่แข็งแรง คุณอาจเซได้”
“ถ้าปี 68 มีภาระรออยู่แล้ว สร้างบ้าน เรียนต่อ สร้างธุรกิจ สร้างเนื้อสร้างตัว ทำอะไรใหม่บางอย่างซึ่งมันหนักอยู่แล้ว จะเป็นปีที่ไม่ค่อยน่ากลัว แต่ถ้าปี 68 คุณลั้ลลา ชีวิตไม่ได้วางแผน ต้องระวัง เพราะพระเสาร์คือความผิดหวัง เสียใจ สูญเสีย เวลาทำอะไรขอให้มีความหวัง แต่อย่าคาดหวัง คนเราอยู่ได้ต้องมีการตั้งเป้า มีความหวัง แต่บางทีคาดหวังเกินไป สิ่งที่แทนจะได้แล้วไม่ได้ มันจะส่งผลถึงจิตใจของเรา ย้ำว่าสองราศีนี้ ดาวเสาร์ยังไม่เข้าตอนนี้นะ นี่คือเดือน พ.ค. ดังนั้นเรามีเวลาอีก 3-4 เดือนเพื่อเตรียมตัว ข้อดีของดาวเสาร์มีอย่างนึง คืออาชีพอิสระงานจะแน่นมาก ถ้าเป็นดาราฟรีแลนซ์ทั้งหลาย งานอีเวนต์วันนึง 3 งานเลย ส่วนเรื่องอื่นไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ นี่คือสองราศีที่ต้องเตือน”
กลุ่ม 5 ดาว?
“ราศีแรก คือราศีธนู ที่ให้ 5 ดาว เพราะว่าปีที่ผ่านมาอุปสรรคเยอะมาก ศัตรูเยอะ ปัญหาเยอะ ทำอะไรก็ติดขัด ยากไปหมดเลย หายใจก็ผิด แต่ปี 68 ดวงดาวพลิก มีตัวช่วยเข้ามา จากที่ร้ายกลายเป็นดี พอ 67 แย่มาก 68 ดีขึ้น อันดับต่างกันเยอะก็กลายเป็น 5 ดาว ธนูเด่นที่สุดในเรื่องของความรัก เป็นราศีที่ถ้าใครรออยู่ อยากสละโสด เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ราศีธนูมีโอกาสดี ๆ เข้ามา มีดวงได้สละโสด ได้เจอคนที่ใช่ หรือคนที่คบ ๆ กันอยู่แล้ว ได้แต่งงาน หมั้นหมาย หรือบางคนไปลงเรื่องหุ้นส่วน คู่สัญญา ได้พาร์ตเนอร์ที่ดี หุ้นส่วนที่ดี งานที่เป็นเรื่องการเจรจา ต้องเซ็นสัญญาซื้อขาย ธนูก็จะปิดการขายได้มากขึ้น เด่นเรื่องคู่ ความรัก หุ้นส่วน อุปสรรคปัญหาต่าง ๆ จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี”
“ราศีสุดท้าย คือเบอร์หนึ่งในปี 68 คือผู้ที่เกิดในราศีเมถุน 15 มิ.ย. – 16 ก.ค. เขาเป็นเบอร์หนึ่งเพราะว่าปี 67 ที่ผ่านมา แย่มาก เป็นราศีที่ตัวช่วยไม่มี งานมีแต่ความกดดัน เจ้านายไม่เห็นคุณค่า ตำแหน่งแป้ก สารพัดสาระเพ ความรักก็มีปัญหา แต่ 68 พอเป็นเบอร์หนึ่ง เขาดีรอบด้าน ทั้งเรื่องการงาน เริ่มต้นเปิดร้าน เรียนหนังสือ เรียนต่อหาความรู้ ตำแหน่งใหม่ก็มีเข้ามา เรื่องการเงินเกิดความมั่นคงที่ดีส่วนรายได้ เรื่องความรักเป็นเป็นปีแห่งการสละโสด เรื่องครอบครัว อยากขยับขยาย มีลูกมีบุตร เมถุนนี่มาได้รอบ ครึ่งปีหลังบางคนเปลี่ยนไม่ดีเลย แต่เมถุนกลายเป็นว่ารวยยิ่งกว่าครึ่งปีแรกอีก ก็เลยกลายเป็นราศีเบอร์หนึ่ง เมถุนดีมาก ก็ย้ำว่าใน 12 ราศี ชีวิตคนเรา 5 ดาว 3 ดาว 4 ดาวปะปนกันไป แต่ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ดวง ดวงเป็นเรื่องของโอกาส ความสำเร็จคือความพยายามเอาตัวเองไปหาโอกาสนั้นก็ต้องควบคู่กัน”
ดาวพฤหัสเข้าเหรอ?
“ใช่ ของเดิมเป็นวินาศอยู่ จริง ๆ หลักการง่ายๆ นับไป 7 ราศี ราศีที่ 7 จะเป็นราศีตรงข้ามและเจอกัน จีนก็มีวิธีนี้ แต่จีนนับไป 7 ปุ๊บจะกลายเป็นชง เช่น ระกา จอ กุน ชวด ฉลู ขาล เถาะ ระกาก็เลยชงกับปีกระต่าย มันใช้วิธีเดียวกัน แต่คนละค่าย อย่างปีนี้ ปีมะเส็ง มะเมีย วอก ระกา จอ กุน กุนเลยเป็นปีชงของปีนี้ มันมีที่มาที่ไป”
ดาว 3 ดวงย้ายเดือน พ.ค. จะส่งผลอะไรต่อสังคม การเมือง หรือวงการบันเทิง?
“ความผันผวนในเชิงเศรษฐกิจจะรุนแรงมาก ตอนนี้เรื่องจริงจะเป็นปี 68 นะ เพราะพอปี 68 ปุ๊บ ช่วงนี้เราอาจเห็นทองคำขึ้น ๆ เห็นเงินคริปโตขึ้น ๆ อยู่ แต่พอดวงดาวผันผวนแบบนี้ปุ๊บ ความผันผวนอาจขึ้นแล้วดิ่งลงมา สิ่งสำคัญที่เป็นปรากฎการณ์ มันมีหลายเลเยอร์ซ้อนกัน ดาว 3 ดวงย้ายในเดือนเดียวกันอันที่หนึ่ง สองคือมีช่วงบางช่วงเวลาของปี พระเสาร์กับพระราหูดันมาเจอกัน สองอันนี้เขาเจอกันยาก เพราะวิ่งด้วยความเร็วไม่เท่ากัน แต่พอวิ่งไปวิ่งมา ไปถึงจุดนึงไปน็อกรอบ เหตุการณ์เจอกันมันใช้เวลานาน แต่ปี 68 ดันมาเจอกันในราศีกุมภ์ พอเจอกันปุ๊บ ภาษาดวง สองราหูเป็นคู่มิตรใหญ่ หมายถึงการจับมือร่วมมือกันของคนสองฝ่าย”
“แต่มนุษย์โลกเวลาจับมือกัน มักไม่ค่อยเป็นเรื่องดี อาจหมายถึงความขัดแย้ง สงคราม มีช่วงที่แยกกัน จังหวะต้นปีทีนึง ปลายปีทีนึง เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างยากและเกิดขึ้นน้อย ต้องฝากระมัดระวังในทางโหราศาสตร์ คลื่นหรือแรงกระเพื่อมมันแรง เราชอบเปรียบว่าเหมือนทุ่มก้อนหินลงไปในน้ำ ทุ่มไปทีนึงก็เกิดคลื่นมาซัดทีนึง แต่ปี 68 มันทุ่ม 3 ก้อน ไม่ว่าอยู่ตรงไหนของบ่อ มันได้รับผลกระทบอย่างมหาศาลแน่นอน บวกกับความเป็นปีธาตุไฟ เพราะเป็นปีงูไฟแบบจีน ทำให้ปี 68 เป็นปีที่เราเดินโดยลำพังไม่ได้ ต้องมีเพื่อน มีที่ปรึกษา หาข้อมูล หาความรู้ไปหน่อย ถ้าเราเดินไปเดี่ยว ๆ เจอแบบนี้ โอกาสเซหรือมีปัญหา หรือให้กำลังใจตัวเอง อย่างน้อยต้องฝีกจิตใจเราให้แข็งแรง เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาที่มันอาจมีสิทธิ์เข้ามาหลาย ๆ เรื่องในเวลาเดียวกัน นี่พูดจากดวงดาวนะ ไม่ว่าเกิดขึ้นจากใคร ปีใหม่ก็ขอเป็นกำลังใจให้แล้วกัน ปีที่ผ่านมาเราก็เห็นเหตุการณ์เรื่องที่ไม่เคยเกิดในหลาย ๆ วงการ แล้วเห็นจากรายการนี้ด้วย (หัวเราะ)”
ถกสนั่น ผุดภาพเอาพลาสติกห่อหญิง ออกจาก รพ. หลังคลอด ตามความเชื่อห้ามโดนลม
ถกสนั่น เอาพลาสติกหุ้มคุณแม่ ออกจาก รพ. หลังคลอด ตามความเชื่อ ไม่ให้โดนลม เจ้าตัวลั่นใช้ได้ดี ราคาไม่แพง ต้องทำขนาดนี้ ?
ภาพจาก Sohu
วันที่ 28 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า ภาพของหญิงจีนรายหนึ่งที่ถูกห่อหุ้มอยู่ในถุงพลาสติกขนาดใหญ่ ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลหลังคลอดลูก กลายมาเป็นภาพไวรัลที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงอีกครั้ง เกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพของคุณแม่หลังคลอดตามวิถีดั้งเดิมของจีน
โดยพบว่าเหตุการณ์ในภาพเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา หญิงรายดังกล่าวสวมเสื้อกันหนาวขนเป็ดตัวยาวและหนา ถูกคนนำถุงพลาสติกใบใหญ่มาหุ้มไว้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ขณะพาเธอออกไปนอกโรงพยาบาลในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง เพื่อป้องกันไม่ให้เธอโดนลม
รายงานเผยว่า ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา อุณหภูมิในพื้นที่นั้นค่อนข้างหนาวเย็น ต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส แต่ภาพของหญิงที่ถูกหุ้มด้วยถุงพลาสติกนี้ยังคงเป็นอะไรที่แปลกตา
อย่างไรก็ตาม หญิงในภาพกล่าวว่า เธอเพิ่งคลอดลูก ร่างกายยังอ่อนแอ จึงไม่อยากโดนกระแสลมที่พัดมา แม่ของเธอจึงปิ๊งไอเดียนี้ขึ้นมา ซึ่งการนำถุงพลาสติกมาช่วยกันลมนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก เพราะมีราคาถูก แถมยังป้องกันลมได้ดีอีกด้วย
ภาพจาก Sohu
สำหรับการป้องกันคุณแม่เพิ่งคลอดไม่ให้โดนลมนั้น เป็นหนึ่งในแนวทางการดูแลคุณแม่ในช่วง 1 เดือนหลังคลอด ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาในประเทศจีน โดยในสังคมจีนจะมีข้อแนะนำหลังคลอดที่คุณแม่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด วิธีการเหล่านี้เป็นที่รู้จักในชื่อ zuo yue zi หรือการอยู่เดือน โดยมุ่งหวังให้หญิงที่เพิ่งคลอดได้รับการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายอย่างเหมาะสม
สำหรับสิ่งที่ห้ามทำในช่วงอยู่เดือน ตามความเชื่อของจีน เช่น ห้ามอาบน้ำ ห้ามสระผม ห้ามแปรงฟัน ห้ามโดนลม ห้ามยกของหนัก ห้ามกินผลไม้ รวมถึงห้ามกินอาหารรสเค็ม ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้มีรากฐานมาจากความเชื่อที่ยึดถือกันมายาวนาน ว่าหากไม่รักษาร่างกายให้อบอุ่น กินอาหารไม่เหมาะสม หรือพักผ่อนไม่เพียงพอหลังคลอด จะทำให้คุณแม่เกิดปัญหาสุขภาพระยะยาวตามมา เช่น ปวดศีรษะ วิงเวียน ปวดหลัง และปวดส้นเท้า
ด้าน ดร.หลัวหลี่ จากโรงพยาบาลด้านสูตินรีเวชในเมืองฉงชิ่ง
ย้ำว่า แม้กฎหลาย ๆ
อย่างที่มีการปฏิบัติสืบต่อกันมาจะขาดพื้นฐานสนับสนุทางวิทยาศาสตร์
แต่สิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดนั้น คือการหลีกเลี่ยงการโดนลมตรง ๆ
“เราสามารถเปิดหน้าต่างได้ครึ่งชั่วโมงในตอนเช้าและตอนบ่าย
เพื่อระบายอากาศ และควรทำให้มั่นใจว่าแม่และเด็กจะไม่โดนลมตรง ๆ”
ดร.หลัวหลี่ กล่าว
อนึ่ง
การดูแลคุณแม่ที่เพิ่งคลอดมักเป็นที่สนใจในประเทศจีนเสมอ
โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ก็พบชายจีนอีกคนที่นำถุงพลาสติกขนาดใหญ่มาห่อตัวภรรยาไว้ตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นกัน
โดยเขาให้เธอเอนตัวลงกับเก้าอี้ชายหาด
ขณะที่ญาติผู้ชายหลายคนเข้ามาช่วยกันอุ้มเธอจากโรงพยาบาลกลับไปบ้าน
ภาพจาก Sohu
ขอบคุณข้อมูลจาก SCMP
หญิงช็อก ประหยัดไฟเป็นเหตุ ถูกยกมิเตอร์-ปรับเป็นแสน อึ้งถูกมองขโมยใช้ไฟ
หญิงช็อก ประหยัดไฟเป็นเหตุ ใช้ไฟเดือนละไม่ถึง 10 ยูนิต ก่อนถูกยกมิเตอร์ไฟฟ้า พร้อมปรับโหดเป็นแสน อึ้งถูกกล่าวหาขโมยใช้ไฟ ปลอมตัวเลขมิเตอร์
ภาพจาก Sina
วันที่ 1 มกราคม 2568 เว็บไซต์ SAOstar รายงานเหตุการณ์สุดแปลกที่เกิดขึ้นในเมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน เมื่อ หญิงแซ่หลี่ ซึ่งใช้ไฟฟ้าเดือนละไม่ถึง 10 ยูนิต หรือคิดเป็นค่าไฟ 6 หยวน (ราว 28 บาท) ถูกบริษัทการไฟฟ้าในท้องถิ่นสั่งปรับโหดเป็นเงิน 40,000 หยวน (ราว 187,000 บาท) ทำให้ครอบครัวของเธอช็อกอย่างมาก ไม่เข้าใจว่าเหตุใดการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดของเธอถึงสร้างปัญหา และเหตุการณ์นี้ก็กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม
ปรากฏว่าระหว่างการตรวจสอบตามปกติ พนักงานของบริษัทการไฟฟ้าพบว่ามิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านหลังหนึ่งมีสัญญาณความผิดปกติ เพราะบ้านหลังนี้มีปริมาณการใช้ไฟไม่ถึงเดือนละ 10 ยูนิต มานานหลายปี ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยใช้ไฟฟ้าสูงกว่านี้ และเมื่อตรวจสอบเพิ่มเติม บริษัทก็พบสิ่งที่ต้องสงสัยว่าจะมีการปลอมแปลงตัวเลขบนมิเตอร์ไฟฟ้า เนื่องจากฝาครอบมิเตอร์เคยถูกเปิดออกในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียง 5 นาที ก่อนที่ไฟฟ้าของบ้านหลังนี้จะลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
ภาพจาก Sina
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทการไฟฟ้าเชื่อว่า
บ้านหลังนี้ลักลอบขโมยใช้ไฟ จึงตัดสินใจลงโทษด้วยการสั่งปรับจำนวน 5 เท่า
จากค่าไฟที่ควรจะเป็น คิดเป็นเงินจำนวน 40,000 หยวน
พร้อมส่งใบแจ้งค่าปรับไปยังครอบครัวของนางหลี่
อย่างไรก็ตาม นางหลี่นึกว่าเรื่องดังกล่าวเป็นแค่การหลอกลวง
เพราะไม่น่าจะมีใครถูกปรับจากการใช้ไฟฟ้าน้อย
แต่แล้ววันหนึ่งตอนที่เธอเลิกงานกลับมาบ้าน
กลับพบว่าไม่สามารถเปิดไฟในบ้านได้ ทั้ง ๆ
ที่บริเวณรอบบ้านก็มีไฟฟ้าส่องสว่างปกติ
แม้แต่เพื่อนบ้านก็ยังเปิดไฟได้ไม่มีปัญหา
เห็นดังนั้นเธอจึงใช้ไฟจากโทรศัพท์มือถือส่องไปยังมิเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่หน้าบ้าน
แล้วก็ต้องช็อกสุดขีดเมื่อพบว่ามิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านเธอหายไป ทั้ง ๆ
ที่ไม่น่าจะมีใครกล้าขโมย
เมื่อตรววจสอบกล้องวงจรปิด
เธอก็ยิ่งโมโหหนัก กลายเป็นว่าคนที่เอามิเตอร์ไฟฟ้าไป
ก็คือพนักงานการไฟฟ้าที่แอบมาถอดมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านเธอไปตรวจสอบ
โดยไม่แจ้งล่วงหน้า
เธอโทร.
ติดต่อไปหาบริษัทการไฟฟ้าทันที
แล้วก็แทบไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อทางบริษัทแจ้งว่า
พวกเขาสงสัยว่าบ้านของเธอแอบขโมยใช้ไฟ จึงต้องนำมิเตอร์ไฟฟ้ากลับไปตรวจสอบ
และนี่คือครั้งแรกที่เธอเคยได้ยินเรื่องที่มีคนถูกสงสัยว่าขโมยใช้ไฟ
เพราะใช้ไฟฟ้าที่บ้านน้อยเกินไป
“ต่อให้คุณเห็นว่ามิเตอร์ไฟบ้านฉันมีปัญหา ก็ไม่ควรถอดไปโดยไม่บอกเช่นนี้ คุณคิดว่าครอบครัวฉันจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงโดยไม่มีไฟฟ้า” นางหลี่ กล่าว
ที่น่าสิ้นหวังว่านั้น คือทางการไฟฟ้าอ้างว่าครอบครัวของเธอขโมยใช้ไฟ เพื่อลดค่าไฟในบิล
นางหลี่ชี้ว่า ครอบครัวของเธอไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านมากนัก
ใช้แค่ทีวีและตู้เย็นขนาดเล็ก ๆ
เธอไม่เคยซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินพลังงานสูงเลย
บ้านของเธอใช้ไฟฟ้าโดยประหยัดมาโดยตลอดตามประสาครอบครัวที่ยากจน นอกจากนี้
เมื่อลูกของเธอเริ่มไปโรงเรียน
ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของครอบครัวก็ยิ่งลดลงกว่าเดิม
“ฉันไม่มีเครื่องซักผ้า ไม่ได้เปิดตู้เย็น
ไม่ได้เปิดไฟไว้ระหว่างวันตอนไปทำงาน ฉันเปิดพัดลมแค่บางโอกาส
ฉันใช้ไฟฟ้าไม่มาก แล้วการใช้ไฟฟ้าน้อยจนเป็นปกติแบบนี้มันแปลกตรงไหน” นางหลี่ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางการไฟฟ้ายังคงยืนกรานที่จะลงโทษเธอ
ฐานขโมยใช้ฟฟ้าเพื่อลดค่าไฟในบิล
โดยยกเหตุผลเรื่องปริมาณการใช้ไฟฟ้าน้อยผิดปกติ
ร่วมกับมีความผิดปกติที่มิเตอร์ไฟฟ้ามาอ้าง
ซึ่งนางหลี่ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างหนักแน่น พร้อมวิงวอนให้สื่อกดดัน
เพื่อให้มีการส่งมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านเธอไปตรวจสอบที่หน่วยงานอิสระ
เพื่อยืนยันความจริง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
กลายมาเป็นที่ถกเถียงอย่างมากในสังคมจีน
บางคนมองว่าทางการไฟฟ้าควรเคลียร์เรื่องข้อกฎหมายให้ชัดเจน
ก่อนจะมีการลงโทษใด ๆ การถอดมิเตอร์ไฟฟ้าไปโดยไม่แจ้งล่วงหน้าแบบนี้
เหมือนขาดความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน
อย่างไรก็ตาม
ท้ายที่สุดก็ยังไม่มีความชัดเจนถึงข้อสรุปและทางออกของนางหลี่ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แม้จะเป็นข้อถกเถียงมานานหลายปี
ขอบคุณข้อมูลจาก SAOstar, Sina