KUBET-ข่าว สาระ บันเทิง วาไรตี้

            สาวแชร์ประสบการณ์เข้าร้านมือสอง เจอลูกแก้วทับกระดาษดีไซน์สวย จนพลิกเห็นข้อความสลักข้างใต้ รู้ที่มาแล้วขนลุก  วางคืนแทบไม่ทัน

ภาพจาก TikTok @lorrainemcbrearty1

              เมื่อวันที่
16 เมษายน 2568 เว็บไซต์นิวส์วีก เผยเรื่องราวจาก ลอร์เรน แม็คเบรตี้
หญิงวัย 53 ปี ในสกอตแลนด์
เธอมีงานอดิเรกชอบไปเลือกซื้อของจากร้านขายของมือสองเจ้าประจำ
จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เธอพบของชิ้นหนึ่งที่ดูสะดุดตา
เป็นลูกแก้วทับกระดาษที่มีดีไซน์สวยงาม ด้านในเป็นสีฟ้าปนกับเกล็ดสีเทา
เธอจึงหยิบขึ้นมาดูด้วยความสนใจ

              แต่ปรากฏว่าเมื่อเธอพลิกดูที่ด้านใต้
กลับเจอข้อความบางอย่างสลักเอาไว้
ซึ่งมันทำให้เธอหายจากความตื่นเต้นเปลี่ยนเป็นความไม่สบายใจทันที
โดยข้อความนั้นระบุว่า “ในความทรงจำอันเป็นที่รัก เถ้าถ่านในแก้ว”

              ลอร์เรน
เผยว่า เธอรู้สึกตกใจและขนลุกขึ้นมา โดยเธอเข้าใจว่า
มีเถ้ากระดูกของผู้วายชนม์ซึ่งเป็นญาติของใครบางคนบรรจุอยู่ในนั้น
เธอจึงรีบวางมันลงกลับคืนที่เดิมโดยเร็ว

              “ฉันไปร้านขายของมือสองเป็นประจำ
จึงไม่ค่อยกังวลเรื่องประวัติของเก่า หรือกลัวเรื่องวิญญาณสิงสถิต
แต่สำหรับชิ้นนี้มันไม่ใช่ ฉันคงรู้สึกไม่ดีถ้าจะมีเถ้ากระดูกจริง ๆ
ของใครบางคนมาอยู่ในบ้านของฉัน” ลอร์เรน กล่าว

ภาพจาก TikTok @lorrainemcbrearty1

              ชาวเน็ตหลายคนเข้าไปแสดงความคิดต่างมุมมอง
บางส่วนก็รู้สึกขนลุกเช่นกัน ในขณะที่บางรายรู้สึกเศร้าใจ
ไม่รู้ว่าญาติหรือครอบครัวของเขาต้องเผชิญกับเรื่องราวอะไร
หรือเกิดความผิดพลาดอะไร
จนทำให้เถ้ากระดูกของผู้เป็นที่รักต้องมาลงเอยอยู่ที่ร้านขายของมือสองเช่นนี้

              ภายหลังจากคลิปนี้ได้รับความสนใจมาก
ลอร์เรนจึงกลับไปที่ร้านมือสองที่เดิมอีกครั้ง
และตัดสินใจซื้อลูกแก้วที่ทับกระดาษชิ้นนี้กลับมาบ้าน
แล้วนำไปวางริมระเบียงที่มองเห็นวิวทะเล
เพื่อที่เจ้าของเถ้ากระดูกนั้นจะได้เป็นสุขสงบ

              อย่างไรก็ดี
มีบางส่วนเข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า
สิ่งที่อยู่ในลูกแก้วที่ทับกระดาษนี้อาจเป็นเพียงแค่ของโชว์หรือแบบจำลองเท่านั้น
ไม่ได้บรรจุเถ้าถ่านหรือกระดูกของจริง
อาจเป็นเพียงการเติมขี้เถ้าใส่ลงไปในแก้วเพื่อการตกแต่งให้ดูสวยงาม
แต่การสลักข้อความเช่นนั้นก็อาจจะทำให้เข้าใจผิดไปได้

ขอบคุณข้อมูลจาก Newsweek

          ดีไซเนอร์สาว แชร์อุทาหรณ์ ตาซ้ายบอดหลังฉีด Juvelook กระตุ้นคอลลาเจน หมอเผยสาเหตุที่ทำให้ตามองไม่เห็น

          กลายเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่จะเสริมความงาม กรณีวันที่ 20 เมษายน 2568 ผู้ใช้ TikTok @mhordisk หรือช่อง หมอดิสก์ โลกจะใจดีกับคุณ ออกมาเล่าเคสชวนตกใจในต่างประเทศ กรณีของ เอสเธอร์ ดีไซเนอร์สาว ออกมาแชร์ประสบการณ์ฉีดสกินบูสเตอร์ที่เกาหลี แต่กลับส่งผลข้างเคียงจนทำให้ตาซ้ายบอด

          หมอดิสก์ เล่าว่า วันที่ 14 มีนาคม 2568 เอสเธอร์ ไปฉีด Skin Treatment ที่ประเทศเกาหลี โดยเธอเลือกหัตถการที่รุนแรงน้อยที่สุด นั่นก็คือ ฉีด Skin Juvelook Volume และขณะที่แพทย์ฉีดรอบ ๆ ดวงตาข้างซ้าย เธอรู้สึกว่าตาซ้ายมองไม่เห็นทันที และเธอก็ได้แจ้งไปยังหมออยู่หลายรอบ ซึ่งทีมงานหมอและหมอแจ้งว่า เกิดจากยาชา ซึ่งเธอคนนี้ก็เชื่อหมอ จึงกลับบ้านไปสังเกตอาการต่อ

ภาพจาก TikTok @mhordisk

          ผ่านไป 1 วัน เธอพบว่าตาซ้ายมองไม่เห็น จึงได้ไปห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลเกาหลี แต่ปรากฏว่าเป็นวันเสาร์ ซึ่งเป็นช่วงที่หมอหยุด เธอจึงทำการทดสอบโดยการอ่านตัวหนังสือกับเจ้าหน้าที่ จึงปรากฏว่าเธอมองไม่เห็นจริง ๆ

          หลังจากนั้นเธอได้ไปตามหาจักษุแพทย์
และตรวจสอบอย่างจริงจัง โดยจักษุแพทย์ได้ยืนยันว่า Artery ที่มาเลี้ยง
Retina ด้านซ้ายอุดตัน ทำให้จอประสาทตาตัน จึงทำให้มองไม่เห็น

ภาพจาก TikTok @mhordisk

          การมองไม่เห็นในที่นี้
คือสูญเสียลานสายตาบางส่วน เวลามองหน้าสามี เธอกลับมองไม่เห็นหน้าเลย
เพราะมันจะมืดหมด แต่เธอจะเห็นตั้งแต่ผมขึ้นไป หลังเกิดเหตุการณ์นี้
เธอและสามีพยายามรักษาตาที่เกาหลี โดยใช้ทุกการรักษา แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น
และยังมองไม่เห็นเหมือนเดิม เธอจึงออกมาแชร์ประสบการณ์เพื่อเตือนภัยสาวๆ
ที่อยากฉีดหัตถการต่าง ๆ รอบดวงตาว่าให้ศึกษาให้ดี ให้เลือกหมอให้ดี

          ดูคลิป

          เจ้าบ่าวเอะใจแปลก ๆ แอบเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว สุดช็อก เกือบได้แต่งงานกับแม่ยาย ความจริงเผยรวมหัวกันจัดฉากทั้งสองครอบครัว

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 20 เมษายน 2568 เว็บไซต์ CTWANT เผยว่า เกิดเหตุการณ์ประหลาดน่าตกใจขึ้นที่งานแต่งงานหนึ่งในประเทศอินเดีย เมื่อเจ้าบ่าวต้องเผชิญกับเหตุไม่คาดฝัน อยู่ ๆ เจ้าสาวของเขาดันกลายเป็นแม่ม่ายวัย 45 ปี ทั้งที่ควรจะเป็นสาววัย 21 ปี และแท้จริงแล้วเธอไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นว่าที่แม่ยายของเขา โดยความจริงถูกเปิดเผยว่า ทั้งสองครอบครัวรวมหัวกันจัดฉาก

          เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองเมรฐะ ในรัฐอุตตรประเทศ ของอินเดีย ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่า โมฮัมหมัด อาซิม เจ้าบ่าววัย 22 ปี มีกำหนดเข้าพิธีแต่งงานกับมันตชา เจ้าสาววัย 21 ปี เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยงานแต่งงานนี้ได้รับการจัดเตรียมขึ้นเป็นอย่างดีโดยพี่ชายและพี่สะใภ้ของเขา

          อย่างไรก็ดี เมื่อถึงวันแต่งงาน
ในระว่างพิธีกล่าวคำสาบานของคู่บ่าวสาว ทางเมะลาวี
ซึ่งเป็นนักเทศน์ในศาสนาอิสลามที่มาทำหน้าที่เป็นประธานในพิธี
ได้ขานชื่อของเจ้าสาวว่า “ทาฮีรา”
เจ้าบ่าวจึงเกิดความสงสัยและเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกดู
ก่อนที่จะตกใจสุดขีด เมื่อพบว่า
เจ้าสาวของเขาไม่ใช่หญิงสาวที่เขาตกลงจะแต่งงานด้วย
แต่กลับเป็นแม่ของเธอที่ปลอมตัวมาเป็นเจ้าสาวแทน 

         
เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกทางเจ้าบ่าวจึงปฏิเสธการแต่งงาน
หลังจากนั้นเขายังพบหลักฐานว่า
ในวันแต่งงานวันนั้นมีใครบางคนแอบทำธุรกรรมโอนเงินจำนวน 500,000 รูปี (ราว
195,000 บาท) เขาจึงเชื่อว่า
ทั้งสองครอบครัวร่วมมือกันจัดฉากเพื่อให้เขาได้แต่งงานกับหญิงม่ายวัย 45 ปี
ในวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา เขาจึงไปแจ้งความกับทางตำรวจ
แต่กลับถูกพี่ชายและพี่สะใภ้ของเขาขู่จะใส่ร้ายเรื่องข่มขืน

         
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกตะลึงและประหลาดใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่
และกลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปในวงกว้าง
ภายหลังจากมีการเผยแพร่เรื่องราวออกมา กระทั่งทางตำวจได้ออกมาชี้แจงว่า
คดีความนี้ได้รับการยุติแล้ว ภายหลังจากมีการเจรจาตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย
โดยฝ่ายเจ้าบ่าวยอมถอนแจ้งความ ระบุว่า “เขาจะไม่ดำเนินคดีทางกฎหมายใด ๆ ในตอนนี้”  

ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT, NDTV

          พีช โผล่จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล 2 แสนให้ลุงกับป้า แต่มีคนชิงตัดหน้าจ่ายไปก่อนแล้ว พร้อมฝากจดหมายให้แทน

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ดาวแปดแฉก

          วันที่ 20 เมษายน 2568 เฟซบุ๊ก ดาวแปดแฉก รายงานว่า นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ กับนายสมิธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช เดินทางมาขอเยี่ยมคุณลุงคุณป้าคู่กรณีอุบัติเหตุที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พร้อมกับประสงค์ที่จะชำระค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นให้กับโรงพยาบาล แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ป่วยให้เข้าเยี่ยม

          เบื้องต้น พบว่า ค่ารักษาพยาบาลตอนนี้รวมกันแล้ว 1.2 แสนบาท ซึ่งทางญาติของลุงกับป้าได้ชำระไปเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อเช้าที่ผ่านมา

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ดาวแปดแฉก

          ต่อมา นายสมิทธิพัฒน์ นำเงินสด 2
แสนบาทฝากไว้กับโรงพยาบาล เพื่อเป็นค่ารักษา แต่ทางโรงพยาบาลระบุว่า
ไม่สามารถรับฝากได้ แต่ถ้าอยากเขียนจดหมายถึงลุงกับป้าก็เขียนได้
เดี๋ยวเอาไปให้ ดังนั้น นายสมิทธิพัฒน์ จึงเขียนจดหมายให้ลุงกับป้าดังนี้

         
“ผมนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ได้เดินทางมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลกับทางคุณพ่อ
ขอให้คุณลุงคุณป้าหายไว ๆ ครับ ผมขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยครับ
วันนี้ผมได้เดินทางมาเยี่ยมคุณลุงคุณป้า
แต่คุณลุงคุณป้ายังไม่อนุญาตให้เยี่ยม และผมได้นำเงินมาเพื่อจะจ่ายค่ารักษา
แต่ได้มีทางญาติคุณป้าและคุณลุงชำระค่ารักษาพยาบาลแล้วครับ
ผมยินดีที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล คุณลุงคุณป้าจนหายเป็นปกติครับ “

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ดาวแปดแฉก

          สำหรับสาเหตุที่จองได้ห้องนี้ มาจากตอนที่เธอกับเพื่อนไปเที่ยวหาด ก็ให้คุณยายไปเปิดห้องที่โรงแรม พอรู้ตัวอีกทีก็รู้ว่า ยายมาเปิดห้องแบบนี้ จะถอยก็ถอยไม่ทันแล้ว เป็นอะไรที่น่าเศร้ามาก

          ซื้อทาโกะยากิมากิน เห็นอะไรบางอย่างด้านบน ขยับทีหยึยมาก ก่อนได้รับคำเฉลย กินได้หรือไม่ได้ และคนดูคลิปนี้ 2.8 ล้าน

ภาพจาก TikTok @itsmemach

          หนึ่งในอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตที่คนไทยรู้จักและชอบ สิ่งนั้นต้องมีทาโกะยากิอยู่ในตัวเลือก ซึ่งในประเทศไทยก็มีร้านขายทาโกะยากิมากมายหลายร้าน

          วันที่ 19 เมษายน 2568 TikTok @itsmemach มีการลงคลิปทาโกะยากิ 8 ลูกใส่กล่องพลาสติก ทำใหม่ สด ๆ ร้อน ๆ ดูน่ากิน แต่เมื่อเพ่งดี ๆ พบว่า บนทาโกะยากิมีอะไรที่ขยึกขยึย เห็นแล้วไม่น่ารับประทาน

ภาพจาก TikTok @itsmemach

          ชาวเน็ตเห็นแล้วต่างมองว่า มันเหมือนปีกแมลงสาบ
แต่ความจริงนั้นไม่ใช่ เพราะที่แท้คือ ปลาคัตสึโอะแห้งที่โดนความร้อน
เลยมีปฏิกิริยาขยับไปมาจนเหมือนสิ่งมีชีวิต ความจริงนั้นกินได้
ไม่มีปัญหาอะไร

          ไวรัลดังกล่าว มีคนดูถึง 2.8 ล้านครั้ง เป็นยอดวิวที่ล้นหลาม เพราะคนสงสัยจริง ๆ ว่า สิ่งที่เห็นมันคืออะไร

ภาพจาก TikTok @itsmemach

 
          ไรเดอร์นั่งพักเหนื่อยร้านลอตเตอรี่ ลองเสี่ยงโชคเล่น ๆ ถูกรางวัลใหญ่ 4.5 ล้าน ดีใจสุดชีวิต แต่ยังไม่ทิ้งหน้าที่เอาอาหารไปส่งให้ลูกค้าอีก 3 ที่่

ภาพจาก Weibo

              เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12
เมษายน ที่ผ่านมา ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
วันนั้นสภาพอากาศไม่ค่อยเอื้ออำนวยมีลมแรง
ชายไรเดอร์ส่งอาหารรายหนึ่งจึงแวะไปนั่งพักและหลบลมที่ร้านลอตเตอรี่ระหว่างทาง
ขณะนั้นเขาจึงใช้เวลาว่างลองเสี่ยงโชคซื้อลอตเตอรี่แบบขูด
ก่อนที่ผลจะออกมาสุดเซอร์ไพรส์ เขาถูกรางวัลใหญ่มูลค่ามากถึง 1 ล้านหยวน
(ราว 4.5 ล้านบาท)  

              ไรเดอร์รายนี้ตกใจมากจนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
หลายคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างพากันเข้ามารุมดู
รวมไปถึงเจ้าของร้านก็มาดูด้วยเช่นกัน
ก่อนที่จะยืนยันว่าเขาถูกรางวัลใหญ่จริง
ไรดอร์ดีใจมากโผเข้ากอดทางเจ้าของร้านด้วยความตื่นเต้น
โดยจนถึงขณะนั้นเขาก็ยังใส่หมวกกันน็อกอยู่
ที่ไม่ได้ถอดคงเพราะคิดว่าจะพักแค่ไม่นาน
แต่กลับมีเหตุการณ์พลิกชีวิตเกิดขึ้น

              ทางเจ้าของร้านเผยว่า
ในตอนนั้น มีคนมาซื้อลอตเตอรี่ประมาณ 5 คน
แต่ไรเดอร์ส่งอาหารรายนี้เป็นเพียงผู้โชคดีคนเดียวที่ถูกรางวัล
แถมยังเป็นรางวัลใหญ่ด้วย

              อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ
หลังจากที่ไรเดอร์รายนี้ตั้งสติได้แล้ว
ทางเจ้าของร้านแนะนำให้เขานั่งพักก่อนสักครู่ แต่เขากลับรีบที่จะออกไป
ซึ่งไม่ใช่รีบกลับบ้าน
แต่เขาจะรีบนำอาหารไปส่งให้ลูกค้าตามรายการคำสั่งที่ยังเหลืออยู่

              “ผมยังมีออร์เดอร์อีก 3 ออร์เดอร์ที่รออยู่ ทั้งหมดเป็นลูกค้าที่รออาหารอยู่ ผมเลื่อนเวลาไม่ได้” ไรเดอร์ กล่าว

            คลิปวิดีโอเหตุกาณร์ดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันออกไปและดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นวงกว้าง
หลายคนเข้าไปชื่นชมในความโชคดีของไรเดอร์รายนี้ และกล่าวติดตลกขำ ๆ ว่า
ถ้าเป็นตัวเองถูกรางวัลใหญ่ขนาดดนี้ คงหยุดทำงานหรือลากออกในทันที
แต่ไรเดอร์รายนี้มีความรับผิดชอบมาก

           ทั้งนี้ รายงานเผยว่า
ทางธนาคารการเกษตรแห่งประเทศจีนได้ยืนยันเหตุการณ์นี้
โดยออกใบรับรองที่มีการระบุว่า
ศูนย์ออกสลากสวัสดิการปักกิ่งได้โอนเงินเงินรางวัลหลังหักภาษีแล้ว
เป็นจำนวน 800,000 หยวน (ราว 3.6 ล้าน) ให้กับผู้ซื้อสลากเมื่อเวลา 11.04
น. ของวันที่ 14 เมษายน 2568

ขอบคุณข้อมูลจาก Sohu