สรุปดราม่า บิว วราภรณ์ จากเรื่องหมาหลุด สู่แฮชแท็กร้อน ที่มาที่ไปคืออะไร คู่กรณีตอบแล้วต้องการอะไร หลังขอโทษแล้วไม่จบ – บิว ทวงคำขอโทษด้วย
กลายเป็นดราม่าที่โซเชียลให้ความใส่ใจกันมากในขณะนี้ จนดันแฮชแท็ก #บิววราภรณ์ ให้ติดเทรนด์ใน X แบบข้ามวัน ในเรื่องราวเกี่ยวกับสุนัขของ บิว วราภรณ์ อินฟลูเอนเซอร์สาวบิวตี้ ที่กัดสุนัขของเพื่อนบ้านตาย หลังสุนัขคู่กรณีหลุดออกมา ซึ่งแม้ว่าทางสามีกับแม่ของบิวจะไปขอโทษคู่กรณีแล้ว แต่ดูเหมือนเรื่องกลับไม่จบ ซ้ำยังกลายมาเป็นดราม่าในกลุ่มไลน์หมู่บ้านและลามต่อมายังโลกออนไลน์
โดยวันนี้ (9 เมษายน 2568) ในเพจ เจ๊มอย108 V1 ได้สรุปเหตุการณ์ไว้คร่าว ๆ ดังนี้
– สุนัขไซบีเรียนของบิว และสุนัขปอมของคู่กรณี หลุด
– สุนัขคู่กรณี ถูกสุนัขของบิวกัดตาย
– ธนิน (สามีบิว) และแม่บิว ไปเคลียร์ ไปขอโทษแล้ว ส่วนบิวไม่ว่างเพราะให้นมลูกอยู่ มีการพูดคุยและจบเรื่องตั้งแต่วันนั้นแล้ว พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง โดยมีการหามาตรการป้องกัน
– ต่อมา มีเหตุสุนัขหลุดอีก บ้านคู่กรณีไปบอกว่าคือสุนัขบ้านบิว แต่จริง ๆ ไม่ใช่
– จากนั้น แมวบ้านบาส (พี่ชายบิว) หลุด เจอสุนัขกัดตาย บาสลงคลิปในโซเชียล
– คู่กรณีบิวไปคอมเมนต์กับเพื่อน ว่ายังไม่ได้รับคำขอโทษจากบิว บอกว่าบิวใช้ชีวิตมีความสุข
งานนี้จึงเรียกคอมเมนต์สนั่น เมื่อชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยมองว่า ฝั่งบิวก็ให้สามีกับแม่ไปขอโทษแล้ว เรื่องก็ควรจะจบแล้ว แต่ฝั่งคู่กรณียังพยายามจี้จะเอาคำขอโทษจากบิว ทำแบบนี้ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วคู่กรณีต้องการอะไรกันแน่ และยังเป็นที่น่าสังเกตว่าตัวเองก็เป็นฝ่ายทำสุนัขหลุดเช่นกัน ทำไมคนที่ขอโทษถึงมีแค่เพียงฝั่งสุนัขตัวใหญ่
ภาพจาก Instagram bewandloogloog
คู่กรณีชี้แจงไทม์ไลน์ ขอจบดราม่า
ขณะที่ฝั่งคู่กรณีนั้นพบว่ายังมีการออกมาไลฟ์เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะโพสต์ขอโทษและชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งสามารถสรุปได้ ดังนี้
– วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม สุนัขของตนหลุดออกจากบ้าน และไปโดนกัดตายบริเวณส่วนกลาง ซึ่งตนพยายามตามหาเจ้าของสุนัขที่มากัด จนได้คลิปจากกล้องวงจรปิดเพื่อนบ้าน พบว่าเป็นสุนัขไซบีเรียน 2 ตัวของบ้านบิว
– ทางตนโทร. ติดต่อบ้านบิวครั้งแรกในช่วงเย็นวันนั้น แต่ฝั่งนั้นไม่อยู่บ้าน แจ้งว่าจะเข้ามาคุยวันอาทิตย์ (16 มีนาคม) หลังจากนั้นพวกตนก็จัดการทำศพสุนัขไป แต่ต่อมาพบว่าในวันที่นัดหมายทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีใครว่าง จึงขอนัดมาคุยกันตรงจุดเกิดเหตุ เวลา 20.00 น.
– ได้พบคู่กรณีและคุณแม่ มีการพูดคุยและได้ทำการขอโทษจากทั้ง 2 ฝ่าย ต่างฝ่ายต่างยอมรับว่าสุนัขหลุดออกมาทั้งคู่ ซึ่งตนได้กำชับถึงมาตรการของคู่กรณีต่อจากนี้ ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะสุนัขหลุดมาหลายรอบแล้ว ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก และยืนยัน ณ ตรงนั้นว่าไม่ได้อยากรับเงินชดเชยในส่วนใด ๆ ก็ตาม
– ทางตนแจ้งว่าอยากจะจบจากเหตุการณ์เพียงเท่านี้ก่อน เพราะยังทำใจไม่ได้ ซึ่งบ้านบิวก็ยืนยันว่าหากมีคำแนะนำหรืออยากให้ดูแลด้านใดให้ติดต่อได้เลย จากนั้นก็แยกย้ายกัน
– วันที่ 16 มีนาคม มีไซบีเรียนหลุดมาในหมู่บ้านอีกครั้ง ทางตนกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย จึงพิมพ์ลงในกลุ่มว่า “พอจะทราบชื่อน้องหมากับเจ้าของไหมคะ พอดีน้องหมาบ้านเราเพิ่งโดนไซบีเรียนในหมู่บ้านกัดตายไปเมื่อวันศุกร์ค่ะ ระวังกันด้วยนะคะ”
– บ้านบิวโทร. มาแจ้งว่าไม่ใช่สุนัขของฝั่งนั้น ซึ่งทางตนรับทราบ และไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ต่อ
– หลังจากเวลาผ่านไป 5-6 วันในวันที่ 20 มีนาคม ทางตนได้คุยกับคุณแม่และถามคุณแม่ว่าพร้อมจะเจอเจ้าของหมารึยัง คุณแม่แจ้งว่าพร้อมแล้ว ตนจึงพยายามโทร. นัดหมายคู่กรณี แต่คู่กรณีไม่รับสายและไม่ติดต่อกลับอีกเลย
ทำไมต้องไปคอมเมนต์คลิปบาส ?
สำหรับเหตุผลที่พวกตนไปคอมเมนต์ในโพสต์ของบาส ฝั่งเจ้าของสุนัขที่ตายชี้แจงว่า “ทางพวกเราทุกคนขอโทษจากใจจริง ที่เข้าไปใช้พื้นที่โซเซียลของคุณบาสสื่อสารไปยังคู่กรณี แต่เนื่องจากวันที่ 6 เมษายน พบว่าพี่ชายของคู่กรณีเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กัน จึงเข้าไปคอมเมนต์เพื่อแสดงความเสียใจและใช้พื้นที่นั้นสื่อสารไปถึงคู่กรณี เพื่อหวังให้คู่กรณีติดต่อกลับมา
ทั้งนี้ พวกตนได้รับการติดต่อจากฝั่งบิวในวันที่ 7 เมษายน ได้ข้อสรุปว่าฝั่งนั้นเข้าใจผิดว่าพวกตนไม่อยากพูดคุยถึงเรื่องนี้อีกแล้ว ทางตนจึงแจ้งให้ฝั่งบิวไปพูดคุยกันแล้วติดต่อกลับมาอีกครั้ง
เจ้าของสุนัขที่ตาย ต้องการอะไร ?
ท่ามกลางการตั้งคำถามจากโซเชียล ว่าคู่กรณีของบิวต้องการอะไรกันแน่จากความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ทั้งที่ดูเหมือนเราจะจบกันไปแล้ว ทางฝั่งนี้ชี้แจงว่า ตอนแรก ตนแค่ต้องการนัดหมายและต้องการคำขอโทษด้วยความจริงใจโดยตรงกับคุณแม่ของตน ซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขปอมตัวจริง แต่ไม่มีการตอบรับใด ๆ และในตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษนั้นอีกต่อไปแล้ว และยืนยันว่าไม่ได้อยากทะเลาะกับใคร ไม่ได้มีการต่อว่าคู่กรณีแต่อย่างใด ยอมรับว่าตอนนี้ทางตนโดนกระแสโซเชียลถล่มเยอะมาก ทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่ไม่แพ้กัน จึงจบประเด็นทั้งหมดลงเท่านี้
บิว วราภรณ์ ฟาดกลับ บอกว่าจบแต่ไม่จบ ไม่เคยขอโทษหลังทำคนทั้งหมู่บ้านเข้าใจผิด
ขณะที่ล่าสุด (9 เมษายน) บิว วราภรณ์ ก็ได้ลงข้อความชี้แจงผ่านไอจีสตอรี่ถึงดราม่าที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “น้องสาวส่งมาให้ดูเพิ่งเห็นตอนเช้า และเพื่อน ๆ ส่งมาให้ดูอีกมากมาย เห้ออออ เหนื่อยแทนอะ ทำไมเค้าถึงดื้อจัง ไม่ยอมจบ ๆ เสียใจเรื่องน้องหมาแล้ว ต้องมานั่งทะเลาะกับคนอื่น และคนในโซเชียลอีก มันควรพอได้แล้วมั้ยอะ เอาเวลาไปทำบุญ ทํางาน มีประโยชน์กว่าเยอะเลยนะจริง ๆ แล้วเอารูปน้องหมาที่เสียมาลงอีก Omg !!!!!”
พร้อมกันนั้นยังชี้ว่า หลังจากที่ฝั่งเธอแจ้งไปแล้วว่าสุนัขที่หลุดในวันที่ 16 มีนาคม ไม่ใช่สุนัขบ้านเธอ ฝั่งคู่กรณีก็ไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ต่อ ทำให้จนทุกวันนี้คนในหมู่บ้านก็ยังเข้าใจบ้านเธอผิด เพราะพวกเธอไม่เคยแก้ตัวในแชทหมู่บ้าน
ในส่วนนี้คู่กรณียังคงไม่ขอโทษเธอและครอบครัว ที่มากล่าวหาบ้านเธอจนทำให้คนในหมู่บ้านเข้าใจผิด จึงอยากถามกลับว่า “เอาไงอันนี้ ควรออกมาขอโทษไหม เพราะทุกวันนี้แชทในหมู่บ้านอันนี้ก็ยังอยู่ และคนในหมู่บ้านก็เข้าใจผิดอยู่”
พร้อมกันนั้นยังลงคลิปวงจรปิด ยืนยันว่าในวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม สุนัขของเธอทั้ง 2 ตัวอยู่ในบ้านจริง ๆ ไม่ได้หลุดออกไปตามที่ถูกกล่าวหา ส่วนที่อีกฝั่งอ้างว่าวันอาทิตย์เธอไม่ว่าง ขอถามว่าเอาอะไรมาไม่ว่าง วันอาทิตย์อยู่บ้านทั้งวัน
พร้อมกันนั้น บิว ยังเปิดใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า
“ใจจริงอยากจบตั้งแต่ไลฟ์แล้ว ขอโทษทุกคนอีกครั้งที่ต้องทำแบบนี้ บิวขออนุญาต TOXIC เพราะทนไม่ได้จริง ๆ คำพูดคนละเรื่องกันไปหมด 14 มีนา ขอเคลียร์จบ ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก เพราะทุกคนที่บ้านเค้าเสียใจมาก ๆ ไม่มีใครอยากพูดถึงเรื่องนี้ และก่อนลากัน กอดมะมาด้วย และบอกว่าให้ธนินรีบกลับบ้าน เพราะมีลูกเล็ก
แต่วันนี้คือ… เต็มโซเชียลไปหมดแล้วววว !! วันนี้บิวขอปกป้องตัวเองและครอบครัวตัวเองค่ะ อีกอย่างเค้าบอกว่าอัดเสียงตอนโทรศัพท์ คุยกับธนินไว้ใช่ไหม !!! เอามาเปิดเลย ๆๆๆๆๆ อยากให้ทุกคนรู้ว่าบิวกับธนินพูดเรื่องจริงไหม ทนเขาด่าว่า หน้าระรื่น ในโซเชียล มีความสุขกันมากกกกก ไม่เห็นเสียใจเลย คุณมีแสง / ถ้าผมเป็นคุณธนิน ผมจัดการเรื่องนี้ได้ดีกว่านึกว่านี้แน่นอน คุณใช้ชีวิตมีความสุขสะเหลือเกินนนน
คือต้องห้ามมีความสุขด้วยหรอคับบบ”