ชื่นชม นักเรียนหญิง เข้าช่วย CPR ลุงขี่ซาเล้งหมดสติกลางถนน ก่อนถึง รพ.

          นักเรียนหญิงช่วยกู้ภัยปั๊มหัวใจช่วยคุณลุงขี่ซาเล้งหมดสติ ก่อนฟื้นชีพและส่งไปรักษาที่ รพ. เผยรู้เทคนิคการ CPR มาจากไหน



ชื่นชมนักเรียนหญิง ช่วย CPR ลุงหมดสติ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

         วันที่ 7 มกราคม 2568 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า ช่วง 14.00 น. วันที่ 6 มกราคม ทีมกู้ชีพเทศบาลตำบลเชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า พบคนเป็นลมชักหมดสติบริเวณใกล้ศาลเจ้าเชิงทะเล ถ.ศรีสุนทร ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จึงนำรถพยาบาลออกตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบชายสูงอายุขี่รถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้างหมดสติอยู่บนรถ ซึ่งมีภาวะหัวใจหยุดเต้น จึงเข้าให้การช่วยเหลือทำ CPR

          ขณะนั้นเนื่องจากทีมต้องทำหัตถการหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำ CPR ติดตั้งเครื่อง AED เปิดทางเดินหายใจ เพื่อช่วยหายใจในการให้ออกซิเจน และต้องประสานศูนย์สั่งการ จึงมีการร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น และได้รับการตอบรับจากนักเรียนของโรงเรียนเชิงทะเลวิทยาคม โดย น.ส.เบญจวรรณ หรือ น้องรินดา ซึ่งอยู่ในชุดนักเรียนมัธยม รีบเข้าไปให้การช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ พร้อมด้วยเครื่อง AED ประเมินและสั่งช็อกจำนวน 2 ครั้ง ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากที่เกิดเหตุนำส่งโรงพยาบาล

ชื่นชมนักเรียนหญิง ช่วย CPR ลุงหมดสติ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

          สอบถามน้องรินดาหลังช่วยคุณลุงด้วยการปั๊มหัวใจด้วยเครื่อง AED อย่างกู้ภัยมืออาชีพ
ท่ามกลางความแปลกใจของทีมกู้ชีพในที่เกิดเหตุ จนทราบว่า น้องรินดาและเพื่อน
ๆ เคยอบรม CPR จากโครงการที่ อบจ.ภูเก็ต จัดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน
โดยมีทีมผู้ฝึกสอนจากสมาคม Teach for Life และบริษัท Guardians of Life
จำกัด ทำให้น้องและเพื่อน ๆ ร่วมชั้นเรียนได้เรียนรู้การ CPR อย่างถูกวิธี ตลอดจนเรียนรู้การใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิต
จนกระทั่งมาพบกับเหตุการณ์จริงบนท้องถนน
และสามารถนำวิชาที่เรียนมาใช้ได้จริง
ซึ่งน้องรินดาดีใจเป็นอย่างมากที่สามารถช่วยคุณลุงขี่ซาเล้งได้

          อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าลุงขี่ซาเล้งซึ่งถูกกู้ชีพขึ้นมาได้และส่งโรงพยาบาล ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว สาเหตุจากหัวใจวายเฉียบพลัน

ชื่นชมนักเรียนหญิง ช่วย CPR ลุงหมดสติ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

           
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้

คู่รักจัดวิวาห์ สินสอด 68 ล้าน ยกโรงแรม – ทองคำ 100 แท่ง สมศักด์ศรีสะใภ้ร้านทอง

          งานวิวาห์เล่นใหญ่ จัดสินสอดเบา ๆ 68 ล้าน หอบทอง 100 แท่ง ชุดเครื่องเพชร ยกคฤหาสน์-โรงแรมให้ สมศักดิ์ศรีสะใภ้ร้านทอง



คู่รักจัดวิวาห์ สินสอด 68 ล้าน
ภาพจาก TikTok @haotruongmakeup


          วันที่ 5 มกราคม 2568 เว็บไซต์ afamily รายงานว่า บ่าวสาวคู่หนึ่งในเวียดนาม ทำให้ชาวเน็ตต่างตื่นตะลึงกับงานวิวาห์สุดยิ่งใหญ่ต้อนรับต้นปี ด้วยพิธีแต่งงานสุดอลังการ จัดเต็มทั้งการตกแต่งและสินสอด สมศักดิ์ศรีทายาท 2 ธุรกิจใหญ่ โดยเจ้าสาวนั้นเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างในจังหวัดเหิ่วซาง ส่วนเจ้าบ่าวเป็นลูกชายเจ้าของร้านทองชื่อดังในจังหวัดเกิ่นเทอ

          ภาพของคู่บ่าวสาวที่ชาวเวียดนามชื่นชมว่าเหมาะสมกันสุด ๆ นี้ เรียกเสียงฮือฮาอย่างมากเมื่อมีการเปิดเผยบนโลกออนไลน์ ไม่เพียงแค่ผู้คนจะร่วมอวยพรให้คู่บ่าวสาว แต่ยังต้องทึ่งกับสินสอดสุดทุ่มที่แม่เจ้าบ่าวหอบหิ้วมาสู่ขอเจ้าสาวถึงบ้าน

คู่รักจัดวิวาห์ สินสอด 68 ล้าน
ภาพจาก TikTok @haotruongmakeup

          โดยพบว่า
ของขวัญสุดพิเศษที่แม่เจ้าบ่าวเตรียมมารับขวัญสะใภ้สาว
คือหนังสือกรรมสิทธิ์ในโรงแรมใจกลางจังหวัดเกิ่นเทอ พร้อมคฤหาสน์มูลค่า 1.9
หมื่นล้านดอง (ราว 25 ล้านบาท)

         
นอกจากนี้ยังมีสินสอดเป็นเงินสด 600 ล้านดอง (ราว 817,000 บาท) ทองคำแท่ง
100 แท่ง เครื่องประดับทองคำ ชุดเครื่องประดับเพชร 5 ชุด
นับรวมมูลค่าสินสอดและของขวัญจากแม่เจ้าบ่าว ตกเป็นเงินราว 5 หมื่นล้านดอง
(ราว 68 ล้านบาท)
 

คู่รักจัดวิวาห์ สินสอด 68 ล้าน
ภาพจาก TikTok @haotruongmakeup


         
สำหรับพิธีวิวาห์นี้จัดขึ้นที่บ้านของเจ้าสาว
ซึ่งจากภาพที่ปรากฏนั้นเผยให้เห็นชีวิตความเป็นอยู่สุดหรูหราของครอบครัวเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี
โดยพบว่าภายในงานมีการตกแต่งแบบตะวันตก
บริเวณห้องโถงจัดงานประดับดอกไม้สดสีแดง ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม
ภายในบ้านยังมีเครื่องเรือนจำพวกโต๊ะเก้าอี้ที่ทำจากไม้แกะสลัก
สมฐานะความมั่งคั่งของเจ้าสัวบริษัทรับเหมาก่อสร้าง
 

คู่รักจัดวิวาห์ สินสอด 68 ล้าน
ภาพจาก TikTok @haotruongmakeup  

คู่รักจัดวิวาห์ สินสอด 68 ล้าน
ภาพจาก TikTok @haotruongmakeup  

คู่รักจัดวิวาห์ สินสอด 68 ล้าน
ภาพจาก TikTok @haotruongmakeup  

คู่รักจัดวิวาห์ สินสอด 68 ล้าน
ภาพจาก TikTok @haotruongmakeup  

คู่รักจัดวิวาห์ สินสอด 68 ล้าน
ภาพจาก TikTok @haotruongmakeup  

คู่รักจัดวิวาห์ สินสอด 68 ล้าน
ภาพจาก TikTok @haotruongmakeup  

ขอบคุณข้อมูลจาก afamily

พ่อช่วยลูกชายหาเมีย จัดงานแต่งได้ 2 วันเจอดี ลูกสะใภ้ใหม่เล่นแสบ เจ็บทั้งครอบครัว

          อุทาหรณ์พ่อวัย 72 ช่วยลูกชายหาเมีย จัดงานแต่งได้ 2 วันเจอดี ลูกสะใภ้ใหม่เล่นแสบ เงินเกือบล้านหายวับ เจ็บหนักทั้งครอบครัว



พ่อช่วยลูกชายหาเมีย จัดงานแต่งได้ 2 วันเจอดี
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล


          พ่อแม่ทุกคนล้วนรักลูก อยากเห็นลูกแต่งงานมีคู่ครองที่ดีดูแลกันไปจนแก่เฒ่า ทว่าเรื่องชีวิตคู่นั้นต้องใช้เวลา หากด่วนตัดสินใจทำอะไรอย่างรีบร้อน อาจจะต้องมานั่งช้ำใจหนักในภายหลัง หรือในบางครั้งอาจจะเห็นผลทันตาได้เพียงแค่ไม่กี่วัน เช่นเดียวกับเรื่องนี้

          วันที่ 6 มกราคม 2568 เว็บไซต์มิเรอร์มีเดีย เผยเรื่องราวจากชายรายหนึ่งชื่อสกุลหวัง อายุ 72 ปี อาศัยในมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน เขาอยากช่วยให้ลูกชายได้แต่งงาน จึงจัดการติดต่อกับบริษัทจัดหาคู่ในท้องถิ่น จนทำให้ได้เจอกับหญิงสาวชื่อสกุลอวี้ จากเมืองกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจว เมื่อเดือนมิถุนายน ปีที่ผ่านมา จากนั้นครอบครัวของหวังก็พาลูกชายไปทำความรู้จัก

          ในการพบกันครั้งแรก
ครอบครัวของหวังต้องการให้ลูกชายได้แต่งงานโดยเร็ว จึงตัดสินใจยอมเซ็นสัญญา
โดยจ่ายค่าสินสอดเบื้องต้น 20,000 หยวน (ราว 94,000 บาท)
ค่าบริการจัดหาคู่ 150,000 หยวน (ราว 708,000 บาท)
และค่าสินสอดเพิ่มเติมอีก 148,000 หยวน (ราว 698,000 บาท)
เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ จึงจัดงานแต่งงานกันเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม
ที่มณฑลหูเป่ย์ บ้านของครอบครัวหวัง

          ทว่า
หลังจากงานแต่งงานผ่านไปได้ 2 วัน อวี้ได้อ้างกับครอบครัวหวังว่า
ต้องกลับไปที่กุ้ยหยางเพื่อทำงานสุดท้ายของเธอให้เสร็จ
โดยขอเงินค่าใช้จ่ายจากครอบครัวหวังไปเป็นเงิน 20,000 หยวน (ราว 94,000
บาท) หลังจากนั้นช่วงปลายเดือนสิงหาคม อวี้ได้กลับมา
แต่เธอกลับมีท่าทีเย็นชา อีกทั้งยังโกหกเรื่องงานที่นั่น

         

ลูกชายของหวังจึงตามสืบเรื่องภรรยาของเขาจนได้รู้ว่างานที่เธออ้างถึงนั้นไม่มีอยู่จริง
ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แย่ลงจนถึงขั้นแยกกันอยู่ ต่อมาในดือนกันยายน
หวังได้เดินทางไปที่เมืองกุ้ยหยางด้วยตนเองเพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้
ก่อนที่จะได้รับการยืนยันว่า
ลูกสะใภ้ของเขาลาออกจากที่ทำงานที่เธออ้างไปตั้งนานแล้ว

         
หลังจากความจริงถูกเปิดเผย
ลูกสะใภ้ของหวังก็หนีหายตัวไปไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน
หวังจึงฟ้องร้องให้ทางบริษัทจัดหาคู่คืนเงินค่าบริการจนได้คืนมาทั้งหมด
พร้อมทั้งให้ทางอวี้คืนเงินค่าสินสอด เนื่องจากผิดสัญญาการแต่งงาน
ซึ่งตอนแรกเธอสัญญาว่าจะคืนสินสอดให้จำนวน 120,000 หยวน (ราว 566,000 บาท)
แต่ต่อมาการขาดการติดต่อไป

         
สรุปแล้วหวังต้องสูญเงินไปกว่า 168,000 หยวน (ราว 793,000 บาท)
ทั้งไม่ได้ลูกสะใภ้ แถมยังต้องมานั่งทุกข์ใจในห้วงสุดท้ายของชีวิต
หวังกล่าวว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สภาพจิตใจของเขาและภรรยาได้รับผลกระทบอย่างมาก
ลูกชายของเขาก็กลายเป็นโรคซึมเศร้าจากปัญหาชีวิตและครอบครัวแตกสลาย

ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media

กดเงินตู้ ATM เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท ทั้งที่บอกว่าฟรี เดี๋ยวก่อน คนละฟรีแล้ว

          กดเงินจากตู้เอทีเอ็ม สลิปเขียนไว้ชัด ๆ ว่า “ฟรี” แต่ทำไมต้องเสีย 10 บาท งานนี้ชาวเน็ตบอก ก็ถูกแล้วนี่หน่า แล้วมันฟรียังไงดูสลิปแล้วรู้ทันที



กดเงินตู้ ATM กลับเสีย 10 บาท
ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 7388435 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          เวลาที่เราไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มในพื้นที่นอกเขตจังหวัด สิ่งหนึ่งที่ควรรู้คือ มันจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มมาด้วยอีก 10 บาทต่อการกด 1 ครั้ง ซึ่งถ้าเจอค่าธรรมเนียมเพิ่มก็อย่าเพิ่งแปลกใจว่า ทำไมเงินถึงถูกหักเพิ่มจากที่ถอน

          วันที่ 6 มกราคม 2568 คุณ สมาชิกหมายเลข 7388435 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีการตั้งกระทู้ถามเรื่อง “เดียวนี้กดเงินไม่ใช้บัตรเสียค่าธรรมเนียมละหรอ” พร้อมกับเล่าว่า เธอไปกดเงินจากตู้ ATM ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง แต่เมื่อกดเงินออกมาแล้ว เช็กในบัญชีกลับถูกหักไป 10 บาท ทั้งที่ในสลิปเขียนว่า “ฟรี” เอาไว้

กดเงินตู้ ATM กลับเสีย 10 บาท
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          อย่างไรก็ตาม
เรื่องนี้มีเฉลยอย่างรวดเร็ว เพราะสลิปที่เธอแนบมาด้วยนั้น มีคำว่าฟรีจริง
แต่เป็นแค่คำพ้องเสียง เพราะภาษาอังกฤษเขียนว่า Fee ที่แปลว่า ค่าธรรมเนียม
ทำให้เธอเข้าใจผิด

          กล่าวโดยสรุปง่าย ๆ คือ

          – FEE แปลว่าค่าธรรมเนียม

          – FREE แปลว่าฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย

กดเงินตู้ ATM กลับเสีย 10 บาท

กดเงินตู้ ATM กลับเสีย 10 บาท

วงในชี้เป้าลับ ชี้เวลาไหนผู้ชายนอกใจคนรัก ไม่ใช่ต้องกลับดึกเสมอไป รู้แล้วอื้อหือ

          วงในมาเอง เปิดความลับหลังสถานบริการทางเพศ ชี้เป้าเวลาไหนที่ผู้ชายนอกใจคนรัก ไม่ใช่ต้องกลับดึกเสมอไป เผยช่วงพีคที่นึกไม่ถึง



ผู้จัดการสถานบริการทางเพศ ชี้เป้าลับ บอกชัดเวลาไหนผู้ชายนอกใจ

          การนอกใจดูเหมือนเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเพศชาย บางคนแอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย เลี้ยงดูเป็นตัวเป็นตน หรือขนาดสร้างครอบครัวมีลูกด้วยกัน ในขณะที่บางคนเลือกไปใช้บริการสถานเริงรมย์เพื่อบำบัดความใคร่เป็นการชั่วคราว ซึ่งคนรักของพวกเขาเหล่านี้อาจจะจับได้บ้าง แต่ในบางครั้งก็ได้แต่สงสัย…

          วันที่ 4 มกราคม 2568 เว็บไซต์ news.com.au เผยเรื่องราวชวนฮือฮาบนโลกออนไลน์ เมื่อ แคทเธอรีน เดอ นัวร์ ผู้จัดการสถานบริการทางเพศแบบถูกกฎหมายแห่งหนึ่งในต่างประเทศ ได้ออกมาโพสต์โซเชียลแชร์เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังจากในสถานที่ทำงานของเธอ เผยข้อมูลว่า เวลาไหนที่ผู้ชายนอกใจคนรัก ซึ่งไม่ใช่แค่เวลาดึกตามที่หลายคนอาจจะเข้าใจ

          แคทเธอรีน เผยว่า สถานบริการทางเพศ หรือที่เรียกกันว่าซ่องโสเภณีที่เธอทำงานนั้น มีจำนวนด้วยกันถึง 100 ห้อง จะปิดในช่วงเวลา 06.00-10.00 น. เพื่อทำความสะอาด และจะกลับมาเปิดให้บริการต่อ แต่ชั่วโมงที่จะเริ่มฮอตสุด ๆ ไม่ใช่ตอนเริ่มเปิดให้บริการ แต่เป็นช่วงเที่ยง เพราะช่วงพักเที่ยงคือเวลาที่เหล่าพนักงานออฟฟิศจะแห่มากันอย่างคึกคัก

          และรอบต่อไปก็คือระหว่าง 15.00-17.00 น. ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เหล่าชายที่เลิกงานเร็วจะมาใช้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น “ผู้ชายที่แต่งงานแล้ว” เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถกลับบ้านเกินเวลาปกติหรือค้างคืนได้ จึงต้องมาใช้บริการในเวลานี้เพื่อไม่ให้ที่บ้านสงสัย

          ช่วงเวลา 18.00-20.00 น.
จะเป็นเวลาของคนเลิกงานกะดึกที่เริ่มทยอยตบเท้ากันเข้ามา
แต่ก็จะยังไม่มากเท่าไหร่นัก จะไปเริ่มคึกคักกันตอนเวลาประมาณ 01.00-04.00
น. เป็นกลุ่มลูกค้าที่ไปปาร์ตี้ที่อื่นกันมาก่อน แล้วถึงมาปิดจ็อบที่นี้
ตอนนั้นพนักงานจะยุ่งกันมากตั้งแต่บาร์เทนเดอร์ พนักงานต้อนรับ
คนทำความสะอาด และสาวให้บริการ

         
ลูกค้าส่วนใหญ่จะกลับบ้านตอนเวลา 05.00 น.
ดังนั้นในชั่วโมงสุดท้ายพนักงานสาว ๆ
จึงได้มีเวลาหายใจหายคอและเตรียมตัวสำหรับเลิกงาน

         
ภายหลังจากเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกมา
ผู้ใช้โซเชียลต่างให้ความสนใจเข้าไปแสดงความคิดเห็นประหลาดใจมากมาย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้
แคทเธอรีนยังได้เผยเรื่องสุดแปลกที่เธอเคยเจอมาจากการทำงานที่นี่ด้วย

         
“มีลูกค้ารายหนึ่งจ่ายเงินให้สาวบริการมากถึง 4,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
(ราว 96,000 บาท) แต่ไม่ได้ขึ้นห้องกับเธอ เขาขับรถพาเธอไปที่สุสาน
ทั้งคู่แบ่งบุหรี่กันสูบ แล้วเขาก็ขับรถพาเธอกลับทันที” และ
“มีแขกผู้ชายรายหนึ่งแต่งตัวเป็นหมีขั้วโลกเพื่อเล่นบทบาทสมมติ
ส่วนอีกรายขอทำเป็นช่างประปาและใช้เวลาทั้งหมดซ่อมโถส้วม”

         
นอกเหนือจากทั้งหมดนี้ แน่นอนว่าแคทเธอรีนเคยเจอประสบการณ์ “ความลับแตก”
ไม่ว่าจะเป็นแฟนหรือภรรยาของเหล่าลูกค้าชาย
จับได้ว่าคนรักนอกใจตามมาโวยวายอาละวาดที่สถานบริการ
และเธอต้องจัดการกับปัญหานี่อยู่บ่อยครั้งเลยทีเดียว 

ขอบคุณข้อมูลจาก news.com.au

อินฟลูเอนเซอร์สำลักอาหารดับ สลดเพิ่งแจ้งข่าวตั้งครรภ์ ทิ้งลูกน้อย 2 คนไว้ข้างหลัง

           อินฟลูเอนเซอร์สาว สำลักอาหารดับ ครอบครัวช็อกเห็นเหตุการณ์ต่อหน้า สุดสลดเพิ่งแจ้งข่าวตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 ยังไม่คลอด ทิ้งลูกเล็กอีก 2 คนไว้



อินฟลูเอนเซอร์สำลักอาหารดับ
ภาพจาก Instagram killadamente

           วันที่ 6 มกราคม 2568 เว็บไซต์ news.com.au รายงานว่า แคโรล อโคสตา วัย 27 ปี อินฟลูเอนเซอร์สาวที่ชาวเน็ตรู้จักกันในชื่อ Killadamente ชีวิตอย่างกะทันหัน หลังสำลักอาหารขณะทานอาหารมื้อเย็นร่วมกับคนในครอบครัว ซึ่งแม้ว่าทางครอบครัวจะรีบนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้

           ข่าวการจากไปของเธอถูกเปิดเผยโดยน้องสาว ซึ่งโพสต์อินสตาแกรมว่า “ฉันรักคุณนะพี่สาว และฉันจะรักคุณเสมอ ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานพี่สาวที่มีหัวใจยิ่งใหญ่ผู้นี้มาให้ ไปสู่สุขคตินะคะ”

อินฟลูเอนเซอร์สำลักอาหารดับ
ภาพจาก Instagram killadamente

           รายงานเปิดเผยว่า แคโรล ย้ายจากสาธารณรัฐโดมินิกัน มาอยู่ที่สหรัฐฯ ตอนอายุ 12 ปี ก่อนหน้านี้เธอเคยถูกบุลลี่อย่างมากจากเรื่องน้ำหนัก แต่เธอได้เปลี่ยนความโหดร้ายนั้นเป็นอารมณ์ขัน จนมีผู้ติดตามในโซเชียลจำนวนมาก โดยขณะนี้เธอเป็นคุณแม่ลูก 2 ที่กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 และเพิ่งแจ้งข่าวการตั้งครรภ์ให้แฟน ๆ ทราบเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567

           สำหรับลูกคนโตของเธอ ขณะนี้อายุเกือบครบ 2 ขวบแล้ว ส่วนลูกคนที่ 2 นั้นเพิ่งคลอดไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567

อินฟลูเอนเซอร์สำลักอาหารดับ
ภาพจาก Instagram killadamente

           การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของเธอ
สร้างความช็อกแก่ครอบครัวอย่างมาก โดยพบว่าเหตุสลดเกิดขึ้นวันที่ 3 มกราคม
ที่ผ่านมา ขณะที่แคโรลรับประทานมื้อเย็นกับครอบครัวที่ร้านอาหารในนิวยอร์ก
อยู่ ๆ เธอก็สำลักและหายใจไม่ออก จากนั้นอาการก็แย่ลง
ครอบครัวที่ตื่นตกใจจึงรีบพาเธอส่งโรงพยาบาล
แต่น่าเศร้าที่ต้องสูญเสียในที่สุด

           ขณะนี้ ครอบครัวยังคงรอผลการชันสูตรอยู่ แต่พวกเขาเชื่อว่าแคโรลเกิดหัวใจวาย หลังมื้ออาหารดังกล่าว

อินฟลูเอนเซอร์สำลักอาหารดับ
ภาพจาก Instagram killadamente

อินฟลูเอนเซอร์สำลักอาหารดับ
ภาพจาก Instagram killadamente

ขอบคุณข้อมูลจาก news.com.au

สาวดื่มแต่ชาเย็น ไม่เน้นน้ำเปล่า สุดท้ายต้องผ่านิ่ว โอดค่าผ่าตัดโหดกว่าชาเย็น

          ดื่มแต่ชาเย็น ไม่เน้นน้ำเปล่า สุดท้ายกลายเป็นนิ่วเขากวาง ต้องผ่าตัด สาวโพสต์เตือนใจสายหวาน ค่าชาเย็น 25 ผ่าตัดเป็นแสน



สาวดื่มแต่ชาเย็น ไม่เน้นน้ำเปล่า สุดท้ายต้องผ่านิ่ว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา

         เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก กรรณิการ์ ง่วนสน ออกมาเล่าเรื่องราวของเธอ “ผลของการดื่มแต่ชาเย็น ไม่เน้นน้ำเปล่า” โดยระบุว่าเธอเป็นคนที่ชอบกินชาเย็น เรียกว่ากินทุกวัน ตื่นเช้ามาต้องหิ้วแก้วชาเย็น วันไหนไม่ได้กินจะมีอาการปวดหัว เบลอทั้งวัน

         จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2567 ผลตรวจสุขภาพเจอก้อนนิ่วในกรวยไต ขนาดใหญ่มาก 5.4 x 3 เซนติเมตร โดยไม่มีอาการอะไรเลย ซึ่งเดือนเมษายน โรงพยาบาลแจ้งว่าต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้อง เพราะนิ่วของเธอเป็นนิ่วเขากวาง มีขนาดใหญ่มาก แค่กินยานิ่วไม่หลุด โดยคาดว่าเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปี ที่มีนิ่วแฝงในกรวยไตข้างซ้าย เธอจึงขอกลับมาตัดสินใจ

         ต่อมาเดือนพฤษภาคม เธอตัดสินใจเดินทางมาโรงพยาบาลสงขลานครินทร์
จากนั้นนัดมีนัดผ่าตัด แต่มีเหตุให้ต้องเลื่อนการผ่าตัดมา 2 ครั้ง
กระทั่งได้คิวผ่าตัดในวันที่ 6 มกราคม 2568
ซึ่งเธอก็มาที่โรงพยาบาลด้วยใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ
เพราะหมอบอกมันใหญ่จนเบียดเนื้อไต ปล่อยไว้นาน ๆ ไตพังแน่

         ทั้งนี้
เธอยังโพสต์ปิดท้ายว่า ชาเย็นแก้ว 25 ค่าผ่าตัด 1 แสน
ไม่ได้โทษที่ชาเย็นอย่างเดียว ผิดที่เราด้วย
ไม่ดื่มน้ำเปล่าเลยหรือดื่มน้อยมาก ได้ชาเย็นแก้วนึงคือได้ทั้งวันแล้ว
โดยในชาเย็นมีกรดออกซาลิก จับกับแคลเซียมในปัสสาวะ กลายเป็นผลึกเล็ก ๆ สะสม
ๆ นานกลายเป็นก้อนผลึกใหญ่ได้

         ด้านชาวเน็ตต่างเข้ามาร่วมส่งกำลังใจ ให้การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนใจคนอื่น ๆ ในเรื่องการดื่มน้ำเช่นกัน

 

ไวรัล TikTok แม่บ้านทักมาว่า มีของต้องห้ามอยู่ในห้อง รู้ได้ยังไง กระทั่งรู้ความจริง

          แม่บ้านทักมาว่า มีของต้องห้ามอยู่ในห้อง งงจัดรู้ได้ยังไง พอวันหนึ่งรู้ความจริงเกี่ยวกับประตูห้อง ขนลุกเลย เข้าใจแล้วทำไมรู้ แบบนี้ไม่ปลอดภัย




ประตูห้องหอพัก
ภาพจาก TikTok @b1997f1998

          วันที่ 6 มกราคม 2568 TikTok @b1997f1998 มีการลงคลิปที่ถ่ายประตูหน้าห้องพักตัวเองที่ล็อกประตูอยู่ ถ้าหมุนลูกบิดจะไม่มีการขยับ แต่ถ้าเอาบัตรอะไรก็ได้เข้าไปเสียบตรงเดือยล็อกประตู ประตูก็พร้อมเปิดออกมา เพราะประตูกับวงกบมันอยู่ห่างเกินไป ทำให้เธอตกใจมาก พร้อมเขียนข้อความระบุ สรุปได้ว่า

ประตูห้อง
ภาพจาก TikTok @b1997f1998

ใช้บัตรเปิดประตูห้องหอพัก
ภาพจาก TikTok @b1997f1998

          เครียดเลย ค่าห้องก็แพง ทำไมเปิดง่าย แต่ก็เคลียร์ข้อสงสัยที่ค้างอยู่ในใจมานานแล้วว่า ทำไมแม่บ้านรู้ว่าในห้องมีของที่ตึกห้าม ทั้งที่ไม่ได้เอาออกมาใช้ให้ใครเห็น และเรื่องนี้มารู้ความจริงตอนที่ลืมกุญแจห้อง ถ้าไม่ลืมคงไม่มีวันรู้เบื้องหลังนี้

          ด้านคนดูคลิปก็ห่วงเรื่องความปลอดภัย
การที่เปิดประตูเข้าไปได้ง่ายแบบนี้ทั้งที่ล็อกประตูอยู่ มันก็อันตราย
ทางที่ดีควรมีล็อกอีกชั้นหนึ่ง ส่วนประเด็นที่คนสงสัยว่า
ทำไมเธอถึงเอาของต้องห้ามเข้าไปด้วย เป็นเพราะติดมาจากตอนที่ย้ายที่พัก
พอถูกแม่บ้านทักก็รีบเอาออกทันที

ประตูห้องหอพักเปิดง่าย
ภาพจาก TikTok @b1997f1998

ประตูห้องหอพักความปลอยภัย
ภาพจาก TikTok @b1997f1998

ประตูห้องหอพัก
ภาพจาก TikTok @b1997f1998

ประตูห้องหอพัก

แฟนสาวซิงซิง อัปเดตมาไทย แจ้งความแล้ว – ตม. ตาก เผยจุดสุดท้าย ที่พบดาราหนุ่ม

          ยังไม่เจอตัว ซิงซิง ดาราหนุ่มจีน ตม. ตาก ยันพบจุดสุดท้ายที่แม่สอด ประสานทางเมียนมาแล้ว ด้านแฟนสาวซิงซิง เผยความคืบหน้า คนของสถานทูตพาแจ้งความแล้ว



ซิงซิง ดาราหนุ่มจีน ตม. ตาก ยันพบจุดสุดท้ายที่แม่สอด
ภาพจาก Weibo 失眠爹地

           จากกรณีของดาราหนุ่มชาวจีน ซิงซิง หรือชื่อจริงคือ หวังซิง ขาดการติดต่อไปหลังเดินทางมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 โดยคาดว่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้มาถ่ายหนังในไทย ก่อนส่งคนขับรถพาตัวมาที่ชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณแม่สอด จน เจียเจีย แฟนสาว ต้องออกมาร้องขอความช่วยเหลือทางออนไลน์ และเตรียมเดินทางมาติดตามความคืบหน้าที่ไทยนั้น

อ่านข่าว : ด่วน ! ดาราหนุ่ม ขาดการติดต่อที่ชายแดนแม่สอด หลังถูกหลอกมาถ่ายหนังที่ไทย 

           วันนี้ (7 มกราคม 2568) เพจ เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานข้อมูลจาก พ.ต.อ. บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก ยืนยันว่า ได้หารือกับฝ่ายปกครองแม่สอด และฝ่ายความมั่นคง ในการติดตามค้นหาดาราหนุ่มแล้ว จากการตรวจสอบพบว่า ซิงซิง เดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 3 มกราคม เวลา 03.00 น. และไปถึง อ.แม่สอด เวลาประมาณ 10.00 น. ซึ่งตรวจสอบพบจุดสุดท้ายอยู่ที่วงเวียนพระเจ้าตาก หน้าสำนักงานตำรวจทางหลวงแม่สอด ก่อนเข้าเมืองแม่สอดเท่านั้น

ซิงซิง ดาราหนุ่มจีน ตม. ตาก ยันพบจุดสุดท้ายที่แม่สอด
ภาพจาก Weibo 失眠爹地

           อย่างไรก็ตาม ทาง ตม. จังหวัดตาก ได้ประสานกับ ตม. จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา เพื่อติดตามค้นหา ซึ่งทางเมียนมารับปากว่าจะตรวจสอบให้ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
 

           ด้าน เพจลุยจีน เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบตัวนักแสดงหนุ่ม
และข่าวเดียวที่เชื่อถือได้ในขณะนี้คือแฟนสาวของซิงซิง
ที่ขณะนี้อยู่กรุงเทพฯ แล้ว

ซิงซิง ดาราหนุ่มจีน ตม. ตาก ยันพบจุดสุดท้ายที่แม่สอด
ภาพจาก Weibo 失眠爹地

           จากการตรวจสอบความเคลื่อนไหวบนเว่ยป๋อของ เจียเจีย แฟนสาวของซิงซิง ล่าสุดเปิดเผยว่า เธอได้รับข้อมูลมากมาย
และเห็นผู้คนจำนวนมากแสดงความเป็นห่วงซิงซิงกับเธอ ซึ่งเธอขอขอบคุณ
ขณะนี้เธอมาถึงกรุงเทพฯ แล้วในช่วงเที่ยงวันที่ 6 มกราคม
และได้รับข่าวว่าทางสำนักงานความมั่นคงสาธารณะของเซี่ยงไฮ้รับคดีนี้ไว้แล้ว รวมถึงเธอได้รับการติดต่อจากสถานทูตจีนในเมียนมา
และสถานกงสุลจีนในจังหวัดเชียงใหม่

          
ในช่วงบ่ายเธอรีบไปยังสถานทูตจีนในกรุงเทพฯ
เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบรายละเอียดเพิ่มเติมก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือเธอในการแจ้งความกับตำรวจสนามบินสุวรรณภูมิ
ด้วยความช่วยเหลือของล่าม ทำให้อุปสรรคด้านภาษาคลี่คลาย
และสามารถยืนยันรายละเอียดสำคัญของคดีได้ มีการแจ้งความเรียบร้อย

          
ทั้งนี้ เจียเจีย ระบุว่า ตำรวจไทยมีทัศนคติที่ดีต่อการช่วยติดตามคดี
แม้เหตุการณ์นี้จะรุนแรงเกินกว่าที่เธอจินตนาการไว้
แต่การดูแลและความช่วยเหลือที่ได้รับก็เกินความคาดหมายเช่นกัน ทั้งนี้
เธอได้เห็นคนดังมากมาย บล็อกเกอร์ และแพลตฟอร์มต่าง ๆ
ออกมาช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ และสนับสนุน เธอรู้สึกขอบคุณมาก
โดยขณะนี้การช่วยเหลือซิงซิงยังคงดำเนินต่อไป
และยืนยันว่ายังไม่เจอตัวซิงซิง

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, Weibo 失眠爹地  

หวานเจี๊ยบ โพสต์โต้กลับ ชมพู่ อารยา หลังบอกให้พัก ลั่นสั้น ๆ ทำหูผึ่งเลย