วิจารณ์เดือด หญิงมักง่ายยื่นขาขวางประตูรถไฟความเร็วสูง รอให้เพื่อนมาขึ้น ใครจะเดือดร้อนไม่สน จนล่าสุดโดนจับแล้ว

ภาพจาก Weibo
เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 เว็บไซต์ Hk01 เผยว่า มีประเด็นดราม่าร้อนแรงเกี่ยวกับหญิงรายหนึ่งในประเทศจีน ภายหลังจากมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอพฤติกรรมสุดมักง่ายของเธอ โดยการยื่นขาออกมาขวางประตูรถไฟความเร็วสูงเอาไว้ไม่ให้ปิด เพื่อรอให้เพื่อนที่มาช้าได้ขึ้นรถไฟไปด้วยกัน ในขณะที่ผู้โดยสารทั้งขบวนต้องรอ
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น. ที่สถานีรถไฟเซินเจิ้นเหนือ ในนครเซินเจิ้น ประเทศจีน รถไฟสาย D2404 เส้นทางตงกวนใต้-เซียเหมิน ได้เข้ามาหยุดที่ชานชาลา เพื่อรอรับ-ส่งผู้โดยสาร จนถึงนาทีที่รถไฟจะออกตัวและประตูกำลังปิดลง อยู่ ๆ ก็มีผู้โดยสารหญิงรายหนึ่ง รีบยื่นขาออกมาขวางประตูรถไฟเอาไว้อย่างสุดกำลัง ทำให้ประตูรถไฟปิดไม่ได้

ภาพจาก Weibo
โดยขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ด้านนอกขบวนรายหนึ่งพยายามเข้ามาห้าม
และเจ้าหน้าที่อีกรายที่อยู่ด้านในขบวนก็พยายามจะหยุดการกระทำของเธอเช่นเดียวกัน
แต่ไม่สำเร็จ ผู้โดยสารหญิงรายนี้ดื้อดึงเอาเท้าขวางประตูรถไฟเอาไว้
จนกระทั่งเพื่อน ๆ ของเธอรีบลากกระเป๋าเดินมาขึ้นรถไฟได้ในที่สุด
ก่อนที่ขบวนรถไฟดังกล่าวจะออกเดินทางไป
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้ผู้คนเป็นวงกว้างในสังคมออนไลน์
หลายคนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของเธอ
กล่าวว่าเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจ
ทั้งยังเสี่ยงทำให้เกิดเหตุอันตรายที่ไม่คาดคิดได้
และแม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปพยายามหยุดยั้งแต่เธอก็แสดงการขัดขืนจนถึงที่สุด
เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ จึงเรียกร้องให้มีการดำเนินการทางกฎหมายกับเธอ

ภาพจาก Weibo
บัญชี Weibo ทางการของสถานีรถไฟเซินเจิ้นเหนือ ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า
กรมการรถไฟได้เริ่มการสืบสวนวิดีโอที่ถูกเผยแพร่แล้ว
ยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์ขณะที่ผู้หญิงรายหนึ่งกำลังยื่นขาออกมาขวางประตูรถไฟความเร็วสูงไม่ให้ประตูปิดลง
เพื่อรอเพื่อนของเธอขึ้นรถไฟจนสำเร็จ อย่างไรก็ดี
รถไฟขบวนดังกล่าวไม่ได้เกิดความล่าช้าแต่อย่างใด
จากนั้นต่อมา ทางตำรวจเซินเจิ้นได้เปิดเผยว่า
สามารถจับกุมหญิงรายดังกล่าวได้แล้ว เมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 19
เมษายน ที่ผ่านมา โดยเธอยอมรับสารภาพความผิดฐานขัดขวางการเดินรถตามปกติ
และละเมิดกฎความปลอดภัยของสาธารณะ
ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย

ภาพจาก Weibo
ภาพจาก Weibo
ขอบคุณข้อมูลจาก Hk01