หมอฉุกเฉินไปธนาคาร เห็นหน้า พนง. แวบแรกต้องรีบทัก สุดท้ายเจอเป็นโรคมะเร็ง สุดขอบคุณหมอที่สังเกตเห็น ระยะนี้ยังรักษาได้

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต TVBS รายงานว่า ดร.เว่ยจือเหว่ย แพทย์ฉุกเฉินในไต้หวัน ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการสังเกตสีหน้า ที่ช่วยบ่งบอกถึงความผิดปกติของร่างกายได้ ผ่านรายการโทรทัศน์ 不太對勁 เมื่อไม่นานมานี้ โดยเล่าว่าตอนที่เขาไปทำธุระที่ธนาคาร เขาสังเกตเห็นสีหน้าของพนักงานธนาคารดูไม่ค่อยโอเคนัก และตาขาวยังมีสีเหลืองเล็กน้อย จึงเริ่มสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพของเธอ รวมถึงถามว่าปวดท้องหรือไม่ ก่อนจะแนะนำให้เธอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จนกระทั่งต่อมาเขาถึงได้ทราบ ว่าพนักงานรายดังกล่าวได้ไปตรวจร่างกายตามคำแนะนำของเขาจริง ๆ และได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งตับอ่อน
ดร.เว่ยจือเหว่ย กล่าวว่า การอ่านสีหน้านั้นค่อนข้างเป็นสิ่งแม่นยำ ครั้งหนึ่งเขาเคยสบตากับพนักงานธนาคารหญิง พบว่าตาของเธอเป็นสีเหลือง จึงสอบถามเธอว่า ช่วงนี้ปัสสาวะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือไม่ เพราะเขาสงสัยว่าเธออาจเป็นดีซ่าน
ดร.เว่ยจือเหว่ย อธิบายต่อว่า ส่วนที่สังเกตเห็นได้ง่ายที่สุดของโรคดีซ่าน คือตาและปัสสาวะ หากเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอย่างผิดปกติ ก็ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
เขายังสอบถามพนักงานธนาคารต่อไปว่า เธอมีอาการปวดท้องหรืออาการผิดปกติอื่น ๆ หรือไม่ ซึ่งเธอตอบมาว่าไม่มีอาการอะไร แค่รู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าปกติเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ดร.เว่ยจือเหว่ย วิเคราะห์ว่า
หากอาการเหลืองเกิดขึ้นจากภาวะอุดตันหรือนิ่ว มักจะทำให้เกิดอาการปวด
มันยังเป็นอาการไม่ร้ายแรงที่สามารถรักษาได้ แต่หากไม่รู้สึกปวด
อาจเป็นอาการที่ร้ายแรงกว่านั้น
ดังนั้นเขาจึงแนะนำให้พนักงานธนาคารรายนี้ไปพบแพทย์ทันที
ในเวลาต่อมา ดร.เว่ยจือเหว่ย กลับไปที่ธนาคารแห่งเดิมอีกครั้ง
และทราบว่าพนักงานหญิงรายดังกล่าวลาออกไปแล้ว อย่างไรก็ตาม
เพื่อนร่วมงานคนอื่นบอกเขาว่า พนักงานหญิงคนนั้นรู้สึกขอบคุณ
ดร.เว่ยจือเหว่ย มาก ที่เตือนเธอในตอนนั้น
เพราะหลังไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันทีตามที่เขาแนะนำ
ก็พบว่าเธอเป็นโรคมะเร็งตับอ่อน ในระยะเริ่มต้น
ดร.เว่ยจือเหว่ย เผยว่า เนื่องจากเนื้องอกของเธอที่ตับอ่อน
ไปกดทับท่อน้ำดีและปิดกั้นการหลั่งของน้ำดี
จึงทำให้เธอเกิดอาการเหลืองขึ้นมา
ทั้งนี้
การตรวจพบโรคมะเร็งในระยะแรก
นับเป็นเรื่องดีที่ยังมีโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้
แต่หากพบในระยะแพร่กระจาย อาจไม่สามารถรักษาให้หายขาด
โดยเกี่ยวกับอาการของโรคมะเร็งตับอ่อนนั้น ดร.เฉียนเจิ้งผิง
รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล Beitou Health Management Hospital
เคยเตือนว่ายังไม่มีการคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ สำหรับอาการในระยะแรกนี้
อย่างไรก็ตาม หากสังเกตอาการผิดปกติ เช่น เพิ่งเป็นเบาหวาน
ทั้งที่ประวัติครอบครัวไม่มีคนอายุเกิน 40 ปี ป่วยโรคเบาหวาน
มีอาการปวดช่องท้องส่วนบนหรือปวดหลัง ไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ
จากการตรวจทางเดินอาหารส่วนบน น้ำหนักลดอย่างมีนัยสำคัญ
มีอาการเหลืองแบบดีซ่าน ท่อน้ำดีอุดตัน ปัสสาวะเป็นสีชา
อุจจาระเป็นสีเทา-ขาว ในอุจจาระมีไขมัน ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก TVBS , ETtoday