
ช่วงนั้นแอนนา แฟนผม เป็นคนตัดสินใจ แล้วผมไม่รู้จริง ๆ เขาคงจะคิดว่า คงอยากใช้สัญญาจากบริษัทไปควบคุมน้องโม เพื่อให้เรื่องนี้มันจบจริง ๆ
ส่วนรายละเอียดสัญญา ถ้าหากโมละเมิดสัญญาในเรื่องยุติข้อพิพาท และหลักฐานที่ทำให้ศิลปินเสื่อมเสียชื่อเสียง จะถูกดำเนินคดีทางอาญา 20 ล้านบาท

โม ปัดเรื่องเงิน 10 ล้าน
ขณะที่โม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องเงิน 10 ล้านไม่เป็นความจริง สิ่งที่ต้องการคือ อยากให้เขาออกมาพูดเรื่องจริง แถลงข่าวยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ได้ต้องการเงิน จากนั้นบอสไปติดต่อกับค่าย กลับมาบอกตนว่า ทำไม่ได้ และทางบริษัทมีข้อเสนอว่า ให้เรียกเงินจากบอส 5 ล้านเป็นค่าเสียใจ ถ้าบอสมีไม่พอให้มาปรึกษากับทางค่าย
ทว่าบอสแย้งโมสด ๆ กลางรายการว่า โมขอ 10 ล้าน ส่วนทางโมก็ปฏิเสธ สาบานให้ตายได้เลยว่าไม่ได้โกหกเรื่องตัวเลข ก่อนที่จะบอกต่อไปว่า เงินข้อเสนอสุดท้ายลดเหลือ 2 ล้าน เป็นค่าเสียใจ เสียเวลา ทางไหทองคำเขาว่าแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม พนักงานของไหทองคำรายหนึ่ง มาช่วยยืนยันว่า โมขอ 10 ล้าน แต่ไม่รู้ว่าพูดด้วยอารมณ์โกรธหรือเปล่า แต่ทางโมก็ยืนยันว่า เรื่องนี้ตนคุยกับบอสแค่ 2 คนในห้อง ไม่มีบุคคลที่สาม

โมกับบอส พูดไม่ตรงกันตรงไหน
จุดแตกต่างที่ทำให้โมกับบอส พูดไม่ตรงกันอีกเรื่องคือ โมบอกว่า จะเรียกเงินจากบอส แต่บอสบอกว่า โมจะเรียกเงินกับลำไย จากนั้น หนุ่ม กรรชัย ก็ถามว่า แล้วโมไปทำสัญญากับไหทองคำทำไม
ทั้งนี้ โมยืนยันว่า ไม่ได้บอกใครที่ไหน แต่บอสแย้งซึ่งหน้าว่า ข้อมูลที่หลุดจากเพจอวตาร มาจากโมแน่นอน เพราะเรื่องเงิน 1 แสนในบัญชีที่เข้ามา ไม่เคยบอกใคร
บอส ยืนยันว่า โมเป็นคนส่งคลิปลับให้กับแม่บอสรับรู้ ทางโม ชี้แจงว่า เพราะแม่บอสไม่เชื่อ จึงส่งไป แล้วแม่บอสอาจจะส่งให้คนอื่นก็ได้ นอกจากนี้ บอส ยังเปิดเผยว่า โมเคยยื่นข้อเสนอให้บอสไปหลอกค่ายไหทองคำว่า เลิกกันแล้ว แล้วค่อยหาทางมาแฉเรื่องนี้ทีหลังเมื่อมีโอกาสเหมาะสม แต่โมปฏิเสธว่า ไม่ได้พูดประโยคนี้
ทนายแก้ว เปิดเผยว่า ความจริงโมไม่มีสิทธิ์ได้เงิน 2 ล้าน เพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ในเรื่องกฎหมาย ต้องดูว่า เข้าองค์ประกอบมาตราไหน มันมีเงื่อนไขไปแลกมา อีกทั้งคดีสัญญาทางแพ่งกับอาญา มันคนละส่วนกัน


ภาพจาก โหนกระแส