KUBET – โศกนาฏกรรม บ่อขยะถล่ม ฝังทั้งเป็นกว่า 30 ชีวิต หนุ่มเผยนาทีเศร้าขุดเจอศพเพื่อน

          เปิดโศกนาฏกรรม บ่อขยะถล่มทับกว่า 30 ชีวิต ตายทั้งเป็น คนเก็บขยะเศร้า เล่าความสะเทือนใจตอนขุดเจอศพเพื่อน ชี้ผ่านมาหลายเดือน คนที่ต้องเสียบ้านยังไร้ชดเชย 



เปิดโศกนาฏกรรม บ่อขยะถล่ม
ภาพจาก BADRU KATUMBA / AFP

          วันที่ 9 มีนาคม 2568 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า โอคูคู ปรินซ์ ชาวยูกันดาวัย 22 ปี ได้ออกมาเปิดประสบการณ์สุดสะเทือนใจจนยากจะกลั้นน้ำตา ในช่วงเวลาที่พบศพของเพื่อนรักจากบ่อขยะมหึมา หลังเกิดเหตุการณ์บ่อขยะกีตีซี (Kiteezi) ในกรุงกัมปาลา ถล่มทับคนตายทั้งเป็นกว่า 30 ศพ ซึ่งแม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2567 แต่คนเก็บขยะรายนี้เชื่อว่ายังคงมีอีกหลายศพที่ติดอยู่ใต้กองขยะนั้น

          เป็นเวลานานหลายเดือน นับตั้งแต่บ่อขยะกีตีซี ซึ่งเป็นบ่อขยะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและรองรับขยะจากเมืองหลวงมากที่สุด เกิดเหตุภูเขาขยะถล่มลงมาทับผู้คนหลายสิบชีวิต หลังเกิดฝนตกหนัก โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตก็คือ ซานย่า เคเซีย เพื่อนรักของปรินซ์ 

          ปรินซ์ ได้เล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์
ตอนที่รถแทร็กเตอร์ของทางการเข้ามาขุดพบศพของเคเซีย วัย 21 ปี
เขายอมรับว่ามันเป็นภาพน่าสยดสยองมาก
เมื่อได้เห็นร่างของเพื่อนที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยขยะเน่าเหม็น
และใบหน้าของเพื่อนก็ปรากฏบาดแผลได้รับบาดเจ็บ

          “พวกเราไม่ปลอดภัยที่นี่ เว้นแต่พวกเขาจะซ่อมแซมหรือปรับระดับพื้นที่ มิเช่นนั้นผู้คนก็ไม่ปลอดภัย”
ปรินซ์ กล่าว

         

สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่พยายามหาเลี้ยงชีพด้วยการเก็บของมีค่าจากกองขยะ
เพื่อนำมาล้างและขาย ไม่ว่าจะเป็นอวนตกปลา ขวดพลาสติก โหลแก้ว
และชิ้นส่วนของเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์เก่า แต่เมื่อเกิดเหตุภูเขาขยะถล่ม
ไม่เพียงแค่กว่า 30 ชีวิตที่ถูกขยะทับจนเสียชีวิตทั้งเป็น
แม้แต่บ้านเรือนของผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ก็ยังถูกทำลายระหว่างปฏิบัติการกู้ภัย
บางคนต้องย้ายออกจากพื้นที่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

         
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ทั้งสภาเมืองกัมปาลาและรัฐบาลกลางต่างก็โยนความผิดกัน
และกล่าวหากันว่าละเลยหน้าที่
ขณะที่ผู้เสียชีวิตหลายศพยังจมอยู่ใต้กองขยะหนักนับตัน
โดยไม่ได้รับการฝังร่างอย่างสมศักดิ์ศรี

          สำหรับ ปรินซ์
เขาเคยเป็นนักศึกษาด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ก่อนจะผันตัวมาเป็นคนเก็บขยะ
หลังทางครอบครัวประสบปัญหาด้านการเงินจนไม่มีเงินส่งเสียค่าเทอมอีกต่อไป
เขาต้องแบกรับความเสี่ยงและทิ้งความฝันเพื่อมาหาเลี้ยงชีพที่บ่อขยะแห่งนี้
โดยเขาต้องมาอยู่ที่บ่อขยะทั้งแต่เช้า คอยเก็บถุงโพลีเอทิลีนไปล้างและขาย
ทำเงินได้ประมาณวันละ 10,000 ชิลลิง (ราว 2.7 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 91 บาท)

         
การที่บ่อขยะถล่มยิ่งทำให้เขาประสบปัญหาด้านการเงินหนักขึ้น
เนื่องจากเดิมเขาเคยอาศัยอยู่ข้างบ่อขยะ
แต่ต้องย้ายออกด้วยความกังวลด้านความปลอดภัย ทั้งนี้
แม้ทางการจะมีการจ่ายเงินชดเชยแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต
แต่ไม่ได้จ่ายให้แก่ประชาชนกว่า 200 ชีวิต ที่ต้องสูญเสียที่อยู่อาศัยไป
โดยอยู่ระหว่างรอการประเมินมูลค่าและการจัดสรรงบประมาณ
 
          “พวกเขาสัญญาว่าจะให้ค่าชดเชยกับเรา แต่ผมยังไม่ได้รับอะไรเลย แทบทุกคนก็บ่นเช่นกัน”
ปรินซ์ บอกกับบีบีซี และเสริมอีกว่า “เราสูญเสียเพื่อนไป ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกระบวนการนี้คือความเศร้าโศก”

ขอบคุณข้อมูลจาก BBC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *