รอง ผอ. โรงเรียนดังกลางกรุงเทพฯ แจงเอง สาเหตุหอบผ้าหอบผ่อนมานอน รร. ที่แท้มีเบื้องหลัง กับปัญหาสุขภาพ อาการป่วย ร้ายแรงถึงชีวิต

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน
เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงไม่น้อยในโลกออนไลน์ กรณีเฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน เผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับ รอง ผอ. โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้หอบผ้าหอบผ่อนมาอาศัยอยู่ที่บริเวณห้องเก็บของใต้บันไดของโรงเรียน ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยได้กินอยู่ที่นี่มานาน 4 เดือนแล้ว วันดีคืนดีก็ใส่เสื้อบอลเดินไปอาบน้ำให้ครูและนักเรียนได้เห็นกันด้วย
อ่านข่าว : รอง ผอ. หอบผ้าหอบผ่อนนอนห้องใต้บันไดโรงเรียน อาบน้ำให้ครู – นักเรียนเห็น กลางกรุงแท้ ๆ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน
ล่าสุด (27 มีนาคม 2568) ทีมข่าวช่อง 3
ได้ลงพื้นที่โรงเรียนดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นทาง ผอ.
โรงเรียน ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เพราะติดภารกิจประชุมครู
แต่ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าเรื่องที่นำเสนอในเพจนั้น ตนเองทราบเรื่องแล้ว
และได้รางวานไปยัง ผอ. เขตวัฒนา
และปลัดกรุงเทพมหานครก็ทราบเรื่องแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ ระหว่างที่ทีมข่าวนั่งรอผบกับ ผอ. นั้น นายปริญญา รอง ผอ.
โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งทางเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน
ให้ข้อมูลว่าเป็นบุคคลที่หอบผ้ามานอนที่โรงเรียน
ได้เดินเข้ามาชี้แจงกับผู้สื่อข่าว
และพาไปดูบริเวณห้องเก็บของใต้บันไดอาคาร 2 ซึ่งตนเองนอนอาศัยอยู่ด้วย
โดยนายปริญญา เผยถึงเหตุผลที่ต้องมานอนที่โรงเรียนว่า
ปกติตนอาศัยบ้านเช่าอยู่คนเดียวที่ย่านบึงกุ่ม
เนื่องจากได้แยกทางกับภรรยาและลูก แต่เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว
ตนเองมีอาการตัวสั่นและวูบหมดสติระหว่างการประชุม
ครูในโรงเรียนจึงพากันนำตัวส่งโรงพยาบาล ต้องนอนรักษาตัวนาน 5 วัน
ผลการตรวจสุขภาพพบว่าตนเองมีภาวะโรคหัวใจ
เนื่องจากเส้นเลือดหัวใจตีบหรืออุดตันไป 1 เส้น
หลังออกจากโรงพยาบาล ร่างกายก็ไม่แข็งแรง
เดินขึ้นอาคารเรียนก็มีอาสการหอบเหนื่อย ต้องกินยาช่วงเช้า 8 เม็ด
กินยาช่วงเย็น 3 เม็ดทุกวัน ทาง ผอ.
เห็นว่าสุขภาพไม่ดีและพักอาศัยอยู่คนเดียว ถ้าอาการกำเริบหรือวูบอีก
อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงสอบถามว่า มานอนเฝ้าโรงเรียนหรือไม่
มาคอยดูแลโรงเรียนด้วย เพราะที่โรงเรียนมี รปภ. หากมีเหตุฉุกเฉิน
ยังมีคนช่วยเรียกรถพยาบาลให้ได้
จากนั้นตนจึงขอมานอนที่โรงเรียนชั่วคราวเพื่อรักษาตัวให้แข็งแรงถ้าแข็งแรงแล้วก้จะกลับไปพักที่เดิมหรือออกไปเช่าที่พักใกล้โรงเรียน
โดยช่วงที่มานอนโรงเรียน ก็ได้ไปรับลูกสาววัย 8 ขวบ
ที่อาศัยอยู่กับยายให้มานอนเป็นเพื่อน มาเฝ้าพ่อ
และสั่งว่าถ้ามีอาการกำเริบหรือหมดสติไป ให้รีบวิ่งไปเรียก รปภ.
เพื่อตามรถพาไปโรงพยาบาลด้วย
เนื่องจากตอนอยู่ที่เดิมตนต้องขับรถจักรยานยนต์ ระยะทาง 15 กม.
ถือว่ามีความเสี่ยง จึงมานอนที่โรงเรียนชั่วคราว
สำหรับห้องที่ตนอาศัยนอน เป็นห้องเก็บของและควบคุมหม้อแปลงไฟฟ้า
อยู่ใต้บันไดอาคาร 2 ไม่มีแอร์ ยาวประมาณ 4 เมตร กว้าง 2-3 เมตร
ใช้อาศัยนอนชั่วคราวเท่านั้น ระหว่างรอให้อาการป่วยดีขึ้น
และยังได้นำใบรับรองแพทย์และยาที่ต้องกินทุกวัน มาให้ทีมข่าวดูด้วย
โดยทาง รอง ผอ. คาดว่าสาเหตุที่มีภาพและข้อมูลไปปรากฏในสื่อ
อาจเพราะปัญหาการทำงานภายในโรงเรียน ที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ
เพราะตนเป็นผู้บริหาร อาจสั่งงานหรือทำอะไรไม่ถูกใจบุคลากรบางคน
จึงทำให้เกิดการร้องเรียนดังกล่าว
อยากชี้แจงกับสังคมว่า
สาเหตุที่ตนต้องมานอนที่โรงเรียน เพราะป่วยเป็นโรคหัวใจตีบ
ถือว่าเป็นโรคอันตราย ถ้าอยู่คนเดียวแล้วเกิดวูบไป อาจถึงแก่ชีวิตได้
ผู้บริหารโรงเรียนเป็นห่วงจึงให้มาอาศัยนอนชั่วคราว
หากอาการดีขึ้นและแข็งแรง ก็พร้อมย้ายออก แต่การมานอน
ก็ต้องช่วยดูแลโรงเรียนด้วย เพราะตนเองเป็นรองฝ่ายบริหารงานทั่วไป
ตอนนี้อายุ 59 ปี ปีหน้าก็จะเกษียณแล้ว
หลังจากการพูดคุย รอง ผอ.
ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันขนข้องย้ายออกจากห้องเก็บของ โดยให้ข้อมูลว่า
วันนี้ตนเองจะย้ายออกทันที เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
ช่วงนี้อาจไปหาเช่าห้องพักใกล้ ๆ กับโรงเรียนอยู่ไปก่อน
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นหากสำนักงานเขตจะตั้งกรรมการสอบก็พร้อมให้ข้อมูลและปฏิบัติตามคำสั่ง
ยืนยันที่มาพักเพราะป่วยจริง ไม่มีเจตนาเบียดบังทรัพยากรของทางราชการ
เพราะห้องที่นอนไม่มีแอร์ เปิดเพียงพัดลมเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3