KUBET – สะใภ้อดทนดูแลพ่อสามี 13 ปี ได้มรดก 4 พัน ก่อนรู้ความจริงสุดพีค จากธนาคาร

          ลูกสะใภ้ดูแลพ่อสามี หลังสามีตายจาก สู้ทำงานหนักอดทนมา 13 ปี เปิดพินัยกรรมได้มรดก 4 พัน ก่อนรู้ความจริงไม่คาดคิดจากธนาคาร



สะใภ้อดทนดูแลพ่อสามี 13 ปี ได้มรดก 4 พัน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล


          การดูแลคนสูงวัยไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ทั้งพลังและความอดทนสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่ใช่พ่อแม่ หรือคนในครอบครัวของตัวเอง ย่อมต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งมาก เช่นเดียวกับลูกสะใภ้รายหนึ่งที่อดทนดูแลพ่อสามีวัยชรามานานถึง 13 ปี จนเมื่อได้เห็นสิ่งที่ได้รับตอบแทนทำเอาเธอถึงกับหลั่งน้ำตา

          วันที่ 25 มีนาคม 2568 เว็บไซต์ Soha เผยเรื่องราวของหญิงชาวจีนชื่อสกุลลี่ ก่อนหน้านี้เธอแต่งงานกับสามีและใช้ชีวิตครอบครัวอย่างเรียบง่ายและมีความสุข โดยสามีของเธอเป็นลูกชายคนโตของบ้าน แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อสามีของเธอมีอันเป็นไปก่อนวัยอันควร ทิ้งให้เธออยู่กับลูกสาวที่ยังเล็ก ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีพ่อสามีวัยชราอายุกว่า 70 ปี ที่อาศัยอยู่ตามลำพังในบ้านชนบท โดยลูกชายทั้งสองที่เหลือไม่เคยมาเหลียวแล

          ลี่เผยว่า พ่อสามีอายุมากและเรี่ยวแรงน้อยลงเรื่อย ๆ
เธอทนเห็นเขาอยู่ในสภาพเช่นนั้นไม่ได้ จึงอุทิศตนว่าจะครองตัวอยู่เป็นโสด
ไม่แต่งงานใหม่
ตั้งใจใช้ชีวิตดูแลลูกและพ่อสามีโดยคิดเสียว่าเป็นพ่อของตัวเอง ทว่าหลาย ๆ
สิ่งไม่ง่าย ทั้งต้องเลี้ยงลูกของเธอที่ยังอายุน้อย ต้องทำงานหนักในสวน
และต้องดูแลคนสูงวัยในเวลาเดียวกัน อีกทั้งพ่อสามีมักจะป่วยบ่อยครั้ง

         
แม้สถานการณ์จะยากลำบาก แต่ลี่ก็ไม่เคยปริปากบ่น
นอกเหนือจากภาระการทำงานนอกบ้าน กลับมาบ้านเธอยังทำอาหาร ซักผ้า
พาพ่อสามีไปหาหมอ และคอยคุยเป็นเพื่อนเขาทุกคืน จนมีอยู่วันหนึ่ง
พ่อสามีพูดกับเธอว่า “ลี่ เธอทำงานหนักมาก ฉันแก่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง” ลูกสะใภ้ได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนโยนและตอบว่า “พ่อ อย่าพูดแบบนั้นเลย ถูกแล้วที่ฉันควรดูแลพ่อ ฉันแค่หวังว่าพ่อจะมีสุขภาพแข็งแรงอยู่กับฉันนาน ๆ”

          หลังจากได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของพ่อสามีของเธอก็แดงก่ำ เขาจับมือเธอไว้แน่น พร้อมกับพูดว่า “เธอเป็นลูกกตัญญูจริง ๆ ฉันโชคดีที่มีเธออยู่ในครอบครัว” ทั้งนี้ พ่อสามีรู้สึกเสียใจมากที่ลูกชายที่เหลืออีกสองคนไม่มาดูแล
แต่ลี่ก็พยายามปลอบใจไม่ให้เขาคิดมาก และย้ำเสมอว่าเธอจะดูแลเขาเอง
เธอจะไม่ทิ้งเขาไปไหนแน่นอน และเธอก็รักษาคำสัญญาเช่นนั้นมาตลอด 13 ปี
เธอดูแลพ่อสามีจนถึงลมหายใจสุดท้ายของเขา

         
หลังจากงานศพของพ่อสามีผ่านพ้นไป
ลี่ได้ตรวจสอบพินัยกรรมของเขาที่ทิ้งเอาไว้ ก่อนที่เธอต้องตกตะลึง
เมื่อพบว่า ชื่อของเธอได้รับเงินมรดกเพียง 1,000 หยวน (ราว 4,600 บาท)
ในขณะที่ลูกชายสองคนที่ไม่เคยมาดูแลพ่อของตนเอง
กลับได้รับทรัพย์สินที่เหลือส่วนใหญ่ ซึ่งมีทั้งที่ดินและเงินเก็บ
ลี่รู้สึกเศร้าใจเมื่อคิดว่าต่อให้เธอจะดูแลเขาดีแค่ไหน
แต่เขาก็ยังคิดว่าเธอเป็นคนนอก ไม่ใช่สายเลือดในครอบครัว

         
อย่างไรก็ดี ลี่ไม่ได้โกรธแค้นพ่อสามีแต่อย่างใด เธอใช้ชีวิตเงียบ ๆ
ทำงานและเลี้ยงดูลูกให้เติบโตต่อไป จนกระทั่งวันหนึ่ง
เธอไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงิน 1,000 หยวน ที่เธอได้รับจากบันทึกพินัยกรรม
โดยจะนำไปซื้อของใช้สำหรับไปโรงเรียนให้ลูกสาว
แต่เธอกลับได้รับแจ้งเรื่องไม่คาดคิดจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร  

          “คุณมีบ้าน 3 หลังในชื่อของคุณ ทรัพย์สินทั้งหมดนี้จดทะเบียนภายใต้ชื่อของคุณและชื่อลูกสาวของคุณ !”

         
ลี่รู้สึกตกใจมากรีบถามย้ำจากเจ้าหน้าที่ โดยเธอเข้าใจว่า
มรดกในชื่อของเธอมีเพียงเงิน 1,000 หยวน แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันกลับมาว่า “นี่คือทรัพย์สินที่พ่อตาของคุณทิ้งไว้ และเขายังฝากจดหมายไว้ด้วย” ลี่รีบเปิดจดหมายฉบับนั้นอ่าน ก่อนที่จะได้รู้ความจริงทั้งน้ำตา

          พ่อสามีของเขียนไว้ว่า “ลี่
ฉันรู้ว่าเธอทำงานหนักเพื่อฉันมาหลายปีแล้ว ฉันยกบ้าน 3 หลังนี้ให้เธอ
แต่ฉันไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ
เพราะฉันกลัวว่าลูกชายสองคนของฉันจะมารบกวนชีวิตเธอ
จงมีชีวิตที่ดีและเลี้ยงดูหลานของฉันให้เป็นคนดี
นั่นคือความปรารถนาสูงสุดของฉัน”

         
ลี่ยืนร้องไห้อยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร
แต่ไม่ใช่เพราะดีใจที่เธอได้รับมรดกเป็นบ้าน 3 หลัง
แต่เธอรู้สึกซาบซึ้งที่การอดทนดูแลพ่อสามีมานานกว่าสิบปีไม่สูญเปล่า
เขาเห็นถึงความจริงใจของเธอ และมันจะกลายเป็นความทรงจำอันล้ำค่า
เธอบอกกับตัวเองว่า ต่อจากนี้จะตั้งใจใช้ชีวิตให้ดี
ไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเองและลูกสาวเท่านั้น
แต่ยังเพื่อพ่อสามีผู้ล่วงลับที่จะได้ไม่ผิดหวังที่ไว้วางใจเธอ

ขอบคุณข้อมูลจาก Soha

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *