หนุ่ม กรรชัย เล่านาทีชีวิต เจอแผ่นดินไหว ตอนจัดโหนกระแส เผยโมเมนต์สะพรึง พร้อมเล่าสาเหตุที่ต้องลุกเป็นคนแรก
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
วันที่ 31 ธันวาคม 2568 หนุ่ม กรรชัย เปิดใจผ่านรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 ถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยพบเจอกับเรื่องแบบนี้ น่าจะเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ต่อไปนี้มันจะไม่ใช่เรื่องใหม่แล้ว ซึ่งก็ต้องมาดูว่าจะมีการเตือนภัยกันอย่างไร และวิธีการเอาตัวรอดจะทำอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หลังจากที่ในวันนั้นไม่มีใครรู้เลยว่าต้องทำยังไงกันแน่
วันนั้นตนเองกำลังจัดรายการโหนกระแส จากเทปจะเห็นว่าตอนเริ่มมีการสั่น หน้าตนเริ่มจะเหวอแล้ว ตอนแรกพยายามจะไม่ลุก เพราะคิดว่าเดี๋ยวมันคงจะหยุด เพราะจำคำพูดจากพี่สรยุทธ ว่าตึกช่อง 3 นั้นจะมีการไหวตัวเล็กน้อยแล้วก็จะหยุด ตอนนั้นคิดว่าก็คงจะหยุด ไม่น่ามีอะไรหรอก
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
แต่สักพัก ตนได้ยินเสียงไฟบนสตูดิโอ ซึ่งมีขนาดใหญ่ บางตัวน่าจะมีน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัมได้ ไฟมันสั่นไปมา ทั้งที่ไฟแบบนี้มันใหญ่มาก ใหญ่กว่าตัวเราอีก ซึ่งมันอยู่เหนือหัวเรา ปกติมันจะนิ่งเลย เพราะมันแข็งแรงมาก ไม่น่าจะโยกได้ด้วยซ้ำ แต่ในวันนั้นมันโยกจนกลัวว่าจะหล่นลงมา ตึกมันก็สั่นไป-มา ตอนแรกตนก็ตั้งใจจะดำเนินรายการต่อ แต่คนในสตูดิโอเริ่มตะโกนแล้ว ให้ออกมา ระวังไฟหล่นใส่ ก่อนจะมีเสียงหนึ่งบอกว่า ให้ไปที่บันไดหนีไฟ ระวังอาคารถล่ม
ในตอนนั้นคิดในใจว่ามันถล่มแน่ เพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้ สั่นจนยืนทรงตัวไม่ได้ ตนเองจึงออกมา แล้วก็ลงบันไดหนีไฟ ตอนนั้นทุกคนก็รับรู้เหมือนกันว่าต้องออก แต่ในเคสของคุณเอ๋ มิรา ทราบว่าตอนนั้นมีไมค์ติดอยู่กับเก้าอี้ เธอจึงพยายามที่จะแกะออก ก่อนจะพากันออกมา วิ่งออกมาแบบเท้าเปล่าลงไป
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ในตอนนั้นทุกคนต้องออกแล้ว แต่ที่หลาย ๆ คนยังไม่ลุก
เพราะเห็นว่าตนยังไม่ลุก ถ้าเกิดตนไม่ลุก ทีมงานก็จะไม่ออก
เพราะเข้าใจว่าต้องถ่ายต่อ ถ้าตนไม่ออก ทุกคนก็จะไม่ออก
ซึ่งหากมันเกิดถล่มจริง ๆ ก็กลายเป็นว่าจะอยู่ในตึกด้วยกันทั้งหมด
หรือตึกยังไม่ถึงขั้นถล่ม แต่ถ้าไฟสตูดิโอร่วงลงมาก็ถึงตายได้
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ยืนยันว่า จังหวะนั้นยังไงก็ต้องไป
แต่ก็จะมีคนไม่เข้าใจว่าทำไมตนออกมาก่อน ไม่ยอมเรียกแขกรับเชิญหรือเปล่า
ย้ำว่าทุกคนได้ยินพร้อมกันหมดแล้วว่าให้ออก เพราะกลัวว่าอาคารจะถล่ม
นาทีนั้นไม่ต้องมานั่งรอใครอีกแล้ว คนที่ไม่อยู่ตรงนี้ไม่เข้าใจ
ในตอนที่ลงบันไดหนีไฟไป ตนก็คิดว่าวิ่งออกมาเร็วแล้ว
แต่ภาพที่เห็นคือมีคนพากันออกมาที่บันไดหนีไฟเยอะแล้ว เต็มไปหมด
แต่จังหวะนั้นใครที่ช้า ตนก็ต้องแซง เอาจริง ๆ ตีนใครไว ต้องไปก่อน
ตอนนั้นก้าวทีหนึ่ง 3-4 ขั้น วิ่งลงมาจากชั้น 9 วิ่งมาตั้งนานเพิ่งถึงชั้น 6
จนเกือบจะถอดใจ แต่ก็เดินลงมาเรื่อย ๆ
จนมาถึงชั้นล่างแล้วเห็นแสงที่ลอดผ่านประตูมา จังหวะนั้นเหมือนในหนังเลย
คือ เรารอดแล้ว แต่ไม่ทันไร ก็ต้องวิ่งเพิ่มอีก
เพราะมีคนบอกว่ากลัวตึกจะถล่มมาทับอีก โอ๊ย ชีวิต
วินาทีนั้นคือคิดอย่างเดียวเลยว่า จะได้เจอลูกอีกไหม
ถ้าตายไปจะไปเจอลูกยังไง ถ้าเป็นผีเขาจะกลัวเราไหม นอกจากนี้
อยากจะฝากทีมงานด้วยว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทีหลังคุณไม่ต้องรอผมเลย
ไปก่อนได้เลย ห่วงชีวิตตัวเองก่อน